Ep.79 - คงเจ็บน่าดู
1/3
Ep.79 - คงเจ็บน่าดู
ฮังอวี่เริ่มอธิบายแก่ทุกคน
“พวกกูลมีพลังชีวิต 120 หน่วย มีค่าคุณสมบัติพละกำลังและร่างกายที่ค่อนข้างสูง”
“นอกจากนี้ สกิลของมันยังทรงพลังมาก มีถึงสองสกิล ต้องระวังให้ดี”
“สกิลแรกคือ ‘เสียงหอนแห่งความหวาดกลัว’ มีระยะสกิล 15 เมตร เป็นการโจมตีทางจิตประเภทหนึ่ง มันจะทำให้คนสูญเสียประสิทธิภาพในการต่อสู้ชั่วคราว ถ้ามีค่าคุณสมบัติเจตจำนงต่ำ ก็จะยิ่งได้รับผลกระทบมากขึ้น”
“สกิลที่สองคือ ‘เสียงร่ำร้องของคนตาย’ ผลของสกิลนี้คือการปลุกมอนสเตอร์อันเดธที่หลับใหลอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามอนสเตอร์พวกนี้หลับใหลอยู่ตรงจุดไหน ยากจะป้องกัน ต้องคอยสังเกตตลอดเวลา”
“แต่จะระวังแค่สกิลของมันไม่ได้ เพราะความสามารถในการต่อสู้ของกูลก็ทรงพลังไม่แพ้กัน ส่วนใหญ่พวกมันจะโจมตีด้วยกรงเล็บและฟันเป็นหลัก กรงเล็บสามารถสร้างเอฟเฟกต์เลือดออก ส่วนฟันของมันสร้างเอฟเฟกต์พิษ ถ้าไม่ระวังอาจตายได้”
คนอื่นๆในทีมมองหน้ากัน
เจ้าหมอนี่มันแข็งแกร่งสุดๆไปเลยไม่ใช่หรอ แล้วแบบนี้จะเอาชนะได้ยังไง อ๊าาา~
“ฟังดูรับมือไม่ง่ายเลย” จ้าวหมิงครุ่นคิดพักหนึ่งแล้วเอ่ยถาม “นายมีแผนยังไง?”
ฮังอวี่กล่าว “การกำจัดมอนสเตอร์ตัวนี้ บทบาทขอเจียงหนานมีความสำคัญมาก”
เจียงหนานพอได้ยิน เธอเริ่มเกร็งขึ้นมาทันที “ฉัน? ฉันหรอ?? ถ้างั้น ... ฉันต้องทำอะไร?”
“ทุกคนใครมีอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติเจตจำนงบ้าง ถ้ามี เอามันออกมาให้เจียงหนานยืมใช้ก่อน”
“เสียงหอนแห่งความหวาดกลัวเป็นสกิลที่รับมือได้ลำบากที่สุด แต่ถ้ามีค่าคุณสมบัติเจตจำนงมากพอ จะสามารถต้านทานผลของสกิลนี้ได้ และยิ่งมีอาชีพเป็นนักบวช ก็จะยิ่งได้รับโบนัสค่าคุณสมบัติเจตจำนง เพราะงั้นต้องเพิ่มค่าเจตจำนงของเจียงหนานให้มากเข้าไว้ มันจะได้ช่วยลดระยะการแสดงผลของสกิลนี้”
“เหล่าจ้าวกับฉันจะเข้าไปก่อกวนกูล รับหน้าที่สู้ระยะประชิด ส่วนเจียงหนาน หน้าที่ของเธอคือต้องมั่นใจว่าจะเติมพลังชีวิตให้พวกเราทัน และเว้นระยะห่างออกไปสิบเมตร เผื่อกรณีที่กูลหันไปโจมตีเธอ จะได้มีเวลาทันตอบโต้”
“สุดท้ายเสี่ยวเฉียงกับนายน้อยฉง ทั้งคู่ต้องสู้ด้วย เว้นระยะห่างจากกูลให้มากกว่า 15 เมตร ทำแบบนี้ถึงจะอยู่นอกรัศมีของสกิลเสียงหอนแห่งความหวาดกลัว ไม่ได้รับผลกระทบจากมัน”
“...”
ฮังอวี่อธิบายเสร็จ เขามอบโพชั่นให้จ้าวหมิงสองสามขวด
“ลุงจ้าวต้องรับหน้าที่เป็นคนแรกในการบุก มีข้อโต้แย้งอะไรไหม?”
เหล่าจ้าวเผยรอยยิ้มขมอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่มีข้อโต้แย้งหรอก ฉันชินกับมันแล้ว แถมตอนนี้ยังได้โพชั่นแก้ปวดมา แรงกดดันจากความเจ็บปวดถือว่าน้อยลงมาก”
“เฮ้ เฮ้ รอก่อน เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า?” ในตอนนั้นเอง หวังฉงอ้าปากค้างด้วยสีหน้าประหม่า “นี่ฉันก็ต้องสู้ด้วย? คิดจะให้ฉันกลายเป็นอาหารมอนสเตอร์ตัวนี้รึไง? ฉันยังเลเวลแค่ 1 เอง!”
ฮังอวี่เหลือบมองเขา “ฉันไม่ได้บอกให้นายรับมือกับมันตรงๆซักหน่อย”
“แต่เมื่อกูลเปิดใช้งานสกิลที่สอง อาจมีพวกอันเดธอย่างโครงกระดูกถูกปลุกให้ตื่นขึ้น เหล่าจ้าวกับฉันต้องตั้งสมาธิไว้ที่มอนสเตอร์กูล พวกเราปลีกเวลามาดูแลตรงส่วนนี้ไม่ได้ ดังนั้นหน้าที่ของนายคือรั้งพวกมันไว้ เพื่อเสี่ยวเฉียงมีเวลามากพอที่จะกำจัดพวกมัน ไม่ปล่อยให้เข้ามาสร้างปัญหาให้พวกเรา เข้าใจไหม?”
หวังฉงประหม่ามาก นี่มันยากเกินมือเขา!
“หยุดพล่ามซักที! พวกเราไม่เหลือเวลาแล้ว กูลกำลังตรงมา” ฮังอวี่ไม่รอให้หวังฉงอ้าปาก เขาชิงเอ่ยขัด “ในเมื่อนายอยู่ในทีม ฉะนั้นนายต้องมีส่วนร่วม รู้รึเปล่าว่าแต้มวิญญาณของมอนสเตอร์ชั้นยอดเลเวล 4 มีเท่าไหร่? ปริมาณของมันมากเท่ากับโครงกระดูกที่พวกเราสู้ข้างนอก 30 - 40 ตัว!”
หวังฉงตกตะลึง
นี่เขาปฏิเสธไม่ได้เลย? ถ้าปฏิเสธคงถูก ฮังอวี่จับโยนออกไปใช่ไหม?
มอนสเตอร์กูลเริ่มใกล้เข้ามา ทุกคนรีบปรับอุปกรณ์
จ้าวหมิงหยิบแหวนไม้ที่ช่วยเพิ่มค่าเจตจำนงออกมาและมอบให้เจียงหนาน
อาวุธในมือเจียงหนานเองก็ช่วยเพิ่มค่าเจตจำนงเช่นกัน นี่เท่ากับว่าเธอจะมีค่าเจตจำนงเพิ่มขึ้น 2 หน่วย
ฮังอวี่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่านี่ยังไม่มากพอ
อย่างไรก็ตาม ต้นเกมอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มค่าเจตจำนงค่อนข้างหายาก มีเท่านี้ถือว่าไม่เลวแล้ว
นักบวชจะได้รับโบนัสค่าเจตจำนงเพิ่มเติม นี่ช่วยให้เจียงหนานมีพลังต้านทานทางจิตสูงขึ้น น่าจะช่วยลดดระยะเวลาแสดงผลของเสียงหอนแห่งความหวาดกลัวได้พอสมควร และสามารถรักษาพวกเขาได้อย่างทันท่วงที
ฮังอวี่เผื่อไว้ มอบสร้อยคอแก่นพฤกษาให้เธอ
สร้อยคอนี้แม้ไม่ช่วยเพิ่มค่าเจตจำนง แต่มันช่วยเพิ่มการต้านทานคาถา น่าจะพอมีประโยชน์บ้าง
จ้าวหมิงมอบ ‘โล่แห่งป่า’ สีขาวอ่อนที่เขาไม่ใช่แล้วให้เจียงหนาน
กระบองนักบวชเป็นอาวุธมือเดียว เจียงหนานสามารถสวมโล่อีกข้างได้ นี่น่าจะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้ระดับนึง
ฝ่ามือของเจียงหนานชุ่มไปด้วยเหงื่อ “ตอนนี้ฉันรู้สึกเครียดมากเลย”
“ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ฉันเชื่อใจเธอ” ฮังอวี่ตบไหล่เจียงหนานเพื่อให้กำลังใจ จากนั้นกวาดสายตามองคนอื่นๆในทีม “การต่อสู้ไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามีเรื่องที่ไม่อยู่ในแผนเกิดขึ้น ก็ขอให้รับมือตามความเหมาะสม แต่พยายามอย่าให้พลาด ใช่ ฉันกำลังพูดถึงนาย เสี่ยวเฉียง!”
จางเสี่ยวเฉียงยิ้มกระอักกระอ่วน “ลูกพี่วางใจได้ ฉันจะทำให้ดีที่สุด!”
ฮังอวี่หยิบหอกก้างปลาออกมาจากพื้นที่เก็บของ เจ้าสิ่งนี้สร้างดาเมจได้เยอะ แม้มีจำนวนยังไม่มาก แต่เหมาะสำหรับใช้เปิดการต่อสู้
ฮังอวี่ไม่สนใจว่าจะเสียมันไป ขั้นแรกเขาเอาหอกเคลือบพิษจากต่อมอสูรดอกไม้กินคน
มอนสเตอร์ประเภทอันเดธมีภูมิคุ้มกันพิษก็จริง แต่มอนสเตอร์กูลยังพอมีเนื้อหนัง ดังนั้นเอฟเฟกต์จากพิษน่าจะมีผลกับมันไม่มากก็น้อย
“ลงมือได้!”
หวืออออ!
ฮังอวี่ดีดตัวยืนขึ้น แล้วขว้างหอกออกไป
กูลไม่ทันตั้งตัว ถูกแทงเข้าที่หน้าอกอย่างแม่นยำ เสียพลังชีวิตไป 8 หน่วยทันที
“ฮู้มมม!” กูลกระชากหอกก้างปลาออกด้วยความโกรธเกรี้ยว ใช้ทั้งแขนและขาของมันวิ่งเข้ามายังซากปรักหักพัง
เหล่าจ้าววิ่งออกมาพร้อมโล่พลังงานที่ห่อหุ้มร่างกายเขา พุ่งเข้าปะทะกับกูลโดยตรง และถูกกรงเล็บมันตบใส่ทันที โล่พลังงานสีจางลงครึ่งหนึ่ง
“เป็นมอนสเตอร์ที่ทรงพลังจริงๆ!”
จ้าวหมิงถูกตีฝีเท้าสะดุด แต่เขาไม่หยุดการเคลื่อนไหว หวดอุปกรณ์สีเทาใสเลเวล 3 ‘ตะลุมพุกไม้เสริมเอฟเฟกต์สตั๊น’ ในมือขวา ตีเข้าแสกหน้ากูลเต็มๆ
แม้นั่นจะสร้างดาเมจเพียง 2 หน่วย แต่ก็ทำให้กูลหยุดคอมโบของมัน แถมยังโชคดีที่การโจมตีนี้ติดสถานะมึนงง
ฮังอวี่เซอร์ไพรส์เล็กน้อย ขว้างมีดบินออกไป เล็งเข้าที่ตากูลเพื่อให้มันสูญเสียการมองเห็น
อย่างไรก็ตาม กูลเป็นถึงมอนสเตอร์ชั้นยอดเลเวล 4 ค่าความต้านทานของมันสูงมาก ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวินาทีก็หลุดจากอาการมึนงง
มันเอียงหัวหลบคมมีดที่ทอประกายเย็นเยียบ มีดเลยปักลงบริเวณใบหู สร้างดาเมจ 2 หน่วยเท่านั้น
แต่แทบจะในเวลาเดียวกัน ลูกไฟของจางเสี่ยวเฉียงพุ่งเข้ามา
บรึ้มมมม!
ดอกไม้ไฟเบ่งบาน กูลถูกพรากพลังชีวิตไป 16 หน่วยในคราวเดียว!
การโจมตีด้วยลูกไฟซึ่งเกิดจากสกิลพรสวรรค์ของจางเสี่ยวเฉียงช่างรุนแรงจริงๆ!
จ้าวหมิงสบโอกาสจากตอนที่กูลหลบมีดบินและช่องว่างหลังจากโดนลูกไฟ ฟาดตะลุมพุกลงไปอีกสองป๊าบ
กูลมีพลังชีวิต 120 หน่วย ซึ่งถือว่ามากก็จริง แต่เมื่อโดนหลายคนรุมพร้อมกัน พลังชีวิตหนึ่งในห้าก็หายไปในพริบตาเดียว นี่ทำให้ทุกคนรู้สึกใจชื้นขึ้นมาก
เจ้ามอนสเตอร์ที่ดูดุร้ายและน่ากลัวตัวนี้ เหมือนจะรับมือได้ไม่ยากอย่างที่คิด
หากทำดาเมจด้วยอัตราเร็วเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถฆ่ามันได้ในระยะเวลาสั้นๆหรอกหรือ?
ไอเท็มที่ดรอปจากมอนสเตอร์ชั้นยอดเลเวล 4 จะต้องเป็นของดีแน่นอน ตื่นเต้นจนแทบอดใจรอไม่ไหวแล้ว!
แต่ขณะที่ทุกคนเริ่มเกิดความคิดแบบนั้น กูลกลับเริ่มอาละวาดออกมา มันแหงนคอเปล่งเสียงหอนขึ้นฟ้า
เสียงหอนนี้ดังสนั่นและแฝงไปด้วยความฉุนเฉียวของสัตว์กระหายเลือด ราวกับเสียงคำรามของความตาย
คลื่นเสียงเหมือนสสารที่มีตัวตน ม้วนตัวเป็นคลื่นกวาดไปทุกทิศทางรอบตัว กลืนร่างจ้าวหมิง และปกคลม ฮังอวี่ที่อยู่ใกล้เคียงทันที เจียงหนานที่อยู่ห่างออกไป 10 กว่าเมตรก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
สกิลกูล - เสียงหอนแห่งความหวาดกลัวถูกเปิดใช้งานแล้ว!
เอฟเฟกต์ของมัน ส่งผลต่อเป้าหมายในรัศมี 15 เมตร! และยิ่งอยู่ใกล้ ก็จะยิ่งได้รับผลกระทบมาก
เหล่าจ้าวไม่อาจบอกบรรยายความรู้สึกของเขาในขณะนี้ แต่มันเหมือนกับมีเข็มฉีดยานับล้านๆจิ้มเข้ามาในเยื่อหุ้มสมอง อัดฉีดความกลัวเข้าไป
ตอนนี้สมองเขาว่างเปล่าหลงเหลือเพียงความคิดเดียวนั่นคือ ... เลิกสู้ และรีบวิ่งหนีสุดชีวิต!
เหล่าจ้าวพบว่าเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้อย่างสิ้นเชิง ในใจท่วมท้นไปด้วยความหวาดกลัว จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เหือดหายไปอย่างสมบูรณ์
เขาเลิกโจมตี เลิกตั้งรับ และหันหลังหนีโดยไม่รู้ตัว
กูลใช้โอกาสนี้กวาดกรงเล็บเข้าโจมตี กรงเล็บแรกฉีกทำลายโล่พลังงาน กรงเล็บต่อมากรีดเข้าที่หลังเขา ทิ้งรอยแผลอันน่าสยดสยองที่บาดลึกจนมองเข้าไปเห็นกระดูก ทำดาเมจ 6 หน่วย! เลือดทะลักจากปากแผลอย่างต่อเนื่อง
พลังชีวิตของเหล่าจ้าวดิ่งลงฮวบๆ
เป็นอย่างที่ฮังอวี่พูด กรงเล็บของกูลมาพร้อมกับเอฟเฟกต์เลือดออก ดาเมจที่ได้รับค่อนข้างน่ากลัว
เหล่าจ้าวขึ้นเป็นเลเวล 3 แล้ว พลังชีวิตพื้นฐานอยู่ที่ 20 หน่วย แต่เมื่อรวมโบนัสจากโล่ เกราะ อาวุธ และแหวนไม้ที่ช่วยเพิ่มค่าร่างกายซึ่งส่งผลต่อพลังชีวิตและการป้องกันแล้ว ทำให้พลังชีวิตเขาขยับขึ้นมาเป็น 24 หน่วย
และเมื่อบวกกับค่าคุณสมบัติจากทุกอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มพลังชีวิตโดยตรง ทำให้พลังชีวิตทั้งหมดของเขามีอยู่ 30 หน่วย
หรือก็คือ เหล่าจ้าวไม่เพียงมีพลังชีวิตที่สูงมาก แต่เขายังหนังหนามากอีกด้วย แม้แต่ฮังอวี่ก็ยังด้อยกว่ามากในเรื่องนี้
กระนั้น ถึงเหล่าจ้าวจะเลือดเยอะและทนทายาดขนาดนี้ แต่เมื่อโดนกูลข่วน กลับได้รับดาเมจถึง 6 หน่วย และสถานะเลือดออกต่อเนื่อง
ประเด็นก็คือสถานะเลือดออกนี้สามารถซ้อนทับกันได้! หากยังไม่ได้รับการรักษา แล้วเขาถูกมันฟันกรงเล็บใส่อีกซักสองครั้ง ต่อให้เหล่าจ้าวเลือดเยอะเหมือนวัว เกรงว่าคงแบกรับไม่ไหว!
ด้านฮังอวี่ก็ได้รับผลกระทบจากเสียงหอนเช่นกัน เขาตกอยู่ในสภาวะช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่นไม่ได้
มอนสเตอร์กูลสบโอกาส มันทำเหมือนเหล่าจ้าวเป็นของเล่น คว้าตัวเขามาแล้วอ้าปากกัดเข้าที่คอทันที กระชากเนื้อชิ้นใหญ่ออกมา ทำดาเมจ 7 หน่วยในคราวเดียว
แม้เหล่าจ้าวจะดื่มโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตไว้ล่วงหน้า แต่อัตราเร็วในการฟื้นพลังมันแค่ 2 หน่วยต่อวินาที นั่นเพียงพอที่จะช่วยเติมพลังชีวิตที่เสียไปจากสถานะเลือดออกและพิษที่ได้รับเท่านั้น ไม่อาจทดแทนดาเมจการโจมตีจากกูลได้
เสี่ยวเฉียงและนายน้อยฉงสั่นสะท้านไปถึงกระดูกสันหลัง
เชี่ยเหอะ! แค่มองยังรู้สึกเจ็บแทน เจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้มันจะโหดร้ายเกินไปแล้ว!
จ้าวหมิงในโลกจริงเขาเป็นถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีหน้ามีตา แต่ในโลกวิญญาณกลับต้องรับหน้าที่เป็น MT (Main tank ) ถูกมอนสเตอร์ปู้ยี่ปู้ยำ ช่างน่าสงสารซะจริงๆ!