Ep.74 - มโนธรรมไม่ร้องไห้หรอ?
2/3
Ep.74 - มโนธรรมไม่ร้องไห้หรอ?
มื้ออาหารจบลง ทุกคนแยกย้ายขอตัวกลับ
ฮังอวี่คิดว่าการเดินทางมาเข้าร่วมงานสังสรรค์นานๆครั้งนี่ก็ดีเหมือนกัน
ตัวเขาแม้มีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับโลกวิญญาณมากมาย รู้จักภูมิประเทศ มอนสเตอร์ สกิล และไอเท็มจากโลกวิญญาณเป็นอย่างดี แต่กลับไม่ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนโลกนี้เลย การพบปะกันครั้งนี้ช่วยได้เยอะจริงๆ
ฮังอวี่ทิ้งฮัสกี้ไว้ในห้องโถง แยกออกมาทำธุระส่วนตัวคนเดียว แต่ทันทีที่เขาก้าวออกจากห้องน้ำ ก็ประจันหน้ากับร่างอันแสนเย้ายวน เป็นความงดงามอันตระการตา
วันนี้เธอมาในชุดทางการ สวมสูทตัวเล็ก กางเกงขายาว รองเท้าหนัง ใส่แว่นกรอบดำที่จงใจแต่งเติมเพื่อให้ดูเป็นคนจริงจัง แต่ยากที่จะซ่อนเสน่ห์ที่มี
ในบรรดาผู้หญิงที่ฮังอวี่เคยพบเจอ ผู้หญิงเบื้องหน้าเขามีทรวดทรงที่ดีที่สุด ใบหน้าสวยที่สุด
เทพธิดาซู
อาจารย์ซู
คนหน้าเนื้อใจเสือซู?
เธอเดินเข้ามาด้วยดวงตายิ้มแย้ม กล่าวทักทายเขา
แววตาหยาดเยิ้มเช่นนั้น ดั่งมีมนต์วิเศษบางอย่างดึงดูดจิตใจของผู้คน
ฮังอวี่รู้จักซูหยุนปิงเป็นอย่างดี เขาเดาไว้แล้วว่าอีกฝ่ายต้องมาหาตน แต่ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้
เธอบุกมาพบเขาหน้าห้องน้ำชาย ขวางทางเดินเอาไว้ ดูท่าจะไม่ยอมปล่อยเขาไป
“โย่ว อาจารย์ซู บังเอิญจริงๆ อาจารย์ก็อยากจะเข้าห้องน้ำด้วยหรอ?” ฮังอวี่รู้ดีว่าทำไมซูหยุนปิงถึงมาที่นี่ แต่เขาจงใจเบี่ยงประเด็น เบนตัวหลบเปิดทางเข้าประตูห้องน้ำชายให้เธอ
“ห้องน้ำหญิงคนส้วมเต็มใช่ไหม เชิญๆ เชิญเข้าไปได้เลย”
ซูหยุนปิงสูดหายใจลึก สารภาพตามตรง หากไม่ใช่เพราะพลังรบของเธอในตอนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายเบื้องหน้า หลังจบประโยคเมื่อครู่เธอคงกระชากหัวเขาแล้วลากไปกดลงในชักโครกแล้ว
“อ้าว อาจารย์ซูทำไมยังนิ่งอยู่ หรือคิดจะทำมิดีมิร้ายผม ที่มันที่สาธารณะนะ มนุษย์เรายังมีศีลธรรมอยู่ อย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่น ไม่อย่างนั้นผมจะตะโกนว่าถูกปล้ำ!” ฮังอวี่พอโดนอีกฝ่ายจ้องเขม็ง ก็ทำตัวราวกับหนูน้อยหมวกแดงเจอหมาป่า ถอยหลังสองก้าว
ซูหยุนปิงแค่นเสียงฮึเบาๆ ก้าวตามไปสองก้าว
“อุลตร้าแมนเมื่อวานก็คือนายใช่ไหม!”
“อุลตร้าแมน? อุลตร้าแมนอะไร?”
ภายใต้สายตาเฉียบแหลมและเต็มไปด้วยภูมิปัญญาของอาจารย์ซู มันยากเหลือเกินที่จะเก็บงำความลับเอาไว้
แต่ฮังอวี่ไม่หวั่นไหว เขายังคงแกล้งโง่ สบตาอีกฝ่ายด้วยแววตาสับสนปนสงสาร กล่าวต่อวา “อาจารย์ซูน่าจะอายุขึ้นเลข 3 แล้วถูกไหม? ฉะนั้นเลิกทำตัวเป็นเด็กเถอะ อุลตร้าแมนน่ะ ผมเลิกดูตั้งแต่ตอนอยู่ ป. 5 แล้ว”
ถุย!
ปากเสีย!
อายุขึ้นเลข 3 บ้านป้านาย! ฉันพึ่งอายุ 28 เท่านั้นเอง!
แล้วอีกอย่าง ถึงฉันจะเลยช่วงวัยรุ่นมาแล้ว แต่หัวใจยังเป็นเด็กอยู่ อย่าว่าแต่ดูอุลตร้าแมนเลย แม้แต่เทเลทับบี้ส์ฉันก็ยังดูอยู่ได้!
แต่แล้วยังไง? ฉันจะดูอะไรมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย? อุลตร้าแมนเมื่อวานเป็นนาย 100% อย่ามาแสร้งโง่หน่อยเลย!
ผู้หญิงมีความไวต่ออายุมาก กระทั่งเทพธิดาซูก็ไม่มีข้อยกเว้น
หน้าอกกลมมนของซูหยุนปิงกระเพื่อมขึ้นลงหลายครั้ง จนคนมองอดกังวลไม่ได้ว่าชุดสูทตัวเล็กอาจทนต่อแรงตึงไม่ไหว
อย่างไรก็ตาม แม้ในใจจะถ่มน้ำลายใส่ฮังอวี่เป็นพันครั้ง แต่สีหน้าของเธอกลับไม่แสดงอาการใดๆ
ฮังอวี่และซูหยุนปิงเป็นคนประเภทเดียวกัน ทั้งสองมีนิสัยหลายส่วนที่คล้ายกัน
ซูหยุนปิงแม้ภายนอกเป็นคนดูพิถีพิถัน สูงส่ง เยือกเย็น จริงจังและมีสติปัญญา แต่หลังจากได้คุยกับเธอนานเข้า คุณจะพบว่า รูปลักษณ์ภายนอกและภายในของเธอ สองสิ่งนี้ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หากฮังอวี่คว้านท้องเธอออกมา เกรงว่าหัวใจ ตับ ม้ม ปอด ไต ข้างในตัวซูหยุนปิงทั้งหมดคงเป็นสีดำ (หน้าเนื้อใจเสือ)
ซูหยุนปิงรู้ว่าต้องทำยังไง เธอไม่จำเป็นต้องเค้นถามเรื่องอุลตร้าแมนอีกต่อไป ตัดสินใจเปิดไพ่ในมือโดยตรง “เท่าที่ฉันรู้ เชฟวิญญาณในร้านของผังต้าไห่ นอกจากลูกพี่ลูกน้องผังเหรินของเขาแล้วก็มีโจวเจ๋อ ทั้งหมดแค่ 3 คนเท่านั้น”
“ตรงจุดนี้น่าแปลกมาก มีแค่ 3 คนแท้ๆ แต่ทำไมถึงมั่นใจเลือกเปิดร้านใหญ่แบบนี้?”
สมกับที่เป็นอาจารย์ซู จมูกไวเกือบสู้กับหวังเอ๋อของฉันได้เลย
ฮังอวี่จงใจถาม “แล้วอาจารย์ซูคิดว่าอย่างไร?”
“เห็นได้ชัดว่าผังต้าไห่มีวิธีฟื้นฟูค่าพลังจิตของเขา และโพชั่นนั้นทำให้เขาสามารถผลิตอาหารได้ต่อเนื่องตามความต้องการของลูกค้า!”
ซูหยุนปิงผลักกรอบแว่น เลนส์แว่นสะท้อนแสงเป็นสีขาวบดบังดวงตา “ฉันเดาว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเขา จะต้องเป็นคนที่มีความสามารถในการผลิตโพชั่น และน่าจะผลิตได้เป็นจำนวนมากซะด้วย”
“แต่นั่นเป็นแค่การคาดเดาของอาจารย์ซู”
“ฉันไม่ได้พูดลอยๆโดยปราศจากหลักฐาน มีผู้ชายคนหนึ่งพึ่งเอาหินสกิลกลั่นยาไปจากมือฉัน ดังนั้นต่อให้เขาแสร้งโง่ต่อไปมันก็ไม่มีประโยชน์ ในฐานะที่เขาเป็นเหล่าแหย(คล้ายๆเถ้าแก่ เจ้าของ) ตัวจริงของร้าน ฉันว่าเขาควรยอมรับมันตรงๆจะดีกว่า”
เง็กเซียนเถอะ!
ใช้คำว่าคนๆหนึ่งเอาหินสกิลกลั่นยาไป? ฟังยังไงนั่นก็หมายถึงฉันไม่ใช่หรอ?
หว่านล้อมถึงขนาดนี้ แล้วจะให้ฉันแถยังไงอีก?
“สรุปว่าอาจารย์ซูเข้ามาทักเพื่อจะขอความร่วมมือถูกไหม? แต่โพชั่นพวกนี้มีราคาแพงมากนะ ขนาดผมเองยังแทบมีไม่พอใช้”
ฮังอวี่ไม่อยากอ้อมค้อมอีกต่อไป ถ้ามีโอกาสทำเงิน จัดให้ซักหน่อยก็ดีเหมือนกัน
เพราะตัวเขาตอนนี้ ใช้เงิน 24 ล้านที่ได้จากเหล่าเซี่ยงไปหมดแล้ว
20 ล้านถูกนำไปเพื่อสร้างชุมชนมังกรฟ้า อีก 4 ล้านนำมาสนับสนุนอ้วนต้าไห่เปิดร้านอาหาร
ในเมื่อซูหยุนปิงใจกว้าง หอบเงินมาเคาะถึงประตูบ้าน และเขาจะปฏิเสธเจตนาดีนี้ได้อย่างไร?
เห็นได้ชัดว่าซูหยุนปิงไม่เชื่อคำโกหกของฮังอวี่ จากที่เธอได้เจอมา บุคคลนี้มีหลักการมาก เมื่อตัดสินใจแล้วยากจะเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นหากร่วมมือกันไม่ได้จริงๆ ด้วยอุปนิสัยของเขา เกรงว่าคงปฏิเสธไปนานแล้ว ไม่มามัวเสียเวลาอ้อมค้อมแบบนี้หรอก--
--บอกมาเลยดีกว่าว่าราคาขายโพชั่นพวกนี้มันเท่าไหร่!
คำตอบนี้สำคัญมาก เพราะมันจะโยงไปถึงการเจรจาต่อรอง
ฮังอวี่ย่อมไม่คิดเปิดเผยราคาต้นทุนอย่างแน่นอน และฝ่ายอ้วนต้าไห่ก็น่าจะหุบปากเงียบเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ราคาเมนูในร้านอาหารประกาศออกไปแล้ว ด้วยสติปัญญาของอาจารย์ซู คาดว่าเธอคงเดาราคาที่แท้จริงของโพชั่นออกได้ราวๆ 7-8 ส่วน
เพราะหากค่าโพชั่นแพงเกินไป ร้านอาหารคงขาดทุนแน่นอน
และธุรกิจที่เสี่ยงขาดทุน อ้วนต้าไห่จะไม่ทำ ฮังอวี่ยิ่งแล้วใหญ่
ดูเหมือนการเจรจาครั้งนี้ ซูหยุนปิงจะเตรียมตัวมาดีทีเดียว
“ไม่ต้องอ้อมค้อม เสนอราคามาได้เลย”
ฮังอวี่ส่ายหัวและพูดว่า “มีคนมากมายในเจียงเฉิง แต่โพชั่นของผมมีจำกัด ทำไมถึงต้องขายมันให้กับอาจารย์ซูด้วย?”
“เพราะพวกเรามีความสัมพันธ์ในฐานะครูกับนักศึกษา แถมยังเคยร่วมมือ คุ้นเคยกันดี ถูกไหม?”
อาจารย์ซูเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่มากพอจะเกลี้ยกล่อมผู้คน “ดังคำกล่าวที่ว่าไม่ควรปล่อยปุ๋ยและน้ำไหลสู่ทุ่งนาของคนนอก แทนที่จะขายให้คนอื่นที่ไม่น่าไว้ใจ มาขายให้ฉันดีกว่า นอกจากนี้ฉันยังช่วยนายเก็บเป็นความลับ รับในราคาสูง เหตุผลเท่านี้เพียงพอไหม?”
“อืม ก็เข้าท่าดี ... ถ้าอย่างนั้น ..!”
ฮังอวี่หยิบโพชั่นสามชนิดแล้วเรียกพวกมันออกมา
โพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิต ,โพชั่นฟื้นฟูพลังจิต และโพชั่นแก้ปวด
ดวงตาของซูหยุนปิงเป็นประกาย เผยร่องรอยของความสุขอย่างปิดไม่มิด
ของดี!
นี่มันของดี!
เจ้าสิ่งนี้ดีกว่าผลไม้วิญญาณหรือสมุนไพรวิญญาณที่ช่วยฟื้นฟูเสียอีก!
หากมีโพชั่นพวกนี้ติดตัว ไม่เพียงช่วยเพิ่มความมั่นใจในการสำรวจโลกวิญญาณมากขึ้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างทีมให้ก้าวหน้าไปไกลกว่าคนอื่นๆได้
กระทั่งโอกาสรอดชีวิตก็ยังเพิ่มสูงขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินข้อเสนอของฮังอวี่ ซูหยุนปิงแทบกระอักเลือดออกมา
“ในฐานะที่อาจารย์ซูเป็นคนคุ้นเคย ผมเลยไม่กล้าฟันราคาโหด โพชั่นฟื้นพลังชีวิตขวดละ 250,000 หยวน , โพชั่นฟื้นพลังจิต 250,000 หยวน , โพชั่นแก้ปวด 350,000 หยวน เอาราคาแค่นี้ก็พอ จ่ายเงินก่อนส่งของทีหลัง อาจารย์ต้องการเท่าไหร่?”
บรรยากาศกลายเป็นเงียบงันในฉับพลัน
ฮังอวี่สังเกตเห็นว่าตรงขมับของซูหยุนปิงผุดเส้นเลือดสีดำ เธอเงียบไปเป็นเวลานาน ก่อนจะเอ่ยออกมาสั้นๆว่า “นักศึกษาฮัง กรีดเลือดกรีดเนื้อครูแบบนี้ มโนธรรมของเธอไม่รู้สึกเจ็บปวดบ้างหรือ?”
ฮังอวี่กระพริบตาปริบๆ “อาจารย์ซูทำไมพูดแบบนั้น? นี่เป็นราคามิตรภาพแล้ว ถ้าเป็นคนนอกผมคงเสนอขายเริ่มต้นที่ 500,000 - 600,000”
แม้ปากจะกล่าวแบบนั้น แต่ฮังอวี่กลับหัวเราะเยาะในใจ
ครั้งก่อนเธอกรีดเลือดกรีดเนื้อฉัน ยังไม่เห็นมโนธรรมของเธอกรีดร้องเสียใจเลย
กรรมตามสนอง ... รู้จักไหมนี่แหละเขาเรียกว่ากรรมตามสนอง!