ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 42 สังหารจอมยุทธขั้นสูงสองคน
“สังหารโลหิต!!”
ประกายแสงสีแดงฉานถูกตะวัดแหวกผ่านอากาศ เป็นคลื่นเสี้ยวพระจันทร์
ซู่เสี่ยวไป่เคลื่อนที่อย่างปราดเปรียว
กระแสพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาอยู่ในเขตแดนผู้ฝึกยุทธขั้นสูงในทันที
การก้าวพริบตาของเขาด้วยวิชาวิถีควบคุมมิติ ทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
แม้ว่าพึ่งจะทะลวงขั้นเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสูงแล้วก็ตาม ถึงค่าสถานะที่ระบบได้ระบุเอาไว้ว่าความว่องไวของเขาคือจอมยุทธ์ขั้นสูงก็จริง แต่ความจริงแล้วความเร็วของซู่เสี่ยวไป่ในเวลานี้เทียบเท่ากับยอดยุทธขั้นแรกเลยด้วยซ้ำ!!
ทั้งสองคนนั้นไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใด
แต่เมื่อซู่เสี่ยวไป่เริ่มจู่โจมเขาก็ใช้ทุกวิชาที่เขามี และด้วยจอมยุทธทั้งสองคนนั้นกำลังประมาทคิดว่าผู้ฝึกยุทธขั้นกลางคงทำอะไรพวกเขาไม่ได้ ทำให้ทั้งสองไม่ทันตั้งตัว
เฉือด!!!
เสียงของใบมีดกรีดผ่านเนื้อและหนัง
หนึ่งในจอมยุทธขั้นสูงตั้งท่าป้องกันได้ทัน และเร่งเร้ากระแสพลังภายในร่างทันที แต่อีกคนนั้นไม่สามารถป้องกันได้ทัน ถูกคลื่นแสงโลหิตแดงฉานได้ปาดเข้าที่คออย่างไร้ความปราณี!!
จอมยุทธผู้นั่นถึงกับแน่นิ่งไปในทันที
พร้อมกับกระแสพลังชีวิตได้ดับหายไปพร้อมกัน!!
“…ตะ-ตายแล้ว!!”
จอมยุทธอีกคนที่อยู่ข้างๆ ที่ตั้งท่าป้องกันสำเร็จ
แต่เขาก็พบว่ากระแสพลังชีวิตของคู่หูของเขาหายไปแล้ว ในพริบตาเดียว! จอมยุทธขั้นสูงถูกกำจัดในพริบตาเดียว!!
และผู้ที่ลงมืออยู่ในเขตแดนผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง… เดี๋ยวสิ ตอนนี้กลายเป็นขั้นสูงแล้ว!!
-รูม่านตาของจอมยุทธผู้นี้หดเล็กลงในทันที ราวกับเจอสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต
เขาสั่นเทาไปทั้งตัวด้วยความกลัว
เป็นความกลัวที่เขาไม่สามารถสรรหาคำใดมาอธิบายได้ ความหวาดกลัวนี้มันกำลังกัดกินหัวใจของเขา
เขาไม่อาจจะเชื่อได้ว่า จอมยุทธขั้นสูงต้องมาจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง
ต่อให้หาทั่วทั้งแผ่นดิน ก็ไม่มีทางที่จะหาผู้ฝึกยุทธขั้นกลางที่สามารถสังหารจอมยุทธขั้นสูงได้ในพริบตาเดียวหรอก!!
ถ้าพูดออกไป ก็คงมีแต่คนหากว่าเขาบ้าแน่นอน!!
เขาไม่มีทางเชื่อเลย หากไม่เห็นภาพนี้กับตา
“นะ-หนี”
“หนีเอาตัวรอดก่อน!!!”
จอมยุทธขั้นสูงถึงกับตัดสินใจหันหลังใส่เกียร์หมาวิ่งหน้าตั้ง!!!
เขากลัวการโจมตีของซู่เสี่ยวไป่เป็นที่สุด
เป็นการโจมตีที่ไม่ให้สุ่มไม่ให้เสียง และไม่สามารถรับรู้ได้!!
และที่สำคัญกระบวนท่าในการจู่โจมของเขานั้น ก็โหดเหี้ยมอำมหิตอย่างมาก ทำให้การป้องกันของจอมยุทธไร้ความหมาย
จอมยุทธขั้นสูงผู้นี้กำลังเผชิญหน้ากับอสูรกายแบบไหนกัน?
เหมือนเผชิญหน้ากับยอดยุทธขั้นแรกมากกว่า!!
หากต้องเผชิญหน้าตรงๆ กับชายผู้นี้ เขารู้ได้ในทันทีว่าไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย
“อยากหนีงั้นหรอ?”
“มันสายไปแล้วล่ะ”
แม้ว่าซู่เสี่ยวไป่จะไม่ชอบฆ่าคนก็ตาม
แต่ก็ต้องทำอะไรสักอย่างให้เจ้าหนุ่มจากตระกูลใหญ่นั้นรู้ซึ้งสะบ้าง ว่าเขากำลังเล่นอยู่กับใคร
อยากสะกดรอยตามเขางั้นหรอ?
งั้นนี่ คือราคาที่เขาต้องจ่าย!!
“กายาพยัคต์ทองคำ!”
เมื่อรู้ว่าซู่เสี่ยวไป่กำลังไล่ตามทัน จอมยุทธขั้นสูงคนสุดท้ายผู้หวาดกลัวสุดขีดถึงกับใช้วิชาทุกอย่างที่มีเพื่อหนีจากซู่เสี่ยวไป่
วิชาฝึกฝนร่างกายที่เขาใช้นั้นอยู่ในระดับละเอียดอ่อนเช่นเดียวกัน และสำเร็จถึงขั้นพื้นฐานแล้ว แม้แต่การโจมตีของจอมยุทธขั้นสูงก็สามารถกันได้ครั้งสองครั้ง
ในขณะเดียวกันเขาก็หยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาจากแขนเสื้อของเขา
อุปกรณ์สื่อสารนั้นมีค่ามากในยุคนี้
มันมีค่ามากถึงขนาดที่ว่า ตระกูลจางไม่สามารถหาไว้ครอบครองได้ มีเพียง4 ตระกูลหลักอย่างตระกูลหลินเท่านั้นที่สามารถหามาได้
“นายน้อย ช่วยผมด้วย!!”
เมื่อพูดจบ เขาก็รู้สึกถึงไอเย็นๆ ที่ผ่านคอของเขาไป
จอมยุทธขั้นสูงผู้นี้ถึงกับรีบดีดตัวหลบแต่ก็ไม่พ้น
เขาเอามือกดบาดแผลที่คอเพื่อไม่ให้เลือดไหลหมดตัว!!
ซู่เสี่ยวไป่ก็โจมตีซ้ำเข้าไปอีกครั้ง แต่ด้วยวิชาฝึกฝนร่างกายของจอมยุทธขั้นสูงผู้นี้ ทำให้เขารอดจากการโจมตีในครั้งแรกไป
แม้ว่ากำลังของซู่เสี่ยวไป่ในตอนนี้เท่ากับจอมยุทธขั้นกลางก็ตาม
แต่พลังการโจมตีของเขาถูกเสริมขึ้นจากโลหิตสังหารทำให้การโจมตีของเขารุนแรงมากขึ้น
ที่จริงมันมากพอ ที่จะจัดการกับจอมยุทธขั้นสูงได้สบายๆ แต่เพราะวิชาฝึกฝนร่างกายของจอมยุทธผู้นี้ ทำให้การโจมตีครั้งแรกไม่สามารถปลิดชีพเขาได้
“เกิดอะไรขึ้น!!?”
ที่อีกด้านหนึ่ง หลินเฉินถึงกับผงะไปเมื่อได้ยินเสียงร้องของความช่วยเหลือจากลูกน้องของเขา
“นักปรุงยาคนนี้ มัน…ม”
ก่อนที่จะพูดจบเสียงของสัญญาณก็ขาดหายไป ตัวสื่อสารในมือของจอมยุทธผู้นั้นได้ขาดออกเป็นสองส่วน
พร้อมกับแขนของเขาที่ถูกเฉือนอย่างเลือดเย็น แผลเหวอะวะมากมายตามร่างกาย เส้นเลือดถูกตัดขาดจนเลือดนั้นไหลไม่หยุด
“นี้มัน…”
จางเหิงเต่อที่แอบมองดูอยู่ห่างๆ เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันทำให้เขาพูดไม่ออก
สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวแบบสุดขีด ตาของเขาเบิกกว้างราวกับไข่ห่าน ปากของเขาอ้ากว้างราวกับว่ากำลังตกใจแบบสุดๆ
เมื่อกี่มันเกิดอะไรขึ้น!!
ฑูตซู่พึ่งจะสังหารจอมยุทธขั้นสูงในการโจมตีครั้งเดียว!!!
ส่วนจอมยุทธขั้นสูงอีกคนกำลังวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน นี้มันเรื่องจริงงั้นหรอ?!
นี้….นี้… นี้มัน
จางเหิงเต่อไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกที่มันอัดแน่นอยู่ในอกนี้อย่างไง
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะสรรหาคำพูดใดมาบรรยายภาพเหตุการณ์นี้ได้
ผ่านไปเพียงเดือนเดียวหลังจากที่ปะทะกับไอ้บ้าเดรก นั้นคือครั้งสุดท้ายที่จางเหิงเต่อได้เห็นการแสดงฝึมือของซู่เสี่ยวไป่
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทุกครั้งจางเหิงเต่อคิดถึงมันทีไร ก็อดขนลุกไม่ได้เลยสักครั้ง
แต่เวลาผ่านไปแค่เดือนเดียวความแข็งแกร่งของซู่เสี่ยวไป่มากขึ้นไปอีก ถึงกับจัดการกับจอมยุทธขั้นสูงได้ในพริบตาเดียว!!
นี่ไม่ใช่ว่าตัวของจางเหิงเต่อนั้นคุ้มกันคนที่แข็งแกร่งกว่าตนมาเป็นเดือนๆ เลยงั้นหรอ?
ดูเหมือนว่า สิ่งที่ซู่เสี่ยวไป่ต้องการให้คนอื่นมองเห็นว่าตัวเขานั้นอ่อนแอ ถ้าจะได้ผล
“ท่านไป่ ผมผิดไปแล้ว!! ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย!!”
จางเหิงเต่อยังไม่เชื่อสายตาตัวเองที่จอมยุทธขั้นสูงต้องคลานเหมือนหมาและกำลังอ้อนวอนขอชีวิตกับผู้ที่อยู่ในเขตแดนผู้ฝึกยุทธ
เพียงไม่กี่ลมหายใจ
จอมยุทธผู้นี้ก็มีบาดแผลเต็มตัว
ที่คอ แผ่นหลัง หลังหัว
ซู่เสี่ยวไป่พยายามจู่โจมไปที่จุดอ่อนของเขา และซ้ำเข้าไปที่จุดเดิม หากไม่ใช่เพราะวิชาฝึกฝนร่างกายของจอมยุทธผู้นี้ ปานี้เขาคงตายไปนานแล้ว
ฉับ!!
ซู่เสี่ยวไป่ไม่สนใจคำร้องขอชีวิตของจอมยุทธผู้นี้เลย เขาตัดเอ็นร้อยหวายของจอมยุทธขั้นสูง ทำให้หนีเขาไปไหนไม่ได้อีก!!
จอมยุทธขั้นสูงยังคงร้องขอความเมตตาอย่างโหยหวน
ในแววตาของเขามองซู่เสี่ยวไป่ราวกับอสูรกายที่หลุดออกมาจากขุมนรก
แล้วทันใดเสียงร้องขอชีวิตของจอมยุทธขั้นสูงก็เงียบลง
ซู่เสี่ยวไป่ได้ฟันออกไปด้วยกระบวนท่าโลหิตสังหาร จนสามารถตัดหัวของจอมยุทธขั้นสูงได้
ในตอนนี้ จอมยุทธขั้นสูงสองคนได้ตายด้วยน้ำมือของซู่เสี่ยวไป่เป็นที่เรียบร้อย!!