668 - ตัวประกอบรายทาง
668 - ตัวประกอบรายทาง
“เป็นอย่างไรบ้าง?” เย่ฟ่านถาม
“ดูเหมือนข้างจะจำอะไรได้เล็กน้อย” เด็กหญิงตัวน้อยตอบอย่างเชื่อฟัง พลางถูหน้าผากของตัวเองเบาๆ
"วาบ"
แสงสว่างวาบและชายชราผู้บ้าคลั่งก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขากวักมือเรียกเย่ฟ่านและคนอื่นๆ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้ทุกคนไปด้วยกัน!
“หากมีผู้ยิ่งใหญ่แบบนี้คอยปกป้องพวกเราสามารถไปได้ทุกที่ในดินแดนภาคตะวันออก!” หัวใจของหลี่เหอซุยเต้นแรง และเขาเกือบจะกระโดดเข้าหาชายชราด้วยความตื่นเต้น
เย่ฟ่านและคนอื่นๆออกจากซากปรักหักพังเทียนซวน หลังจากกล่าวลาหมอหวังเป้าหมายของพวกเขาก็อยู่ที่หน้าผาศักดิ์สิทธิ์ในภาคกลาง
สุนัขตัวใหญ่กำลังแบกเด็กหญิงตัวเล็กๆไว้บนหลัง ชายชราผู้บ้าคลั่งแม้ว่าจะกลายเป็นชายวัยกลางคนแล้วแต่สภาพของเขาก็กลับมาคุ้มคลั่งอีกครั้ง
เย่ฟ่านไม่ปล่อยให้สุนัขสีดำตัวใหญ่สลักค่ายกลเต๋าและข้ามไปที่หน้าผาศักดิ์สิทธิ์โดยตรง เขาบอกมันว่าเขาจะติดตามชายชราผู้บ้าคลั่งไปเรื่อยๆ
“นี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ” หลี่เหอซุยพึมพำ
เขาเข้าใจความคิดของเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว ตอนนี้พวกเขาติดตามอยู่ด้านหลังของยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งดินแดนรกร้างตะวันออก พวกเขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนแยกตัวออกจากชายชราคนนี้
“ถ้ามีผู้อาวุโสอยู่กับเราปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นคงไม่กล้าเข้ามายุ่ง!”
“ข้าหวังว่าพวกที่ไม่มีตาจะเดินมาชนเราจริงๆ!”
สุนัขสีดำตัวใหญ่กรีดร้องอย่างลับๆ และทุกคนต่างก็เดินทางอย่างมีความสุข
เมื่อเย่ฟ่านและคนอื่นๆ ออกจากภูเขาและมายังโลกภายนอก ก็ทำให้ผู้คนมากมายตกตะลึงในทันที เพราะสิบสี่วันได้ผ่านไปแล้วแต่เขายังคงมีชีวิตอยู่
“นั่นไม่ใช่ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณหรือ หมอเทวดาหวังบอกว่าเขาจะอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งเดือน แต่เขาก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งจริงๆ!”
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาจะตัดการบ่มเพาะและกลายเป็นคนธรรมดาไปแล้วจริงๆ ?”
“น่าสนใจนะ ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นจะมาฆ่าเขาอีกหรือไม่?”
ดินแดนรกร้างตะวันออกนั้นกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต พื้นที่ดึกดำบรรพ์ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่กว้างขวางหลายร้อยล้านลี้ ที่ชุมนุมของเผ่าพันธุ์มนุษย์มีค่อนข้างกระจุกตัวในส่วนอื่นๆล้วนเป็นพื้นที่ของเผ่าพันธุ์อสูรและดินแดนรกร้าง
หลังจากที่เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ออกมาพวกเขาไม่ได้เข้าไปในเมืองแต่ก็ยังทำให้ผู้คนมากมายโต้เถียงกันอย่างดุเดือด หลายคนต้องการรู้ว่าเขาตัดการบ่มเพาะของตัวเองทิ้งแล้วจริงหรือไม่?”
การรวมตัวของเย่ฟ่านและคนอื่นๆ นั้นแปลกเกินไป สุนัขสีดำตัวใหญ่และหนานหนานไม่สามารถดึงดูดความสนใจได้ สิ่งที่พวกเขาสนใจคือชายวัยกลางคนที่มีผมเผ้ากระเซอะกระเซิง คนคนนี้คือใครกันแน่?
ทุกคนให้ความสนใจ และทุกคนก็พูดถึงร่างเซียนที่ยังมีชีวิตอยู่ และอาจฆ่าตัวตายเมื่อใดก็ได้ ข่าวนี้แพร่กระจายเหมือนไฟลามทุ่ง
ไม่นานหลังจากนั้นเย่ฟ่านและคนอื่นๆ ก็มาถึงเมืองโบราณโหยวเยว่ซึ่งอยู่ใกล้กับซากปรักหักพังเทียนซวนมากที่สุดในบรรดาเมืองที่มีชื่อเสียงสิบอันดับแรกในภาคกลางของตงหวง
และในที่สุดก็มีคนทนไม่ไหว พวกเขาต้องการทดสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเย่ฟ่าน มีชายหนุ่มสองสามคนเดินเข้ามา ทุกคนยิ้มแย้มและกล่าว่า
"นี่ใช่ร่างเซียนศักดิ์สิทธิ์หรือไม่?"
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าป่วย ตอนนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” หนึ่งในพวกเขาตบเบาๆที่ไหล่เย่ฟ่าน
“เจ้าเป็นใคร เรารู้จักกันหรือ?” เย่ฟ่านถาม
“เราทุกคนล้วนเป็นผู้ฝึกตน จะไม่รู้จักพี่เย่ได้อย่างไร” ชายคนนั้นหัวเราะ
“เจ้าเป็นศิษย์ของคฤหาสน์ม่วง” เย่ฟ่านเลิกคิ้ว
แม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาก็ไม่กล้าตบไหล่เย่ฟ่านแบบนี้ ศิษย์เหล่านี้นับว่ารนหาที่ตายอย่างแท้จริง
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” หัวใจของคนเหล่านี้เต้นระรัว และพวกเขาค่อนข้างไม่สบายใจ
“เพียงดวงจากดวงตาสีม่วงของพวกเจ้าก็เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าฝึกฝนวิชาลับบางอย่าง” เย่ฟ่านพูดด้วยรอยยิ้ม
บางคนโล่งใจและถามต่อไปว่า “พี่เย่ยังมีชีวิตอยู่ ข้าสงสัยว่าตอนนี้เจ้าฟื้นตัวแล้วหรือไม่”
"ฐานการบ่มเพาของข้าพิการเพียงครึ่งเดียว แทบจะไม่สามารถอยู่รอดได้" “เย่ฟ่านกล่าว
“เป็นข่าวร้ายจริงๆ” หนึ่งในนั้นยิ้มและตบที่ไหล่ของเย่ฟ่านอีกครั้ง
“เจ้าเบื่อชีวิตแล้วหรือ” หลี่เหอซุยคว้าแขนของชายหนุ่มคนนั้นแล้วเหวี่ยงเขาออกไปอย่างแรง
"เจ้าทำอะไร?” ศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงตะโกนด้วยความโกรธ
“ข้าต่างหากที่อยากจะถามเจ้าว่าเจ้าหมายถึงอะไร!” หลี่เหอซุยพูดอย่างเย็นชา
“ข้าเป็นศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้าไม่สมควรที่จะคุยกับพี่เย่หรือ?” หนึ่งในนั้นเย้ยหยัน
“พี่เย่เป็นเพียงรุ่นเดียวกับข้า เจ้าต้องการให้ข้าสนทนากับเขาราวกับเป็นผู้อาวุโสหรืออย่างไร?”
อีกคนก็เหน็บแนมเช่นกัน หลังจากที่รู้ว่าเย่ฟ่านได้ตัดกการบ่มเพาะตัวเอง พวกเขาก็ไม่มีความกลัวอีกแล้ว
“ครึ่งเดือนก่อน แม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าก็ไม่กล้าแสดงท่าทีหยาบคาย ถ้าเย่ฟ่านอยู่ในจุดสูงสุด เจ้าจะกล้าปฏิบัติกับเขาด้วยท่าทีที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้หรือ?” หลี่เหอซุยกล่าวเสียงดัง
"เขาช่างสูงส่งจริงๆ" มีคนเยาะเย้ยด้วยท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยาม
“พวกเจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรมากมาย พวกเจ้าคิดว่าเย่ฟ่านอยู่ในสภาพนี้เขาจะไม่กล้าฆ่าพวกเจ้า!” สุนัขสีดำตัวใหญ่ตะโกน
“บุตรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้ามีความแข็งแกร่งมากหรือไร ไปเรียกเขามาให้เรากระทืบเล่นหน่อยสิ!” หลี่เหอซุยเย้ยหยัน
บุตรศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงเคยตั้งตัวเป็นศัตรูกับเย่ฟ่าน เพราะสตรีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาถูกเย่ฟ่านจับตัวไปซึ่งมันทำให้เขาที่เป็นคู่หมั้นรู้สึกโกรธแค้นอย่างยิ่ง
ในเวลานี้เขาต้องการระบายความโกรธออกมาอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เย่ฟ่านไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิมอีกต่อไป
เมืองโบราณโหยวเยว่ อยู่ใกล้กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขามาก ดังนั้นครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่เขาจะได้กอบกู้ชื่อเสียงของตัวเอง
"วันนี้ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณตัดการบ่มเพาะของเขาแล้ว มาดูกันว่าพวกเจ้าจะพึ่งพาอะไรได้อีก!”
สุนัขดำตัวใหญ่ไม่พูดอะไรและปิดผนึกท้องฟ้าที่นี่ทันที
เหล่าศิษย์ของคฤหาสน์ม่วงไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ พวกเขาเพียงหวาดกลัวต่อเย่ฟ่านเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงไม่ว่าจะเป็นใครที่อยู่ที่นี่พวกเขาก็ไม่สามารถยั่วยุได้ทั้งสิ้น
“จักรพรรดิคนนี้ทุบตีเจ้า!”
"มาเถอะไอ้หมาสาระเลว" เด็กหนุ่มเหล่านั้นตะโกนด้วยความขบขัน
แต่ทันใดนั้นใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปในทันที ทิวทัศน์รอบๆ เปลี่ยนไปอย่างมาก และความเคลื่อนไหวของพวกเขาก็หยุดชะงักและไม่สามารถขยับตัวได้
“อ๊า...”
ไม่นานก็มีเสียงกรีดร้อง ศิษย์หลายคนของคฤหาสน์ม่วงถูกทุบตีอย่างแสนสาหัส
นี่เป็นผลงานชิ้นเอกของหลี่เหอซุย เขาไม่ได้พูดอะไรเลยเพียงไล่กระทืบเด็กหนุ่มเหล่านั้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“อ๊า”
ศิษย์หลายคนของคฤหาสน์ม่วง ถูกผนึกและพวกเขากรีดร้องไม่หยุดหย่อนเมื่อถูกทุบตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เจ้ากล้าทำกับเราแบบนี้ ...”
“จักรพรรดิคนนี้จะไม่รับเศษสวะเช่นพวกเจ้าเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ข้าจะทุบตีพวกเจ้าให้ร้องหามารดา”
สุนัขสีดำตัวใหญ่ตะโกนและกรงเล็บของมันก็เริ่มหักกระดูกของศิษย์ดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้ผู้คนมากมายที่เหตุการณ์ต่างก็ตกตะลึงและหวาดกลัว
แม้ว่าร่างเซียนจะไม่สามารถต่อสู้ได้ แต่ผู้คนรอบตัวเขายังคงดุร้ายแม้แต่ลูกหลานของดินแดนศักดิ์สิทธิ์พวกเขาก็ยังทุบตีราวกับเป็นเศษสวะ
"จักรพรรดิคนนี้จะส่งพวกเจ้าไปที่ทะเลทรายตะวันตก!" หลังจากที่บุคคลเหล่านั้นถูกทุบตีสุนัขสีดำตัวใหญ่เปิดปากและคายกระดานหมากรุกขนาดใหญ่ออกมา
"เจ้าพูดจริงหรือ เจ้าจะส่งพวกเราไปยังทะเลทรายตะวันตกได้อย่างไร!” ลูกศิษย์ของคฤหาสน์ม่วงไม่เชื่อถือแต่ก็ยังเกิดความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อค่ายกลเคลื่อนย้ายเปิดขึ้นทุกคนก็หายสาบสูญไปในทันที!
" เจ้าทำเกินไปแล้ว!”
ในขณะนั้นเอง เสียงเย็นชาก็ดังขึ้น และชายหนุ่มที่สวมชุดม่วงก็เดินออกมาจากโรงน้ำชาที่อยู่ใกล้เคียง เขาคือบุตรศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงนั่นเอง
“ศิษย์พี่ใหญ่!” ใครบางคนอุทาน
นอกจากนี้ที่ด้านหลังของเขายังมีใบหน้าที่น่ารังเกียจของจ้าวฟาติดตามมาอย่างใกล้ชิด