590 - เฝ้าโพลงรอกระต่าย
1900 - เฝ้าโพลงรอกระต่าย
สือฮ่าวขมวดคิ้ว หลังจากถอนหายใจเบาๆเขากล่าวว่า
“ข้าต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อเตรียมรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตเร็วๆนี้”
พี่ชายของอี้หลัวยังคงอยู่ในสามพันแค้นเขาคือมือขวาของราชาหนุ่มคนนั้น จะเป็นการดีที่สุดหากสามารถจัดการเขาก่อนที่เรื่องราวจะเลวร้ายไปกว่านี้
ด้วยการหายตัวไปอย่างกะทันหันของสหายของเขาราชาหนุ่มก็จะระวังตัวและไม่ส่งคนออกมาอย่างผลีผลามอีก กล่าวได้ว่านี่คือคำเตือนชนิดหนึ่ง
“เราไม่อาจปล่อยให้เรื่องนี้รั่วไหลออกไปถึงดินแดนปิดผนึกเหล่านั้นส่วนเรื่องของอาณาจักรเซียนเราไม่สามารถทำอะไรได้ มีเพียงสิ่งเดียวที่เราต้องทำคือต้องจัดการพี่ชายของเด็กหญิงนางนี้ให้เด็ดขาด” ท่านปู่นกพยักหน้า
เก้าสวรรค์มีดินแดนปิดผนึกมากมาย ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นค่อนข้างซับซ้อน
สือฮ่าวขึ้นบันไดสวรรค์เพื่อเฝ้ารอจัดการใครก็ตามที่ลงมาจากอาณาจักรวิญญาณ
เอ็น?
เมื่อเขามาถึงประตูอาณาจักรวิญญาณเขาก็ตะลึง สถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดมันมีค่ายกลลึกลับที่นี่ แม้ว่าประตูใหญ่จะมีรอยแตกมากมายแต่เขาก็ยังรู้สึกถึงอันตราย
“นี่เป็นการห้ามไม่ให้คนที่อยู่ด้านล่างขึ้นไปหรือ” สือฮ่าวหัวเราะเยาะ มันน่าจะถูกติดตั้งไว้เพื่อป้องกันเขาข้ามไป?
หรือจะพูดให้ละเอียดกว่านั้นก็คือพวกมันรอดักซุ่มสังหารเขาอีกด้านหลังของประตู
ทุกคนรู้ว่าสือฮ่าวไม่มีใครเทียบได้ในอาณาจักรวิญญาณและอาณาจักรแห่งความว่างเปล่า ดังนั้นนี่จึงเป็นไปได้ยากที่จะหยุดเขาป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิดไม่ให้เกิดขึ้น
ทุกคนรู้ว่าเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากคำสาปสังหารอมตะ เขาจะต้องพิการภายในหนึ่งเดือน
“พวกเขากังวลว่าข้าจะกลายเป็นคนบ้าคลั่งขึ้นมาภายในรอบเดือนนี้? พวกเขาดูถูกข้ามากเกินไป” สือฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นโดยไม่ได้ขยับไปไหน
แม้ว่าเขาจะพูดเช่นนี้แต่เขาก็รู้สึกเสียใจมาก ถ้าเขารู้ว่าสิ่งต่างๆจะเป็นเช่นนี้เขาควรจะแสร้งทำบ้าคลั่งกระตุ้นความโกลาหลครั้งใหญ่ในอาณาจักรวิญญาณ
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงจากด้านหลังประตู มีผู้บ่มเพาะบางคนเฝ้ามันอยู่ใกล้ๆ
“ทุกคนคิดยังไง? พวกเจ้าคิดว่าตอนนี้ฮวงจะพิการไปแล้วหรือยัง?”
“มันไม่ชัดเจนเหรอ? ถ้าเจ้านับเวลาเป็นก็น่าจะรู้ว่าตอนนี้มันผ่านมาเกือบสองเดือนแล้ว”
“เราจะรู้หลังจากรออีกไม่กี่ชั่วยาม อีหลัวและซูฮุ่ยผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองลงไปด้านล่างข้าเชื่อว่าพวกเขาจะนำข้อมูลเรื่องนี้กลับมาด้วย”
“ในที่สุดฮวงผู้น่าสงสารก็พิการไปแล้ว ใช่แล้วอาการบาดเจ็บของฉินฮ่าวน้องชายของเขานั้นไม่เบาเลย โดนพี่ชายของอี้หลัวถูกทุบตีอย่างน่าสังเวช”
คิ้วของสือฮ่าวขมวดคิ้วทันที เขาได้ยินอีกครั้งว่าอาการบาดเจ็บของฉินห่าวนั้นร้ายแรงมา
นี่เป็นน้องชายของเขาแต่ก็ยังอับอายเช่นนี้! เปลวไฟขนาดใหญ่กำลังลุกโชนอยู่ภายในตัวของสือฮ่าว
แขกจากอาณาจักรเซียนพวกนั้นรังแกคนอื่นมากเกินไปจริงๆ! หลังจากยืนอยู่หน้าประตูครู่หนึ่งดวงตาของสือฮ่าวก็สว่างสดใส
คล้ายกับมีความคิดบางอย่าง
“ทำไมข้าได้ยินเหมือนมีคนถอนหายใจอยู่ด้านหลังประตู”
“ไม่ใช่แค่เสียงถอนหายใจเท่านั้นถ้ามองเห็นใครบางคนเดินผ่านประตูมาด้วย”
“อย่าบอกนะว่าเป็นคนชั่วร้ายที่มาจากอาณาจักรที่ต่ำกว่า? ข้าได้ยินมาว่ามันเป็นคุกซึ่งสิ่งมีชีวิตที่ถูกขังอยู่ด้านในนั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายที่สุดในสมัยโบราณ”
ด้านหลังประตูอาณาจักรกลุ่มคนมองหน้ากันด้วยความตกใจรู้สึกหนาวสั่นหลังในทันที
“หุบปากใครบอกให้พวกเจ้าพูดเสียงดังที่นี่? ถ้ามีคนจากด้านล่างขึ้นมาพวกเขาจะต้องกลัวจนหนีไปแล้ว ค่ายกลที่พวกเราตั้งไว้ก็คงกลายเป็นหมันไปทันที!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งเดินผ่านมาพร้อมกับตำหนิเสียงดัง
สือฮ่าวไม่ได้บุกเข้าไปแต่เขาเดินลงไปด้านล่างแทน เขาไม่ได้กลับสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าแต่ยืนรออยู่ที่แท่นบูชาทองแดงใกล้ๆ
สถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่าแท่นบูชานกกระจอกทองแดงซึ่งเป็นแท่นยกระดับที่สามารถใช้เป็นเวทีได้
ย้อนกลับไปตอนที่เขามาที่นี่ครั้งแรกเขาได้ต่อสู้กับเฟิงอู่รวมถึงเผชิญหน้ากับเต็งยี่เจิ้นกู่และคนอื่นๆ เหตุการณ์ในอดีตเหล่านี้ยังคงสดใสอยู่ในใจของเขา
ในขั้นต้นเขาต้องการเข้าสู่อาณาจักรวิญญาณอย่างเงียบๆ และพยายามยั่วยุพี่ชายของอี้หลัวให้เข้าสู่อาณาจักรวิญญาณจากนั้นก็จับตัวเขา
แต่ตอนนี้มีผู้คนอยู่รอบๆประตูอาณาจักร หากเขาพุ่งเข้าใส่โดยประมาทมันจะแจ้งเตือนศัตรูอย่างแน่นอน
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะเฝ้าโพลงรอกระต่ายอยู่ที่นี่” สือฮ่าวนั่งลง
เขาเชื่อว่าถ้าอี้หลัวและซูฮุ่ยไม่ได้กลับไปเป็นเวลานานมันจะทำให้คนที่อยู่ข้างบนกังวลใจอย่างแน่นอน พี่ชายของนางหยิ่งยโสมากเขาจะตามลงมาอย่างไม่ลังเล
“อยากจะท้าทายข้ามิหนำซ้ำยังทำร้ายน้องชายของข้าเจ้าบังอาจเกินไปแล้ว เมื่อเจ้าเข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าเจ้าจะได้ตายสมใจ” สือฮ่าวพูดกับตัวเอง
นี่คือข้อสรุปของเขา อีกฝ่ายรู้อย่างชัดเจนว่าความสำเร็จในการต่อสู้ของเขานั้นไม่ธรรมดา
แต่เขาก็ยังคงทำสิ่งนี้อยู่ เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มองเห็นเขาอยู่ในสายตา คนเหล่านี้เพียงแค่ต้องการใช้เขาเพื่อเสริมสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองเท่านั้น
ภายในอาณาจักรวิญญาณในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาอี้ไห่มีชื่อเสียงค่อนข้างสูง ความแข็งแกร่งของเขาสามารถสั่นสะท้านทั้งเก้าสวรรค์สิบพิภพ
เป็นเพราะเขาลงมือไม่กี่ครั้ง เขาไม่เพียงเอาชนะผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์หลายคนที่เคยเข้าร่วมในการต่อสู้ของชายแดนรกร้างเท่านั้นแต่เขายังทำลายสถิติในอาณาจักรวิญญาณอย่างต่อเนื่อง
หากไม่ได้รับคำเตือนจากทูตของอาณาจักรเซียนเขาท้าทายสถิติเหล่านี้ต่อไป เขามีเป้าหมายมากมายที่ต้องการต่อสู้เช่น ราชันย์สิบสมัย ผู้อมตะที่ถูกเนรเทศและคนอื่นที่สร้างชื่อเสียงในชายแดนรกร้าง
อีกทั้งตระกูลอมตะมากมายล้วนมีทายาทผู้แข็งแกร่ง เขาเคยได้ยินมาก่อนว่าเซียนอมตะหวังมีลูกชายคนที่สิบซึ่งตอนนี้ได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว
ตระกูลใหญ่ต่างกังวลว่าอีกฝ่ายอาจกวาดล้างเก้าสวรรค์จนหมดสิ้น ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงทิ้งเมล็ดพันธุ์ที่ทรงพลังที่สุดไว้ข้างหลังโดยมีบุคคลระดับสูงของตระกูลไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่อง
เมื่อภัยพิบัติจากต่างมิติครั้งใหญ่ได้จบลง คนเหล่านี้จึงปรากฏตัวขึ้น
หลังจากได้รับการเตือนจากทูต อี้ไห่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยับยั้งตัวเอง
หลังจากนั้นเขาก็เข้าสู่อาณาจักรวิญญาณเขาได้ทำลายสถิติโบราณอย่างต่อเนื่องความแข็งแกร่งของเขาน่าอัศจรรย์จริงๆ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาไปเยี่ยมนิกายใหญ่ๆมากมายโดยได้รับเชิญไปยังสถานที่เหล่านี้
เขาได้รับมอบสมบัติหายากทุกประเภทโดยคนพวกนี้หวังว่าจะเกาะบารมีของเขาเข้าสู่อาณาจักรเซียน
ท้ายที่สุดเขาเป็นแขกจากอาณาจักรเซียน ตระกูลมากมายล้วนต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์กับเขา
อี้ไห่เคยไปเยี่ยมชมตำหนักเซียนและดื่มร่วมกันที่นั่นพูดคุยอย่างมีความสุขกับผู้เชี่ยวชาญบางคน
ท้ายที่สุดแล้วสถานที่แห่งนั้นก็มีผู้อมตะที่แท้จริงอาศัยอยู่เขาจึงไม่กล้าทำตัวเหิมเกริม
“ช่างน่าเสียดายที่ฮวงถูกผู้อาวุโสคนนั้นจัดการไปแล้ว หากไม่เช่นนั้นแม้ว่าข้าต้องถูกลงโทษข้าก็ต้องทุบตีเขาให้ได้!” อี้ไห่กล่าว
“ความสามารถของพี่อี้นั้นยอดเยี่ยมและไม่สามารถหยุดยั้งได้ ถ้าฮวงยังคงอยู่ที่นี่เขาทำได้เพียงถอนตัวไม่กล้าเผชิญหน้ากับท่าน เขาจะเปรียบเทียบกับอัจฉริยะจากอาณาจักรเซียนได้อย่างไร?”
“ น้องชายของฮวงถูกข้าจัดการไปแล้วเขาจะไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงได้ภายในเวลาครึ่งปี
กระดูกทั้งหมดของเขาถูกหักจนหมดสิ้นพลังศักดิ์สิทธิ์รั่วไหลออกจากร่างกาย นี่คือการลงโทษของสายเลือดพวกเขา” อี้ไห่คำรามด้วยเสียงหัวเราะ
…
คำพูดเหล่านี้เผยแพร่สู่โลกโดยคนรับใช้ของตำหนักเซียน มันกระตุ้นให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่วทุกที่
เห็นได้ชัดว่าสิ่งมีชีวิตอมตะต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อหักหน้าฮวง
แม้ว่าผู้คนอยากไม่ได้พูดอะไรตอบโต้ แต่เรื่องนี้ก็ทำให้ผู้คนมากมายรู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก
ทุกคนรู้ดีว่าฮวงมีส่วนสำคัญในชัยชนะของพวกเขามากแค่ไหน!
แต่ตอนนี้ตำหนักเซียนต้องการที่จะใช้คนของอาณาจักรเซียนมาบดบังรัศมีความสง่างามของเขาที่ทำในชายแดนรกร้าง เรื่องนี้จะทำให้ผู้คนพอใจได้อย่างไร