ตอนที่ 92 ทรัพยากรบ่มเพาะ
ทั้งวังเต๋าอมตะสวรรค์โกลาหลเนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้น ศิษย์หลายคนซุบซินกันถึงเรื่องนี้ และแม้กระทั่งผู้อาวุโสหลายคนก็รู้สึกว่าควรเข้ามาแทรกแซงก่อนเรื่องจะบานปลาย
หลายคนเดาว่าจินโจวต้องไม่ยอมแพ้ และต้องแก้แค้นให้น้องชายเขาแน่ เหนือสิ่งอื่นใด ระหว่างเขากับกู่ฉางเกอก็มีเรื่องบาดหมางกันอยู่แล้ว
สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจคือความจริงที่จินโจวปิดด่านบ่มเพาะทันที และไม่มีข่าวจากฝั่งเขาหลุดมาเลย
ในฐานะศิษย์แท้จริงของวังเต๋าอมตะสวรรค์ ทุกการเคลื่อนไหวของจินโจวย่อมดึงดูดความสนใจของคนนับไม่ถ้วน ความจริงที่เขาเลือกเลี่ยงความขัดแย้งโดยการปิดด่านบ่มเพาะทำให้หลายคนตกใจ!
ในฐานะอัจฉริยะสูงสุด จินโจวได้แพ้กู่ฉางเกออย่างหนักตอนเขามีฐานบ่มเพาะเท่ากับกู่ฉางเกอ คนจึงเดาว่าเขาไม่กล้าสู้กับกู่ฉางเกอที่ในตอนนี้มีฐานบ่มเพาะเหนือกว่า
เรื่องนี้ทำให้เกิดคลื่นหลายลูกในวังเต่าอมตะสวรรค์!
ทั้งหมดคืออัจฉริยะสูงสุด และมาถึงความสูงปัจจุบันหลังบ่มเพาะอย่างหนัก พวกเขาเป็นคนหนุ่มหยิ่งยโสที่จะไม่ยอมก้มหัวง่ายๆ ดังนั้นการกระทำของจินโจวจึงทำให้ทุกคนสับสน แม้กระทั่งกลุ่มผู้ติดตามของเขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ แม้พวกเขาจะมั่นใจในตัวจินโจว การกระทำของจินโจวที่ปฏิเสธคำท้าเช่นนี้ก็ยังทำให้ความคิดหนึ่งผุดในใจพวกเขา
ทำไมเขาถึงเลือกปิดด่านบ่มเพาะเอาตอนนี้?เขากลัวกู่ฉางเกอจริงๆ?
ถ้าเรื่องนี้ไม่พอให้เกิดแผ่นดินไหว งั้นการปรากฏของผู้อาวุโสใหญ่ที่ไม่ปรากฏเป็นเวลานานก็คงทำได้ ไม่เพียงเขาจะปรากฏตัวโดยไม่มีการเตือน แต่เขายังมีเด็กสาวชุดฟ้าข้างตัว
ศิษย์หลายคนจำเด็กสาวชุดฟ้าได้ นางคือเด็กสาวที่เป็นสาเหตุให้กู่ฉางเกอตบจินอวี่จนตายด้านนอกประตูวังเต๋า มีข่าวลือกันว่านางเป็นสมาชิกตระกูลกู่โบราณ มากกว่านั้น มีข่าวลือว่านางคือน้องสาวของกู่ฉางเกอ!
มันแค่ว่าทั้งสองดูเหมือนจะมีความบาดหมางกัน
การปรากฏตัวของผู้อาวุโสใหญ่ทำให้ศิษย์หลายคนสนใจ และยังสงสัยว่าผู้อาวุโสคงตั้งใจรับเด็กสาวชุดฟ้าเป็นศิษย์
ต้องรู้ว่าผู้อาวุโสใหญ่แห่งวังเต๋าอมตะสวรรค์คือคนที่ยืนบนจุดสูงสุดของอาณาจักรเบื้องบน และยังมีฐานบ่มเพาะยากจะหยั่งถึง ศิษยืที่เขารับตอนนี้ล้วนเป็นคนใหญ่คนโต แค่การเหยียบของพวกเขาก็สามารถส่งคลื่นไปได้ทั่วอาณาจักรเบื้องบน!
ถ้าผู้อาวุโสใหญ่ตั้งใจรับเด็กสาวชุดฟ้าเป็นศิษยืจริง งั้นก็ต้องมีศิษย์แท้จริงอีกคนแน่ในวังเต๋า ในแง่ของความอาวุโส แม้กระทั่งตระกูลโบราณหลายคนก็ยังเทียบนางไม่ได้
คลื่นใหญ่อีกลูกถาโถมวังเต๋าหลังเรื่องนี้หลุด ก่อนหน้านี้ ตัวตนของนางถูกผู้บ่มเพาะหลายคนค้นพบ’กู่เซียนเอ๋อร์ อายุ 17 ปี มีพรสวรรค์มากและอยู่อาณาจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์แล้ว’
สำหรับต้นกำเนิดนาง มีน้อยคนที่บอกได้
แต่ทว่า บางคนได้ยินผู้อาวุโสใหญ่ชมว่ากู่เซียนเอ๋อร์เป็นเซียนสูงสุดที่กลับชาติมาเกิด ธิดาแห่งเต๋า และอัจฉริยะไร้ผู้ใดเทียบ
เมื่อคำเหล่านี้หลุด คลื่นอีกลูกก็โถมไปทั่วโลก ต้องรู้ว่าย้อนกลับไปตอนกู่ฉางเกอเข้าร่วมวังเต๋า ผู้อาวุโสใหญ่ก็แทบไม่พูดคำชม
หรือนางจะมีพรสวรรค์มากยิ่งกว่ากู่ฉางเกอ?
คนอื่นที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนก็คือฉู่อู่จื่อ หลายคนเห็นเขาพากลุ่มผู้ติดตามไปเยือนที่พักของผู้อาวุโสใหญ่
[ในเมืองโบราณเต๋าสวรรค์ด้านนอกวังเต๋าอมตะสวรรค์]
กู่ฉางเกอจิบสุราในมือด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้ เขากำลังนั่งอยู่ในโถงโอ่อ่า
ด้านหน้าเขาคือสาวงามโดดเด่นที่มีเสน่ห์หาใครเทียบ ตอนนี้ นางยืนตรงหน้าเขาด้วยใบหน้าเย้ายวน
ดวงตาของนางดูชุ่มชื้น ราวกับสามารถกลืนกินหัวใจคนได้แค่แวบแรก ด้านหลังนาง หางจิ้งจอกสีขาวหิมะกลุ่มหนึ่งขยับขึน้และลง
ถ้ามีคนเห็นนาง พวกเขาจะอุทานด้วยความตกใจที่พบว่านางคือทายาทของตระกูลจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง!
ยิ่งไปกว่านั้น ตัดสินจากจำนวนหางด้านหลังนาง มันชัดเจนว่านางไม่ได้มีสถานะต่ำในตระกูล ตัวตนนางต้องสูงส่ง!
แน่นอน ถ้าศิษย์วังเต๋าเห็นนางที่นี่ พวกเขาจะตกใจกว่า เหนือสิ่งอื่นใด นางไม่ใช่ใครนางจากหยินเม่ย หนึ่งในศิษย์แท้จริงของวังเต๋า
นางเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง
“นายท่าน..”
จากนั้นหยินเม่ยก็เรียกกู่ฉางเกอ ใบหน้าขาวหิมะของนางแต่งแต้มด้วยความกลัวและละอาย หนึ่งในหางจิ้งจอกฟู่ฟองของนางอยู่ในมือของกู่ฉางเกอ และการลูบของเขาก็ทำให้นางแทบทรุด
“นี่คือยารักษาสำหรับปีศาจหัวใจของเจ้า”
กู่ฉางเกอโยนเม็ดยาหน้าตาประหลาดให้นางขณะเล่นกับหางฟู่ฟองของนางในมือ ทันทีที่หยินเม่ยได้ยา นางก็กลืนลงไปโดยไม่ลังเล และถอนหายใจโล่งอก
“ขอบคุณ นายท่าน.
กู่ฉางเกอพยักหน้า และใบหน้าของเขาก็ทำให้นางเดาไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู๋
ตอนนี้ เขากำลังมองผ่านความทรงจำของตัวเขา
หยินเม่ยคือคนที่ลึกลับสุดในบรรดาศิษย์แท้จริงทั้งห้าของวังเต๋า มากจนมีน้อยคนที่จะพบเจอนางในวันปกติ
ไม่กี่ปีก่อน นางเจอกับกู่ฉางเกอในถ้ำใต้ดินระหว่างการสำรวจอาณาจักรลับของวังเต๋าอมตะสวรรค์ โดยบังเอิญ นางเจอกู่ฉางเกอตอนเขาใช้เคล็ดเซียนปีสาจกลืนกินเพื่อกลืนกินต้นกำเนิดของผู้บ่มเพาะกลุ่มหนึ่ง
นางตกใจมาก!
นางไม่คิดเลยว่า ศิษย์แท้จริงที่เจิดจรัสสุดของวังเต๋าจะกลายเป็นผู้สืบทอดวิชามารเช่นนั้น!
ตอนนั้น ทั้งสองคนสู้กัน หยินเม่ยไม่ได้อ่อนแอ และก็มีวิชาช่วยชีวิตมากมาย เว้นแต่เขาจะใช้เคล็ดเซียนปีศาจกลืนกิน กู่ฉางเกอจะไม่มีวันเอาชนะหรือฆ่านางได้
ด้วยเหตุนั้น กู่ฉางเกอจึงใช้ไพ่ตายเขา และนำฐานบ่มเพาะแท้จริงออกมาปราบหยินเม่ย
นางไม่เต็มใจตาย นางจึงยอมแพ้กู่ฉางเกอ เห็นได้ชัดว่ากู่ฉางเกอไม่เชื่อนาง เขาจึงใช้ปีศาจหัวใจควบคู่กับ[ขวดสมบัติเต๋า]มารเพื่อสยบนาง
ปีศาจหัวใจจะโจมตีนางทุกหกเดือน นางจะต้องการยารักษาจากเขาเพื่อข่มมัน ไม่งั้นมันจะกินหัวใจนาง
สำหรับขวดสมบัติเต๋า มันเป็นการปกป้องอีกชั้น
กู่ฉางเกอไม่มีปีศาจหัวใจอีก พวกมันต้องการวัตถุดิบจำนวนมากเพื่อหลอมขึ้น และกระบวนการสร้างก็ซับซ้อนมาก
หลังคิดสักพัก กู่ฉางเกอก็ตัดสินใจให้หลินชิวหานหลอมมันให้เขา แน่นอน เขาต้องเป็นคนที่จะทำส่วนสำคัญสุดของกระบวนการเพราะมันเกี่ยวกับการใช้วิชามาร
"การสะสมเป็นอย่างไรบ้าง?”
สุดท้ายความคิดของกู่ฉางเกอก็กลับมา และถามหลังปล่อยหางในมือ ความรู้สึกของการเล่นกับหางเตือนให้เขานึกถึงตอนเล่นกับแมว
แน่นอน เขาเป็นคนเดียวที่กล้าทำแบบนี้กับคนจากเผ่าจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง ถ้าเป็นคนอื่นมาแตะหางพวกเขา พวกเขาจะต้องโดนตัดมือ!
“เรียนนายท่าน ข้าสะสมอัจฉริยะที่มีกายพิเศษได้เป็นจำนวนมากตลอดครึ่งปี ข้าได้ยินยันแล้วว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเกี่ยวกับตัวตนหรือภูมิหลังพวกเขา ตอนนี้ ทั้งหมดถูกขังในคุกใต้ดิน”
“แถม ข้ายังขุดและขโมยศพโบราณของยอดฝีมือเผ่าต่างๆมาด้วย แก่นพวกเขายังถูกสงวนไว้ มันจะช่วยเหลือนายท่านได้!”
หยินเม่ยตอบหลังได้ยิน และไม่กล้าพูดอะไรอีก นางเข้าใจถึงความน่ากลัวของกู่ฉางเกอดีกว่าใคร นางจึงกลัวเขามากกว่าคนอื่น
ยิ่งไปกว่านั้น นางยังเข้าใจดีว่าเหตุผลเดียวที่กู่ฉางเกอยังเก็บนางไว้ก็เพราะธุรกิจใหญ่โตของเผ่านางที่กระจายไปทั่วอาณาจักรเบื้องบน
ไม่เพียงนางจะช่วยเขารวบรวมข่าวได้ แต่นางยังสามารถช่วยเขารวบรวมทรัพยากรได้
ถูกต้อง พวกมันคือทรัพยากรบ่มเพาะ!
อัจฉริยะทั้งหมดนั้นที่มีร่างกายต่างๆไม่ต่างอะไรจากทรัพยากรให้กู่ฉางเกอใช้เซียนปีศาจกลืนกิน
มีสิ่งมีชีวิตมากมายในอาณาจักรเบื้องบน มันจึงไม่ขาดอัจฉริยะที่มีร่างกายพิเศษ!
หยินเมียมีส่วนช่วยให้ฐานบ่มเพาะของกู่ฉางเกอพัฒนามาถึงจุดนี้ นางถือได้ว่าเป็นคนสนิทสุดของเขา
แต่นางก็ไมได้เป็นของเขาจริงเพราะนางแค่ยอมจำนนด้วยความกลัวตาย
“ทำดีมาก”
กู่ฉางเกอชมนาง จากนั้น เขาก็ลงไปคุกใต้ดินด้านใต้โถงที่พวกเขานั่ง
ด้วยทรัพยากรทั้งหมดที่นางรวมให้เขาตลอดครึ่งปี มันคงใช้เวลาไม่นานก่อนเขาจะทะลวงไปอาณาจักรเทพสวรรค์!
..
[ในส่วนลึกของวังเต๋าอมตะสวรรค์]
ภูเขาโดดเดี่ยวที่สูงนับพันฟุตลอยอยู่ในความว่างเปล่า ดอกไม้เซียนกับอสูรศักดิ์สิทธิ์กระจายอยู่ทั่วภูเขา
ชายชราที่มีใบหน้าใจดีดูเหมือนกำลังตกปลาอยู่บนยอดเขา ดวงตาของเขาแสดงออกอย่างลึกซึ้ง ราวกับสะท้อนถึงสวรรค์
ชายชราผู้นี้คือผู้อาวุโสใหญ่ของวังเต๋าอมตะสวรรค์ ยักษ์ใหญ่โบราณที่ยังมีชีวิต!
ด้านหลังเขาคือเด็กสาวชุดฟ้าที่มองเขาอย่างสับสนและอยากรู้ นางสามารถเห็นเมฆลอยอยู่ใต้พวกนาง และสงสัยว่าผู้อาวุโสใหญ่พยายามจะจับอะไรด้วยสายเบ็ด
“ผู้อาวุโสใหย่ ท่านพยายามจะจับอะไร?”
สุดท้ายกู่เซียนเอ๋อร์ก็ทนไม่ไหวและถาม
ในที่สุดนางก็ได้เข้าร่วมวังเต๋าอมตะสวรรค์และผู้อาวุโสใหญ่ก็ตั้งใจรับนางเป็นศิษย์ มันแค่ว่านางยังต้องทำอะไรบางอย่างก่อน
“ข้าก็กำลังตกปลานะสิ”
ผู้อาวุโสใหญ่ตอบ
กู่เซียนเอ๋อร์อดเม้มปากไม่ได้ นางคุ้นเคยกับคำพูดกำกวมจากเขาแล้ว
“ในเมื่อเจ้ามาที่นี่ เจ้าก็ต้องอยากเอาชนะพี่ชายเจ้าและทวงสิ่งที่เขาเอาไปจากเจ้าคืนใช่ไหม?”
จู่ๆผู้อาวุโสใหญ่ก็ถามขึ้น ดวงตาของเขาดูลึกล้ำกว่าเดิม มันราวกับเขาสามารถมองทะลุผ่านทุกสิ่งได้
“ข้ามีกระดูกใหม่แล้ว ข้าไม่จำเป็นต้องเอาอะไรกลับคืน”
กู่เซียนเอ๋อร์เงียบไปครู่หนึ่งหลังได้ยินคำพูดของเขา“แต่ข้าจะต้องล้างแค้นให้ตัวเอแน่ และทวงความยุติธรรมสำหรับความเจ็บปวดทั้งหมด”
“ดี เจ้าทะเยอทะยานทั้งที่อายุยังน้อย!เจ้าสมควรแล้วที่ได้เป็นศิษย์ของสัตว์ประหลาดเฒ่านั่น”
รอยยิ้มของผู้อาวุโสใหญ่ไม่เปลี่ยน“กู่ฉางเกอชั่วร้ายมาก ข้ารู้สึกได้ถึงลักษณะมารของเขาตั้งแต่วันแรกที่พบ!ข้ามั่นใจว่าเขาอยากใช้กระดูกเต๋าของเขามาปกปิดลักษณะมารของเขา เหนือสิ่งอื่นใด แม้กระทั่งตระกูลกู่ก็ไม่อยากให้มีมารอยู่ท่ามกลางพวกเขา”
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราไม่สามารถให้เขาเป็นผู้สืบทอดวังเต๋าอมตะสวรรค์ได้”
“เซียนเอ๋อร์ ข้าสามารถยอมรับเจ้าเป็นศิษย์ของข้าได้ แต่เจ้าต้องพิสูจน์ก่อนว่าจะเอาชนะกู่ฉางเกอได้”
หมัดของกู่เซียนเอ๋อร์กำแน่น“ผู้อาวุโสใหญ่ ข้าจะพิสูจน์ตัวเองได้ยังไง?”
“ถนนเต๋าสวรรค์!เจ้าแค่ต้องทำลายสถิติของกู่ฉางเกอ เจ้าทำได้หรือไม่?”
ผู้อาวุโสใหญ่ถามด้วยรอยยิ้ม
กู่เซียนเอ๋อร์ผงะ นางรู้ว่าถนนเต๋าสวรรค์ของวังเต๋าหมายถึงอะไร วากันว่าเป็นถนนที่ลึกลับและยากลำบากสุดที่คนสามารถเดินได้ในอาณาจักรเบื้องบน
สำหรับอัจฉริยะที่เข้าร่วมวังเต๋า แค่ก้าวเดียวบนถนนนี้ก็ทำให้พวกเขาดีใจแล้ว มันแสดงถึงพรสวรรค์กับความสูงส่งในอนาคต และการไปได้ไกลบนถนนนี้จะทำให้ชื่อเสียงพวกเขาโด่งดัง
“ข้าทำได้!”
กู่เซียนเอ๋อร์ตอบอย่างแน่วแน่
ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้ม“เจ้ามั่นใจดี!เจ้ารู้ว่ากู่ฉางเกอเหนือกว่าทุกคนในตอนนั้นและสร้างสถิติใหม่ในวังเต๋าอมตะสวรรค์ที่ไม่มีใครในรอบแสนปีจะทำได้”
“โอ้ ติดเบ็ดแล้ว!”
ขณะพูด ผู้อาวุโสใหญ่ก็ดังเบ็ดกลับ เมฆและหมอกด้านหน้าเขาพลุ่งพล่าน และร่างคล้ายมังกรทองที่มีรัศมีพร่างพรายก็พุ่งทะลุเมฆ
“ผู้น้อยขอแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสใหญ่!”
ร่างคล้ายมังกรทองทะยานลงพื้นและเปลี่ยนเป็นคนหนุ่มในชุดเกราะทอง เขาคือฉู่อู่จื่อ ศิษย์แท้จริงของวังเต๋าอมตะสวรรค์