675 - ปราชญ์โบราณ
675 - ปราชญ์โบราณ
นี่เป็นฉากที่น่าสยดสยอง ยอดฝีมือของแดนศักสิทธิ์คฤหาสน์ม่วงไม่รู้ว่าพวกเขาบินออกไปกี่ลี้แล้ว พวกเขากลายเป็นจุดสีดำและหายไปที่ปลายท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ แต่มือใหญ่ของชายชราผู้บ้าคลั่งก็ยังไล่ตามพวกเขามาอย่างรวดเร็ว
มือนี้ใหญ่เกินไปจริงๆ มันทอดยาวออกไปหลายร้อยลี้ เปลี่ยนให้ท้องฟ้าทั้งหมดกลายเป็นมืดมนราวกับเป็นเวลากลางคืน
“อา!”
เต้าเหิงที่อยู่ห่างไกลตะโกนด้วยความกลัว ภูเขาและแม่น้ำสั่นสะเทือนก่อนที่พวกมันจะพังทลายอย่างรวดเร็ว
“ปัง!”
การดิ้นรนของเขาไร้ประโยชน์ มือใหญ่ของชายชราผู้บ้าคลั่งคว้าเขาไว้ และพลังอันยิ่งใหญ่ในระดับครึ่งเซียนของเขาก็เป็นเพียงการละเล่นของเด็กๆเมื่ออยู่ต่อหน้าชายชราผู้บ้าคลั่ง
"ปู้!"
หมอกเลือดสาดกระจายไปทั่วท้องฟ้า เต้าเหิงผู้อาวุโสใหญ่แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงถูกทำลายทั้งร่างกายและวิญญาณโดยไม่มีโอกาสดิ้นรนแม้แต่น้อย
ชายชราผู้บ้าคลั่งปล่อยมือและดีดนิ้วออกไปห้าครั้งเปลี่ยนให้ยอดฝีมือระดับผู้สูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงกลายเป็นหมอกเลือดที่กระจายอยู่ทั่วท้องฟ้า
ทุกคนตกตะลึง นั่นเป็นถึงครึ่งเซียนและยอดฝีมือระดับผู้สูงสุดเกือบสิบคน แต่พวกเขากลับถูกฆ่าตายง่ายๆแบบนี้
“โอ้สวรรค์ เขายังเป็นผู้บ่มเพาะชาวมนุษย์จริงหรือ คงไม่ใช่ว่านี่คือสิ่งมีชีวิตอมตะหรอกนะ?”
“ถูกต้องแล้ว หากไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอมตะเขาจะบดขยี้ครึ่งเซียนง่ายๆได้อย่างไร!”
“นี่ไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน จะมีคนที่ทรงพลังอย่างนี้ในโลกนี้ได้อย่างไร!”
ไม่มีใครไม่ตกใจ ทุกคนแทบสั่นสะท้าน ความแข็งแกร่งของ ชายชราผู้บ้าคลั่งเกินขอบเขตที่พวกเขาจินตนาการไปไกลแล้ว
“ปราชญ์โบราณมีคำว่า 'โบราณ' อยู่ในฉายานั้นซึ่งหมายความว่าพวกเขาคือสิ่งมีชีวิตจากยุคโบราณ และสิ่งมีชีวิตจากยุคโบราณจะมีชีวิตมาถึงปัจจุบันได้อย่างไร!”
“เขาเป็นผู้อมตะที่ยังมีชีวิตอยู่?”
“แม้พวกเราจะไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตอมตะจริงๆ แต่ข้าคิดว่าผู้อาวุโสคนนี้จะต้องใช่อย่างแน่นอน?”
ผู้คนตกใจและยากที่จะเดาขอบเขตการบ่มเพาะของชายชราผู้บ้าคลั่งได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเดาว่าชายชราคนนี้เป็นปราชญ์โบราณ
เพราะในความเป็นจริงพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปราชญ์โบราณเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะจริงๆหรือไม่?
อันที่จริงสิ่งมีชีวิตระดับผู้อมตะไม่เคยปรากฏตัวในโลกนี้มาหลายหมื่นปีแล้ว แต่ในเมื่อชายชราคนนี้สามารถสังหารครึ่งเซียนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์หยกได้อย่างง่ายดายผู้คนจึงได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว
ในขณะนี้จักรพรรดิดำส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ย เท้าของมันกวาดไปทั่วอากาศและเก็บเอาของวิเศษล้ำค่าจากซากศพเหล่านั้นโดยไม่มีผู้ใดขัดขวาง
ขณะที่หลี่เหอซุยยังคงเต็มไปด้วยความตกใจ สุดท้ายเขาก็หัวเราะแห้งๆ เมื่อยืนอยู่กับเทพคนนี้ ยังจะมีผู้ใดสามารถรังแกพวกเขาได้อีก
“ท่านลุง…”
ดวงตากลมโตของเสี่ยวหนานหนานราวกับอัญมณีสีดำ นางกระพริบตาด้วยความกลัว แม้ว่านางจะเป็นเด็กแต่นางก็รู้ว่าชายชราคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน
ในเวลานี้ชายชราผู้บ้าคลั่งไม่พูดอะไรเลย ร่างกายของเขาสูงใหญ่กว่าคนปกติทั่วไปมาก และมันทำให้เขาดูองอาจกล้าหาญอย่างถึงที่สุด
อีกด้านหนึ่งลำไส้ของบุตรศักดิ์สิทธิ์หยินหยางเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ ชายแปลกหน้าที่อยู่ไม่ไกลแข็งแกร่งจนเขาหวาดกลัว ทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ
หากรู้ตั้งแต่แรกเขาคงไม่มารนหาที่ตายที่นี่ด้วยตัวเอง ในเวลานี้ เขาและเย่ฟ่านต่อสู้กันมาแล้วห้าร้อยกระบวนท่า และระยะหลังเขาทำได้เพียงตั้งรับอยู่ฝ่ายเดียว
ต้องบอกว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์หยินหยางนั้นทรงพลังไม่น้อย ในบรรดาคนรุ่นใหม่หากมีใครสามารถต่อสู้กับเย่ฟ่านได้นานขนาดนี้โดยไม่พ่ายแพ้ พวกเขาสมควรได้รับการยกย่องจริงๆ
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ปัจจุบันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถเอาชนะเย่ฟ่านได้อย่างแน่นอน และทันทีที่พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาหมดลงความตายก็จะมาถึงเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เฉียง!”
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ในมือของบุตรศักดิ์สิทธิ์หยินหยางเรืองรองด้วยแสงสีขาวดำ ซึ่งการปลดปล่อยพลังของมันดูเหมือนจะทำให้การเวลาเดินรอบหยุดนิ่งซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก
และทุกครั้งที่กระบี่โจมตีเข้ามาไม่เพียงแต่ความว่างเปล่าจะถูกแยกออก แต่ความเคลื่อนไหวของเย่ฟ่านก็หยุดชะงักบ่อยครั้ง หากไม่ใช่ว่าเขามีร่างกายที่แข็งแกร่งราวกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ เขาคงถูกเฉือนออกเป็นสองท่อนไปแล้ว
แม้ว่ากระบี่หยินหยางนี้เป็นเพียงอาวุธระดับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ แต่วัตถุที่ใช้สร้างก็เป็นสมบัติแห่งสวรรค์และกลายเป็นอาวุธประจำตัวที่ดีที่สุดสำหรับบุคคลระดับบุตรศักดิ์สิทธิ์
“ตาย!”
กระบี่สีดำปลดปล่อยแสงสีดำสาดกระจายไปทั่วท้องฟ้า พลังของมันเกือบจะกักขังเย่ฟ่านไว้อย่างแนบสนิท และนี่คือพลังในการควบคุมมิติและกาลเวลาของหยินหยาง
“เจิ้ง!”
หลังจากนั้น แสงกระบี่สีขาวก็พุ่งออกมา สั่นไหวราวกับระลอกคลื่น และพื้นที่สีขาวกว้างใหญ่ไพศาลก็ทำให้กาลเวลาโดยรอบถูกหยุดยั้งลงไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวได้
ในความเป็นจริงเวลาไม่ได้หยุดนิ่งแต่กฎแห่งเต๋าที่แปลกประหลาดของแผนภูมิหยินหยางนี้ทำให้ผู้คนเกิดภาพลวงตาอยากที่จะไม่ตกลงสู่อุบายอันน่ากลัว
หากเย่ฟ่านไม่ได้ฝึกฝนดวงตาศักดิ์สิทธิ์มันก็มีโอกาสสูงที่เขาจะพ่ายแพ้ไปแล้ว แต่ในเมื่อเขามีดวงตาศักดิ์สิทธิ์อยู่กับตัวแน่นอนว่าผลแพ้ชนะก็ถูกกำหนดแต่แรกแล้วเช่นกัน
“แดง!”
หมัดทองคำของเย่ฟ่านทะลวงผ่านช่องว่างและกระแทกกระบี่หยินหยางอย่างแรง แขนของบุตรศักดิ์สิทธิ์หยินหยางสั่นสะเทือนและได้รับความเจ็บปวดจนแทบจะไม่สามารถประคองกระบี่ไว้ได้
เขาไม่กล้าต่อสู้กับร่างกายของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณในระยะประชิด ในบรรดายอดฝีมือรุ่นเยาว์ทั้งหมดไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะเย่ฟ่านในการต่อสู้ด้วยความแข็งแกร่งทางร่างกายได้
"ปัง"
บุตรศักดิ์สิทธิ์หยินหยางนั้นเร็วมาก เท้าของเขาเหยียบย่ำลงไปบนแผนภูมิหยินหยางก่อนจะเปลี่ยนร่างกายเป็นกระแสงและหลบหนีออกจากที่นี่ทันที
แต่ต่อให้เขามีความเร็วเพิ่มกว่านี้หลายเท่ามันก็ไม่มีทางหลบหนีจากท่าเท้าที่เย่ฟ่านได้รับการฝึกฝนมาจากชายชราผู้บ้าคลั่ง
“ถ้าเจ้านำกระจกหยินหยางมาด้วย ข้าคงไม่มีความหวังเลย แต่น่าเสียดายที่เจ้านำมาแค่กระบี่หยินหยาง มันเป็นเพียงเศษขยะที่ไม่สามารถทำอันตรายต่อข้าได้” เย่ฟ่านเยาะเย้ย
กระจกหยินหยางเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยโบราณ และเป็นสมบัติลับระดับสุดยอดแม้จะไม่เทียบเท่าอาวุธเต๋าสุดขั้ว แต่ก็เพียงพอที่จะกวาดไปทั้งแผ่นดิน
“ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณที่เป็นคนพิการเช่นเจ้า วันนี้จงเตรียมตัวตายซะ!”
บุตรศักดิ์สิทธิ์หยินหยางหันกลับมาด้วยความสงบ เมื่อเย่ฟ่านไล่ตามมาทันเขาก็รู้แล้วว่าไม่มีทางที่เขาจะหนีไปได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสู้ตาย
“เฉียง!”
กระบี่หยินหยางส่องแสงวาบ พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าและห้อยอยู่เหนือศีรษะของบุตรศักดิ์สิทธิ์หยินหยาง พลังปราณอันแข็งแกร่งถูกปลดปล่อยออกมาครอบคลุมร่างกายของเขาทั้งหมด
“เต๋าในโลกนี้ไม่มีอะไรจะแข็งแกร่งกว่าหยินหยาง ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะสังหารข้าอย่างไร!”
บุตรศักดิ์สิทธิ์หยินหยางตะโกนสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเองและเขย่าเจตจำนงของคู่ต่อสู้
เย่ฟ่านไม่ได้มีความกังวลอะไรเลย เขาจ้องมองไปที่แผนภูมิหยินหยางด้วยหัวใจที่ว่างเปล่าก่อนจะขยับมือเบาๆและทำให้แผนภูมิเต๋าของเขาบดขยี้แผนภูมิหยินหยางของฝ่ายตรงข้ามในทันที
“แปรง!”
เย่ฟ่านขยับมืออย่างเฉียบขาดและแผนภูมิเต๋าของเขาก็กลายเป็นหลุมดำขนาดมหึมาที่ดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปภายใน
"เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้!"
บุตรศักดิ์สิทธิ์หยินหยางคำรามเสียงดังพร้อมกับประสานอินเพื่อควบคุมแผนภูมิหยินหยางที่กำลังพังทลาย "หยินหยางเป็นอมตะในโลก!"
ในอดีตปราชญ์แห่งนิกายหยินหยางเคยใช้ทักษะศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้และสถาปนาสถานะของนิกายหยินหยางให้กลายเป็นหนึ่งในมหาอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดของภาคกลาง
หากเขาไม่ถูกฆ่าตายในดินแดนรกร้างตะวันออกไปก่อน เกรงว่านิกายหยินหยางคงกลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว
เย่ฟ่านไม่ได้แสดงความเกรงกลัวใดๆ มือซ้ายของเขาเคลื่อนไหวอย่างงดงามและปล่อยให้แผนภูมิเต๋าดูดกลืนพลังของฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง
ไม่ว่าอย่างไรพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็เหนือกว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์หยินหยางอยู่แล้ว หากยื้อกันไปเรื่อยๆแบบนี้ผลสุดท้ายจะจบลงเช่นใดก็เป็นสิ่งที่สามารถคำนวณได้