ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 38 บรรลุวิถีควบคุมมิติ
“อ้าาาา….”
ซู่เสี่ยวไป่ถอนหายใจอย่างสบายตัว หลังจากที่ผลาญเงินไป 60 ล้านในพริบตาเดียว!
แต่ในทางกลับกันเขาได้เสริมความแข็งแกร่งและความเร็วในการฝึกฝนอย่างมหาศาล พร้อมกับความสามารถในการหาเงินอีก
พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวเร็วขึ้น 512 เท่า
พื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียวเร็วขึ้น 256 เท่า
ร่างเงา 4 ร่างที่ออกล่าสัตว์อสูรแบบไม่หยุดพักตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้แล้ว เขายังมีพื้นที่กลั่นยาในคลิกเดียวเป็นผู้ช่วยด้านความมั่งคั่งของเขาอีก ทำให้เขามีเงินมากมายมาเพิ่มระดับความสามารถขนาดนี้ ความเร็วในการฝึกฝนของซู่เสี่ยวไป่ตอนนี้ ก็น่ากลัวจนไม่อาจจะหาคำใดมาบรรยายได้แล้ว!!
เขาคิดว่าในอีกไม่นานเขาจะทะลวงเขตแดนจอมยุทธ และสูงขึ้นไปอีกเป็นยอดยุทธ จ้าวยุทธหรือกระทั้งเทพยุทธ เลยไปถึงขอบเขตอื่นที่สูงกว่านี้
ซู่เสี่ยวไปเปิดดูสถานะของเขาในปัจจุบัน
มนุษย์ : ซู่เสี่ยวไป่
เขตแดน : ผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง
ระดับพละกำลัง: จอมยุทธขั้นแรก
ระดับความคงทน: จอมยุทธขั้นแรก
ระดับความว่องไว: จอมยุทธขั้นแรก
พรสวรรค์บ่มเพาะ: ขั้นต่ำ
วิชา: กายาเพชร(สูง) เหยียมย่ำข้ามนภา (สูง) หัตถ์อัคนีเที่ยงแท้ (พื้นฐาน)
โลหิตสังหาร (พื้นนฐาน)
ความสามารถของระบบที่เปิดใช้งาน: พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียว[ระดับ 8]
พื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียว[ระดับ 7] ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียว [ระดับ 4]
“ค่าสถานะพื้นฐานของเรายังไม่เพิ่มขึ้น..”
วิชาทั้งหมดของเขาถูกเพิ่มระดับขึ้น อย่างเท่าๆ กันเนื่องจากที่ความสามารถพื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียวฝึกพร้อมกันสองวิชาได้
แต่ถึงเพิ่มขั้นวิชาได้ แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกับภาพรวมของสถานะพลัง ทุกอย่างยังอยู่ในระดับจอมยุทธขั้นแรก
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าต่อให้สำเร็จวิชาระดับละเอียดอ่อนถึง 4 วิชา ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ค่าสถานะของผู้ฝึกยุทธขั้นกลางแข็งแกร่งเทียบเท่ากับจอมยุทธขั้นกลางได้
นอกจากว่าเขาจะได้ฝึกวิชาระดับแก่นแท้ ซึ่งเหนือกว่าระดับละเอียดอ่อน!!
ในพื้นที่เขต 18 มีเพียง 4 ตระกูลหลักที่เป็นขั้วมหาอำนาจเท่านั้นที่มีวิชาระดับนี้!!
“อย่าไปคิดมากให้หนักหัวเลย ตอนนี้ฉันแค่นอนรอเวลาอย่างเดียวก็พอ!!”
“เมื่อถึงเวลา เราก็จะแข็งแกร่งขึ้นเองแหละ!”
ซู่เสี่ยวไป่เดินไปที่เตียงพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนอย่างสบายใจ
….
ที่อีกฝั่ง ในหมู่บ้านจัดสรรที่อยู่เก่าของซู่เสี่ยวไป่
ตอนนี้กำลังวุ่นวายไปหมด
ผู้ฝึกยุทธขั้นกลางหลายคน และผู้ฝึกยุทธขั้นสูงกว่าสิบคน อีกทั้งยังมีผู้ฝึกยุทธขั้นแรกอีกจำนวนมากกำลังไล่ค้นหาทั้ง หมู่บ้านแต่ก็ไม่พบแม้แต่ร่องรอยของซู่เสี่ยวไป่
“พอ!! เลิกหาได้ละ”
จอมยุทธขั้นกลางพูดขึ้น
“มันคงหนีไปแล้ว!!”
“สายของเราที่อยู่ในตระกูลจางก็ระบุตำแหน่งให้อย่างชัดเจน แต่พวกเราก็หามันไม่พบ…”
“โรงเรียนก็เปิดมาสองสามวันแล้ว มันก็ไม่ได้ไปที่โรงเรียนด้วยเช่นเดียวกัน”
“สืบหาที่หอฝึกยุทธก็ไม่เจอข่าวหรือใครพบเห็นมัน!!”
“ดูเหมือนเจ้าหนูนี่ จะเล่นซ่อนแอบเก่งกว่าที่คิด!!”
แววตาของหยวนฉีเต็มไปด้วยจิตสังหาร สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดยิ่งนัก
เพื่อที่จะจับตัวฑูตตระกูลจางคนนี้ให้ได้ หยวนฉีถึงกับต้องทุ่มเททั้งคนและทรัพยากรเป็นจำนวนมากในการตามหา
แต่สิ่งที่ได้กลับมาพวกเขารู้แค่ชื่อของฑูตคนนี้ว่าชื่อ ซู่เสี่ยวไป่ เท่านั้น
แต่ด้วยชื่อเพียงอย่างเดียวก็พอที่จะทำให้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับซู่เสี่ยวไป่ได้มากขึ้น และทุกข้อมูลก็ถูกยืนยันหมดแล้วว่าถูกต้อง เพียงแต่ยังไม่พบตัวของซู่เสี่ยวไป่เท่านั้น
“หยวนฉี ฉันว่าเราไม่ต้องออกตามหามันอีกแล้วล่ะ”
“คลื่นอสูรรอบหน้ากำลังจะมาแล้ว นั่นก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้จัดการกับตระกูลจาง ไม่ว่าฑูตคนนี้จะเป็นอัจฉริยะมาจากไหนก็ตาม แต่ในเวลาสั้นๆ เขาไม่มีทางทะลวงสู่เขตแดนจอมยุทธขั้นแรกได้หรอก!!”
“ใช่แล้ว ภายในหนึ่งเดือน ท่านผู้นำก็คงจะสำเร็จวิชา *กระบี่เงามายา* ขั้นสูงสุด เมื่อถึงเวลานั้นการฆ่าจางเหิงล่งก็เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น!”
“...”
กลุ่มคนที่มากับหยวนฉีเริ่มพูดคุยกัน
คลื่นอสูร จะเกิดขึ้นปีละครั้ง
ทุกๆ ปี ผู้ฝึกตนทุกคนในพื้นที่อาศัยของมนุษย์ต้องเตรียมตัวและออกศึกในครั้งนี้
ทุกๆ ตระกูลถูกบังคับให้ร่วมต่อสู้
ทุกปีมีคนตายด้วยน้ำมือสัตว์อสูรมากมาย
แต่จะตายด้วยน้ำมือของสัตว์อสูรหรือของคน ก็ไม่มีใครไปรู้ได้แน่ชัด?
นัยน์ตาของหยวนฉีแสดงออกถึงความเห็นด้วย
“ยังไงก็เถอะ ลองออกตามหามันอีกสองสามวัน ถ้าหาไม่เจอเราค่อยกลับไปรายงานกับทางตระกูลกับข้อมูลที่เราหามาได้ทั้งหมด และหลังจากนั้นก็เตรียมตัวสำหรับคลื่นอสูรของปีนี้ และการกวาดล้างตระกูลจาง!!”
“รับทราบ!!!”
…
สี่วันผ่านไป
ซู่เสี่ยวไป่และซู่หลิงเกอ กำลังกินอาหารกลางวันแสนอร่อยอย่างหวานแหวว
แล้วอย่างไม่ทันตั้งตัว
“-ติ๊ง! *วิถีควบคุมมิติ* สำเร็จขึ้นฝึกหัดแล้ว-”
เสียงแจ้งเตือนจากระบบ ทำให้ซู่เสี่ยวไป่ถึงกับผงะและหยุดนิ่ง แล้วสีหน้าของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปราวกับเด็กน้อยได้ของเล่นใหม่
ในที่สุด!!
“พี่เป็นอะไร..”
เมื่อเห็นว่าซู่เสี่ยวไป่แสดงท่าทางเปลี่ยนไปทำให้ซู่หลิงเกอถามด้วยความสงสัย
“น้องหลิง..พอดี….พี่มีเรื่องต้องไปทำ พี่ขอเข้าห้องก่อนนะ แล้วเดี๋ยวพี่จะออกมาอยู่กับน้องต่อ!”
ปากก็พูดไป แต่ตัวของซู่เสี่ยวไป่ลุกไปจากโต๊ะกินข้าวนานไปแล้ว
“ในที่สุด…หลังจากทุ่มเททุกอย่างทั้งเวลาและทรัพยากร ในที่สุดฉันก็สำเร็จวิชานี้สักที”
เมื่อเข้ามาในห้องได้ซู่เสี่ยวไป่ปิดประตูทันที ด้วยอาการเนื้อตัวสั่นไปด้วยความตื่นเต้น
ในวินาทีต่อมา
ข้อมูลองค์ความรู้มากมายได้หลั่งไหลเข้ามาในหัวของซู่เสี่ยวไป
มิติ…มันคือการกำเนิดมิติ!
ช่างเป็นวิชาที่ลึกล้ำและมหัศจรรย์ยิ่งนัก
ซู่เสี่ยวไป่ราวกับกำลังแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทรของวิชาวิถีควบคุมมิติ
เพียงสองสามนาที การส่งถ่ายข้อมูลจากมิติก็จบลง
แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้นซู่เสี่ยวไป่ราวกับได้อ่านคัมภีร์วิชาวิถีควบคุมมิติเป็นล้านรอบ เข้าใจถึงคุณลักษณะพิเศษจำเพาะตัวของมัน และราวกับว่าเขาได้ฝึกฝนวิชานี้มานับครั้งไม่ถ้วน
และทุกอย่างก็ถูกรวบรวมเป็นหนึ่งเดียว กลายเป็นวิถีควบคุมมิติ
“ความรู้สึกนี้มัน..”
ซู่เสี่ยวไป่ลืมตาขึ้น กระแสพลังที่มองไม่เห็นก็ได้เปล่งแสงออกมาอย่างรวดเร็ว
กระแสพลังนี้ไม่มีที่มาที่ไปอยู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมา
ดูเหมือนว่าการเติบโตจากพื้นที่ภายในมิติฝึกวิชาของซู่เสี่ยวไป่
มันได้ทำให้ซู่เสี่ยวไป่มองเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้อย่างชัดเจน