บทที่ 44 ลมปราณ
บทที่ 44 ลมปราณ
การกลั่นยาเป็นกระบวนการเปลี่ยนส่วนผสมทั้งหมดให้กลายเป็นยาเม็ด ปัจจุบันนักกลั่นโอสถจำนวนมาก ล้วนหมกมุ่นอยู่กับการใช้เทคนิคการกลั่นยาที่มีต้องใช้คุณสมบัติบางอย่าง
พลังปราณแห่งชีวิต และส่วนผสมของสมุนไพร ปะทะกับปราณของแห่งไฟในเตาหลอม ทำให้ธาตุทั้งห้าไม่สมดุล ส่งผลให้เกิดการระเบิด สำหรับคาถาห้าธาตุที่ดับสูญ มันสามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อมีธาตุไฟมากเกินไป มันจะเสริมด้วยธาตุน้ำที่ไหลไปในทุกทิศทุกทาง และพยายามปรับสมดุลในระหว่างการกลั่นยา
เย่สวี่นั้นมีความเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการกลั่นยาอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการใช้พลังเต๋าเพลิงสวรรค์ของเขาสะดวกมากขึ้น
"ในที่สุดขั้นตอนนี้ก็มาถึง" เย่สวี่อมยิ้มเล็กน้อย และผสมกากยาที่เขาจงใจระเบิดยาไปก่อนหน้านี้ ลงในส่วนผสมในของเหลวสีม่วงที่เขากลั่นอีกครั้ง
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เย่สวี่อยากจะขอบคุณผู้อาวุโสใหญ่จริงๆ คาถาห้าธาตุไม่ดับสูญนั้น ไม่ได้นั้นเสถียรเกินไป และมันไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะระเบิดยาในเตาหลอม หากไม่ใช่เพราะเสียงตะโกนที่ตามมาด้วยพลังลมปราณของผู้อาวุโสใหญ่
บางทียาของเขา อาจจะล้มเหลวจริงๆ ยาหมอกม่วงนี้ จำเป็นต้องกลั่นใหม่อีกครั้ง และใช้กากยาของยาเม็ดหมอกม่วงเป็นส่วนประกอบหลักในยาหมอกม่วง
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเย่หยางเหยาไม่สามารถกลั่นยาหมอกม่วงได้สำเร็จ นี่เป็นเพราะสิ่งที่เขากลั่นนั้น ขาดกากยาที่เป็นตัวยาหลักในการกลั่นขึ้นใหม่อีกครั้ง
ยาหมอกสีม่วงที่แท้จริงนั้น ต้องการกากยาที่เป็นส่วนผสมหลัก ยิ่งกว่านั้น ยาหมอกม่วงที่ถูกผสมด้วยกากยานั้น ใช้เวลาเพียงหนึ่งในสามในการกลั่นให้สำเร็จได้
เมื่อว่านหยางหยูเห็นการกระทำของเย่สวี่ ก็ทำให้เขาเยาะเย้ยอยู่นาน
จื่อฟู่ที่อยู่ข้างๆ ว่านหยางหยูก็เยาะเย้ยและพูดว่า "ศิษย์พี่อาวุโส เด็กคนนี้ยอมแพ้แล้วแน่ ๆ ข้าไม่เคยได้ยินว่าการกลั่นยา จะต้องใช้กากยาเลย นี่เป็นเพียงวิธีการของคนนอกรีต"
“เขาอาจจะหวังว่าเขาจะประสบความสำเร็จด้วยการทำเช่นนี้ ชายคนนี้ถึงกับโห่ร้องเพื่อแข่งขันกับศิษย์น้องเย่ สำหรับยาที่เขากลั่นออกมาจะเทียบกับศิษย์น้องเย่ได้อย่างไร”
น้ำเสียงของว่านหยางหยูนั้นเย่อหยิ่ง และแสดงออกว่ามองไม่เห็นเย่สวี่ในสายตาของเขาเลย จากมุมมองของว่านหยางหยู การกระทำของเย่สวี่นั้นไร้ความหมาย เขาเพียงอยากจะต้องการความบังเอิญที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ
เมื่อผู้อาวุโสใหญ่ได้ยินสิ่งที่ว่านหยางหยูและจื่อฟู่พูด หัวใจของเขาก็สงบลง ก่อนหน้านั้น ผู้อาวุโสใหญ่เห็นว่าเย่สวี่เต็มไปด้วยความมั่นใจ หัวใจเขาก็ตื่นตระหนก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญทั้งสองของสำนักเปลวไฟสีน้ำเงินกล่าวเช่นนั้น เย่สวี่จะไม่สามารถปรุงยาได้อย่างแน่นอน
ต่อจากนี้ไป ตระกูลเย่จะเป็นของเย่เฉินเพียงผู้เดียว ทั้งเย่ไห่และผู้อาวุโสสูงสุด จะไม่ถือว่าเป็นตัวอะไรในสายตาของเขาแน่นอน!
ผู้อาวุโสใหญ่มองที่เย่หยางเหยาอย่างเย็นชา เขาไม่ชอบชายชราคนนี้มานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงร้องถามทันทีว่า "เย่หยางเหยา...บุตรชายของข้า จะเป็นผู้นำในอนาคต เจ้าควรมอบตราวายุกระจ่างออกมาเดี๋ยวนี้!"
เย่หยางเหยาตกใจมากว่า เย่เฉินรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเย่หยางเหยายังคงเรียบเฉยและเขาพูดว่า “ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงอะไร และการแข่งขันยังไม่สิ้นสุด บุตรชายของเจ้ายังไม่ได้เป็นผู้นำตระกูล”
ผู้อาวุโสใหญ่เยาะเย้ยขึ้นว่า “ผลได้รับการตัดสินแล้ว เจ้าไม่ได้ยินที่คนของสำนักเปลวไฟสีน้ำเงินพูดหรือ? เย่สวี่เป็นคนธรรมดาและเขากำลังพยายามหลอกเรา!”
“สำหรับตราวายุกระจ่าง..ข้าไม่คิดว่าจะมีใครรู้ดีไปกว่าเจ้า ว่ามันทำงานอย่างไร ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเย่ ..เจ้าจะต้องตายไม่ช้าก็เร็ว บางทีเจ้าอาจทิ้งสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับคนรุ่นหลังไว้ มิฉะนั้น อย่าตำหนิที่ข้าไม่เกรงใจก็แล้วกัน!”
ผู้เฒ่าอาวุโสใหญ่จ้องมองที่ เย่หยางเหยา ราวกับเสือมองเหยื่อของตนเอง แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่หยางเหยา แต่ทว่าเขารู้จักนิสัยของเย่หยางเหยาเป็นอย่างดี เย่หยางเหยาให้ความสำคัญกับอนาคตของตระกูลเย่เป็นอย่างมาก
เขาไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งภายในอย่างแน่นอน และเขาจะยอมแพ้อย่างแน่นอน
“ถูกต้อง ผู้อาวุโสสูงสุดฟังผู้อาวุโสใหญ่เถอะ มอบตราวายุกระจ่างออกมา!” ดวงตาของผู้อาวุโสสี่เป็นประกาย ในฐานะลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของผู้อาวุโสใหญ่ เขาเป็นคนแรกที่เอ่ยปากพูด
“ถูกต้อง ส่งมันมา!” ทันทีที่มีคนแรกเอ่ยขึ้นมาเป็นคนแรก จากนั้นก็มีคนที่สองร้องออกมาตาม ๆ กัน คนพวกนั้นล้วนเป็นผู้อาวุโสใต้อาณัติของผู้อาวุโสใหญ่ หรือคนที่อยู่ในความดูแลของตระกูลเย่ ต่างรวมตัวกันข่มขู่เย่หยางเหยาด้วยกัน
เย่หยางเหยายืนอยู่คนเดียวในห้องโถงกลั่นยา ราวกับต้นหญ้าที่กำลังจะปลิวตกลงมาจากหน้าผา
ทันใดนั้น อากาศก็อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจาง ๆ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากกลิ่นหอมอันเข้มข้นของยาเม็ดสายฟ้าอัคคี กลิ่นหอมนี้ช้าเหมือนกล้วยไม้ป่า เมื่อสูดดมเข้าไปเบา ๆ ใคร ๆ ก็รู้สึกสดชื่น
แววตาของเย่หยางเหยานั้นตกตะลึงอย่างมาก จากนั้นรอยยิ้มที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่งก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เย่หยางเหยาหันกลับมามองผู้อาวุโสใหญ่และกลุ่มคนที่ติดตามผู้อาวุโสใหญ่
จากนั้นใบหน้าของเขาก็เย็นชาขึ้นมาทันใด
“เจ้าแน่ใจจริงๆเหรอว่า บุตรชายของเจ้า ...เย่เฉียงจะชนะ”
"จะมีใครไปได้อีก?" ก่อนที่ผู้อาวุโสใหญ่จะพูดจบ กลิ่นหอมจาง ๆ ก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และเอ่อล้นเต็มห้องโถงกลั่นโอสถ
ส่งผลให้ท้องฟ้าเคลื่อนไหว เมฆขาวและดำกวาดไปทั่วทุกทิศ ราวกับแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว และแม้แต่ดวงอาทิตย์ก็ยังถูกเมฆบดบัง สายฟ้าร้องและฟ้าผ่าสลับปะปนกัน และเกลียวคลื่นที่ซัดสาดความมืดมิดในตอนกลางวัน
ในเวลานี้ลมแรงพัดจน สมุนไพรและถ้วยชาในห้องกลั่นโอสถถูกลมพัดผลิวไปไกล ทุกคนแทบลืมตาไม่ขึ้นเนื่องจากลมแรงนี้
ในแสงนัยนาของพวกเขา มองเห็นชายเสื้อคลุมสีดำของเย่สวี่กระพือปีกในสายลม เขายืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว หม้อยาสีเขียวลอยอยู่ข้างหน้าเขา ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ มาจากภายในนั้น
"สำเร็จแล้ว!" ตามเสียงตะโกนของเย่สวี่ สัญลักษณ์ห้าธาตุก็ส่องประกายด้วยแสงเจิดจ้า หม้อยาสีเขียวสั่นสะเทือน และยาเม็ดสีม่วงก็ลอยขึ้นไปในอากาศ ส่องประกายแสงสีม่วงพุ่งเข้าใส่ก้อนเมฆ และไล่ลมและเมฆดำออกไป
จากนั้น สภาวะที่ผิดปกติก็คลี่คลายทันที ฝูงชนจ้องไปที่เย่สวี่อย่างว่างเปล่า และผู้คนนับไม่ถ้วนก็อ้าปากค้าง ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอย่างไม่น่าเชื่อ
“มันเป็นไปได้อย่างไร” เย่เฉียงร้องตะโกนและตกลงจากที่นั่งของเขา ท่าทางของเขาไม่สงบเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เขามองที่เย่สวี่ด้วยความตกใจ
ฉากนี้เป็นฉากที่อาจารย์ของเขาเคยกล่าวถึงมาก่อน มันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการกลั่นยาระดับตำนานที่ประสบความสำเร็จ
การกลั่นยาเช่นนี้ ล้วนอยู่ในความรู้ของผู้เริ่ม เป็นนักกลั่นโอสถ นอกจากนี้ ไม่มีใครสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ เว้นแต่จะเป็นปรมาจารย์การกลั่นยาระดับสอง! เย่สวี่เป็นปรมาจารย์ด้านการกลั่นยาระดับสองจริง ๆ!
“เขาทำสำเร็จจริงๆ!” ว่านหยางหยูพึมพำ เขาใช้กากยาเพื่อกลั่นเม็ดยาจริง ๆ และปรากฏการณ์สวรรค์และโลกก็ปรากฏขึ้นอย่างที่เราเคยได้ยิน! ในความเห็นของเขา เรื่องนี้ไม่มีเหตุผลเลย!
ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดว่าเย่สวี่เป็นเพียงคนธรรมดา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขากำลังมีปัญหากับคำพูดของตนเอง
การแสดงออกของจื่อฟู่นั้นน่าอึดอัดใจมาก สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ช่างน่าตกใจราวกับความฝัน
ในความเงียบอันน่าสยดสยองนี้ เย่สวี่ซึ่งยืนอยู่หน้าหม้อยาสีเขียว และถือยาเม็ดสีม่วงไว้ในมือและมองดูก้านธูปด้วยความรู้สึกขอบคุณ
“โชคดีที่ข้ากลั่นมันได้สำเร็จก่อนที่ธูปจะดับ” น้ำเสียงของเขาสดชื่นราวกับสายลม แต่ทำให้ทุกคนพูดไม่ออก
ปรากฏการณ์ของสวรรค์และโลกได้ปรากฏขึ้นแล้ว ทำไมเขาถึงยังสนใจเรื่องเวลาการกลั่นอยู่อีก?
เย่เฉียนเฉียนถึงกับกลอกตา ก่อนหน้านี้ เย่สวี่ทำให้นางกังวลใจ แต่เมื่อเขาทำสำเร็จแล้ว เขากลับพูดแบบนี้อย่างสบายอกสบายใจ มันน่าหงุดหงิดจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม เย่สวี่เป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ ทักษะการกลั่นยาของเขาก็เป็นเลิศเช่นกัน ดูเหมือนเย่สวี่จะผิดปกติ เกินกว่าคนธรรมดาทั่วไปจริงๆ
เย่สวี่เดินไปที่เย่หยางเหยาและพูดอย่างนอบน้อมว่า "ผู้อาวุโสสูงสุด โปรดพิจารณา"
“ข้าไม่จำเป็นต้อง ตรวจดูอีกต่อไป” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่หยางเหยา“อันที่จริง เม็ดยาหมอกม่วงนี้ เป็นเม็ดยาเกรด 2 ระดับต่ำ ตราบใดที่เจ้ากลั่นได้สำเร็จ เจ้าก็ชนะแล้ว”
ไม่ต้องพูดถึงปรากฏการณ์ของสวรรค์และโลก เย่หยางเหยาเก็บคำเหล่านี้ไว้ในใจ แต่เขาไม่ได้พูดออกมาดังๆ เขาหันกลับมามองผู้อาวุโสใหญ่ ผู้ที่มีใบหน้าซีดเผือดและพูดว่า "เจ้าบอกว่า..เจ้าต้องการให้ข้ามอบตราวายุกระจ่างออกมาหรือ"