ตอนที่ 93 ฉู่อู่จื่อ
ฉู่อู่จื่อเป็นชายหนุ่มตัวสูงสวมชุดเกราะทอง มีรอยยิ้มจริงใจบนหน้าเขาที่ทำให้คนรู้สึกเชื่อใจ
ทันทีที่เขาปรากฏบนภูเขาของผู้อาวุโสใหญ่ ฉู่อู่จื่อก็สังเกตเห็นกู่เซียนเอ๋อร์ และความแปลกใจก็แวบผ่านตา แต่เขาก็ฉลาดพอจะไม่เปลี่ยนสีหน้า
เขาเห็นสาวงามมามากในชีวิต แต่คนตรงหน้าเขาเป็นอีกระดับเลย มากจนเขาอดแปลกใจไม่ได้
“ผู้น้อยน้อมพบผู้อาวุโสใหญ่!”
เขาก้มหัวให้ผู้อาวุโสใหญ่
มีคนไม่มากในวังเต๋าที่รู้ว่าฉู่อู่จื่อแท้จริงคือศิษย์หลานของผู้อาวุโสใหญ่ พ่อของฉู่อู่จื่อ จักรพรรดิแห่งราชวงศ์เซียนฉู่นั้นเคยเป็นศิษย ของผู้อาวุโสใหญ่ มันเพราะสถานะนั้นของเขา เขาจึงไม่อาจกลายเป็นศิษย์สายตรงได้
มีน้อยคนที่จะรู้ความจริงนี้
“ฉู่อู่จื่อ เจ้ามาที่นี่ทันเวลาพอดี”
ผู้อาวุโสใหญ่ตอบด้วยการพยักหน้า ท่าทีของเขาต่อฉู่อู่จื่อไม่แย่
สำหรับผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสคนอื่นของวังเต๋า ฉู่อู่จื่อคือตัวเลือกที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ นิสัยหรือฐานบ่มเพาะ พวกเขาไม่พบเจอข้อบกพร่อง แถม เขาเป็นคนที่สงบมาก และมีบุคลิกโดดเด่น ไม่มีไอมารเหมือนกู่ฉางเกอ
ท่ามกลางศิษย์แท้จริงของวังเต๋าอมตะสวรรค์ ฉู่อู่จื่อยังเป็นคนเดียวที่แข่งขันกับกู่ฉางเกอได้
ผู้อาวุโสหลายคนหวังในตัวเขาไว้สูง และเชื่อว่าฉู่อู่จื่อจะได้เป็นผู้สืบทอด เนื่องจากหัวใจเขาไม่ได้ชั่วร้ายเหมือนกู่ฉางเกอ
กู่เซียนเอ๋อร์เองก็มองเขา เหนือสิ่งอื่นใด เขาคืออัจฉริยะสูงสุดที่ลือกันว่าเทียบได้กับกู่ฉางเกอ นางจึงอดอยากรู้อยากเห็ฯไม่ได้
ฉู่อู่จื่อมีกลิ่นอายจักรพรรดิบนตัว และมีความดุร้ายของมังกรด้วย ฐานบ่มเพาะเขายากจะหยั่งถึง และนางก็ไม่สามารถประเมินพลังเขาได้
“ศิษย์น้อยหญิงผู้นี้คือคนในข่าวลือหรือ?”
“เท่าที่ดู ข้าสามารถบอกได้ว่าข่าวลือไม่ได้เกินจริง เจ้างดงามประดุจเทพธิดา”
ฉู่อู่จื่อมองกู่เซียนเอ๋อร์ด้วยรอยยิ้มและประสานมือ
“น้อมพบศิษย์พี่อู่จื่อ”
กู่เซียนเอ๋อร์ตอบด้วยการพยัหกน้า แม้สีหน้านางจะสงบ นางก็กำลังพยายามหาว่าทำไมฉู่อู่จื่อถึงแสดงความเป็นมิตรกับนางเช่นนี้ เหนือสิ่งอื่นใด นางเพิ่งมาถึงวังเต๋าและผู้อาวุโสใหญ่ก็ยังไม่ได้รับนางเป็นศิษย์
สถานะนางในวังเต๋าแย่กว่าศิษย์ธรรมดาซะอีก ฉู่อู่จื่อไม่มีทางแสดงเจตนาดีแบบนี้กับนางโดยไร้เหตุผล
หรือเขาจะเป็นแบบนี้เพราะกู่ฉางเกอ?เหนือสิ่งอื่นใด ‘ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร’
“ข้ากำลังสงสัยพอดีว่าใครจะไปส่งกู่เซียนเอ๋อร์ที่ถนนเต๋าสวรรค์..ฉู่อู่จื่อ เจ้ารับหน้าที่นี้แล้วกันในเมื่อเจ้ามาพอดี”
ผู้อาวุโสใหญ่พูด
“ถนนเต๋าสวรรค์?”
“ดูเหมือนศิษย์น้องหญิงจะเป็นคนทะเยอทะยาน แต่ข้าต้องเตือนเจ้าถึงอันตรายของที่นั่น ถ้าเจ้าพยายามข้ามถนน หัวใจเต๋าเจ้าจะเสียหายอย่างรุนแรง และแม้แต่อาณาจักรเจ้าก็อาจไม่เพิ่มขึ้นอีกเลยหลังจากนั้น”
“ศิษย์น้องหญิง เจ้ายังอยากไปแม้จะรู้เรื่องนี้งั้นหรือ?”
ฉู่อู่จื่อตกตะลึง เขามาที่นี่เพื่อกู่เซียนเอ๋อร์หลังได้ยินข่าวเกี่ยวกับนาง พูดให้ถูก เขาพบว่ากู่เซียนเอ๋อร์กุมหลักฐานที่สามารถทำให้ตระกูลกู่เสียหน้าได้
เมื่อเรื่องนี้หลุด ตระกูลกู่จะกลายเป็นตัวตลก และทุกตระกูลในอาณาจักรเบื้องบนก็จะได้หัวเราะเยาะพวกเขา!
บรรพชนของราชวงศ์เซียนฉู่เคบบาดเจ็บสาหัสด้วยเงื้อมมือของบางคนจากตระกูลกู่ เขาจึงไม่ได้มีความรู้สึกดีอะไรต่อตระกูลกู่
น่าเสียดาย เขาไม่สามารถปฏิบัติต่อกู่เซียนเอ๋อร์ด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรได้ต่อหน้าผู้อาวุโสใหญ่
ผู้อาวุโสใหญ่เหลือบมองเขาและส่ายหัวโดยไม่พูดอะไร
ในทางกลับกัน กู่เซียนเอ๋อร์ยังแสดงสีหน้าสงบและพูด“ข้ามั่นใจในการตัดสินใจของข้า ศิษย์พี่อู่จื่อไม่ต้องเป็นห่วง!”
รอยยิ้มจริงใจกับสบายใจของฉู่อู่จื่อไม่เปลี่ยนหลังได้ยิน แต่เขาหัวเราะเยาะในใจแทน เขาเองก็อยากเห็นว่าความมั่นใจนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน?
“งั้นข้าจะรอดู”
ฉู่อู่จื่อพูดและเปลี่ยนเป็นแสงขณะนำกู่เซียนเอ๋อร์ไปถนนเต๋าสวรรค์
กู่เซียนเอ๋อร์ตามเขาสไปติดๆ
ในเวลาเดียวกัน นางก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าฉู่อู่จื่อกำลังวางแผนอะไรบางอย่าง ความรู้สึกนี้มาจากสัญชาตญารนาง และสัญชาตญาณนางก็ไม่เคยโกหกนางเลย
.นายท่าน!
ไม่ช้า กลุ่มผู้ติดตามของฉู่อู่จื่อก็ปรากฏด้านหน้าพวกเขาและเผยความแปลกใจตอนเห็นกู่เซียนเอ๋อร์
“ไปถนนเต๋าสวรรค์!”
ฉู่อู่จื่อสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ไม่ลืมหันไปมองกู่เซียนเอ๋อร์ และถอนหายใจ“ศิษย์น้องหญิง ข้าได้ยินเรื่องของเจ้ามาบ้าง และต้องบอกว่ากู่ฉางเกอนั้นโหดจริงๆ!การกระทำของเขาสะเทือนฟ้าดิน และข้าก็อดรู้สึกตกใจไม่ได้เลย!เรื่องแบบนั้นมีแต่มารร้ายถึงกระทำได้ ไม่ใช่พี่ชาย...”
กู่เซียนเอ๋อร์ขมวดคิ้วพอฟังคำเขา แต่ไม่พูดอะไรตอบ แม้นางจะรู้ว่าเขามีความแค้นต่อกู่ฉางเกอ แต่นางก็อดรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้
กู่ฉางเกอนั้นคือไอสารเลวของจริง แต่เขาไม่ใช่พวกหน้าซื่อใจคดเหมือนพวกคนร้ายที่ชอบหว่านความเกลียดชังลับหลัง แม้วิธีการของกู่ฉางเกอจะโหดเหี้ยม เขาก็ยังดีกว่าฉู่อู่จื่อ แถม เรื่องระหว่างนางกับกู่ฉางเกอนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว นางไม่อยากให้คนอื่นมาสอด
“ศิษย์พี่อู่จื่อ ท่านควรนำทางเฉยๆ ข้าไม่คิดว่าศิษย์แท้จริงอย่างท่านจะชอบพูดลับหลังคนนะ..”
กู่เซียนเอ๋อร์พูดขัดเขาด้วยใบหน้าสงบ ความหมายเบื้องหลังคำพูดนางคือ’ทำไมถึงมาพูดไร้สาระเกี่ยวกับเขาต่อหน้าข้า?ไปหาเขาเองสิถ้ากล้า!’
นางสามารถบอกได้ว่าฉู่อู่จื่อกำลังพยายามเอาชนะใจนาง เพื่อที่เขาจะได้มีวิธีจัดการกับกู่ฉางเกอ
ใบหน้าของฉู่อู่จื่อบิดเบี้ยว แต่ไม่ช้าก็กลับเป็นปกติ เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือคนที่สามารถสงบได้ต่อหน้าวคามสุข โกรธหรืออารมณ์อื่น
แต่คำพูดของกู่เซียนเอ๋อร์ก็ยังทำให้เขาโกรธและเย็นชาเล็กน้อย นางเยาะเย้ยเขาที่ไม่กล้าพูดต่อหน้ากู่ฉางเกอ?
ก็แค่นางแพศยาอาณาจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้กับเขา?
ดูเหมือนผู้อาวุโสใหญ่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นาง
ถ้าเขาไม่กลัวผู้อาวุโสใหญ่ ฉู่อู่จื่อคงสั่งสอนนางให้เข้าใจไปแล้วว่าใครคือราชาที่นี่!
แต่เขาก็ยังอดสับสนไม่ได้ ข่าวที่เขาได้รับบอกว่าความเกลียดชังระหว่างกู่ฉางเกอกับกู่เซียนเอ๋อร์ลึกลับประดุจมหาสมุทรลึก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงพูดแทนกู่ฉางเกอ?
…
ไม่ช้า ข่าวชิ้นหนึ่งก็ทำให้ทุกคนตกใจ’เด็กสาวในชุดฟ้าที่ยืนข้างผู้อาวุโสใหญ่วันนั้นกำลังเดินไปบนถนนเต๋าสวรรค์ เพื่อทำลายสถิติของกู่ฉางเกอ!’
ข่าวนี้กระจายออกไปโดยฉู่อู่จื่อ และมันก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนไปทั่ว มากจนแม้แต่ศิษย์แท้จริงอื่นก็ยังตื่นตัวและอยากไปดู
เด็กสาวชุดฟ้ามีตัวตนลึกลับ และลือกันว่าเป็นสมาชิกของตระกูลกู่ ถ้านั่นไม่พอ งั้นก็ยังมีความจริงที่ผู้อาวุโสใหญ่อยากรับนางเป็นศิษย์ และมีความคาดหวังในตัวนางอย่างสูง
นับประสาอะไรกับศิษย์ แม้กระทั่งผู้อาวุโสหลายคนก็ยังอดระงับความอยากรู้และมาดูไม่ได้
ในวังเต๋าอมตะสวรรค์ ถนนเต๋าสวรรค์เหมือนกระดานโดดน้ำสำหรับปลาคาร์พที่จะกระโดดข้ามประตูมังกร เหนือสิ่งอื่นใด มันสามารถส่งผลอย่างมากต่อพรสวรรค์ของอัจฉริยะ มันเป็นพรสวรรค์ที่กำเนิดตั้งแต่เกิดและไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
เมฆหลากสี รังสีแสงสว่าง และสายรุ้งเติมเมท้องฟ้าขณะที่คนกับสมบัติลี้ลับบินไปทั่ว ศิษย์หลายคนไปถนนเต๋าสวรรค์
หลายคนยังสังเกตเห็นผู้อาวุโสบางคน
“สถิติก่อนหน้าของถนนเต๋าสวรรค์ถูกทำลายหลังผ่านไปแสนปีโดยศิษย์แท้จริงกู่ และก็ไม่มีใครก้าวข้ามเขาไปได้”
“เขาคืออัจฉริยะสูงสุดที่ว่ากันว่าเป็นเซียนแท้จริงกลับชาติมาเกิด แถมข้าได้ยินมาว่าฐานบ่มเพาะของเขาทะลวงไปอาณาจักรจักรพรรดิแล้ว!’
“ความเร็วบ่มเพาะเช่นนี้ยากจะจินตนาการ ข้าไม่ได้ยินว่ามีใครทะลวงไปอาณาจักรจักรพรรดิแล้ว!แม้กระทั่งศิษย์แท้จริงฉู่ก็ดูเหมือนจะยังติดอยู่ที่ก้าวสุดท้าย”
“มันง่ายหรือไงที่จะทำลายสถิติของกู่ฉางเกอ?ไร้สาระ!นางแค่กำลังเพ้อฝัน”
คนโดยรอบคุยกัน
ถนนเต๋าสวรรค์คือบันไดหยกขาวราวหิมะที่รายล้อมด้วยหมอกเซียน มันมีลักษณะลึกลับ และแต่ละขั้นบันไดก็มีอักขระเต๋ากับเจตจำนงเต๋าแทรกซึม พออัจฉริยะก้าวขึ้นไป พวกเขาจะเจอกับนิมิตต่างๆ
ว่ากันว่าถนนเต๋าสวรรค์จะนำไปสู่สวรรค์และไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามันมีกี่ขั้น ทุกแสนปี ถนนเต๋าสวรรค์จะปรากฏ และอัจฉริยะนับไม่ถ้วนจะมาที่นี่เพื่อปีน
กล่าวอีกนัยหนึ่ง สถิติจะปรับใหม่ทุกแสนปี
ทุกแสนปีจะเป็นยุคของอัจฉริยะคนเดิม ดังนั้นทั้งหมดจึงไม่เต็มใจจะโดนคู่แข่งทิ้งไว้ข้างหลัง ทั้งหมดอยากทิ้งรอยเท้าไว้บนถนนเต๋าสวรรค์เพื่อรับชื่อเสียง
ตอนนี้ ศิษย์กับผู้บ่มเพาะหลายคนที่อยู่ใกล้ถนนเต๋าสวรรค์ต่างมองด้วยความตื่นเต้น
ใบหน้าของกู่เซียนเอ๋อร์สงบอย่างมากขณะที่ตัวของนางเคลื่อนไปข้างหน้า
“ศิษย์น้องหญิง อย่าฝืนเกินความสามารถ แรงกดดันบนถนนเต๋าสวรรค์สูงมาก”
ฉู่อู่จื่อแนะนำนางด้วยท่าทางเป็นมิตร
กู่เซียนเอ๋อร์ไม่เปลี่ยนสีหน้าขณะเหลือบมองเขาโดยไม่พูดอะไรตอบกลับ
ความจริงที่ว่าคนเกือบทั้งวังเต๋ารู้เรื่องนี้ในเวลาอันสั้นมีความเป็นไปได้เดียวคือฉู่อู่จื่อป่าวประกาศ สำหรับว่าทำไม?เขาคงอยากเห็นนางเป็นตัวตลกต่อหน้าคนทั้งโลก เขาไม่สามารถปิดบังเจตนาจริงจากนางได้
“ข้าไม่เจอเจ้าไม่กี่วัน เจ้าก็มีคนมาจีบแล้วหรือ เซียนเอ๋อร์?ให้พี่ใหญ่ทดสอบเขาดูไหมว่าเขาคู่ควรหรือเปล่า?’
จากนั้นเสียงหัวเราะที่น่ารังเกียจก็ดังขึ้น และความสงบบนหน้ากู่เซียนเอ๋อร์ก็หายไป นางหันไปมองทางเสียงด้วยสายตาเยือกเย็น
กู่ฉางเกอค่อยๆเดินหานาง วันนี้ เขาสวมชุดขาวหิมะไร้ฝุ่นเกาะ ด้านหลังเขาคือผู้ติดตามกลุ่มใหญ่ สีหน้าของศิษย์ใกล้ๆสลด และก็อดถอยหลังกันไม่ได้
หลังเขาบ่มเพาะในเมืองโบราณเต๋าสวรรค์เสร็จ เขาก็กลับมายอดเขาสูงสุดของเขา แต่ตอนเขากำลังจะเข้าอาณาเขตของวังเต๋า เขาก็พบร่างของกู่เซียนเอ๋อร์กำลังบินไปทางถนนเต๋าสวรรค์
กู่ฉางเกอรู้สึกอยากรู้อยากเห็นว่านางจะทำอะไรและตัดสินใจมาที่นี่
“โฮ้!นี่คือน้องสาวผู้ที่กำลังจะได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์ของผู้อาวุโสใหญ่?นางงามมาก และจะต้องงามกว่านี้พอโตขึ้น”
เสียงหัวเราะอีกเสียงดังจากทางหนึ่ง ขณะที่หญิงงามผู้มีผ้าคลุมหน้าปรากฏ ด้านหลังนางมีสาวใช้หลายคนคอยถือหางจิ้งจอกนางไว้ ป้องกันมันไม่ให้แตะพื้น
นางคือศิษย์แท้จริงอีกคน หยินเม่ย!
ต่อหน้าคนนอก นางทำเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับกู่ฉางเกอ หลังกู่ฉางเกอออกเมืองโบราณ นางก็กลับมายอดเขานางเช่นกัน
‘ทรัพยากร’บ่มเพาะที่นางเตรียมไว้หกเดือนก่อนมากพอ และกู่ฉางเกอก็ดูเหมือนจะสนใจในหางจิ้งจอกของนางขึ้น เขาจึงมอบยาแก้พิษให้นางหลายขวด หยินเม่ยจึงอารมณ์ดีมาก
[ฟู่!]
“การปรากฏตัวของกู่ฉางเกอก็น่าตกใจพอแล้ว แต่แม้กระทั่งศิษย์แท้จริงหยินผู้ลึกลับก็ยังมา!”
“มันดูเหมือนวันนี้จะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!’
ทุกคนตกใจพอเห็นฉากตรงหน้า พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะมีศิษย์แท้จริงมากมายมารวมตัวกัน