ตอนที่แล้วEp.84 - โครงกระดูกนักเวทย์ถูกทรมาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.86 - ท้าทายเนโครแมนเซอร์

Ep.85 - กวาดล้างรอบนอกวิหาร


2/3

Ep.85 - กวาดล้างรอบนอกวิหาร

จ้าวหมิงกับนายน้อยฉง สองคนร่มมือกันก็สามารถขวางกั้นสุมนของโครงกระดูกนักเวทย์ได้

แต่ยังคงปฏิบัติตามคำแนะนำของฮังอวี่ นั่นคือขวางมันไว้แต่ไม่ต้องฆ่า

เพราะตราบใดที่พวกมันไม่ถูกฆ่า โครงกระดูกนักเวทย์ก็จะไม่สามารถอัญเชิญโครงกระดูกทหารกลุ่มใหม่ออกมาได้

ด้วยเหตุนี้ สถานการณ์รบจึงมั่นคง ช่วยให้ฮังอวี่ไม่ต้องถูกรบกวน มีสมาธิโจมตีโครงกระดูกนักเวทย์ต่อไป

เปิดใช้งานสกิลระเบิดกะโหลก!

โครงกระดูกนักเวทย์ทนไม่ไหว มันเปิดใช้งานสกิลต่อไปทันที

กะโหลกบินปรากฏขึ้นกลางอากาศ อ้าปากโถมเข้ากัดฮังอวี่ จากนั้นระเบิดตัวเอง สร้างดาเมจทางกายภาพ + เวทย์มนต์เป็นสองเท่า ผลาญพลังชีวิตฮังอวี่ไป 6 หน่วยในคราเดียว

ช่างเป็นกระบวนท่าที่ทรงพลัง!

เจียงหนานไม่รอช้า ร่ายสกิลรักษาบาดแผลขั้นต้นทันที  นี่ไม่เพียงช่วยให้บาดแผลของฮังอวี่หายดี แต่ยังฟื้นพลังชีวิตได้มากกว่าที่เสียไปซะอีก ทำให้ฮังอวี่ไม่ต้องกังวลเรื่องพลังชีวิตของเขาเลย

โครงกระดูกนักเวทย์เรียกกะโหลกบินออกมาอีกครั้ง

คราวนี้มันตรงไปหาเจียงหนานที่อยู่ไม่ไกล เจียงหนานเมื่อเห็นก็รีบวิ่งหนีทันที

ระเบิดกะโหลกเป็นสกิลโจมตีระยะไกลที่ทรงพลังและเต็มไปด้วยลูกเล่น

มันสามารถบินออกไปโจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปถึง 50 เมตรได้ และเมื่อล็อคเป้าหมายแล้ว มันจะมีฟังก์ชั่นติดตามตัวอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม แม้สกิลนี้จะทรงพลัง และสามารถไล่ตามเป้าหมาย แต่มันมีจุดอ่อนที่ชัดเจนมากเช่นกัน

นั่นคือความเร็วที่ค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับเวทย์ทั่วๆไป

ดังนั้นฮังอวี่จคงจัดแจงให้ จางเสี่ยวเฉียงคอยแสตนด์บายตลอดเวลา

จางเสี่ยวเฉียงพอเห็นเจียงหนานถูกกะโหลกบินไล่ล่า เขายิงลูกศรอากาศออกไปทันที เป่ากะโหลกบินระเบิดเป็นผงกลางอากาศ

โครงกระดูกนักเวทย์พยายามปล่อยระเบิดกะโหลกบินอีกหลายครั้ง  แต่นอกจากโจมตีโดนฮังอวี่ที่อยู่ในระยะประชิดแล้ว ที่เหลือไม่ว่าจะเป็นเจียงหนาน หวังฉง หรือจ้าวหมิง ทั้งหมดล้วนถูกสกัดไว้ได้โดยลูกศรอากาศ

ระยะเวลาคูลดาวน์ของลูกศรอากาศนั้นไวกว่าระเบิดกะโหลก เห็นได้ชัดว่าโครงกระดูกนักเวทย์ไม่อาจมีชัยเหนือระบบต่อต้านขีปนาวุธของจางเสี่ยวเฉียงได้

สถานการณ์ในตอนนี้ โครงกระดูกทหารถูกพัวพัน ระเบิดกะโหลกถูกสกัดกั้น เพลิงผีเริงระบำไม่อาจสังหาร อาจกล่าวได้ว่าโครงกระดูกนักเวทย์ถูกสะกดอย่างสมบูรณ์ ไม่เหลือทางออกให้มันเลย

และตามปกติแล้ว ค่าพลังชีวิตของสายนักเวทย์นั้นค่อนข้างน้อย บวกกับเรื่องที่มอนสเตอร์ประเภทโครงกระดูกนั้นเปราะบางเลือดน้อย

เมื่อถูกฮังอวี่แทงทวนเข้าใส่มากกว่าสิบครั้ง ในที่สุดมันก็หมดสิ้นเรี่ยวแรงจะต่อต้าน ตั้งแต่หัวจรดเท้าพังทลายกลายเป็นกองกระดูก ดรอปไอเท็มหลายรายการ ปลดปล่อยแต้มวิญญาณจำนวนมากออกมา

โครงกระดูกทหารอีกสามตัวเมื่อสูญเสียการควบคุมก็ล้มลง

เลเวล 4 ชั้นยอดขั้นซิลเวอร์ มอนสเตอร์ที่สมควรเก่งกาจกว่ากูล กลับถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย! มันทำให้ตนอื่นๆในทีมรู้สึกว่าการล่าโครงกระดูกนักเวทย์นั้นสบายยิ่งกว่าล่ากูลซะอีก!

มันง่ายดายจริงๆ!

เหล่าจ้าวรับหน้าที่ตรึงโครงกระดูกทหารหนึ่งตัว  นายน้อยฉงคอยสกัดอีกสองตัว จางเสี่ยวเฉียงรับหน้าที่เล็งกะโหลกบิน เจียงหนานมีหน้าที่เติมเลือด

ส่วนฮังอวี่รับหน้าที่จู่โจมโครงกระดูกนักเวทย์ ด้วยพลังป้องกันเวทย์อันแข็งแกร่งเกินปกติของเขา มากพอที่จะเผชิญหน้ากับมันเพียงลำพัง ใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีก็สามารถกำจัดโครงกระดูกนักเวทย์ลงได้

“เจ๋งไปเลย!”

“นึกไม่ถึงว่าจะง่ายขนาดนี้!”

“ทั้งๆที่มันคือมอนสเตอร์ชั้นยอดขั้นซิลเวอร์แท้ๆ!”

คราวนี้ไม่ต้องพูดถึงหวังฉงที่ยังไม่เคยเห็นโลกกว้าง แต่กระทั่งเหล่าจ้าว เสี่ยวเฉียง และเจียงหนานเองก็ยังรู้สึกตกใจ

โครงกระดูกนักเวทย์คือชนชั้นซิลเวอร์ตนแรกที่พวกเขาเคยเห็น มอนสเตอร์ตัวนี้มีแต้มวิญญาณมากกว่ากูล อัตราการดรอปก็สูงกว่า ครั้งนี้ได้อุปกรณ์มาถึง 4 ชิ้น

[ไม้เท้าโครงกระดูกนักเวทย์] อุปกรณ์เลเวล 4 สีขาวคุณภาพกลาง การโจมตีทางเวทมนตร์+5 สติปัญญา+1 พลังจิต +1 ค่าความทนทาน 15 หนึ่งในชุดเซ็ทโครงกระดูกนักเวทย์ (ต้องใช้หินคริสตัลขาวเจ็ดก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)

[สายรัดข้อมือวอร์ล็อคสภาพเก่า] อุปกรณ์เลเวล 4 สีขาวคุณภาพต่ำ การโจมตีทางเวทมนตร์+1 พลังวิญญาณ+1 ค่าความทนทาน 15 (ต้องใช้หินคริสตัลขาวสี่ก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)

[เสื้อคลุมฝึกหัดของผู้ใช้วิญญาณอันเดธ] อุปกรณ์เลเวล 4 สีเทาคุณภาพสูง พลังป้องกันทางกายภาพ+2 ป้องกันเวทย์+2 พลังจิต+1 ค่าความทนทาน 15(ต้องใช้หินคริสตัลเทาเจ็ดก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)

[เข็มขัดเวทย์มนต์สภาพดีเยี่ยม] อุปกรณ์เลเวล 4 สีเทาคุณภาพสูง พลังป้องกันทางกายภาพ+1 ค่าพลังจิต+2ค่าความทนทาน15 (ต้องใช้หินคริสตัลเทาห้าก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)

อุปกรณ์สีขาว 2 ชิ้น อุปกรณ์สีเทาใสอีก 2 ชิ้น

นอกจากนี้ยังดรอปหินคริสตัลขาวอีก 6 ก้อน

และแต้มวิญญาณของโครงกระดูกนักเวทย์ มีมากกว่ากูลประมาณ 30-40%!

แม้ทั้งคู่จะเป็นมอนสเตอร์ชั้นยอดเหมือนกัน แต่ช่องว่างนี้ไม่น้อยเลย!

อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่โครงกระดูกนักเวทย์ดรอปคืออุปกรณ์ทางฝั่งนักเวทย์และผู้ใช้วิญญาณ

และโครงกระดูกนักเวทย์สามารถดรอปชุดเซ็ทเลเวล 4 อันได้แก่อาวุธ เข็มขัด และสร้อยคอได้อีกด้วย! ซึ่งสามชิ้นนี้เป็นชุดเซ็ทสำหรับนักเวทย์!

อย่างไรก็ตาม เอฟเฟกต์ของชุดเซ็ทนี้อยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น มันยังไม่ดีเท่าชุดเซ็ทต้นไม้ผู้พิทักษ์

แต่หากสามารถสะสมได้ครบ ค่าคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นก็นับว่าไม่เลว ยังถือว่าคุ้มค่า!

นอกเหนือจากไม้เท้าโครงกระดูกนักเวทย์ที่มีค่าที่สุดแล้ว อุปกรณ์ที่ดรอปอีกสามชิ้นก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ของผู้ใช้วิญญาณ มันไม่มีประโยชน์กับฮังอวี่เลย

ที่บอกว่าอุปกรณ์ที่เหลือเหมาะกับผู้ใช้วิญญาณก็เพราะว่า นักรบต้องการอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมพละกำลังและความว่องไว นักบวชต้องการอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมความศักดิ์สิทธิ์และเจตจำนง

นักเวทย์ส่วนใหญ่ต้องการอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมสติปัญญาและพลังจิต ดังนั้นผู้ใช้วิญญาณส่วนใหญ่จึงต้องการอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมพลังวิญญาณและพลังจิต

คุณไม่สามารถคาดหวังว่าอุปกรณ์ที่เหมาะกับคุณต้องดรอปทุกครั้ง ความสมบูรณ์แบบเช่นนั้นมันไม่มีอยู่จริง อ๊า~

แต่อย่างน้อยเจ้าพวกนี้ก็เป็นอุปกรณ์เลเวล 4 ทั้งหมด และตอนนี้อุปกรณ์เลเวล 4 หายากไม่ต่างจากสมบัติล้ำค่า

หวังฉงเกิดความโลภอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ต่อมาเขาเกิดความรู้สึกเศร้าสลด

ทำไมกัน? ทำไมตอนนั้นฉันถึงพูดแบบนั้นออกมา?

ตอนแรกหวังฉงไม่เชื่อฝีมือของทั้งสี่มากขนาดนั้น เขาคิดว่าแม้ทีมนี้จะมีอุปกรณ์สวมใส่ที่ดี แต่อัตราการดรอปอุปกรณ์ในแต่ละการล่าน่าจะต่ำมาก  ดังนั้นไม่นึกฝันเลยว่าตลอดทางพวกเขาจะเก็บเกี่ยวกำไรได้มากขนาดนี้!

เจ้าตัวได้แต่เหม่อมองอุปกรณ์ดีๆชิ้นแล้วชิ้นเล่าดรอปลง โดยไม่มีสิทธิ์ได้รับใดๆ เป็นเรื่องน่าเศร้านัก

ทว่าจนถึงตอนนี้ มันพึ่งเริ่มต้นเท่านั้น

วิหารเนโครแมนเซอร์มีขนาดกว้างใหญ่มาก!

ยังเหลือเวลาอีก 6 ชั่วโมง ดังนั้นเป็นเรื่องยากที่จะคำนวณว่าเมื่อสิ้นสุดการเดินทาง จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ถึงขนาดไหน

“สายรัดข้อมือวอร์ล็อคสภาพเก่านั่นเป็นอุปกรณ์ของผู้ใช้วิญญาณใช่รึเปล่า?” หวังฉงพยายามถาม “ถ้าฉันต้องการใช้เงินซื้อมัน พวกเราพอจะตกลงกันได้ไหม?”

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดถึงมัน พวกเรายังมีงานหนักรออยู่!”

ฮังอวี่ไม่ไว้หน้าหวังฉงเลย

แต่อย่างน้อย จากประโยคเมื่อครู่ แสดงว่าเขายังไม่ปฏิเสธถูกไหม?

มันทำให้หวังฉงตระหนักถึงโอกาส แม้จะน้อยนิดก็ตาม!

ดังคำกล่าวที่ว่าอยู่ใกล้น้ำย่อมได้เห็นเงาจันทร์!

หวังฉงไม่มีสิทธิ์ในอุปกรณ์ที่ดรอปก็จริง แต่ยังไงซะเขาก็ยังถือเป็นสมาชิกของทีมนี้  ดังนั้นสามารถจองและขอซื้ออุปกรณ์ล่วงหน้าได้ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวก็สร้างข้อได้เปรียบมหาศาลแก่เขาแล้ว!

คนอื่นๆไม่เสียเวลา พวกเขาเริ่มสำรวจรอบนอกข้างในวิหารต่อไป

ในวิหารเนโครแมนเซอร์มีโครงกระดูกนักเวทย์อยู่เป็นจำนวนมาก มอนสเตอร์ชั้นยอดที่นี่มีจำนวนมากกว่าในแดนฝังกระดูก , ป่าแห่งความเที่ยงธรรม และซากปรักหักพังหน้าวิหารเสียอีก

แม้เป้าหมายหลักของฮังอวี่คือการฆ่าเนโครแมนเซอร์ แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องเก็บกวาดสิ่งชั่วร้ายในวิหารเสียก่อน

ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกธรรมดา  หรือโครงกระดูกนักเวทย์ ไม่ควรปล่อยไว้ซักตัว มิฉะนั้นอาจไม่สามารถเอาชนะเนโครแมนเซอร์ได้

เพราะเมื่อเนโครแมนเซอร์ตื่นจากการหลับใหล พวกอันเดธที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงจะถูกเรียกมารวมตัวกัน

หากคุณไม่ฆ่าโครงกระดูกนักเวทย์และมอนสเตอร์โครงกระดูกทั้งหมด และเลือกตรงไปยังใจกลางวิหารทันที ต่อให้มีเก้าชีวิตมันก็ไม่พอ

เพราะยังไงซะ แค่เนโครแมนเซอร์ตัวเดียวก็ตึงมือแล้ว!

...

ทั้งห้าไม่ได้หยุดพัก ตั้งแต่เที่ยงวันยันบ่ายแก่ๆ รวมๆแล้วพวกเขาฆ่ามอนสเตอร์ธรรมดาไปมากกว่า 50 ตัว และโครงกระดูกนักเวทย์อีก 8 ตัว

สินสงครามที่ได้รับ มันทำให้เจียงหนานและจางเสี่ยวเฉียงตื่นเต้นมาก พวกเขาเชื่อว่าหากล้มตัวลงนอน คงยิ้มไม่หุบทั้งคืน

ตรงกันข้ามกับหวังฉงที่คงนอนไม่หลับ นั่งน้ำตาริน เพราะเขาไม่ได้ส่วนแบ่ง ยิ่งเห็นอุปกรณ์ดรอปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งปวดใจมากขึ้นเท่านั้น

แม้แต่จ้าวหมิงผู้รอบรู้และมากไปด้วยประสบการณ์ก็ยังพลอยตื่นเต้นไปด้วย

อุปกรณ์ ไอเท็ม และหินคริสตัล เจ้าพวกนี้ล้วเนป็นทรัพยากรล้ำค่า

ไม่ว่าจะใช้แลกเปลี่ยนเป็นของมีค่า , กระแสเงินสด หรือพัฒนาทีม จะอย่างไหนก็เป็นประโยชน์ทั้งนั้น!

เมื่อเริ่มตกเย็น ภายในและภายนอกวิหาร เงียบสงัดราวกับทุกสิ่งได้ตายไปแล้ว

เจียงหนานเริ่มกังวลเล็กน้อย “พี่มหาเทพ ใกล้มืดแล้ว ถ้าพวกเรายังอยู่ที่นี่ต่อ อาจเลยเวลากลับค่าย ได้ยินว่าตอนกลางคืนมันอันตรายมากไม่ใช่เหรอ?”

ในค่ายเป็นพื้นที่ปลอดภัย โดยทั่วไปแล้วจะไม่ถูกมอนสเตอร์โจมตี

ทว่าหากเป็นกลางป่า อันตรายจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ย่อมได้!

โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณนี้ เมื่อตกดึกเกรงว่าคงมีพวกอันเดธเดินกันให้ว่อน

“ไม่จำเป็น ฉันวางแนเอาไว้หมดแล้ว”

“งั้นตอนนี้พวกเราควรทำไงต่อ? ดูเหมือนจะไม่มีมอนสเตอร์อยู่แถวๆนี้อีกแล้ว”

“อืม ในเมื่อเคลียร์พื้นที่รอบนอกของวิหารเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาตรงไปยังห้องโถงหลัก”

จางเสี่ยวเฉียงเริ่มรู้สึกประหม่า แต่ขณะเดียวกันก็ตื่นเต้น “พวกเราจะได้สู้กับ BOOS แล้วใช่ไหมลูกพี่?”

“ถูกต้อง พวกเราพยายามกันมากขนาดนี้ ถึงเวลาต้องสู้แล้ว” ฮังอวี่พยักหน้า “เพราะนั่นคือเป้าหมายหลักในการเดินทางของพวกเรา!”