ตอนที่ 430 : แผงลอย!
ตอนที่ 430 : แผงลอย!
ในเวลานี้เจียงเฉินก็กำลังทำงานเป็นยามรักษาความปลอดภัย
ในเวลานี้เองหัวหน้าโจวก็โทรเข้ามา “ทีมของพวกเราได้รับภารกิจด่วนรีบไปกันเร็ว!”
“???”
เจียงเฉิน เจ้าโง่จูและคนอื่นๆก็พากันทำหน้างุนงง
เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมถึงรีบไปขนาดนี้?
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
รถตู้วิ่งออกไปด้วยความเร็วสูง
หัวหน้าโจวพูดออกมาด้วยความเศร้า “ที่จริงแล้วบริษัทของเราได้รับภารกิจให้ไปช่วยเทศกิจของเมือง~~”
เจ้าโง่จูตระโกนออกมา “ผมไม่ไป ผมเห็นคลิปวิดีโอที่เจ้าหน้าที่ของเมืองวิ่งไล่ตามพวกพ่อค้าเร่ ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ดีผมไม่ไป!”
“นายคิดไปไหนของนาย”
หัวหน้าโจวพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ในตอนนี้เจ้าหน้าที่ของเมืองจะไปไล่ล่าพวกพ่อค้าเร่ทำไมกัน? นายไม่รู้สินะว่าตอนนี้รัฐบาลของเมืองได้ทำการร่างนโยบายการจัดระเบียบให้กับพวกเขาโดยเฉพาะ เพื่อหาพื้นที่ให้พวกเขาตั้งร้านขายของรวมถึงจัดพื้นที่ไว้สำหรับตลาดแผงลอยกลางคืนด้วย”
“???”
เจ้าโง่จูดูตกตะลึงไปเล็กน้อย~~
“พระเจ้ามันเป็นแบบนี้นี่เอง”
“เจ้าหน้าที่ของเมืองไม่จำเป็นต้องไล่ล่าพ่อค้าเร่ข้างถนนแล้วหรอ?”
“แล้วพวกเขาจะขอให้พวกเราไปช่วยทำไมกัน?”
เจ้าโง่จูถามออกมา
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
หัวหน้าโจวกางมือออก
มาถึงตลาดกลางคืน
“อะไรกัน พวกเขามาตั้งร้านกันที่นี่จริงใช่ไหม?”
กรามของเจ้าโง่จูร่วงลงไปด้วยความตกตะลึง!
“พวกเขาให้เรามาเฝ้าหรือว่าให้พวกเรามาตั้งร้านกันแน่?”
“จริงด้วย!”
หัวหน้าเฉิงพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “พวกนายก็คงเห็นแล้วที่นี่ตลาดกลางคืน~~”
เขาชี้ไปที่ตลาดกลางคืนที่อยู่เบื้องหลังของเขา
เจียงเฉินมองตามไปและพบว่าตลาดกลางคืนนั้น~~
เงียบมาก!
มีร้านแผงลอยอยู่เพียงแค่ไม่กี่ร้านแถมประตูก็เล็กมากด้วย
และไม่ได้มีเพียงแค่ร้านแผงลอยไม่กี่ร้านเท่านั้น แต่ลูกค้าที่มีอยู่ข้างในนั้นก็ยังมีน้อยอีกด้วย
หัวหน้าเฉิงพูดออกมาอย่างหดหู่ “น่าเสียดาย เป็นเพราะก่อนหน้านี้เราบังคับใช้นโยบายอย่างเคร่งครัดจนเกินไป และยังมีนโยบายห้ามการตั้งร้านแผงลอยย่างตามใจ เลยทำให้พวกพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยพากันเปลี่ยนอาชีพไปหมด”
เขาพูดออกมาด้วยความเขินอาย “แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่นโยบายในช่วงเวลานั้น ในตอนนี้นโยบายนั้นได้ทำการพลิกกลับแบบ 180 องศาเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีคำสั่งมายังเทศกิจด้วยว่า~~”
“ถ้าพวกเราต้องการที่จะฟื้นฟูความคึกคักของตลาดกลางคืนเราก็จะต้องเชิญพ่อค้ากลับมา!”
หัวหน้าเฉิงกางมือและพูดออกมาว่า “สำหรับพ่อค้าเร่ที่เลิกอาชีพนี้ไปตอนนี้พวกเรากำลังโทรหาพวกเขาและขอให้พวกเขากลับมาแต่ปรากฏว่าพวกเขานั้นไม่กลับมาเลย!”
เจียงเฉิน “….”
ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี~~
ลองคิดภาพตาม
เมื่อพ่อค้าเร่ที่ได้รับโทรศัพท์จากเทศกิจและขอให้พวกเขากลับไปตั้งร้านแผงลอย~~
เฉิงกวง “ตอนนี้พวกเรากำลังดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลของเมืองในการฟื้นฟูตลาดกลางคืน ดังนั้นช่วยกลับมาตั้งร้านแผงลอยหน่อยเถอะครับ”
พ่อค้า “ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่อยากกลับไปตั้งแล้ว ที่ผ่านมาฉันพอแล้ว~~”
เฉิงกวงสาบาน “คุณครับกลับมาเถอะครับ! ครั้งนี้พวกเราจะไม่จับคุณแล้ว!”
พ่อค้า “ไม่เอา ไม่ทำแล้ว!”
เฉิงกวงอยากจะร้องไห้ออกมาแต่ก็ไม่มีน้ำตา “ผมพูดจริงนะครับ! พวกเราสัญญาเลยว่าครั้งนี้จะไม่จับแล้ว!”
พ่อค้า “ตรุ๊ด ตรู๊ด ตรู๊ด หมายเลขที่ท่านเรียกไม่อยู่ในพื้นที่ให้บริการ”
ช่างเป็นภาพที่น่าดูจริงๆ
เจียงเฉินหัวเราะและร้องไห้ออกมา~~
“แล้วเราควรทำยังไงล่ะคะ?”
เจียงเฉินถามออกมา “หรือว่าคุณจะให้พวกเรามาตั้งร้านที่นี่?”
หัวหน้าเฉิงพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ถูกต้อง ตามที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้พวกเราต้องการที่จะฟื้นฟูตลาดกลางคืนให้กลับมาคึกคักเหมือนเดิม และมันจะต้องผ่านการตรวจสอบภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน ดังนั้นอย่างน้อยในเวลาหนึ่งเดือนนี้ตลาดก็ควรที่จะฟื้นฟูขึ้นมาบ้างเล็กน้อย แต่พ่อค้าแม่ค้าที่ฉันเชิญไปกลับไม่มีใครกลับมาสักคน ดังนั้นเราจึงจะต้องสร้างภาพให้พวกเขาเห็น~~”
เขากระแอมออกมา “ดังนั้นฉันจึงขอเชิญพวกนายที่เป็นยามรักษาความปลอดภัยมาตั้งร้านให้พวกเขาดู ให้พวกเขาเห็นว่าร้านแผงลอยพวกนายนั้นขายดีแค่ไหนและให้พวกเขาสามารถทำธุรกิจได้อย่างสบายใจ!”
เจียงเฉิน: →_→
ให้ตายเถอะ!
ในอดีต เฉิงกวงและพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยนั้นวิ่งไล่จับกันราวกับว่ากำลังเล่นเกมแมวจับหนู แต่ตอนนี้เขานั้นต้องการที่จะเชิญพ่อค้าแม่ค้ากลับมาทำธุรกิจ
นี่มันไม่สายเกินไปหน่อยเหรอ?
“แต่ยังไงก็ตาม ภารกิจของพวกคุณก็คือการปลอมตัวเป็นพ่อค้าแผงลอยและมาทำธุรกิจที่นี่!”
หัวหน้าเฉิงโบกมือ “โอเค พวกนายรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล่วมาตั้งร้านแผงลอยแล้ว!”
หัวหน้าโจวตกตะลึง
เจ้าโง่จูปวดหัว~~
เจียงเฉิน “…..”
ให้ยามรักษาความปลอดภัยไปตั้งร้านแผงลอย?
“ยังไงก็เถอะ พวกนายจะต้องแกล้งทำให้ดูสมจริงที่สุด!”
หัวหน้าเฉิงพูดออกมาอย่างจริงจังว่า “เพราะว่าเราจะมีการถ่ายทอดสดลงอินเทอร์เน็ต เพื่อทำการดึงดูดพ่อค้าแผงลอยให้กลับมาตั้งร้านให้ได้!”
เจียงเฉิน “….”
หลังจากนั้นหัวหน้าโจวก็ขอให้ยามรักษาความปลอดภัยทุกคนมารวมตัวกัน
พูดคุย
“ทุกคนได้ยินกันแล้วใช่ไหม”
“หัวหน้าเฉิง จ้างพวกเรามาก็เพื่อ..... แกล้งตั้งร้านแผงลอยกัน!”
พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตั้งร้านแผงลอยของพวกเรา!
“ส่วนจะตั้งเป็นร้านอะไรพวกนายก็คิดกันเองได้เลย!”
“ต่อไปฉันจะขอประกาศว่าในเดือนนี้ หน้าที่ของทุกคนนั้นจะไม่ใช้ยามรักษาความปลอดภัย แต่จะเป็นพ่อค้าแผงลอยและพวกนายจะต้องมาขายของที่นี่ทุกวัน!”
ยามรักษาความปลอดภัยทุกคนอ้าปากค้าง~~
“พระเจ้า นี่จะให้ฉันตั้งร้านแผงลอยจริงๆใช่ไหม?”
“พระเจ้า แล้วตัวฉันมีความรู้อะไรเกี่ยวกับการตั้งร้านแผงลอยบ้างไหมเนี่ย?”
“ตั้งร้านงั้นหรอ? ขอฉันลางานนี้ได้มั้ย?”
“ชีวิตฉันไม่เคยตั้งร้านแผงลอยมาก่อน! นี่ล้อเล่นกันรึเปล่า?”
แต่คำสั่งก็คือคำสั่ง
ภายใต้แรงกดดันของหัวหน้าโจว ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของเขา
ดังนั้น~~
ในคืนนั้น
กองทหารยามรักษาความปลอดภัยผู้แข็งแกร่งก็ได้มาตั้งร้านแผงลอยกัน
กองทัพร้านแผงลอยถูกตั้งยาวออกไปจนไม่รู้จบ!
ประชาชนหลายคนที่มาเดินตลาดกลางคืนเมื่อเห็นร้านแผงลอยจำนวนมากพวกเขาก็ตกตะลึง~~
มีการพูดคุยกันเกิดขึ้น
“พระเจ้า นี่มันเพื่ออะไรกัน?”
“พวกเขาทุกคนสวมใส่ชุดเสื้อผ้าธรรมดา แต่ดูทรงผมของพวกเขาสิเหมือนกับตำรวจชัดๆ”
“แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ? ดูการเดินและการตบเท้าของพวกเขาสิ พวกเขาทุกคนดูมีระเบียบเรียบร้อยพวกเขาจะเป็นพ่อค้าตั้งร้านแผงลอยได้ยังไงกัน?”
“ฮ่าๆ ฉันจำคนพวกนี้ได้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเคยเป็นยามรักษาความปลอดภัยมาก่อนแน่ๆ อย่าบอกนะว่าพวกเขาทั้งหมดมาที่นี่เพื่อตั้งร้านแผงลอย?”
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? จ้างยามรักษาความปลอดภัยมาตั้งร้านแผงลอยงั้นหรอ? คนแบบพวกเขาจะขายอะไรได้?”
แม้ว่าจะมีการพูดคุยกันมากมายแต่ยามรักษาความปลอดภัยทุกคนก็ไร้ความรู้สึก ในเมื่อพวกเขาถูกบังคับให้ต้องเปิดธุรกิจพวกเขาต้องทำงานให้สำเร็จ!
เจียงเฉินเองก็ตั้งร้านแผงลอยด้วย
หัวหน้าโจวและเจ้าโง่จูก็พากันไปตั้งร้านของตัวเอง
ส่วนคนอื่นๆก็ไม่ต้องพูดถึง~~
ถึงแม้ว่ายามรักษาความปลอดภัยอย่างพวกเขาจะมีฝีมือในการแสดงไม่ค่อยมาก แต่งานของพวกเขาก็ผ่านไปได้ดีไม่น้อยเลยเพราะพวกเขานั้นตั้งร้านทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นร้านขายไอศกรีม ขายอุปกรณ์ เครื่องใช้ แพนเค้ก ผลไม้ เคบับ......
หากมองไปรอบๆก็จะพบว่าตอนนี้ตลาดกลางคืนนั้นเริ่มดูคึกคักขึ้นมาเรื่อยๆเพราะจำนวนของร้านแผงลอยที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้เหตุการณ์นี้ก็ยังดึงดูดประชาชนจำนวนมากให้เข้ามาดูข้างใน
“เจ้านี่ขายเท่าไหร่ครับ?”
“ขอราคาด้วย”
“คุณเป็นคนขายจริงรึเปล่าเนี่ยทำไมคุณถึงใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น?”
เรื่องไร้สาระทุกอย่างเริ่มเกิดขึ้น
“คุณได้เรียนหนังสือมาหรือเปล่า ชิ้นละ 2 หยวนฉันซื้อ 2 ชิ้นฉันให้คุณ 10 หยวนคุณต้องทอนเท่าไหร่?”
“ก็ 5 หยวนไม่ใช่หรอ?”
“ให้ตายเถอะ! 2+2 ได้เท่าไร?”
“5”
“นายมันไร้การศึกษา!”
ปัญหาแทบจะทุกรูปแบบเกิดขึ้น~~
เจียงเฉินที่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของกลุ่มยามรักษาความปลอดภัย เขานั้นดูเงียบมาก!
หลังจากช่วงเวลาที่วุ่นวายผ่านไป
ก็ถึงเวลาปิด
หัวหน้าโจวเรียกยามรักษาความปลอดภัยมารวมตัวพร้อมกัน
ยามรักษาความปลอดภัยทุกคนกลับมารวมตัวกัน
ยามรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งเรอออกมาแหละตบท้องของตัวเอง “ฉันกินข้าวหมดแล้วได้เวลาปิดร้าน!”
ทุกคน “….”
“วันนี้ผมตั้งร้านแผงลอยครั้งแรก ผมขายเป็นชานมไข่มุกแล้วก็มีลูกค้าเข้ามาซื้อมัน ตอนนั้นผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ในที่สุดก็สามารถขายออก แต่ผลก็คือสองคนนั้นรีบจ่ายเงินแล้วก็เอามาปาใส่ร้านของผม”
ยามรักษาความปลอดภัยคนอื่นที่ได้ฟังก็ทำหน้างงๆ
“วันนี้เปิดร้านวันแรก ฉันซื้ออมยิ้มมา 10 อันในราคา 25 เฟิน(ค่าสตางค์ของเงินจีน) ฉันขายไปได้ 6 อัน ได้กำไรมา 2 หยวน ระหว่างกับฉันดันไปเจอกับร้านแผงลอยที่ขายเนื้อย่างฉันก็เลยจ่ายไป 158 หยวนสุดท้ายฉันก็เลยขาดทุนไป 156 หยวน!”
“วันนี้…..”
เจียงเฉิน →_→!
ยามรักษาความปลอดภัยอีกคน: " ให้ตายเถอะ! วันนี้ฉันเปิดร้านขายแพนเค้กผลไม้! แต่สุดท้ายฉันดันทำกินเองไปตั้ง 8 ชิ้น!”
เจียงเฉินหัวเราะลั่น
ทำแพนเค้กกินเองไปถึง 8 ชิ้นเลยหรอ?
นอกจากนี้ก็ยังมียามรักษาความปลอดภัยอีกคนนึงพูดออกมาอย่างตื่นเต้น “วันนี้ฉันขายอาหารได้กำไรมัน 4 หยวน แต่ลูกค้าบอกว่ารสชาติมันห่วยแตกเกินไปก็เลยถูกแผงของฉัน สุดท้ายฉันก็เลยต้องเสียเงินไปซื้อโต๊ะมาใหม่ตั้ง 500 หยวน ดังนั้นวันนี้ฉันจึงขาดทุนไป 504 หยวน ให้ตายเถอะงานนี้มันยากจริงๆ”
เจียงเฉิน “…..”
วุ่นวายขนาดนี้พรุ่งนี้จะยังมีคนอยากมาทำอยู่อีกไหมเนี่ย?
น่าสงสารจริง~
น่าสงสารสำหรับลูกค้าที่มากินอาหารที่ร้านของเขา!
ตาบอดจริงๆ!
ทันใดนั้นก็มียามรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งตะโกนออกมา
“ธุรกิจของฉันไปได้ดีเลย!”
ยามรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “วันนี้เพียงวันเดียวฉันสามารถขายของทุกอย่างบนแผงของฉันได้หมด!”
“อะไรนะ?”
ยามรักษาความปลอดภัยคนอื่นๆตกตะลึง “นายทำได้ยังไง?”
“ก็ขายไปตรงๆนั้นแหละ!”
ยามรักษาความปลอดภัยคนนั้นพูดออกมาว่า “สินค้าของฉันขายเร็วมากเลยนะ! พริบตาเดียวก็หายหมดแล้ว!”
“แล้วนายได้เงินมาเท่าไรล่ะ?”
“ได้เงิน?”
ยามรักษาความปลอดภัยคนนั้นเกาหัว “เงินอะไรกันทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องเลย?”
“เดี๋ยวนะ? สมองนายยังอยู่กับหัวของนายหรือเปล่าเนี่ย?”
ยามรักษาความปลอดภัยคนอื่นพากันอึ้ง~
“ใช่แล้ว ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ลูกค้าทุกคนไม่ได้จ่ายเงินฉันเลย แต่อยู่ๆก็มีคนเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆตอนแรกฉันก็งง ว่าทำไมทุกคนถึงไม่ยอมจ่ายเงินฉันก็เลย~~”
อย่ารักษาความปลอดภัยทุกคนพากันกะพริบตาปริบๆ
พรูด!
พากันล้มลงกับพื้นและแขนขากระตุก~~
โศกนาฏกรรม!
ในเวลานี้กลุ่มยามรักษาความปลอดภัยก็อดใจไม่ไหวที่จะเข้าไปอัดยามรักษาความปลอดภัยคนนั้น
“วันนี้ใครทำเงินได้มากที่สุดแล้วก็ใครขาดทุนมากที่สุด?”
หัวหน้าโจวถามออกมาอย่างเสียงดัง
“ผม ผมโชคร้ายจริงๆ! ผมได้เท่าทุน!”
ทุกคนตกตะลึง
“ขายเท่าทุนแล้วนายจะยังนับว่าโชคร้ายอยู่ด้วยหรอ?”
หัวหน้าโจวก็ตกตะลึง
“นั่นน่ะสิ~”
ยามรักษาความปลอดภัยคนนั้นปิดหน้าและพูดออกมาว่า “วันนี้ผมทำยอดสูงสุดได้ที่ 1,516 หยวน!”
“พระเจ้า~~”
ทุกคนตกตะลึง
นี่เขาสามารถทำเงินได้มากขนาดนี้ภายในเวลาเพียงแค่หนึ่งวันงั้นหรอ?
นี่มันก็นับว่าได้กำไรไม่ใช่หรือยังไง?
“นายทำบ้าอะไรมาถึงได้เงินตั้ง 1,516 หยวนภายในวันเดียว?”
หัวหน้าโจวตกใจมาก
หมอดีบีพรสวรรค์!
เพียงแค่ตั้งร้านแผงลอยก็สามารถทำเงินได้ไม่ยากแล้ว!
ยามรักษาความปลอดภัยคนนั้นพูดออกมาด้วยสีหน้าเศร้าๆ “ตอนเช้าผมขายพรรคไม่ได้ตอนบ่ายผมก็เลยเปลี่ยนมาเป็นติดฟิล์มมือถือแทน สุดท้ายผมทำไปได้ 16 เครื่อง แต่ก็มีคนคิดว่าผมทำได้ไม่ดีพอก็เลยทุกแผงของผมทำให้ผมเสียเงินไป 500 หยวน แน่นอนว่าผมต้องไม่ยอมอยู่แล้วผมก็เลยเข้าไปสู้กับเขาจนสุดท้ายตำรวจมาผมก็เลยโดนค่าปรับไปอีก 1,000 หยวนดังนั้นรายได้ 1,516 หยวนผมจึงเหลือกลับบ้านแค่นิดหน่อย ทำงานพวกนี้มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ดูเหมือนว่าพรุ่งนี้ผมคงต้องทำงานอย่างหนักและก็ทำตัวให้อ่อนน้อมถ่อมตนขึ้นอีก!”
พรูด!
ทุกคนล้มลงกับพื้น
แขนขากระตุก
สุดยอด!
“ถ้าอย่างนั้นก็คงได้ไม่มากเท่าฉันสินะ! เพราะวันนี้วันเดียวฉันใดมาถึง 20,008 หยวน!”
ยามรักษาความปลอดภัยคนนั้นยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ฉันขายบะหมี่เย็น! ฉันขายอยู่ที่ราคาชามละ 8 หยวน! แต่ว่าลูกค้าคิดว่ามันไม่อร่อยก็เลยพังร้านของฉัน ตอนนั้นฉันก็เลยเข้าไปสู้กับเขาสุดท้ายก็แพ้แล้วเขาก็หักขาของฉัน! ฉันเลยต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลไป 20,000 หยวน!”
ชายคนนั้นตื่นเต้นมากจนเขาแทบจะลุกขึ้นมาจากรถเข็น!
เจียงเฉิน: →_→! เก่งเกินไปหน่อยไหม
ตั้งร้านวันเดียวได้รับมา 20,000!