ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 49 เงานักฆ่า
ชายปริศนาผู้นี้ถือกระบี่
ผ้าคลุมสีดำที่พริ้วไสว เปล่งกระแสพลังของผู้ฝึกยุทธขั้นสูงออกมา
ที่แปลก…ก็คือร่างของชายผู้นี้ ดูคับคล้ายคับคลากับซู่เสี่ยวไป่!!
“แก!!!..แกเป็นใคร!!”
“เข้ามาได้ยังไง!?”
“ไม่รู้หรอกนะ….ว่าแกเป็นใครมาจากไหน แต่กล้าที่จะลงมือกับคนของตระกูลหยวนก็มีแต่ความตายเท่านั้นแหละที่รออยู่!!”
ในทันที นักรบที่อยู่ในห้องก็ต่างหยิบอาวุธออกมา และเร่งเร้ากระแสพลังภายในร่างทันที ก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่ชายชุดดำ
แล้วในตอนนั้นเอง
เมื่อชายชุดดำก้าวเท้าไปข้างหน้า ตัวของเขาก็หายไปในพริบตาทันที ต่อหน้าต่อตาทุกคน!!
“มันหายไปไหนแล้ว!?”
วินาทีต่อมามีแสงสีเงินตวัดออกมาจากอากาศ
ชายชุดดำปรากฏตัวขึ้นมาอีกคั้ง
แต่ไปอยู่ด้านหลังของนักรบทุกคนที่พุ่งเข้าหา นักรบเหล่านั้นโดนการโจมตีของชายชุดดำ ได้แต่ยืนแน่นิ่ง
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ขาของฉันมันขยับไม่ได้!!”
“บ้าเอ๋ย มันหายไปอีกแล้ว ฉันสัมผัสถึงกระแสพลังของมันไม่ได้เลย!!”
แล้วทันใดทุกคนก็เริ่มรู้สึกตัว ว่าร่างของพวกเขาโดนตัดผ่าออกเป็นสองส่วน ก่อนที่ร่างท่อนบนของพวกเขาจะหลุดออกจากร่างแล้วตกลงสู่พื้น
เลือดนั้นพุ่งสาดกระเซ็นไปทั่ว
พร้อมกับเสียงร้องอันโหยหวน
นักรบของตระกูลหยวน ที่ถูกตัดออกเป็นสองท่อนยังไม่ตายในทันที พวกเขาร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวดและทรมาน พร้อมทั้งยังเห็นท่อนร่างของพวกเขาที่ค่อยๆ ล้มลงกองกับพื้น
ห้องโถงแห่งนี้กลายเป็นนรกบนดินภายในพริบตาเดียว
“แข็งแกร่ง!!”
คนที่เหลือที่อยู่ในห้อง ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา
คนที่ถูกตัดครึ่งไปนั้น มีหนึ่งถึงสองคนเป็นจอมยุทธขั้นแรกด้วยซ้ำ
ผู้ฝึกยุทธขั้นสูงจัดการกับจอมยุทธขั้นแรกภายในพริบตาเดียว อีกทั้งยังหายตัวไปมาได้อีก
“แกเป็นใครกันแน่!!”
หยวนเฟ่ยเคอคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด
“นี่…เบาๆ หน่อยสิ…ตะโกนอะไรเสียงดังหนวกหู ขี้หูผมเต้นระบำไปหมดแล้ว เบาหน่อยท่านผู้นำ!!”
ซู่เสี่ยวไป่เอานิ้วแคะเข้าไปในรูหูของตัวเองก่อนจะยืนขึ้น
“อีกอย่างไม่เห็นต้องโมโหอะไรขนาดนั้นเลย คนๆนี้ คนรู้จักผมเอง!!”
ซู่เสี่ยวไป่เดินไปข้างๆ ชายชุดดำ พร้อมกับตบไหล่ชายชุดดำเบาๆ
“นี่!! คือน้องชายของผมเอง….เป็นไงเก่งเหมือนกันใช่ไหม? เขาแข็งแกร่งพอๆ กับผมเลยน่ะ”
เป็นจริงอย่างที่ซู่เสี่ยวไป่พูด
ชายชุดดำสวมหน้ากากคนนี้คือร่างเงาของความสามารถออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียว
ซู่เสี่ยวไป่ได้เตรียมการไว้รองรับตั้งแต่แรกแล้ว
ร่างเงานี้ฆ่าได้ทั้งสัตว์อสูรและมนุษย์ อีกทั้งยังเชื่อฟังคำสั่งเขาทุกอย่าง หากตายไปก็ฟื้นคืนชีพได้ไม่พอยังแข็งแกร่งพอๆ กับเขาอีก
นอกจากอาวุธที่ใช้แล้วทุกอย่างนั้นแทบจะถอดแบบมาจากซู่เสี่ยวไป่ทั้งหมด
ไม่ต่างจากการมีกองกำลังส่วนตัวแบบที่ไว้ใจได้ และสามารถพาไปได้ทุกที่ หากไม่ใช้ให้คุ้มค่าก็เสียดายเปล่า
เพียงแค่ซู่เสี่ยวไป่สั่งระบบ ร่างเงาพวกนี้ก็พร้อมจะทำตาม หรือมาหาเขาในทันที หรือหายไปในพริบตา
นั่นแปลว่า เขาสามารถใช้ร่างเงาไปฆ่าใครก็ได้ และไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนทำ เมื่อจัดการเสร็จร่างเงาก็หายไป อย่างไร้ร่องรอยใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อเขาเข้ามาในพื้นที่ตระกูลหยวนซู่เสี่ยวไป่ก็ได้ออกคำสั่งกับระบบให้นำร่างเงากลับมา
และให้มารออยู่ใกล้ๆ ตัวเขา
เขาเรียกเงากลับมา 2 ร่างจากทั้งหมด 5 ร่าง
เพื่อไม่ให้ดูสะดุดตาเกินไปเขาก็ได้ให้ร่างเงาใส่ชุดและปิดบังใบหน้าเอาไว้
“คนของแก!?”
นัยน์ตาของหยวนเฟ่ยเคอนั้นหดเล็กลงทันที
“ถูกต้อง!!”
“ไม่ได้มีแค่คนเดียวนะ ข้างนอกยังมีอีกคนหนึ่ง!!”
“น่าจะใกล้เสร็จแล้วมั้ง”
เมื่อซู่เสี่ยวไป่พูดจบ เสียงกรีดร้องสุดท้ายก็เงียบหายไป
แล้วร่างเงาอีกร่างก็มาปรากฏตัวที่ข้างๆ ซู่เสี่ยวไป่ทันที
ร่างเงานี้เหมือนกับร่างเงาตัวแรก มันใส่ชุดดำสวมหน้ากาก ต่างกันตรงที่ร่างเงานี้ใช้ดาบยาว ที่ใบดาบยังมีเลือดสดๆ และมีเลือดค่อยๆ ไหลหยดลงมาจากใบดาบ
“ท่านผู้นำ…เป็นอย่างไรชอบของขวัญที่ผมเตรียมไว้ให้ไหม?”
ซู่เสี่ยวไป่กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนเจ้าเล่ห์
“ไม่ต้องกลัวไป ตอนนี้ไม่ว่าจะคนเฒ่าคนแก่ ผู้หญิง ลูกเล็กเด็กแดง ถูกฆ่าไม่เหลือสักคน!!”
เมื่อพูดจบ สีหน้าและแววตาของซู่เสี่ยวไป่ก็คมกริบและดูเลือดเย็นขึ้นมาในทันที
เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ฆ่าคือฆ่าไม่ต้องปราณี
“ไอ้ชาติชั่วเอ่ย!!!”
“แกจะต้องตายอยู่ที่นี่!!!”
หยวนเฟ่ยเคอโกรธจัด เขาได้ระเบิดกระแสพลังของจอมยุทธขั้นสูงในทันที
และร่างของหยวนเฟ่ยเคอก็พุ่งเข้าหาซู่เสี่ยวไป่ราวกับกระสุนปืนใหญ่ และปล่อยหมัดเข้าไปที่หน้าของซู่เสี่ยวไป่ หวังว่าจะระเบิดหัวของซู่เสี่ยวไป่ให้เละเป็นชิ้นๆ
“กายาเพชร!!”
เสี้ยววิก่อนหมัดจะถึงเกิดเกราะพลังคลุมทั้งร่างของซู่เสี่ยวไป่ไว้ พร้อมกับเปล่งแสงสีทองราวกับเป็นพระพุทธองค์
ซู่เสี่ยวไป่ใช้มือข้างเดียวหยุดหมัดของหยวนเฟ่ยเคออย่างง่ายดาย
“ผู้นำตระกูลหยวน ฟังก่อน….นี้ผมยังพูดไม่จบเลยน่ะ!!”
ซู่เสี่ยวไป่ยิ้มร่า
“ป-เป็นไปได้ยังไง!!”
หยวนเฟ่ยเคอตกใจสุดขีด
เขาเป็นจอมยุทธขั้นสูง
และอยู่ในเขตแดนจอมยุทธขั้นสูงมาหลายปีแล้ว เขาได้ลองทะลวงเขตแดนอยู่หลายครั้งและสัมผัสได้ถึงกระแสพลังของยอดยุทธบางๆ ทุกครั้งที่เขาพยายามทะลวง ทำให้เขามั่นใจว่าตัวเองนั้นใกล้จะทะลวงเข้าสู่เขตแดนยอดยุทธได้แล้ว
แม้แต่จางเหิงล่งที่อยู่ในเขตแดนจอมยุทธขั้นสูงเหมือนกัน เขาก็มั่นใจว่าสามารถจัดการกับจางเหิงล่งได้สบายๆ
แต่สิ่งที่เขาต้องเผชิญ
ผู้ฝึกยุทธขั้นสูงที่รับหมัดของเขาด้วยมือข้างเดียวอย่างสบายๆ
“นี้….มัน”
หยวนฉีไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เขานั้นยืนอยู่ข้างๆ ไม่ใกล้จากซู่เสี่ยวไป่
หยวนเฟ่ยเคอนั้นถือว่าเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลหยวน
ทุกคนนั้นต่างเกรงกลัวต่อพลังของหยวนเฟ่ยเคอ
แต่เวลานี้ ความเชื่อมั่นและศรัทธาที่มีต่อหยวนเฟ่ยเคอได้พังทลายลง
การโจมตีของจอมยุทธขั้นสูงถูกสกัดด้วยผู้ฝึกยุทธขั้นสูง และอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น!!
“นี้มันเรื่องบ้าอะไร!!”
หยวนฉีตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น
แต่ด้วยประสบการณ์ต่อสู้หลายสิบปีของหยวนเฟ่ยเคอ ทำให้เขารีบสลัดตัวเองให้หลุดจากมือของซู่เสี่ยวไป่ ก่อนจะตั้งท่าโจมตีอีกครั้ง
แต่ทันใดซู่เสี่ยวไป่ก็หายไป
“หายไปไหน!”
“อะ จ๊ะเอ๋ อยู่ข้างหลังนี้ไง!!”
ทุกอย่างเร็วมาก
แต่หยวนเฟ่ยเคอนั้นตั้งสติได้ทันเขาก็เตรียมจะเตะกลับหลังออกไป แต่ก่อนที่จะตอบสนองในทันที ก็มีฝ่ามือตบเข้าที่หลังหัวของเขาอย่างรวดเร็ว
เปรี้ยง!!
ตัวของหยวนเฟ่ยเคอกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง หน้าของเขากระแทกพื้นจนแตกเป็นรอยราวลากยาว