SGS บทที่ 123 – ไม่เจอกันนานแค่ไหนแล้วนะ? และ การทักทายอันแสนพิเศษล่ะ! (ฟรี)
ณ บ้านตระกูลมิดเดอร์เรีย บริเวณทางเข้า.......
บางทีอาจะเป็นเพราะข่าวที่กลุ่มทหารรับจ้างสุนัขเหล็กพากันแห่มาตระกูลมิดเดอร์เรีย ทำให้ในตอนนี้นอกจากคนของเทียนเกอร์แล้วก็ยังมีเหล่าชาวบ้านตาดำๆที่พากันยกขบวนมาดูเรื่องสนุก
ไม่นานนักในฝูงชนก็เกิดเสียงกรีดร้องขึ้น เป็นเพราะพวกเขารู้แล้วว่าคนที่มาหาเรื่องตระกูลมิดเดอร์เรียเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของจักรวรรดิไอย์ลู ตระกูลโลลิ!
ฟังเสียงร้องและพูดคุยของชาวเมือง ยิ่งฟังมากเท่าไหร่ใบหน้าเทียนเกอร์ก็ยิ่งบานขึ้นด้วยความสุข! หลังจากวันนี้เป็นต้นไปเมื่อข่าวที่เขาพาคนตระกูลโลลิมาช่วยแพร่กระจายออกไป ชื่อเสียงของกลุ่มทหารรับจ้างสุนัขเหล็กก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด!
ในทางตรงกันข้ามกับเทียนเกอร์ ยิ่งฟังเสียงพูดคุยของชาวเมืองมากเท่าไหร่ใบหน้าของสองสาว ลูลู่ และ เฟยเฟย ก็ยิ่งน่าเกลียดลง พวกเธอรู้สึกหงุดหงิดมาก! สองสาวไม่อยากให้เรื่องในวันนี้แพร่กระจายออกไปแต่กลับได้ผลตรงกันข้าม......
ขณะเดียวกันไอ้หนุ่มหน้าหล่อก็ยังไม่สนโลก สายตาเขาจดจ่ออยู่ที่ตัวลูลู่อย่างเดียว........
ชั่วขณะหนึ่ง บานประตูบ้านของมิดเดอร์เรียก็ค่อยๆเปิดออก ในเวลานี้เสียงพูดคุยจ่อแจทั้งหมดก็กลายเป็นเงียบกริบ เพราะพวกเขารู้ว่าการแสดงของจริงมาแล้ว!
เกรย์และเหล่าสมาชิคกับพวกบอดี้การ์ดก็ได้เดินกันออกมา แต่ที่ทำให้ฝูงชนสงสัยก็คือคนที่เดินนำหน้าไม่ใช่เกรย์ แต่เป็นชายหนุ่มและสาวงามทั้งสามบวกกับสาวน้อยน่ารักอีกหนึ่ง
เมื่อเห็นใบหน้าชายหนุ่มคนนี้ ลูลู่กับเฟยเฟยก็นิ่งอึ้งไป
เห็นแบบนี้เทียนเกอร์ก็หุบยิ้ม แล้วหัวเราะเยาะเย้ยแทน “เกรย์ ในที่แกก็โผล่หัวออกมาจนได้ เหอะ ข้าก็อุตสานึกว่าแกจะกลัวจนวิ่งหนีไปแล้วซะอีก.......”
เกรย์ไม่ตอบ แต่เป็นวู่หยานที่ยืนอยู่ข้างๆที่เห็นว่าเกรย์กำหมัดแน่น ดูเหมือนในใจเกรย์จะไม่ได้สงบเหมือนสีหน้า
แต่ก็นะ เชื่อได้เลยว่าต่อให้เป็นใคร พอเจอแบบนี้ไป ไม่โกรธก็แปลกแล้ว ลองดูคนของอีกฝ่ายสิ......
โดยยังไม่ต้องเอ่ยถึงพวกลูกน้อง เกรย์ก็สามารถสัมผัสปราณกับพลังเวทย์จากร่างกายอีกฝ่ายได้ ทำให้เขารู้ว่ามีอยู่10คนไม่นับเทียนเกอร์ที่เป็นแรงค์6!
หรือก็คือเขาต้องเผชิญหน้ากับคนที่อยู่ในระดับเดียวกันถึง10คนหรืออาจจะแข็งกว่าตัวเองอีก!
ไม่เพียงแค่นั้น หนึ่งในสี่คนที่ยืนอยู่ด้านหน้า หญิงสาวผมสีเงินเป็นคนที่เขามองพลังอีกฝ่ายไม่ออกเลย!
โดยปกติแล้ว ถ้าเราไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของอีกฝ่าย มันสามารถตีความได้แค่ หนึ่ง อีกฝ่ายได้บ่มเพาะวิชาแปลกๆที่สามารถปิดกั้นพลังปราณไม่ก็พลังเวทย์ได้ สอง อีกฝ่ายมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองมากจนทำให้ไม่สามารถตรวจวัดระดับพลังได้
แต่เกรย์สามารถรู้สึกได้ถึงอันตรายจากตัวสามผมเงิน ดังนั้น เขาก็ได้ข้อสรุปว่า เธอต้องเป็นข้อหลัง!
หรือก็คือ เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญแรงค์7!
ในใจเกรย์ยกยิ้มอย่างขมขื่น ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเดาไว้ก่อนแล้วก็เถอะ ที่ว่าตระกูลโลลิจะไม่มีแรงค์7ได้ยังไงใช่ไหม? แต่พอเจอเข้าจริงๆเขาก็ตระหนักได้ว่าตัวเองประเมินสถานการณ์ต่ำไป
เขารู้ว่าถ้าอยากผ่านเหตุการณ์ในวันนี้ไปให้ได้มันมีโชค และต้องมีเยอะมากด้วย.......
ลูลูและเฟยเฟยยืนเด่นอยู่ด้านหน้าของทุกคน แล้ววู่หยานจะไม่เห็นพวกเธอได้ยังไงล่ะ? ตอนแรกเมื่อเขาเห็นคนคุ้นตา วู่หยานก็ประหลาดใจ และต่อจากนั้นก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขายังคิดเล่นๆอยู่เลยว่า ถ้าคนที่มาเป็น ลูลู่ กับ เฟยเฟย คงจะสนุกน่าดู แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าดันได้เจอจริงๆ!
หลังดึงสติกลับมาได้ มองดูสีหน้ายิ้มแย้มของเทียนเกอร์ มุมปากของวู่หยานก็ค่อยๆโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะทำหน้าครุ่นคิด
นี่ถ้าเทียนเกอร์มันรู้ว่าเขากับรู้จักกับลูลู่ และ เฟยเฟย ไม่รู้ว่ามันจะทำหน้ายังไงกันนะ?
ทันใดนั้นวู่หยานก็รู้สึกคาดหวังอย่างมาก อยู่ๆเขาก็คิดอะไรออกก่อนจะแกล้งทำสีหน้าจริงจังแล้วหลบไปเดินอยู่ตามเกรย์แทน
มองดูทั้งสี่คนตรงหน้า เกรย์เมินเทียนเกอร์โดยสิ้นเชิง แล้วถามอีกสามคนที่เหลือว่า “พวกเธอสามคนเป็นใคร?”
โดนเกรย์เมิน ทำให้เทียนเกอร์โมโหขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินคำถามเกรย์ มันก็รีบหัวเราะเยาะแล้วพูดว่า “ทั้งสามท่านเป็นคนชั้นสูงที่คนระดับแกไม่มีทางรู้จักเด็ดขาด แต่ก็ดีฉันจะบอกให้เอาบุญเอง หวังว่าแกจะไม่กลัวจนฉี่แตกไปซะก่อนล่ะ!”
จากนั้น มันก็ชี้ไปทางหนุ่มหล่อ
“ท่านชายคนนี้คือลูกศิษย์สายตรงของผู้นำตระกูลโลลิ เป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากจนได้รับการประทานนามสกุลโลลิจากท่านผู้นำตระกูลด้วยตัวเอง ท่าน ฮิวจ์ โลลิ!!”
เกรย์ตัวสั่นเล็กน้อย ตอนแรกเขาก็คิดว่าคนที่มาคงไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมาก แต่นี้กลับเป็นถึงลูกศิษย์สายตรง......
สีหน้าท่าทางของเขาเป็นแบบเดียวกับเทียนเกอร์ ยามที่ได้ยินครั้งแรก.....
เห็นสีหน้าของเกรย์ เทียนเกอร์ยิ่งยิ้มกว้างด้วยพอใจ ก่อนจะชี้ไปที่ตัวเฟยเฟย “ท่านหญิงคนนี้ก็เป็นลูกศิษย์สายตรงของผู้นำตระกูลโลลิ แถมท่านนี้ยังได้เข้าเป็นศิษย์ก่อนด้วยท่านฮิวจ์ด้วย และเธอยังเป็นองครักษ์เพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับหน้าที่พิทักษ์ลูกสาวของผู้นำตระกูลโลลิ ท่าน เฟยเฟย โลลิ!!”
พูดเสร็จก็ชี้นิ้วต่อไปที่ลูลู่ คราวนี้รอยยิ้มของเทียนเกอร์ยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม “ส่วนคุณหนูท่านนี้คือ ลูกสาวเพียงคนเดียวของผู้นำตระกูลโลลิ เมอร์ริวลู่ โลลิ!!” (@นี่คือชื่อเต็มครับ ชื่อเล่นคือ ลูลู่)
ยิ่งฟังเทียนเกอร์แนะนำ ในใจเกรย์ก็ยิ่งหนักอึ้ง โดยเฉพาะคนสุดท้าย เมื่อได้ยินว่า ‘ลูกสาวเพียงคนเดียวของผู้นำตระกูลโลลิ’ ความหนักอึ้งในใจยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
ลูกศิษย์สายตรงของผู้นำตระกูลโลลิ? แล้วยัง ลูกสาวเพียงคนเดียว?
นาทีนี้เกรย์กล้าพนันเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นตระกูลไหนในจักรวรรดิไอย์ลูก็ย่อมไม่มีความกล้าที่จะไปยุแหย่ให้ทั้งสามคนโกรธแน่
แล้วตัวตนระดับกลับมาตระกูลมิดเดอร์เรีย......
ในใจเกรย์รู้สึกเจ็บปวด แต่เขาก็ยังคงก้มหัวเคารพ ลูลู่และเฟยเฟย “ฉันเป็นหัวหน้าของตระกูลมิดเดอร์เรีย เกรย์ มิดเดอร์เรีย ยินที่ได้พบทั้งสาม!”
ได้ยินแบบนี้ ก่อนที่เทียนเกอร์จะได้อ้าปากด่าด้วยเหตุที่ว่าอีกฝ่ายไม่ยอมเรียกทั้งสามคนว่า ‘ท่าน’ เฟยเฟยกับลูลู่ก็สังเกตุเห็นชายหนุ่มข้างๆเกรย์ เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก วู่หยาน!
พวกเธอทำสีหน้ามีความสุขขึ้นมาทันที แสดงให้ว่าการที่ได้พบเจอวู่หยานอีกครั้งพวกเธอรู้สึกมีความสุขจริงๆ โดยเฉพาะลูลู่!
เพราะเป็นลูกคนเดียว เธอจึงได้รับเลี้ยงดูที่ดีมากๆ จะหาคนอยู่ดีกินดีมากกว่าเธอได้ก็คงต้องเป็นพวกเชื้อพระวงศ์ เหล่าองหญิงแล้ว นอกจากนี้ใครจะอยู่สุขสบายไปมากกว่าเธอได้อีก?
แต่ว่าเพราะแบบนี้ทำให้ลูลู่ถูกตัดขาดจากชีวิตธรรมดา เช่น การมีกลุ่มเพื่อน ไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วยังพวกที่ค้อยจ้องแต่จะเข้าหาเธอเพื่อหวังผลประโยชน์ โดยเฉพาะพวกผู้ชาย
ถึงแม้ลูลู่จะยังเยาร์วัยอยู่ แต่ใบหน้าเธอก็งามล้นจนสามารถทำให้เมืองล่มสลายได้แล้ว แม้แต่ฮินางิคุกับมิโคโตะยังด้อยกว่าเธออยู่เล็กน้อยเลย มีแต่อิคารอสที่รูปร่างหน้าตาเหนือกว่าลูลู่ได้
ด้วยหน้าตาและพื้นหลังี่อลังการแบบนี้ แล้วใครล่ะจะไม่อยากได้เธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด?
ถ้าครอบครองหัวใจเธอลล่ะก็ มันเพียงแต่ได้ตัวคน แต่ยังรวมไปถึงตระกูลโลลิ เรียกได้ว่าได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล ในเมื่อลูลู่เป็นลูกเพียงคนเดียว แล้วใครที่ได้เป็นสามีเธอก็หมายความว่าคนๆนั้น ในอนาคตจะกลายเป็นผู้นำตระกูลโลลิคนต่อไป!
ผู้นำตระกูลอันดับหนึ่งของจักรวรรดิไอย์ลู แค่คิดก็ทำให้น้ำลายไหลแล้วใช่ไหมล่ะ?
ด้วยเหตุนี้ ลูลู่จึงไม่มีเพื่อนที่จริงใจต่อเธอเลยสักคน นอกเสียจากเหล่าลูกหลานของคนที่พื้นหลังครอบครัวเทียบเท่าเธอหรือมากกว่าเธอ แน่นอนว่าคนเหล่านั้นไม่มีผู้ชาย
แต่ทว่า ไม่กี่เดือนก่อน ใครบางคนได้เข้ามาในชีวิตเธอ เป็นคนแรกที่เธอคิดว่าเหมาะสมที่จะมาเป็นเพื่อนกับเธอ คนๆนั้นก็คือ วู่หยาน!
ลูลู่ไม่สามรถลืมวันนั้นในป่าสัตว์อสูรได้เลย ครั้งแรกที่เธอได้พบวู่หยาน ในสายตาเขานอกจากความชื่นชม มันก็ไม่มีความหื่นกระหาย หรือความโลภอยู่เลย
ดังนั้น ลูลู่จึงคิดว่าวู่หยานเป็นเพื่อนที่ดี แน่นอนว่าเป็นแค่เพื่อน......
ตามที่ว่าเมื่อได้เจอวู่หยานอีกครั้ง ลูลู่จึงรู้สึกประหลาดใจระคนดีใจมาก ทว่าเมื่อวู่หยานสังเกตเห็นสีหน้าดีใจของลูลู่ เขาก็กระโดดออกมาด้านหน้าทันที แล้วชี้นิ้วไปที่ลูลู่ ก่อนจะกรีดร้องเสียงแหลม
“อ้ากก! ยัยปีศาจ! เป็นแกเองสินะที่มีความคิดชั่วๆกับตระกูลมิดเดอร์เรียของพวกเราน่ะ!”
‘...เฮ้อ..โรคบ้ากำเริบอีกแล้ว.......’
ฮินางิคุกับมิโคโตะคิดขึ้นมาพร้อมๆกัน.........