ตอนที่แล้วตอนที่ 86 คืนนี้ยังอีกยาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 88 พวกสุภาพเกินไปมักมีเจตนาชั่วร้าย

ตอนที่ 87 มองไม่ทะลุ


หัวของเยวี่ยหมิงคงขาวโพลน นางทำการคำนวณนับไม่ถ้วนและจินตนาการมากายถึงวิธีที่กู่ฉางเกออาจใช้กับนาง แต่นางคาดไม่ถึงว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้

ไม่ใช่ว่าเขาเกลียดนาง?เขาเกลียดนางมากจนไม่อยากแตะตัวนาง ไม่งั้นทำไมเขาถึงฆ่นางอย่างเลือดเย็นในคืนแต่งงานโดยไม่ทำอะไรนางก่อน?

ความคิดของนางยุ่งเหยิง จากวินาทีที่นางเกิดใหม่ นางไม่เคยสับสนเช่นนี้เลย

เดิมที นางมีวิธีการมากมายเพื่อกำจัดกู่ฉางเกอ แต่การโต้กลับแรกเริ่มนางล้มเหลว นางจึงตัดสินใจไม่ทำอะไรอีก นางทำได้แค่ปล่อยให้กู่ฉางเกออุ้มนาง และพานางไปเตียง

เยวี่ยหมิงคงอดประหม่าไม่ได้ นางไม่เคยเจอกับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน นางไม่เข้าใจว่าทำไมกู่ฉางเกอถึงทำอะไรแบบนี้

นางคิดอะไรไม่ออก จากที่นางเข้าใจในตัวกู่ฉางเกอ ไม่มีทางที่กู่ฉางเกอจะทำอะไรแบบนี้ หรือการย้อนเวลาของนางจะทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปทางที่นางไม่รู้?

หรือกู่ฉางเกอจะเปลี่ยนไปเพราะนางย้อนเวลามา?

ความคิดต่างๆแวบผ่านหัวเยวี่ยหมิงคง และนางก็รู้สึกหัวโล่ง นางไม่สามารถเข้าใจความคิดของกู่ฉางเกอได้

“เห้อ!หมิงคง ข้าคิดว่าเจ้าเข้าใจสามีผิดมาตลอดนะ!”

กู่ฉางเกอพูดด้วยรอยยิ้มเยาะและจ้องใบหน้างามของหมิงคง

“กู่ฉางเกอ เจ้า..”

ตอนนี้ เยวี่ยหมิงคงมีอารมณ์ซับซ้นอมาก นางไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

โดยธรรมชาติ นางเกลียดกู่ฉางเกอ และความเกลียดก็ฝังลงกระดูก..แต่ในเวลาเดียวกัน นางก็รักเขามากกว่าอะไรทั้งนั้นเช่นกัน!

สุดท้าย ก็ไม่มีคำพูดใดระหว่างทั้งสองอีกทั้งคืน

[เรื่องราวระหว่างนั้นคงไม่ต้องเขียน]

[วันต่อมา]

เยวี่ยหมิงคงหายไปแล้วพอกู่ฉางเกอตื่น พอเขาเหลือบมองเตียงที่เป็นระเบียบ เขาก็คิดว่าเยวี่ยหมิงคงคงจัดการ

ในเวลาเดียวกัน การแจ้งเตือนระบบก็ดัง

[ติ้ง!ท่านได้สั่นคลอนหัวใจอาฆาตแค้นของธิดาสวรรค์ เยวี่ยหมิงคง!ท่านได้รับค่าโชค 500 และค่าโชคชะตา 2500 แต้ม!]

ใบหน้าของกู่ฉางเกอแสเงความสนใจ และจากนั้นก็อดหัวเราะลั่นไม่ได้

เรื่องได้ดำเนินไปทางที่เขาเลือกไว้แล้ว ตอนนี้ เยวี่ยหมิงคงน่าจะจมอยู่กับความสงสัยและคิดว่าที่เขาทำตอนนี้ต่างจากตัวเขาที่นางรู้จัก นางอาจลังคิดว่าตัวเขาในปัจจุบันก็ไม่ได้แย่

ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขี้สงสัย

สำหรับว่าสงสัยยังไง?ตราบเท่าที่มีเบาะแสเพียงน้อยนิด พวกนางจะเดาไปต่างๆนานา มันเหมือนกับว่าสมองพวกนางเต็มไปด้วยสิ่งที่อยากให้มี

เยวี่ยหมิงคงก็ไม่เว้น

‘ปัญหาถูกแก้ไขแล้ว แต่ข้าจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ถ้าอยากปราบนางอย่างสมบูรณ์’

กู่ฉางเกอคิดกับตัวเองขณะเดินออกตำหนักขเ

ในทางกลับกัน เยวี่ยหมิงคงได้เลี่ยงเขาสุดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า งานเลี้ยงอำลา หรือตอนที่จากไป นางไม่แสดงตัวสักครั้ง

กู่ฉางเกอไม่แปลกใจกับการกระทำของนาง แต่เขาสงสัยว่านางจะหลบซ่อนตัวแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไน?

อย่างที่พูดกันว่า’เจ้าสามารถหลบซ่อนได้ทั้งวัน แต่ไม่สามารถหลบซ่อนไปได้ตลอดชีวิต!’

พวกเขามีเวลาอีกเยอะ มันไม่จำเป็นต้องรีบ

ในทางกลับกัน กู่ฉางเกอกำลังเตรียมกลับไปวังเต๋าอมตะสวรรค์ เขาได้จากที่นั่นมากว่าครึ่งปีแล้ว แม้เขาจะเป็นศิษย์แท้จริงของวังเต๋าอมตะสวรรค์ และแม้แต่ตระกูลกู่ก็นหุนหลัง แต่สถานะเหล่านี้ก็ไม่สามารถช่วยเขาปิดปากคนได้

ในเงามืด มันยังมีหลายคนไม่พอใจเขา

แถม โครงสร้างอำนาจภายใต้วังเต๋าอมตะสวรรค์ยังซับซ้อนกว่าตระกูลกู่ แทบทุกคนในวังมีเงาของตระกูลใหญ่หนุนหลัง

วังเต๋าอมตะสวรรค์คือที่ที่ตัวตนผู้ทรงอำนาจสุดของอาณาจักรเบื้องบนกำลังเล่นเกมกัน

..

[ระหว่างทางกลับราชวงศ์เซียนสูงสุด]

เยวี่ยหมิงคงนั่งสมาธิภายในรถม้าที่ทำจากทองดำ ซึ่งถูกลากโดยฟีนิกส์เก้าตัว นางดูเหมือนจะตกอยู่ในห้วงความคิด คนสามารถเห็นความวิตกกังวลบนหน้านางได้

สาวใช้ที่ดูแลนางอดตัวสั่นไม่ได้ และไม่กล้าจ้องมองมาก เยวี่ยหมิงคงแปลกไปตั้งแต่ที่นางเห็นตอนเช้า นางดูเหมือนคนกำลังขบฟันและแผ่กลิ่นอายดำมืด นางดูต่างจากเจ้าหญิงรัชทายาทที่สูงส่งและไม่แยแส

การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ทำให้นางสั่นสะท้านถึงแกน และกังวลว่าชีวิตจะดับ

เหนือสิ่งอื่นใด นางรู้ดีว่าเยวี่ยหมิงคงได้รับตำแหน่งนมี้ได้ไง คุณหนูของนาเป็นผู้หญิงโหดเหี้ยม และสั่งประหารคนนับไม่ถ้วนรอบตัวนาง ตอนถามถึงเหตุผล นางแค่บอกว่านางทำไปเพราะชอบ

เหตุการณ์เหล่านื้ยังสดใหม่ในหัวนาง และนางก็กลัวว่านางอาจลงเอยเหมือนคนพวกนั้น

เยวี่ยหมิงคงไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

จากนั้น เยวี่ยหมิงคงดูเหมือนจะเหนื่อยกับการคิด นางนวดขมับและถามสาวใช้นาง“หวนเอ๋อร์ เจ้าคิดว่านายน้อยฉางเกอเป็นคนแบบไหน?”

สาวใช้ตัวสั่นด้วยความกลัว

“องค์หญิง ข้าไม่กล้าพูดอะไรเกี่ยวกับนายน้อยฉางเกอเหรอเจ้าค่ะ!”

นางตอบด้วยเสียงสั่นเครือ

นางแค่กล้าพูดถึงว่าที่พระสวามีของเยวี่ยหมิงคงลับหลังเท่านั้นถ้านางเบื่อชีวิต แต่ตอนนี้นางยังไม่เบื่อชีวิต

“ไม่เป็นไร ข้าอนุญาต!”

เยวี่ยหมิงคงจ้องนางด้วยสาตาเย็นชา

หวนเอ๋อร์กัดฟัน“จากที่บ่าวเห็น นายน้อยฉางเกอกับท่านคือคู่กิ่งทองใบหยก พวกท่านดูเหมือนคู่รักฟ้าประทานตอนยืนด้วยกัน นอกจากนั้น นายน้อยฉางเกอยังมีพรสวรรค์ไร้ผู้ใดเทียบและเขาจะเป็นคนที่ดูแลทั้งตระกูลกู่ในอนาคต”

“แม้จะมีข่าวลือมากมายในโลกภายนอกที่อ้างว่านายน้อยฉางเกอคือคนโหดเหี้ยมที่คุยด้วยยาก แต่ข้ารู้สึกว่าข่าวลืออาจผิด จากที่บ่าวเห็น นายน้อยฉางเกอมีนิสัยอ่อนโยน และไม่ว่าใครจะคุยกันเขา พวกเขาจะรู้สึกเหมือนถูกชะโลมด้วยน้ำพุร้อน!’

เยวี่ยหมิงคงโบกมือให้นางหยุดหลังฟังไปมาก นางไม่พูดอะไร แต่ใบหน้ากลับเย็นชากว่าเดิม

อ่อนโยน?นั่นแค่หน้ากาก

น้ำพุร้อน?นางจะไม่รู้สึกอะไรจากเขาได้ไง?

เยวี่ยหมิงคงอดขยุ้มผ้าปูเตียงในมือนางแน่นกว่าเดิมไม่ได้พอคิดถึงเรื่องนี้ มันสามารถเห็นสีแดงเบ่งบานอยู่บนผ้าได้

‘กู่ฉางเกอ แม้แต่ข้าที่ใช้ชีวิตมาสองชีวิตก็ยังมองทะลุเจ้าไม่ได้!’

เยวี่ยหมิงคงมีสีหน้าซับซ้อน

ระหว่างทางไปตระกูลกู่ มีหลายสิ่งที่เหนือความคาดหมายของนาง นางคิดว่านางจะสามารถเล่นกู่ฉางเกอไว้ในฝ่ามือได้ แต่ตรงข้ามกับความคิด นางกลับเป็นฝ่ายถูกเล่น

นางกำลังเต้นบนฝ่ามือเขา!

ข้อได้เปรียบทั้งหมดที่นางได้รับผ่านการย้อนเวลาต่างไร้ประโยชน์

‘นี่ทำให้ข้ายิ่งมีเหตุผลที่ต้องฆ่าเจ้า กู่ฉางเกอ ข้าจะเอาคืนเจ้า!’

..

[อาณาจักรเบื้องบน เขตชั้นนนอก ดินแดนเซียนต้องห้าม]

เทือกเขาโบราณไร้สิ้นสุดสูงเสียดฟ้า และมีต้นไม้โบราณที่ปกคลุมด้วยเถาวัลย์รอบมันเหมือนเนินเขา เมฆมืดปกคลุมฟ้า ทำให้มันดูโบราณอย่างมาก อสูรน่ากลัวเดินเตร็ดเตร่อยู่ทั่ว และสามารถได้ยินเสียงคำรามเป็นครั้งคราว

หยานจีมาถึงส่วนลึกของดินแดนแล้ว

ตอนนี้ นางยืนบนต้นไม้สูง และมองหมู่บ้านลึกลับในระยะไกล ท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านปกคลุมด้วยชั้นหมอกและน้ำแข็ง เมื่อใดก็ตามที่สัตว์อสูรผ่านหมู่บ้าน มันจะแสดงสีหน้าระมัดระวังและรีบวิ่งผ่านหมู่บ้านไป

ตอนสัตว์อสูรมองหมู่บ้าน พวกมันจะเผยใบหน้าหวาดกลัวและเคารพ

‘นายน้อยรู้ได้ไงว่ามีหมู่บ้านลึกลับเช่นนี้ในส่วนลึกของดินแดนต้องห้าม และต้นท้อลึกลับนั่นมันอะไร?’

‘แถม ทำไมต้นไม้นี้ถึงคล้ายกับต้นไม้ที่มีในบันทึกโบราณ?ไม่ใช่ว่ามันหายไปหลายยุคสมัยแล้วหรือ?’

หยานจีปกปิดกลิ่นอายนางอย่างระมัดระวัง

แม้นางจะอยู่อาณาจักรจอมเทพศักดิ์สิทธิ์แล้ว นางก็อดตื่นตระหนกไม่ได้

ไม่ว่านางจะมองหมู่บ้านนี้ยังไง นางก็สามารถบอกได้ว่ามันไม่ธรรมดา มีบางอย่างน่ากลัวเกี่ยวกับหมู่บ้าน!

แถม กู่ฉางเกอยังเตือนนางให้รีบใช้เครื่องรางทำลายเขตแดนทันทีที่เจอภัยคุกคาม

[ซวบ!]

สีหน้าของหยานจีเปลี่ยนไปขระได้ยินเสียงบางสิ่งแหวกอากาศ

มันคือดอกท้อ!มันเป้นดอกท้อที่เปล่งแสงเจิดจ้า แต่ตอนนี้ มันคล้ายกับดาบเซียนสูงสุด!พลังน่ากลัวกดทับนาง และมันก็ราวกับดอกท้อสามารถตัดผ่านจักรวาลได้!

[บูม!]

มิติแยกเปิด และรอยร้าวก็ปรากฏทั่ว มันคือการฉีกมิติน่ากลัวมากที่นางไม่สามารถต่อต้านได้ด้วยพลังปัจจุบัน

ใบหน้าของหยานจีซีด และนางก็ใช้เครื่องรางทำลายเขตแดนนโดยไม่ลังเล เครื่องรางในมือนางเปล่งแสงเจิดจ้า แสงแห่งการทำลายล้างและอักขระต่างๆปรากฏรอบมัน

[บูซ!]

มิติด้านหน้านางเลือนรางและจากนั้นอุโมงค์มิติก็ปรากฏขึ้น โดยไม่ลังเล หยานจีหลบหนีเข้าไป ปฏิกิริยาของนางฉับไวมาก แต่นางยังกระอักเลือดคำต่อเมื่อพลังบางส่วนโดนนาง!

แต่ก่อนมันจะโจมตีนางอย่างสมบูรณ์ อุโมงค์มิตินางก็ปิดตัว แต่นางก็ยังบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีเพียงเสี้ยวเดียวนั้น

โชคดี นางสามารถรอดพ้นไปได้

[ไกลออกไปแสนลี้]

ร่างของหยานจีพลันปรากฏจากความว่างเปล่า ความกลัวยังปกคลุมหัวใจนาง และนางก็อดหลั่งเหงื่อเย็นไม่ได้

‘ถ้าไม่ใช่เพราะเครื่องรางที่นายน้อยมอบให้ข้า ข้าคงตายไปแล้ว ดินแดนเซียนต้องห้ามน่ากลัวเกินไป’

‘ข้าต้องบอกให้นายน้อยจับตาดูการเคลื่อนไหวที่นั่น เขาต้องกำลังมองหาหมู่บ้านท้อนั่น ข้าต้องกลับไปแจ้งเขาให้เร็วที่สุด’

ร่างของหยานจีหายไป และมุ่งตรงไปเขตชั้นในของอาณาจักรเบื้องบน

อาณาจักรเบื้องบนกว้างใหญ่มากและแม้กระทั่งจอมเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างนางก็ต้องใช้เวลาเป็นสิบปีพเอเดินทางข้ามเขตชั้นนอก หากไร้ค่ายกลเคลื่อนย้ายหรืออุโมงค์มิติที่เชื่อมต่อดินแดนไว้ ผู้บ่มเพาะธรรมดาจะไม่มีวันออกจากพื้นที่ที่ตัวเองเกิดไปได้ทั้งชีวิต

..

[ย้อนกลับไปในดินแดนเซียนต้องห้าม]

ต้นท้องดงามด้านนอกหมู่บ้านท้อขยับเล็กน้อย ดอกท้อของมันดูงดงามมาก และทุกกลีบก็ดูเหมือนจะเป็นหยกชั้นดี

“นางกลับสามารถหนีได้..ดูเหมือนข้าจะประมาทไป ใครจะไปคิดว่านางจะครองเครื่องรางทำลายเขตแดน”

“นางไม่มีกลิ่นอายตระกูลกู่บนตัว นางไม่ควรมาที่นี่เพื่อเซียนเอ๋อร์ แล้วนางเป็นใคร?”

“มันดูเหมือนว่าความสงบสุขของหมู่บ้านท้อคงจะหายไปในไม่ช้า”

เสียงน่าฟังของต้นท้อดังไปทั่ว แต่ไม่ช้าก็ตกอยู่ในความเงียบ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด