ตอนที่ 10 ห้าต่อสอง
“คุณฟื้นฟูพลังชีวิตแล้วเหรอ?” ดราโก้เหยามองไปรอบตัวและส่งคำขอปาร์ตี้กับซาซากิ
“ฮึ่ม” ซาซากิยอมรับคำขอ “อะไร ทำไมคุณถึงมาปาร์ตี้กับฉันแล้วล่ะ?”
“เด็กน้อย อย่าทำตัวเป็นเด็กแบบนี้สิ ดูสายตาของพวกเขา พวกมันทั้งหมดกำลังมองดาบยาวของคุณ พวกเขาจะไม่หยุดฉันหากฉันหันหลังและจากไปในตอนนี้ คุณจะอยู่รอดได้ยังไงในเมื่อคุณยังไร้เดียงสาแบบนี้?”
“คุณ!” ซาซากิเดือดพล่าน แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ คนทั้งห้าที่ล้อมรอบพวกเขาทั้งหมดกำลังมองดาบยาวของเขาด้วยสายตาแห่งความโลภ แม้ว่าราคาของดาบจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขา แต่การถูกมองแบบนี้อย่างโจ่งแจ้งก็ทำให้เขาคลั่ง “ทำไมพวกคุณถึงมาล้อมเรา! พวกคุณต้องการอะไร!”
“โฮะ โฮะ” นักรบคนหนึ่งก้าวมาข้างหน้า ชื่อเซเฟอร์วูล์ฟลอยอยู่เหนือหัวของเขา “เจ้าหนู วางดาบยาวลง แล้วฉันจะปล่อยนายไป ถ้าไม่… การเก็บเลเวลในเกมไม่ใช่เรื่องง่าย การเสียเลเวลจะเป็นปัญหามาก”
“ไร้สาระ!” ซาซากิชี้ดาบไปที่นักรบคนนั้น “ต่อสู้กับฉันแบบตัวต่อตัวหากคุณกล้า!”
“ฟุบบบบ…”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ!”
“เจ้าเด็กบ้า!”
แม้แต่ดราโก้เหยาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เด็กน้อยคนนี้บอกให้คนเหล่านั้นต่อสู้กับเขาแบบตัวต่อตัวในสถานการณ์เช่นนี้! เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังวางแผนที่จะใช้ความเหนือกว่าด้านจำนวนโดยการล้อมพวกเขาไว้ตั้งแต่แรก
“เป็นเด็กเหลือขออีกคนหนึ่งที่ใช้เงินของตระกูลแบบสิ้นเปลือง” เซเฟอร์วูล์ฟไม่รีรอที่จะเยาะเย้ย “การเจรจาได้จบลงแล้วใช่มั้ย?”
ในขณะเดียวกัน เซเฟอร์วูล์ฟก็ได้ส่งคำแนะนำของเขาผ่านข้อความในปาร์ตี้ว่า “นักล่า ฆ่าเจ้าเด็กที่ถือดาบก่อน”
“เฮ้ เข้าใจแล้วหัวหน้า”
ลูกศรสี่ดอกพุ่งขึ้นไปกลางอากาศ ตรงไปยังซาซากิ
“น่ารังเกียจ!” ซาซากิคำรามอย่างโกรธแค้น
เขาไม่เคยรู้สึกโกรธเช่นนี้มาก่อน เนื่องจากเขาเกิดเป็นชนชั้นสูงที่มีเกียรติในสังคม นี่เป็นครั้งแรกที่ซาซากิได้สัมผัสกับการเอาชีวิตรอดแบบรากหญ้าและกฏแห่งป่า!
ถึงอย่างนั้น ซาซากิที่โกรธแค้นก็ยังตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาป้องกันลูกศรสามในสี่ดอกด้วยดาบของเขา ในขณะลูกศรที่เหลือแทงทะลุไหลของเขาและทำให้เกิดเลือดสาดกระเซ็นออกมา
ซาซากิตั้งค่าการรับรู้ความเจ็บปวดของตัวละครเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ ลูกศรได้ส่งคลื่นแห่งอาการชาผ่านบาดแผลของเขา และความรู้สึกนั้นก็ทำให้เขาพุ่งออกไปราวกับกระทิงคลั่ง
“เห้อ…” ดราโก้เหยารู้สึกเสียใจที่เขาไม่ได้ออกจากไปก่อนหน้านี้ ซาซากิคนนี้ทำตัวเหมือนเด็กน้อยอย่างแท้จริง
แม้ว่าจะเห็นนว่าซาซากิพุ่งเข้าหาพวกเขา นักล่าทั้งสองคนก็รักษาความเยือกเย็นของพวกเขาไว้เพราะเซเฟอร์วูล์ฟได้ก้าวมาข้างหน้าเพื่อขัดขวางเขาแล้ว
“เจ้าหนู ทิ้งดาบและทำตัวเป็นเด็กดีซะ!” เซเฟอร์วูล์ฟกล่าวในขณะที่เขาใช้งานฟันเสี้ยวจันทร์
ซาซากิเยาะเย้ยและตอบกลับว่า “ข้ามศพของฉันไปก่อน!”
โดยการวาดดาบยาวของเขา ซาซากอจึงป้องกันฟันเสี้ยวจันทร์ของเซเฟอร์วูล์ฟได้
เกมนี้ได้จำลองกลไกการต่อสู้ในชีวิตจริง ตราบเท่าที่สามารถป้องกันหรือหลบการโจมตีได้ ก็เป็นไปได้ที่จะสามารถป้องกันทักษะได้ แน่นอนว่าขั้นตอนที่อยู่เบื้องหลังการปะทะกันของทักษะหนึ่งกับอีกทักษะหนึ่งนั้นซับซ้อนกว่ามาก และเป็นการยากที่จะอธิบายด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ
แต่ไม่ว่ายังไง หลังจากที่ป้องกันฟันเสี้ยวจันทร์แล้ว ซาซากิก็โจมตีด้วยการแทงกลับอย่างฉับพลัน วาดเส้นสีแดงไปทางเซเฟอร์วูล์ฟ
“เจ้าหนู นายไม่เลวเลย” เซเฟอร์วูล์ฟยังคงไม่สะทกสะท้านแม้จะถูกโจมตี ด้วยการรับรู้ความเจ็บปวดของเขามีแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ การโจมตีนี้จึงรู้สึกราวกับไม่มีอะไรมากไปกว่าการถูกยุงกัด ในขณะเดียวกัน นักล่าทั้งสองก็ใช้ยิงคู่อีกครั้ง โดยยิงลูกศรสี่ดอกไปยังซาซากิ
ในขณะนั้นเอง เซเฟอร์วูล์ฟก็พุ่งเข้าหาซาซากิเช่นกัน
หมัดพุ่งชน!
มันเป็นทักษะนักรบเลเวล 10 ด้วยมือซ้ายที่ไม่ได้ถืออะไรเลย เขาต่อยหมัดเสยขึ้นและส่งซาซากิซึ่งไม่ทันตั้งตัวกระเด็นลอยไป ลูกศรทั้งสี่ดอกก็ติดอยู่บนตัวชายหนุ่มที่กำลังลอยออกไป ทำให้พลังชีวิตของเขาลดลงเหลือต่ำกว่าครึ่ง
เขาด่าตัวเอง เพราะเขาเป็นคนที่ถอดเกราะออกเมื่อต่อสู้กับดราโก้เหยา ศัตรูนั้นมีเพียงอาวุธทั่วไป แต่พวกมันทั้งหมดเป็นไอเท็มเลเวล 10
ที่แย่ไปกว่านั้น ซาซากิอยู่เพียงเลเวล 4 ในขณะที่ทุกคนในปาร์ตี้มีเลเวล 10 แต่ละเลเวลจะมอบห้าแต้มคุณสมบัติและหนึ่งแต้มทักษะซึ่งหมายความว่าซาซากิมีสามสิบแต้มคุณสมบัติและหกแต้มทักษะน้อยกว่าศัตรูแต่ละคน
“ฉันจะต้องตายภายใต้เงื้อมมือของคนขี้ขลาดพวกนี้ใช่มั้ย?” ซาซากิกัดฟันของเขาแน่น จากนั้นเขาก็จำได้ว่าเขามีพวกพ้อง ดราก้อนสเปียร์
“ช่วยด้วย! แกจะยืนนิ่งอยู่ทำบ้าอะไร!” เสียงอึกทึกดังมาจากด้านหลังกลุ่มของนักรบ
นักรบอีกคนได้เพลิดเพลินกับการแสดงด้วยการกอดอก เมื่อได้ยินเสียงจากด้านหลังเขา เขาก็หันกลับมาด้วยความประหลาดใจและพบว่านักบวชที่สวมเกราะผ้าถูกดราโก้เหยาแทงด้วยรุ่งอรุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า ครึ่งหนนึ่งของพลังชีวิตของผู้รักาาหายไปเมื่อเขาสังเกตเห็นเรื่องนั้น
“เจ้าเด็กบ้า!” นักรบใช้พุ่งและเร่งความเร็วอย่างเต็มที่ด้วยความเร็วการเคลื่อนที่ที่เพิ่มขึ้น
ดราโก้เหยาชำเลืองมองไปที่ด้านหลังของเขาและสะบัดหอกราวกับมันเป็นหางของเขา
“ทักษะบ้าอะไรกัน!” นักรบคนนี้ประหลาดใจกับการเคลื่อนไหวของดราโก้เหยา
ตั้งแต่ฝ่าเท้า หัวเข่า เอว ไหล่ และหอกในมือขวาของเขา เขาเป็นเหมือนกันกับอาวุธของเขาที่ทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมของร่างกาย การเหวี่ยงหอกโดยการหมุนตัวซึ่งรวบรวมความแข็งแกร่งจากพื้นดินนั้นเป็นการเคลื่อนไหวในวิชาหอกที่เรียกว่า ‘กวาดอสรพิษ’ แต่มันไม่ใช่ทักษะในเกมและถือว่าเป็นการโจมตีปกติ
ด้วยเสียงอึกทึก การกวาดอันทรงพลังได้ส่งนักรบจนกระเด็นออกไป ดราโก้เหยาไม่ได้พยายามไล่ตามเขาและเพียงแค่กลับไปโจมตีพระที่มีพลังชีวิตกับพลังป้องกันที่ต่ำ
“พวกนายทำบ้าอะไรกัน!” เซเฟอร์วูล์ฟตระหนักว่าพระกำลังจะตาย เขาจึงได้ตะโกนออกมา “ปกป้องพระ!”
หลังจากกล่าวเช่นนั้น เขาก็ชี้ไปที่นักล่าทั้งสองเพื่อให้ไปกำจัดซาซากิให้ไวก่อนที่จะจัดการกับนักรบที่ถือหอก ใครก็ตามที่ใช้หอกจะต้องเป็นนักรบ อย่างน้อยพวกเขาก็คิดแบบนั้น
พลังชชีวิตของซาซากิก็ลดลงเช่นกัน แต่นั่นเป็นเพราะเขารับมือกับศัตรูสามคนในเวลาเดียวกัน ในทางกลับกัน พระกำลังถูกทำลายโดยดราโก้เหยาเพียงลำพังและอยู่ไม่ไกลจากความตายแล้ว
“อย่าดูถูกฉันนะ!”
ซาซากิเหวี่ยงดาบของเขาไปรอบตัวซึ่งดูราวกับเต็มไปด้วยพลังในทันใด ไม่เพียงแค่เขาจะสามารถบังคับให้เซเฟอร์วูล์ฟต้องถอยกลับเท่านั้น เขายังสร้างบาดแผลให้กับเซเฟอร์วูล์ฟ ดาบยาวหายากของเขาไม่ได้มีดีแค่รูปลักษณ์เท่านั้น ความเสียหายของมันก็อยู่ในระดับที่แตกต่างจากอาวุธทั่วไป พลังชีวิตของเซเฟอร์วูล์ฟหายไปกว่า 30 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่นักรบกำลังรีบกลับเข้ามา ดราโก้เหยาก็ได้สังหารพระไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงแค่ศพ อุปกรณ์ และเหรียญทองบางส่วนไว้ ในขณะนั้นเอง แทนที่จะถอย เขากลับวิ่งเข้าไปช่วยซาซากิ
เขาเป็นนักออกแบบเกม แต่เขาก็ไม่เคยเล่นเกมออนไลน์มาก่อนเลย ถึงอย่างนั้น เขาก็รู้เกี่ยวกับกลไกและสามัญสำนึกของเกม
การสังหารผู้รักษาศัตรูเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการต่อสู้แบบทีม หากไม่อย่างนั้น พระจะรักษานักสู้ระยะประชิดจากแนวหลังได้อย่างสบายใจและนั่นก็หมายถึงความพ่ายแพ้ของพวกวเขา นี่เป็นเหตผลที่ดราโก้เหยาตัดสินใจทิ้งซาซากิไว้เพียงลำพังเพื่อสังหารพระ
“หยุดเขา! อย่าให้เขาเข้ามา! นักล่า ฆ่าเจ้าหนูดาบคนนั้นก่อน!” เซเฟอร์วูล์ฟออกคำสั่งไปยังปาร์ตี้ของเขา เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าการต่อสู้ที่อยู่ในเงื้อมมือของเขาจะพลิกกลับเช่นนี้ หากเขาไม่สามารถสังหารผู้เล่นเลเวล 4 และเลเวล 5 ด้วยปาร์ตี้ที่มีผู้เล่นเลเวล 10 ห้าคนได้ กิลด์ของเขาก็คงจะจบ
“เฮ้ ฉันทนได้อีกไม่นานแล้วนะ!” ซาซากิสังเกตเห็นว่าดราโก้เหยาได้สังหารศัตรูไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ซาซากิเองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก พลังชีวิตของเขาลดลงเหลือหนึ่งในสิบซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงขอความช่วยเหลือในท้ายที่สุด
โดยไม่แสดงอารมณ์ไหนออกมาเลย ดราโก้เหยากล่าวอย่างสงบว่า “คุณลืมดื่มยา”
“เอ่อ คุณพูดถูก!” ซาซากิรู้สึกตัวขึ้นมาในทันใด จากนั้นเขาก็หยิบยาออกมาในที่โล่ง
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน