ตอนที่ 8 ความท้าทาย
เสียงคำรามของมอนเตอร์ดึงดูดความสนใจของชายหนุ่ม ปัจจุบันเขาอยู่ในเขตเก็บเลเวลนอกเมืองโยดาซึ่งไม่มีอะไรเลยนอกจากมอนเตอร์บางประเภทที่มีเลเวลตั้งแต่เลเวล 8 ถึง 10 ซึ่งคือนักรบก็อบลิน ชายหนุ่มคนนี้มีเลเวล 4 เท่านั้น แต่การเก็บเลเวลที่นี่นั้นเป็นเพียงชิ้นเค้กสำหรับเขาเพราะวิชาดาบของเขา
เสียงคำรามดังมาจากที่ไกลจากตัวเขาซึ่งหมายความว่ามีคนอื่นกำลังเก็บเลเวลในเขตนอกเหนือจากเขา
มันกระตุ้นความสนใจของเขา แม้ว่าจะมีการกล่าวว่ามอนเตอร์ส่วนใหญ่ที่อยู่นอกพื้นที่เริ่มต้นจะโจมตีผู้เล่นอย่างแข็งขัน แต่นี่เป็นหนึ่งในเมืองแรกที่ผู้เล่นสามารถมาได้่หลังจากที่ออกจากพื้นที่เริ่มต้น มอนเตอร์หลายประเภทในบริเวณใกล้เคียงมีความเป็นกลาง ทำให้ผู้เล่นสามารถโจมตีและต่อสู้กับพวกมันได้ทีละตัว
อย่างไรก็ตาม ป่าแห่งนี้นั้นแตกต่าง มีเพียงนักรบก็อบลินที่โจมตีผู้เล่นอย่างแข็งขัน และจุดเกิดของพวกมันก็ค่อนข้างหนาแน่น มีผู้เล่นไม่มากนักที่เลือกจะเก็บเลเวลที่นั่นเพราะพวกเขาอาจโดนก็อบลินล้อมหากพวกเขาไม่ระวังมากพอ ความเสี่ยงที่จะสูญเสียอุปกรณ์และทองจากความตายนั้นไม่คุ้นค่า หลังจากเก็บเลเวลที่นี่ได้สองวัน มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคนอื่น
“หนึ่ง… สอง… สาม…”
ด้วยความประหลาดใจ ชายหนุ่มซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ในขณะที่เขาสังเกตการต่อสู้ระหว่างชายหนุ่มที่ถือหอกกับนักรบก็อบลินสามตัว ชายคนนี้มีชื่อค่อนข้างแปลก : ดราก้อนสเปียร์
ก็อบลินทั้งสามโบกกระบองที่มีหนามแหลมใและฟาดไปยังชายคนนั้นด้วยความดุร้าย เกิดเสียงเล็กแหลมออกมาในขณะที่เขาเหวี่ยงหอกเพื่อป้องกันการโจมตีแต่ละครั้ง ชายคนนี้มักจะแทงหอกออกไปเมื่อก็อบลินเปิดเผยช่องว่างในการป้องกันหลังจากการโจมตี
เขาไม่ได้ใช้แม้แต่ทักษะเดียว
ในเวลาเพียงครึ่งนาที นักรบก็อบลินทั้งสามตัวมีพลังชีวิตเหลือครึ่งหนึ่ง ด้วยความเร็วนี้ ชายที่ชื่อว่าดราก้อนสเปียร์กำลังจะสังหารมอนเตอร์ด้วยความเร็วสามเท่า!
“อู้วววว!” นักรบก็อบลินทั้งสามตัวร้องออกมาด้วยบความโกรธในขณะที่พวกมันเอื้อมมือไปที่เอวของพวกมัน
ดวงตาของชายหนุ่มเปล่งประกาย ทักษะการขว้างหินของก็อบลินนั้นรวดเร็วมาก เมื่อนักรบก็อบลินขว้างหินของพวกมัน การโจมตีมักจะสามารถลดพลังชีวิตของเขาได้เล็กน้อย
เมื่อพิจารณาถึงความหรูหราอุปกรณ์ของเขา ความเสียหายอันเล็กน้อยไม่ใช่สิ่งที่เขาจำเป็นต้องใส่ใจ ถึงอย่างนั้น แม้ว่าเขาจะจะขาดประสบการณ์การเล่นเกม แต่เขาก็สามารถบอกได้ว่าดราก้อนสเปียร์นั้นสวมใส่อุปกรณ์เริ่มต้นนอกจากจากหอกของชายคนนี้
ดราโก้เหยาไม่แม้แต่จะกระพริบตาเมื่อหินใกล้เข้ามา
เร็วเหรอ? เมื่อเทียบกับเมล็ดพืชที่ตาแก่บ้าสะบัดใส่เขาแล้ว หินที่บินกำลังบินผ่านอากาศนั้นช้าราวกับหอยทาก เขามั่นใจว่าเขาสามารถป้องกันหินทั้งสามก้อนได้โดยการฟังแค่เสียง ไม่ต้องกล่าวถึงว่าเขาสามารถมองเห็นวิถีได้อย่างชัดเจนในตอนนี้
หอกพุ่งอย่างรวดเร็วราวกับสายลม การโจมตีทั้งหมดของเขาพุ่งไปที่เป้าหมายของมัน ก็อบลินทั้งสามตัวกลายเป็นควันสามก้อน เหลือทิ้งไว้เพียงแค่เหรียญทองและค่าประสบการณ์ไว้เบื้องหลังก่อนที่พวกมันจะหายไป หลังจากเก็บเหรียญทองแล้ว ดราโก้เหยาก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไปของเขา
“ดะ… เดี๋ยวก่อน” ทันใดนั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากด้านหลังต้นไม้ ทำให้ดราโก้เหยาตกใจ
ตามชื่อของมัน ตัวละครในเรียลเวิลด์ก็มีลักษณะเหมือนกับผู้เล่นในชีวิตจริงทุกอย่าง ความหวังของหลายคนที่ต้องการสร้างตัวละครที่น่าดึงดูดราวกับดารานั้นถูกบดยี้อย่างไร้ความปราณี นอกจากนี้ ผู้เล่นจำนวนหนึ่งก็เคยคว่ำบาดรเกมนี้เพราะระบบตัวละครเช่นกัน
คนที่ยืนอยู่หน้าดราโก้เหยาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีคที่ดูเหมือนกับอายุใกล้เคียงกับเขา ใบหน้าอันสง่างามของชายหนุ่มพร้อมกับผิวขาวอมชมพูเปล่งประกายออร่าของขุนนาง
“ขอโทษนะครับ คุณมีเวลาให้ฉันหน่อยได้มั้ย?”
ดราโก้เหยามองดูชายหนุ่มที่ชื่อซาซากิและตอบกลับว่า “มีอะไรเหรอ?”
ในขณะที่แสดงรอยยิ้มของนักรบ ซาซากิก็กล่าวว่า “ต่อสู้กับฉัน!”
รูม่านตาของดราโก้เหยาหดเกร็งในขณะที่เขามองดูชายหนุ่มอย่างประหลาดใจ “เหตุผลล่ะ?”
“เพราะฉันอยากแข็งแกร่งขึ้น!”
ซาซากิเก็บอุปกรณ์ไว้ในกระเป๋าของเขาทีละชิ้น ดราโก้เหยามองดูเขาทำแบบนั้นอย่างเงียบงัน สัมผัสของเขาในฐานะนักออกแบบเกมนั้นรู้สึกเสียวซ่าน
อุปกรณ์ของชายหนุ่มนั้นมีค่ามาก โดยทุกชิ้นเป็น ‘สีเขียว’ ซึ่งเป็นไอเท็มไม่ทั่วไป พวกมันเป็นอุปกรณ์ที่จะกลายเป็นขยะในอีกหนึ่งหรือสองสัปดาห์ แต่พวกมันมีค่ามากและหาได้ยากในปัจจุบัน
หลังจากถอดอุปกรณ์ราคาแพงทั้งหมดของเขาแล้ว ซาซากิก็เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์เดียวกันกับดราโก้เหยา—อุปกรณ์เริ่มต้นทั้งหมดยกเว้นดาบที่เขาถืออยู่ซึ่งเป็น ‘สีน้ำเงิน’ ที่เป็นไอเท็มหายากที่ชื่อว่าดาบยาวโลหะละเอียด
ในเรียลเวิลด์ คุณภาพของไอเท็มนั้นถูกแบ่งด้วยสี่สี : ขาว เขียว น้ำเงิน และส้ม สีขาวคือคุณภาพทั่วไป สีเขียวคือคุณภาพไม่ทั่วไป สีน้ำเงินคือคุณภาพหายาก และสีส้มคือคุณภาพมหากาพย์
เขาถือดาบยาวหายากไว้ในมือของเขา เพียงแค่ดาบอย่างเดียว เมื่อขายเป็นเงินสดก็สามารถได้รับเงินอย่างน้อย 5,000 ดอลลาร์
“ฉันไม่มีดาบอื่น คุณไม่มีปัญหาใช่มั้ย?”
เมื่อมองไปที่เปลวเพลิงแห่งเจตจำนงการต่อสู้ในสายตาของซาซากิ ดราโก้เหยาก็รู้สึกงงงวยเล็กน้อยกับความเร่าร้อนของชายหนุ่มคนนี้
…
“ตาแก่บ้า ทำไมเราต้องต่อสู้กันตลอดเวลาเลยล่ะ? ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?”
ในขณะที่เด็กหนุ่มถอยกลับมาในขณะที่ถือแท่งไม้ยาวง ตาแก่บ้าผู้ที่ถืออาวุธเดียวกันก็โจมตีและหาวออกมา
“ประโยชน์ของการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ก็คือการป้องกันตัว เพื่อป้องกันตัวเอง คนที่นายอยากปกป้อง และสิ่งที่นายอยากปกป้อง กุญแจสำคัญของศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดก้คือการยุติความขัดแย้งทั้งหมด”
“น่ารำคาญมาก!” ในขณะที่ฟังคำสั่งสอนของตาแก่บ้า เด็กหนุ่มก็ประมาทและถูกแท่งไม้ยาวฟาดเข้าที่ไหล่ ความรู้สึกแสบร้อนแผ่ออกมาจากจุดที่โดนฟาด
“หากนี่เป็นหอกจริง ไหล่ของนายคงขาดไปแล้ว” ตาแก่บ้าเหวี่ยงแท่งไม้ของเขาราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของแขน บังคับมันได้อย่างอิสระและสมบูรณ์แบบราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขา มืออีกข้างหนึ่งของเขากำลังถือแอปเปิ้ลอยู่ในขณะที่เขาเคี้ยวแอปเปิ้ลอย่างสบายใจ
“ในอนาคต นายจะรู้ว่ามีการต่อสู้ที่นายไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้” ตาแก่บ้ากล่าวอย่างคลุมเครือด้วยปากที่เต็มไปด้วยแอปเปิ้ล “ในฐานะนักรที่แท้จริง มีการต่อสู้ที่นายไม่อาจหลีกเลี่ยง”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับผม! ผมไม่ใช่นักรบ!” เด็กหนุ่มตะโกนอย่างโกรธแค้น
หากปรมจารย์หอกมาเห็นการต่อสู้ พวกเขาจะต้องตกตะลึงในความสามารถของเด็กหนุ่มในด้านหอกอย่างแน่นอน มันไม่ใช่สิ่งที่จะเห็นได้จากเด็กหนุ่มอายุสิบสามปี
“กล้าย้อนเหรอ?”
“ฟู่วว… ตาแก่บ้า! ดูสิว่าคุณกำลังแทงไปที่ไหน! หากเชื้อสายของตระกูลเหยาหายไป มันจะเป็นเพราะคุณ!”
…
ดราโก้เหยากลับมาจากการดำดิ่งสู่ห้วงแห่งความทรงจำ ซาซากิอยู่ตรงหน้าเขา ถือดาบยาวพร้อมกับเปล่งออร่าเจตจำนงการต่อสู้อันเข้มข้น
“นี่คือการคต่อสู้ที่ตาแก่บ้าพูดถึงเหรอ?” ดราโก้เหยาพึมพำและกำหอกของเขาแน่น
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความท้าทาย นักรบที่แท้จริงจะไม่สามารถหนีจากพวกมันได้ การหลบหนีก็คือการสูญเสียความเป็นตัวเอง การสูญเสียที่จะคงอยู่ตลอดกาล
“เข้ามาสิ” ดราโก้เหยาวาดขาขวาอย่างมั่นคง ชี้หัวหอกรุ่งอรุณไปที่ซาซากิ
ในระหว่างการจ้องมองกัน ก็อบลินก็ได้เกิดมาใหม่แล้ว โดยไม่สนใจการต่อสู้ของพวกมันเลย นักรบก็อบลินทั้งสามตัวที่ดราโก้เหยาเพิ่งสังหารไปนั้นพุ่งเข้าใส่ผู้เล่นทั้งสองคน ตัวหนึ่งวิ่งไปทางดราโก้เหยาในขณะที่อีกสองตัววิ่งไปทางซาซากิ
ผู้เล่นสองคนก้าวไปข้างหน้าในเวลาเดียวกัน เพิกเฉยต่อก็อบลินที่เข้ามา พวกเขาเพียงแค่พุ่งเข้าหากันเพื่อการต่อสู้ของพวกเขาเท่านั้น
ดราโก้เหยามีสายตาแหลมคมของอินทรีในขณะที่หอกของเขาพุ่งตรงไปหาซาซากิราวกับมังกร มันเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าการโจมตีนั้นเป็นการโจมตีปกติ ซาซากิก้าวเท้าซ้ายไปด้านข้างและบิดตัว แม้ว่าระบบจะลดพลังชีวิตของซาซากิไปเล็กน้อย
ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ต่างจากการหลีกเลี่ยงการแทง เนื่องจากการโจมตีไม่ได้ส่งผลกระทบต่อซาซากิแม้แต่น้อย เมื่อหลบ เขาก็เหวี่ยงดาบฟันลงไปที่หัวของคู่ต่อสู้ของเขา
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน