บทที่ 43 ทำให้จิตใจสงบ
บทที่ 43 ทำให้จิตใจสงบ
จากนั้นไม่มีใครได้ยินเสียงของผู้อาวุโสใหญ่ในห้องโถงกลั่นยาอีกต่อไป ทุกคนเงียบลงและมุ่งความสนใจไปที่คนทั้งสองคนที่กำลังปรุงยา
เย่เฉียงมีรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจบนใบหน้าของเขา เนื่องจากเขากลั่นยยาสายฟ้าอัคคีด้วยความราบรื่นอย่างมาก ตามสัญชาตญาณของเขา การปรุงยาในครั้งนี้ดีกว่าก่อนหน้าที่เขากลั่นยาแน่นอน
เปลวเพลิงที่ร่ายรำลุกโชนอย่างรุนแรงภายใต้การควบคุมของเขา ในไม่ช้ากลิ่นหอมของสมุนไพรก็อบอวลไปในอากาศของห้องโถงกลั่นยา
จิตวิญญาณของทุกคนดีดตัวขึ้นสูง สายตาของพวกเขามองไปที่เย่เฉียง กลิ่นหอมของยามีความเข้มข้นและหนาแน่นขึ้น ซึ่งหมายความว่ายานี้ใกล้จะสำเร็จแล้ว
"ไฟ!" เย่เฉียงยกมือทั้งสองขึ้นสูง และพลังวิญญาณของเขาก็ถูกกระตุ้นทันที เปลวไฟที่สงบในตอนแรกก็กระโดดออกมาและเผาไหม้อย่างเข้มข้น
กลิ่นหอมของเม็ดยาเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ทุกคนจมดิ่งอยู่ในกลิ่นหอมของเม็ดยา พวกเขาก็ได้ยินเสียงของเตาหลอม ราวกับว่ามีบางอย่างระเบิดขึ้นเล็กน้อย
“เสร็จแล้ว ท่านผู้อาวุโสสูงสุด โปรดพิจารณา” เย่เฉียงไม่ได้มองไปที่เตายา แต่เขาหันหลังกลับและนั่งบนที่นั่งที่สูงที่สุดในห้องโถงกลั่นยา ท่าทางของเขามั่นใจว่า ยาเม็ดสายฟ้าอัคคีในเตาหลอมยานี้จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
เย่หยางเหยาขยับเท้าและเปิดฝาหม้ออย่างระมัดระวัง กลิ่นหอมของยาที่เข้มข้นกว่าแต่ก่อนพุ่งเข้ามาหาเขาทันที
เม็ดยาสีแดง 10 เม็ดที่มีลวดลายก้อนเมฆบนเม็ดยา กำลังนอนเงียบๆ ในเตาหลอม
“พวกมันคือเม็ดสายฟ้าอัคคีจริงๆ!” เย่หยางเหยาอุทาน ยาเม็ดเกรดหนึ่งระดับต่ำ จำนวน 3 เม็ด และมีคุณภาพดี นี่หมายความว่าการควบคุมของไฟของนักกลั่นโอสถนั้นแม่นยำอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม เม็ดยาสายฟ้าอัคคีที่เย่เฉียงกลั่นได้ มีสี่เม็ดที่เทียบได้กับเกรดหนึ่ง ระดับกลาง อาจกล่าวได้ว่าคุณภาพของยานั้นไม่ธรรมดา
เม็ดยาสายฟ้าอัคคีดังกล่าว แม้แต่ผู้กลั่นยาที่ทรงพลังที่สุดในเมืองหยุนจงก็ไม่สามารถกลั่นออกมาได้ มันน่ากลัวจริงๆสำหรับคนรุ่นใหม่
เย่หยางหยูถอนหายใจด้วยอารมณ์ซับซ้อนและหันไปมองที่เย่สวี่ เนื่องจากเย่เฉียงนั้นแข็งแกร่งมาก ไม่ใช่เรื่องน่าอายสำหรับเย่สวี่ที่จะพ่ายแพ้ น่าเสียดายที่พวกเขานั้นเดิมพันอนาคตของตนเองในครั้งนี้
เมื่อทุกคนเห็นว่าเย่เฉียงปรุงยาสำเร็จแล้ว ความปิติยินดีต่างปรากฏบนใบหน้าของพวกเขา
หากพวกเขามีนักกลั่นโอสถก็หมายความว่า พวกเขาจะมีความมั่งคั่งไม่รู้จบและสถานะพิเศษที่ไม่มีใครกล้ารุกรานตระกูลเย่ บางทีพวกเขาอาจจะสามารถก้าวเข้าสู่เมืองหยุนหลานในอนาคตและได้รับผลประโยชน์มากมาย
ผู้อาวุโสใหญ่ไม่สามารถรักษาความสงบนิ่งของเขาได้อีกต่อไป เขามีความสุขเหลือเกิน และดูเหมือนว่าเขาจะภูมิใจยิ่งกว่าเย่เฉียงเสียอีก
ทุกคนล้วนมองไปที่เย่สวี่ เดิมทีพวกเขาคิดว่าเปลวไฟสีขาวนั้นจะถูกดับด้วยสมุนไพรที่เย่สวี่โยนเข้าไปในหม้อหลอมยา แต่ทว่าเปลวไฟยังคงลุกไหม้อยู่อย่างนั้น
ลักษณะของสมุนไพรเริ่มมีก็เปลี่ยนไป เมื่อสมุนไพรเริ่มละลายกลายเป็นของเหลว มันกลายเป็นของเหลวสีม่วงที่มีกลิ่นหอมเล็กน้อย
ผู้อาวุโสใหญ่เหลือบมองเย่สวี่และกลอกตา ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนว่า "เย่เฉียงกลั่นสำเร็จแล้ว เย่สวี่...แล้วเจ้าล่ะ?"
เสียงคำรามของเขาผสานกับพลังลมปราณของเขาเล็กน้อย ราวกับไม้กระบองทุบหัวใจของเย่สวี่อย่างดุเดือด
ด้วยเสียงระเบิดเล็กน้อย เปลวไฟขนาดเล็กในหม้อยาสีเขียวก็สลายไปในทันที ของเหลวยาที่กำลังจะควบแน่นกลายเป็นเม็ดยากลับระเบิดออกมา กลายเป็นสถานะไม่แข็งและเหลว เสียหายในทันที
“น่ารังเกียจ!” เย่เฉียนเฉียนจ้องมองที่ผู้อาวุโสใหญ่ เนื่องจากการที่ผู้อาวุโสใหญ่ทำเช่นนี้ เพราะเขาต้องการให้เย่สวี่ล้มเหลวในการปรุงยา!
เย่ไห่ยังมองดูผู้อาวุโสใหญ่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า "เจ้าไร้ยางอายที่เพิกเฉยต่อความยุติธรรมของการแข่งขัน"
“ไม่มีกฎเกณฑ์ใดที่ระบุว่าข้าไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ นอกจากนี้ ข้าแค่ถามว่า เย่สวี่ว่าเขากลั่นยาสำเร็จแล้วหรือไม่ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะล้มเหลวเสียแล้ว”
ผู้อาวุโสใหญ่หัวเราะอย่างไร้ยางอาย ในความเห็นของเขา ไม่สำคัญว่าเขาจะไร้ยางอายหรือไม่ ไม่ว่าในกรณีใด มันจะดีมากตราบใดที่บุตรชายของเขาสามารถชนะการแข่งขัน
กฎเกณฑ์ถูกกำหนดโดยผู้แข็งแกร่ง คนอ่อนแอไม่มีสิทธิ์อ้าปาก นอกจากนี้ผู้อาวุโสสี่ยังยิ้มแย้มและกล่าวว่า "ตอนนี้ข้าจะประกาศชัยชนะของเย่เฉียง"
แม้ว่าคนในตระกูลจะละอายต่อการกระทำของผู้อาวุโสใหญ่ แต่ทว่าเขามีบุตรชายที่เป็นนักกลั่นโอสถที่โดดเด่น อนาคตของตระกูลเย่จะเป็นของพวกเขาอย่างแน่นอน ทั้งบิดาและบุตรของเขา
ทุกคนมองไปที่เย่สวี่ด้วยความสงสารในสายตาของพวกเขา
“ผู้อาวุโสสี่ ท่านเป็นผู้นำของตระกูลเย่หรือ?” เย่สวี่พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ใบหน้าของผู้อาวุโสสี่มืดมนเนื่องจาก คำถามของเย่สวี่ทำให้เขาอับอาย
อย่างไรก็ตาม เขาตอบว่า "ข้าไม่ใช่ผู้นำตระกูล"
“งั้นเจ้าคือผู้อาวุโสสูงสุดหรือ?” เสียงเย็นชาของเย่สวี่ ยังคงพุ่งเป้าไปที่ผู้อาวุโสสี่ และเจตนาของเย่สวี่ ทำให้ใบหน้าของผู้อาวุโสสี่มึดครึ้ม
"ข้าไม่ใช่"
“ผู้อาวุโสสี่ ท่านสามารถเป็นตัวแทนของกฎตระกูลเย่ได้หรือไม่?”
"ไม่หรือ...." “บิดาของข้าและผู้อาวุโสสูงสุดล้วนยังไม่ได้พูดอะไรเลย ตระกูลของเราก็ไม่มีกฎแบบนั้น ทำไมเจ้าถึงกล้ายุติการแข่งขัน ผู้อาวุโสสี่ เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าหยิ่งยโสเกินไป
เจ้าคิดว่าคำพูดของเจ้าเป็นกฎตระกูลหรือ? "
" ข้าไม่... " การแสดงออกทางสีหน้าของผู้อาวุโสสี่เปลี่ยนไปอย่างมาก เหงื่อเย็นๆ ไหล ออกมาที่หน้าผากของเขา เขามองไปที่เย่สวี่ด้วยความหวาดกลัว ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าการด่าของเย่สวี่นั้นรุนแรงเพียงใด
“เย่สวี่เจ้าเป็นแค่ผู้แพ้ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาตั้งคำถามกับการตัดสินใจของผู้อาวุโสสี่?” ผู้อาวุโสใหญ่ตะโกนอย่างโกรธเคืองและหยิ่งผยอง
"ข้าแพ้?" ดวงตาของเย่สวี่เต็มไปด้วยความเย็นชา เขาไม่สนใจผู้อาวุโสใหญ่เลย เนื่องจากผู้อาวุโสใหญ่พยายามรบกวนสภาพจิตใจของเขา ไม่จำเป็นที่เขาจะพูดเรื่องไร้สาระกับชายแก่คนนี้
เขาหันกลับมาและพูดกับเย่หยางเหยา "ผู้อาวุโสสูงสุด ยังมีเวลาให้หนึ่งก้านธูป ก่อนการแข่งขันจะจบลง โปรดอนุญาตให้ข้าปรุงยาต่อไป"
เย่หยางหยูมองไปที่ เย่สวี่ด้วยความประหลาดใจ เย่สวี่ยังคงสงบนิ่งได้ แม้จะมีข้อสงสัยจากฝูงชน แต่ทว่าเย่สวี่นั้น เต็มไปด้วยความแน่วแน่
หากเขาจำไม่ผิด การระเบิดของยาเม็ดของเย่สวี่ไม่ได้เกิดจากการการตุกติกของผู้อาวุโสใหญ่ ก่อนที่เสียงตะโกนจะดังขึ้น เย่สวี่ได้ใช้พลังงานจิตวิญญาณของเขาเพื่อทำลายเม็ดยาลง!
แม้ว่าเย่หยางหยูจะไม่เข้าใจการกระทำของเย่สวี่ เมื่อเห็นว่าเย่สวี่มั่นใจ เขาก็รู้สึกพึงพอใจเงียบ ๆ เขาพยักหน้าและพูดว่า “เจ้ายังมีเวลา แน่นอน... เจ้าทำได้”
จากนั้นเย่สวี่กลับไปที่หม้อยาสีเขียวและเก็บกากยาทั้งหมดออกจากหม้อยา จากนั้นเขาก็ใส่ส่วนผสมใหม่ทั้งหมดลงไป
เย่ไห่ยืนอยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสใหญ่ เพื่อปกป้องเขาจากการลอบกระทำแผนการสกปรก
ผู้อาวุโสใหญ่สูดหายใจเย็น ๆ และนิ่งเงียบด้วยใบหน้ามืดมน ในมุมมองของเขา ยาเม็ดของเย่สวี่ถูกทำลายโดยเขา ในกรณีนั้น สภาพจิตใจของเย่สวี่นั้น ย่อมไม่ดีเท่าเมื่อก่อนอย่างแน่นอน
หากเย่สวี่ต้องการกลั่นยาเม็ดอื่น ภายในเวลาที่ใช้ในหนึ่งก้านธูป ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย
“เย่สวี่ยังคงต้องการปรุงยาต่อไปหรือไม่ เขาช่างน่าไม่อายจริง ๆ”
“แม้ว่าข้าจะไม่ได้คาดหวังในตัวเขา แต่ความมุ่งมั่นของเขาที่จะไม่ยอมแพ้นั้น สลักใจข้าจริง ๆ”
“ผู้อาวุโสใหญ่นั้น ช่างน่าละอายเหลือเกิน...เขาจงใจทำลายเม็ดยาของเย่สวี่ ไม่เช่นนั้นเย่สวี่อาจไม่พ่ายแพ้”
“อย่าพูดไม่ดีเกี่ยวกับผู้อาวุโสใหญ่ เย่สวี่จะต้องพ่ายแพ้ในครั้งนี้ เราต้องคิดถึงวิธีสร้างความสัมพันธ์กับผู้อาวุโสใหญ่ ...นี่คือสิ่งที่เราควรทำถึงจะถูก”
สมาชิกในตระกูลเย่ทุกคนถอนหายใจ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในการแข่งขัน เย่สวี่นั้นเสียเปรียบโดยสิ้นเชิง และเย่เฉียงจะกลายเป็นผู้นำตระกูล
ความสนใจของเย่สวี่จดจ่ออยู่ที่กระบวนการปรุงยา ภายในใจของเขา ทุกย่างก้าวดูเหมือนเขาเคยลงมือทำมาเป็นพันๆ ครั้ง เขาคุ้นเคยกับกระบวนการนี้อย่างมาก
วิธีการปรุงที่เย่สวี่ใช้ทักษะที่เรียกว่า คาถาห้าธาตุไม่ดับสูญ หลังจากที่เขาค้นพบทฤษฎีนี้แล้ว ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมนักกลั่นโอสถ จึงพบอุบัติเหตุจากการระเบิดบ่อยครั้งในระหว่างกระบวนการกลั่นเม็ดยา