Ep.73 - กองทัพมอนสเตอร์ 200,000 ตัว
1/3
Ep.73 - กองทัพมอนสเตอร์ 200,000 ตัว
คนหน้าเนื้อใจเสือซูไม่เคยทำอะไรโดยเปล่าประโยชน์อยู่แล้ว
การที่เธอเก็บสองคนนี้ไว้ข้างกาย เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการฝึกฝนทั้งคู่ให้กลายเป็นมือซ้ายมือขวา!
และนั่นมากพอแล้วที่จะพิสูจน์ถึงความสามารถและความแข็งแกร่งของทั้งสอง!
จากการประเมินของฮังอวี่ ความสามารถของหลินหลานและเฉารุ่ย เกรงว่าจะไม่ด้อยไปกว่ายอดฝีมือคนดังในเน็ตอย่างหวงจื่อหมิง
แต่เมื่อถูกอีกฝ่ายถาม เขาจึงตอบกลับไปอย่างสุภาพว่า “ใช่ครับ ก็พอมีส่วนช่วยอยู่บ้าง”
เขากับหลินหลานเรียนคนละคณะกัน ก่อนหน้านี้จึงแทบไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ วันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมหลินหลานถึงให้ความสนใจตนเป็นพิเศษ
“เสี่ยวฮังทำตัวนอบน้อมเหมือนเคย แล้วทุกคนดูนั่นสิ เขาเอาหมามาเลี้ยงพวกเราด้วย ถ้าจับมันไปตุ๋น ต้องได้รสชาติที่ดีแน่ๆ” ชายกล้ามโต สูง 1.9 เมตรที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกันเอื้อมมือไปแตะหัวสุนัขหวังเอ๋อ
“เป็นน้องหมาน่าหม่ำจริงๆ ขอพี่ชายลูบหัวหน่อย!”
ฮัสกี้ฉุนเฉียวขึ้นมาทันที ไอ้กล้ามโตคนนี้ไม่ใช่คนที่เคยช่วยกันกระทืบตนกับเจ้าอ้วนหรอกหรอ?
แถมตอนนั้นส่วนใหญ่เป็นไอ้กล้ามโตที่ลงมือซะด้วย!
บังอาจคิดลูบหัวเปิ่นหวัง? เอาเขี้ยวหมาไปแดกซะ!
“อ๊า! ฮังอวี่ ฮัสกี้ของนายดุชะมัด มันกัดฉัน!”
หวังต้าสือเดาไว้แล้ว วินาทีที่มันขยับหัว เขาหดมือกลับทันที ปล่อยให้สุนัขงับอากาศ
เหล่าหวังคนนี้เป็นเพื่อนร่วมสาขา ตอนอยู่หอมหาลัยเขานอนห้องข้างๆ เมื่อก่อนฮังอวี่ อ้วนต้าไห่ กับหวังต้าสือเคยเล่นเกม BLACK DESERT ด้วยกัน เลยค่อนข้างสนิทกัน
และเพราะอีกฝ่ายตัวโตกล้ามใหญ่ ดังนั้นเลยมีชื่อเล่นว่าไอ้กระทิง
ตอนนี้ไอ้กระทิงทำงานในสำนักงานอาหารพี่อ้วน และในเมื่อทำงานกับอ้วนต้าไห่ ดังนั้นจึงนับเป็นลูกน้องทางอ้อมของฮังอวี่ ในตอนที่หลินหลานพยายามถามข้อมูลจากฮังอวี่ เขาจึงเอ่ยแทรกเพื่อช่วยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
สกิลพรสวรรค์ของไอ้กระทิงคือประเภทต่อสู้ เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการล่าวัตถุดิบอาหารเป็นหลัก นับเป็นนายพลหมายเลขหนึ่งในบัญชาของอ้วนต้าไห่
“มันน่าจะกำลังติดสัดเลยอารมณ์ไม่ดี ตอนนี้อย่าพึ่งไปกวนมันดีกว่า”
ฮังอวี่เหลือบมองหวังเอ๋อ
เมื่อถูกสายตาทิ่มแทง มันหยุดฟึดฟัด ยอมนั่งยองๆแต่โดยดี หมอบลงอย่างคับข้องใจ
“ครั้งนี้เจ้าอ้วนได้กลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัวแล้ว!” เพื่อนร่วมคณะที่ชื่อเปาปู้ฝานกล่าว “อันที่จริง ตั้งแต่ตอนที่มันเร่ขายหนังสือโป๊ในหอ ฉันก็รู้ว่าเจ้าอ้วนไม่ธรรมดา”
เปาปู้ฝานมีชื่อเล่นว่าเจ้าซาลาเปาเนื้อ เป็นอีกคนที่ทำงานให้กับสำนักงานอาหารพี่อ้วน
ตอนเรียนมหาลัย ฮังอวี่กับเจ้าซาลาเปาเนื้ออยู่คณะเดียวกันแต่เรียนคนละสาขา
เจ้าซาลาเปาเนื้อเป็นลูกคนรวย ผลการเรียนอยู่ในระดับทั่วๆไป แต่ในเรื่องวาทศิลป์คมคายมาก เจ้าหมอนี่ยื่นมือทักทายเขาไปทั่ว เข้าสังคมได้เก่งเหมือนอ้วนต้าไห่
ตอนเรียนมหาลัย เจ้าหมอนี่สนิทกับอาจารย์ประจำภาคทุกคน ไล่ไปจนถึงรุ่นน้องในคณะ มีคอนเนคชั่นกว้างขวาง นับเป็นบุคคลที่สามารถช่วยรวบรวมข่าวสารได้ดี
แต่ไอ้กระทิงกับซาลาเปาเนื้อไม่มีหน้าที่ในการผลิต พวกเขารับผิดชอบงานภาคสนาม ไม่ค่อยโผล่มาในสำนักงาน
บทบาทหลักๆของพวกเขา ไอ้กระทิงส่วนใหญ่รับหน้าที่ต่อสู้และรวบรวมวัตุดิบ ส่วนเจ้าซาลาเปาเนื้อรับผิดชอบในการพัฒนาการตลาด
ทั้งคู่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างฮังอวี่กับอ้วนต้าไห่ แต่อ้วนต้าไห่กำชับพวกเขาล่วงหน้า ว่าอย่าพูดเรื่องนี้ออกไปในที่สาธารณะ
อีกสองคนคนที่เหลือที่ร่วมโต๊ะเป็นผู้หญิงทั้งคู่ คนแรกชื่อฟ่านซูฉิน อีกคนชื่อตงอี้อี้
คนแรกกำลังหางานและกำลังจะแต่งงาน คนหลังกำลังเรียนต่อปริญญาโทในมหาวิทยาลัยเจียงต้า
ทั้งคู่ต่างอึ้งเมื่อได้ยินคำพูดของซาลาเปาเนื้อ หน้าเริ่มแดงเล็กน้อย
“ยังไงก็ตาม พูดก็พูดเถอะ ต้องขอบคุณอ้วนต้าไห่จริงๆที่ทำให้พวกเราได้มาเจอประธานกับรุ่นพี่หลานในวันนี้”
เปาปู้ฝานเปลี่ยนข้อสนทนา “ฉันได้ยินมาว่าประธานกกับรุ่นพี่หลินหลานมีฝีมือมาก ตอนนี้ทั้งคู่ขึ้นเป็นยอดฝีมือเลเวล 2 แล้ว ไม่ใช่แค่มีสกิลพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม แต่ยังได้รับอุปกรณ์จากโลกวิญญาณมามากมาย น่าอิจฉาจริงๆ”
เฉารุ่ยตอบอย่างสุภาพว่า “พวกเราไม่ได้เก่งอะไรเลย ที่เก่งคืออาจารย์ซูต่างหาก”
หลินหลานถอนหายใจและกล่าวว่า “ยังมีเสือซ่อนมังกรหลับอีกมากมายอยู่ในเจียงเฉิง พวกเราไม่คู่ควรให้กล่าวถึง”
เจ้าซาลาเปาเนื้อผู้มีชื่อเสียงเรื่องคารมคมคายเริ่มเบี่ยงเข้าประเด็นทันที
“งั้นหรอ แต่ฟังเหมือนรุ่นพี่ไปรู้อะไรมานะ พอจะเล่าให้พวกเราฟังซักหน่อยได้ไหม?”
หลินหลานกับเฉารุ่ยเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้พวกเขาฟัง
“อา! ไม่มีทาง นี่พวกรุ่นพี่มีส่วนร่วมในการกวาดล้างมอนสเตอร์มนุษย์ปลาด้วยหรอ!”
“เรื่องนั้นดังมากเลยนะในแวดวงชาวเน็ตช่วงสองสามวันที่ผ่านมา!”
“มหาเทพ! ทั้งสองคนเป็นมหาเทพชัดๆ!”
“ร้ายกาจ! ร้ายกาจจริงๆ!”
“พวกเราขอคุกเข่าคารวะ!”
อีกสี่คนที่นั่งร่วมโต๊ะต่างแสดงสีหน้าแตกตื่นตกใจราวกับได้เห็นข่าวใหญ่ที่สั่นสะเทือนสังคม
ปรากฏว่าคนที่ร่วมโต๊ะอาหารของพวกเขา กลับเป็นคนในพาดหัวข่าวใหญ่ซะเอง
“พวกเราเป็นมหาเทพซะที่ไหนกัน” เฉารุ่ยส่ายหัวและพูดว่า “สถานการณ์เมื่อวานอันตรายมาก ถ้าไม่ใช่เพราะมียอดฝีมือลึกลับเข้ามาช่วย ไม่แน่วันนี้พวกเราอาจไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้แล้ว ... ยอดฝีมือลึกลับคนนั้นต่างหากคือมหาเทพของจริง!”
“ใช่ ผู้ชายคนนั้นแข็งแกร่งมาก ฉันไม่เคยเจอใครที่แข็งแกร่งขนาดนั้นมาก่อน ฉันคิดว่าเขาน่าจะแข็งแกร่งกว่าอาจารย์ซูเสียอีก!” หลินหลานกำหมัดแน่น เผยสีหน้าเลื่อมใส แต่ต่อมาหน้าเศร้าลง “แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่รู้ตัวตนของเขา เลยอดไปขอบคุณเขาอย่างถูกต้อง”
‘ฉันอยู่นี่ไง เป็นฉันเอง!’
ฮังอวี่นั่งนิ่ง การได้รับคำชมเชยซึ่งหน้า มันให้ความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอีกฝ่ายที่เป็นถึงอดีตประธานสภานักศึกษา
...
อ้วนต้าไห่เสิร์ฟอาหารวิญญาณที่เตรียมไว้แก่เพื่อนๆ ทุกเมนูอร่อยมาก แม้แต่ฮัสกี้ก็ได้รับส่วนแบ่ง
ทุกคนกินจนอิ่มหนำ ระหว่างนั้นแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน
ฮังอวี่ได้รู้อะไรหลายอย่างที่เขาไม่เคยรู้ ตัวอย่างเช่น
มีหนองน้ำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นทางฝั่งเขตทิศใต้ของเมืองเจียงเฉิง , พบถ้ำลึกลับบนภูเขาในเมืองเจียงเฉิง หรือกระทั่งค้นพบโบราณสถานขนาดยักษ์ในย่านใจกลางเมืองในเขตหนึ่ง
ซาลาเปาเนื้อเอ่ยอย่างลึกล้ำว่า “ข่าวของพวกนายยังไม่เท่าไหร่ ฉันได้ยินข่าวจากลุงที่หยานจิงมา พวกนายสนใจฟังไหม?”
ฮังอวี่เอ่ยถาม “ข่าวอะไร?”
เปาปู้ฝานอธิบายว่า “ตอนนี้มีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า แม้ปรากฏการณ์รอบตัวเราจะยังไม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ แต่กฏฟิสิกส์เริ่มพังทลายลงแล้ว”
“กฏฟิสิกส์หลายข้อเกิดความไม่เสถียร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับจุลภาคและขอบเขตควอนตัม”
“แล้วยังไง?” หวังต้าสือไม่เข้าใจ “ไม่ใช่ว่าวิทยาศาสตร์มันล่มสลายไปนานแล้วหรอกเรอะ!”
“ผลกระทบมันร้ายแรงกว่านั้น!” เปาปู้ฝานมองไปรอบๆ ลดเสียงลง “พวกนายลองจินตนาการตามนะ เมื่อกฏฟิสิกส์บางข้อพังทลาย อุปกรณ์ของมนุษย์ที่ต้องใช้ความแม่นยำสูงหรือกระทั่งอาวุธจำนวนมากจะทำงานล้มเหลว ตัวอย่างเช่น--”
“--ระเบิดนิวเคลียร์! พวกเราอาจไม่สามารถจุดชนวนมันได้!”
ระเบิดนิวเคลียร์คืออะไร?
นั่นคือไพ่ตายของมนุษยชาติ!
กระทั่งไพ่ตายที่ทรงพลังที่สุดก็ยังถูกทำลายลงหรือ?
“เจ้าของเสียงน่าเกรงขามจากโลกวิญญาณได้ปลดอาวุธที่ทรงพลังที่สุดจากมือมนุษย์”
“นอกจากอาวุธจากโลกวิญญาณ ในอนาคตพวกเราจะไม่เหลืออะไรไว้ใช้สู้อีก”
ทุกคนเมื่อได้ยินข่าวนี้ต่างมีสีหน้าซีดเซียว
“ชู่ว์ เบาเสียงลงหน่อย”
“เรื่องแบบนี้ จะดีกว่าถ้าไม่ให้ทุกคนรู้”
“อย่าเผยแพร่มันออกไป เดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่”
“เอาจริงๆไม่ใช่แค่อุปกรณ์ล้ำสมัยหรือพวกอาวุธไฮเทคเท่านั้น แต่ของทุกอย่างที่มีกฏฟิสิกส์เข้าไปเกี่ยวข้องจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไป โลกเราจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกแล้ว ...”
“ลุงที่หยานจิงบอกว่า ระยะทางระหว่างเมืองเจียงเฉิงกับหยานจิง ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา มันเพิ่มขึ้นหลายร้อยกิโลเมตรอย่างเป็นปริศนา มีภูเขาและแม่น้ำเกิดขึ้นเองหลายแห่ง สัญญาณในหลายเมืองขาดหาย หลุดการติดต่ออย่างสิ้นเชิง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบ้าง”
เรื่องนี้สร้างความแตกตื่นแก่ทุกคน มันได้ทำลายความรู้ความเข้าใจเดิมไปอย่างสิ้นเชิง
“และจากเหตุการณ์มนุษย์ปลาบนริมแม่น้ำ สามารถอธิบายได้ว่าจะต้องมีเผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญาสูงอยู่ในโลกวิญญาณ และจากข้อมูลที่รวบรวมมาโดยสมาคมโลกวิญญาณ พวกเขาพบว่านับวันสิ่งมีชีวิตที่ถูกส่งมาจากอีกฝั่งจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ” ประธานเฉาเอ่ยอย่างเป็นกังวล “ขณะที่พวกมันแข็งแกร่งขึ้น แต่ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของโลกเรากลับเสื่อมโทรมลง”
หลินหลานแสดงสีหน้าจริงจัง “ที่จริงแล้วฉันมีข่าวที่แย่กว่านั้น”
พอได้ยิน หัวใจของทุกคนเต้นรัวยิ่งกว่าเดิม “ยังมีอะไรแย่กว่านี้อีกหรือ?”
“ฉันได้ยินจากปากอาจารย์ซู ว่ามีมอนสเตอร์ราวๆ 200,000 ตัว กำลังรวมกลุ่มกันในหลายพื้นที่รอบเมืองเจียงเฉิง และส่วนใหญ่พวกมันมีนิสัยก้าวร้าว หรือก็คือมีโอกาสบุกเข้าเมืองได้ตลอดเวลา เจียงเฉิงต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายกว่าที่คาด”
สอง ... สองแสน!
ซาลาเปาเนื้อและคนอื่นๆต่างตกตะลึง
มอนสเตอร์ดุร้ายกว่า 200,000 ตัว! และคนธรรมดายังไม่รู้เรื่องนี้!
เป็นเพราะหลินหลานติดตามซูหยุนปิง เลยได้ล่วงรู้ข้อมูลลับหลายอย่างมา
ถูกข้อมูลหลายชุดกระหน่ำเข้าสมอง พวกเพื่อนๆเริ่มตื่นตระหนก
“สถานการณ์ตอนนี้ตกอยู่ในอันตราย” หลินหลานกล่าวต่อด้วยสีหน้าจริงจัง “มนุษย์เราต้องเผชิญกับความท้าทายและภัยคุกคามครั้งใหญ่ ฉะนั้นต้องรีบทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นโดยเร็วที่สุด!”
หลายคนต่างเห็นด้วย ทุกคนล้วนตระหนักได้
ว่าเกมนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันเป็นเกมที่เจ้าของเสียงน่าเกรงขามต้องการวัดใจกับมนุษย์--
--เป็นเกมที่เดิมพันด้วยชีวิตและความตาย!