677 - ผู้คนที่รอชมเรื่องสนุกสนาน
677 - ผู้คนที่รอชมเรื่องสนุกสนาน
ผู้ยิ่งใหญ่ของนิกายหยินหยางอยู่ที่นี่แล้ว มีผู้อาวุโสระดับผู้สูงสุดเจ็ดคนและยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์อีกคนหนึ่ง
พวกเขาเชื่อเสมอว่าตัวเองมีความแข็งแกร่งมากกว่าผู้คนจากตงหวง ดังนั้นแม้จะได้ยินข่าวเรื่องความตายของผู้สูงสุดจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงพวกเขาก็ไม่ได้มีความกลัวเลย
“เจ้าพวกไม่รู้จักตาย เจ้ากล้ายั่วยุนิกายหยินหยางของข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า วันนี้พวกเจ้าจะต้องชดใช้!” หนึ่งในนั้นกล่าวอย่างมุ่งร้าย
ในตอนนั้นสตรีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาถูกตัดศีรษะ ทุกคนอยู่ไกลเกินไปและไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ แต่ตอนนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์ตายลงต่อหน้ามันทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนถูกลากออกไปตบกลางตลาด
พวกเขาคือนิกายสูงสุดที่สง่างามแห่งจงโจว เคยมีลูกหลานของดินแดนศักดิ์สิทธิ์คนใดที่ถูกทำลายลงเช่นนี้? มันเป็นความอัปยศที่ยิ่งใหญ่สำหรับนิกายหยินหยาง
สิ่งนี้ถูกกำหนดให้พวกเขาต้องกลายเป็นตัวตลก บุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์ของนิกายสูงสุดต่างก็ถูกกำหนดให้กลายเป็นผู้นำของนิกายในอนาคต พวกเขากลับถูกสังหารก่อนเวลาอันควรเช่นนี้จะให้ผู้คนจากนิกายหยินหยางทนได้อย่างไร?
“บูม!”
ผู้สูงสุดของนิกายหยินหยางเริ่มโจมตี เขาเอื้อมมือใหญ่เพื่อคว้าตัวหลี่เหอซุย
“ฮึ่ม!”
เย่ฟ่านแค่นเสียงอย่างเย็นชา และเหวี่ยงหมัดสีทองสวนการโจมตีฝ่ายตรงข้ามจนเกิดเสียงปะทะอย่างรุนแรงเกิดขึ้นกลางอากาศ
“ปัง!”
หมัดทองคำปะทะมือใหญ่ของชายชราจากนิกายหยินหยาง เสียงที่ดังขึ้นนั้นราวกับภูเขาที่ถูกสร้างจากเหล็กสองลูกชนกันและมีเลือดสาดกระจายไปทั่ว
ทุกคนอ้าปากค้างเมื่อเห็นฉากนี้ ร่างกายของร่างเซียนโบราณนั้นแข็งแกร่งเกินไป และแม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหยินหยางก็ยังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
“นี่มัน...เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”
“นี่มันเหมือนกับในตำนานจริงๆหรือ ร่างกายของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ แล้วตอนนี้เขาอยู่เพียงอาณาจักรสี่สุดขั้วเท่านั้น!”
ทุกคนต่างตกตะลึง ฝ่ามือของชายชรานิกายหยินหยางมีเลือดออกและผลที่ได้ก็น่ากลัวเหลือเกิน
“ฮ่าฮ่า...” หลี่เหอซุยหัวเราะ
“ไอ้เฒ่าไร้ยางอาย เป็นอย่างไร เจ้ามีปัญญาทำอะไรเราหรือไม่”
ชายชราจากนิกายหยินหยางคำรามด้วยความโกรธก่อนที่มือขนาดใหญ่ของเขาจะโจมตีลงมาอีกครั้ง
“ตึง!”
เย่ฟ่านยังคงไม่แสดงความเกรงกลัว เขายืนอยู่ในความว่างเปล่าและเหวี่ยงกำปั้นสีทองออกไปอีกครั้ง ร่างกายของเขาพร่างพรายด้วยแสงสีทองสดใส
ปัง!
ฝ่ามือของชายชราจากนิกายหยินหยางสั่นสะเทือนอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาฟื้นความสงบของเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาพลิกมือรัศมีอันศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็หลั่งไหลลงมาราวกับน้ำตก
นี่คือพลังของยอดฝีมือระดับผู้สูงสุด มันเพียงพอที่จะฆ่าเย่ฟ่านได้เป็นร้อยๆครั้ง ทันทีที่เขาโจมตีออกมาอีกครั้งความมืดก็เข้าครอบคลุมท้องฟ้า เปลี่ยนให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นค่ำคืนที่มืดมิด
มันเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ของหยินสุดขีด ด้วยความคิดเดียวของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรแปลงมังกรต้องกลายเป็นเถ้ากระดูก
เย่ฟ่านถอยหลังกลับด้วยทักษะการเคลื่อนไหวของชายชราผู้บ้าคลั่ง เมื่อเผชิญกับพลังอันยิ่งใหญ่เช่นนี้เขาไม่มีความหวังที่จะต่อต้าน
หากคิดจะปะทะตรงๆร่างกายและวิญญาณของเขาจะแหลกละเอียดอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เมื่อผู้อาวุโสของนิกายหยินหยางเห็นเช่นนั้นเขาก็ถอนการโจมตีกลับมาเปลี่ยนเป็นกางเขตแดนเพื่อควบคุมสถานที่แห่งนี้แทน
“มันง่ายเกินไปที่จะฆ่าเจ้า ข้าจะค่อยๆทรมานเจ้า เฉือนเนื้อเจ้าทีละน้อยและดึงจิตวิญญาณของเจ้าออกมา แบบนั้นจะน่ารื่นรมย์ว่า!”
เสียงของชายชรานิกายหยินหยางเย็นเยียบไร้ความปราณี ทั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาถูกตัดศีรษะ ต่อให้ฆ่าเด็กน้อยคนนี้ได้สำเร็จพวกเขาก็ไม่สามารถกู้หน้าคืนได้ ดังนั้นเขาจึงต้องการประมาณเย่ฟ่านให้ถึงที่สุด
“ทำไมต้องทำให้มันยุ่งยากเสียเปล่าๆ!” ผู้อาวุโสอีกคนกล่าวด้วยความไม่พอใจ
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้อาวุโสสูงสุดด้วยกันทั้งหมด แต่ผู้สูงสุดก็ยังถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับ
และชายชราที่กล่าววาจาเมื่อสักครู่นี้คือผู้อาวุโสใหญ่แห่งนิกายหยินหยางซึ่งมีอำนาจเกือบเทียบเท่าประมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา
ดังนั้นเมื่อผู้อาวุโสใหญ่ตัดสินใจที่จะทรมานเย่ฟ่านผู้สูงสุดคนอื่นๆก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แม้ว่าพวกเขาจะต้องการออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ก็ตาม
ในตอนนี้ผู้สูงสุดอีกสองคนก้าวไปข้างหน้า และหนึ่งในนั้นเย้ยหยัน
"พวกเจ้าจะถูกทำลายทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ และเจ้าจะต้องทนทุกข์ทรมานไปอีกเป็นร้อยตรี"
“กลัวแต่ว่าความสามารถของพวกเจ้าจะไม่เพียงพอ?”
สุนัขสีดำตัวใหญ่คำรามโดยไม่มีความกลัวใดๆ ในทางกลับกันดวงตาของมันวาววับด้วยความตื่นเต้น
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าคุกเข่าลงที่นี่และเต็มใจที่จะเป็นทาสให้นิกายหยินหยางร้อยปี เมื่อนั้นพวกเจ้าจะได้รับการให้อภัย!”
ผู้อาวุโสใหญ่กวาดตามองทุกคนจากนั้นจึงกล่าวต่อไปว่า
“ยกเว้นร่างเซียนโบราณ เขาต้องตาย แม้ว่าราชาสวรรค์ผู้เฒ่าจะอยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครช่วยเขาได้!”
“พวกเจ้าเป็นคนไม่ดี”
หนานหนานพูดเบาๆ ดวงตาสีดำโตราวกับอัญมณีของนางเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
“เจ้าเลือกได้ว่าจะคุกเข่าหรือไม่” ชายชรากล่าวอย่างเย็นชา
“ผู้อาวุโสออกไปตบพวกเขาให้ตายเถอะ ข้าก็อยากจะลงมือเองอยู่หรอกนะ แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่มีแรงแบบนั้น” หลี่เหอซุยพึมพำข้างชายชราผู้บ้าคลั่ง
ผู้คนในนิกายหยินหยางได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย สายตาของพวกเขาจับจ้องไปยังชายชราผู้บ้าคลั่งพร้อมกัน
“คนบ้าเช่นนี้จะทำอะไรได้ ข้าจะสั่งสอนพวกเจ้าเอง” ผู้อาวุโสสูงสุดสองคนของนิกายหยินหยางเย้ยหยันอย่างไร้ความปราณี
ในระยะไกล ทุกคนที่ดูการต่อสู้ต่างมองหน้ากันอย่างตกตะลึง แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
ไม่ว่าอย่างไรคนพวกนั้นก็มาจากจงโจวและคนเหล่านี้ต่างอ้างตัวว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่ดูถูกผู้บ่มเพาะชาวตงหวงอยู่เสมอ ดังนั้นความตายของพวกเขาทุกคนจึงเป็นสิ่งที่ผู้ชมที่อยู่ด้านข้างรอคอย
ในเวลานี้แม้แต่คนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงก็ยังเฝ้าคอยด้วยความตื่นเต้น ไม่มีใครส่งเสียงเตือนยอดฝีมือจากนิกายหยินหยางแม้แต่คนเดียว
ก่อนหน้านี้ผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องการให้ผู้อื่นได้รับความทุกข์ทรมานแบบเดียวกัน
“เลือกมา จะยอมเป็นทาสหรือตาย!”
ในที่สุดผู้อาวุโสทั้งสองก็ปล่อยการโจมตีออกไป และระหว่างฝ่ามือและนิ้วของพวกเขาก็ก็เต็มไปด้วยลำแสงสีดำที่เข้มข้นหลายหมื่นเส้น ลำแสงพวกนั้นครอบคลุมเข้าหาเย่ฟ่านแล้วคนอื่นอย่างรวดเร็ว
ผู้คนที่มองดูการต่อสู้จากระยะไกลกำลังเฝ้ารอคอย ในบรรดายอดฝีมือจากนิกายหยินหยางไม่มีครึ่งเซียนแม้แต่คนเดียว ดังนั้นความตายของพวกเขาจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างแน่นอน
ผู้อาวุโสสูงสุดสองคนของนิกายหยินหยางตะโกนพร้อมกัน และลำแสงในมือของพวกเขาก็ร่วงหล่นลงราวกับใบมีดแห่งสวรรค์
ชายชราผู้บ้าคลั่งไม่ตอบสนอง แต่ทันทีที่กระแสแสงสีดำพุ่งเข้ามาพวกมันก็สลายหายไปก่อนจะมีโอกาสมาถึงตัวพวกเขา
สุนัขสีดำตัวใหญ่ไม่พอใจเท่าไหร่ เทพที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาสงบนิ่งเกินไป หากชายชราผู้บ้าคลั่งลงมือสังหารทั้งสองคนในทันที นั่นจึงจะเป็นเรื่องที่ถูกใจมัน!
"เกิดอะไรขึ้น?"
คนนิกายหยินหยางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ กลุ่มเด็กน้อยที่อยู่ข้างล่างต่อให้เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังอยู่ในอาณาจักรสี่สุดขั้วที่สามารถต่อสู้กับอาณาจักรแปลงมังกรได้เท่านั้น เรื่องนี้มันไม่มีเหตุผลเลย
“หรือเจ้าจะเป็นครึ่งเซียนที่ถูกเล่าขานคนนั้น?”
พวกเขาจ้องไปที่ชายชราผู้บ้าคลั่งแต่ไม่ว่ามองมุมไหนฝ่ายตรงข้ามก็ไม่มีบุคลิกของครึ่งเซียนแม้แต่น้อย เรื่องนี้ทำให้พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆ
“ข้าพูดกับเจ้า ทำไมเจ้าไม่ตอบคำถาม!”
เมื่อทั้งสองเห็นฝ่ายตรงข้ามยังคงนิ่งเฉยพวกเขาก็คำรามและปลดปล่อยเรือที่เป็นสิ่งประดิษฐ์สีทองขนาดใหญ่ให้โจมตีเข้าหาชายชราผู้บ้าคลั่งอีกครั้ง
“ปัง!”
เรือนั้นไม่ได้โจมตีชายชราผู้บ้าคลั่ง แต่มันกลับแตกออกทันที มันกลายเป็นฝุ่นผงสีทองที่ตกลงสู่พื้นเหมือนเศษขยะ และไม่มีโอกาสสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่อะไรเลย
ในเวลาเดียวกัน ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสองของนิกายหยินหยางได้ปรากฏตัวที่ด้านหลังชายชราผู้บ้าคลั่ง กระบี่ทั้งสองเล่มของพวกเขาที่มันแทงเข้าหาศีรษะทางด้านหลังชายชราผู้บ้าคลั่งอย่างรวดเร็ว!
“บูม!”
ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองหัวเราะเยาะที่มุมปาก พวกเขาคิดว่าจะจัดการคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย
แต่ในขณะนั้น หัวใจของพวกเขากลับหนาวเหน็บ กระบี่ที่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาค่อยๆแหลกสลายกลายเป็นฝุ่นผงไม่แตกต่างจากเรือสีทอง!
ในเวลานี้เองที่พวกเขาตระหนักได้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้าน่ากลัวมากแค่ไหน แต่ก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสทำอะไรชายชราคนนั้นก็ตัดศีรษะของพวกเขาออกเป็นสองส่วนแล้ว