Ep.70 - พลิกชีวิตยากจนมาทำเงิน
3/3
Ep.70 - พลิกชีวิตยากจนมาทำเงิน
ปฏิบัติการนี้ผลกำไรถือว่าไม่น้อย
แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไปคือวิธีการสร้างรายได้จากทรัพยากร เปลี่ยนมันเป็นเงินสด
ฮังอวี่ปั่นจักรยานกลับมายังตรอกมังกรฟ้า
วันนี้คณะกรรมการในพื้นที่ใกล้เคียงได้เข้ามาจัดกิจกรรมทำความสะอาดถนน ทำให้สภาพถนนสายหลักในชุมชนดีขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เกรงว่านี่คงได้ผลแค่ระยะสั้นๆ
พืชเติบโตเร็วเกินไป ถึงตัดเดี๋ยวก็งอกใหม่ นี่อยู่เหนือการควบคุมได้
ฮังอวี่มาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ หยิบกุญแจเตรียมจะเปิดประตู แต่ในตอนนั้นเอง เขาเห็นย่าหวางกับเหมิงเหมิงจากระยะไกล
ทั้งคู่กำลังช่วยกันผลักรถเข็นขนมกลับบ้าน สภาพถนนในตรอกมังกรฟ้าแย่มาก ไหนจะขุรขระ ไหนจะวัชพืชที่สูงสุดเลยเหนือหัว ทำให้ทั้งสองเกือบจมอยู่ใต้พงหญ้า
ย่าหวางกับเหมิงเหมิงน้อยต่างได้รับการเสริมความแข็งแกร่งจากโลกวิญญาณ ดังนั้นมีเรี่ยวแรงพอสมควร
แต่เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเธอก็ยังรู้สึกลำบาก
เหมิงเหมิงน้อยผลักรถเข็นด้วยมือทั้งสองข้าง สภาพดูเหมือนลูกวัวตัวเล็ก ผมของเธอเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าแดงวูบวาบ บ่งบอกชัดว่าพยายามทุ่มสุดตัว แต่ก็ยังยากจะผลักรถเข็นไปข้างหน้า
“เหมิงเหมิง ย่าหวาง ให้ผมช่วยเถอะ”
ทั้งสองรู้สึกได้ถึงแรงผลักมหาศาล รถเข็นขนมเคลื่อนไปข้างหน้าทันที
ใครกันที่มีพละกำลังมากมายขนาดนี้?
หยางเหมิงเหมิงเงยหน้าขึ้น และภาพใบหน้าอันเป็นมิตรได้สะท้อนเข้ามาในดวงตากลมโตของเธอ
“อา! พี่ชายฮัง ขอบคุณพี่ชายฮัง!”
เมื่อมีนักรบเลเวล 3 เข้ามาช่วยเหลือ ไม่นานรถเข็นแผงลอยเล็กๆก็ถูกผลักเข้ามาในลานบ้าน
ย่าหวางรีบพูด “เสี่ยวฮัง ขอบคุณมาก เหมิงเหมิงไปเทน้ำให้พี่ชายกินซักแก้วสิ”
หยางเหมิงเหมิงเดินไปหยิบแก้วน้ำอย่างรู้งาน ใบหน้าเล็กๆของเธอเต็มไปด้วยความเลื่อมใส เอ่ยกับฮังอวี่ด้วยน้ำเสียงสดใสว่า “พี่ฮังแข็งแกร่งจริงๆ แกร่งกว่าลุงหัวล้านของฉันอีก”
ฮังอวี่ลูบหัวเห็ดของสาวน้อย “เหมิงเหมิงต้องพยายามฝึกฝนให้มากๆในโลกวิญญาณ ต่อไปจะได้แข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าฉัน”
พอได้ยินว่าตัวเองก็สามารถแข็งแกร่งเหมือนฮังอวี่ได้ ดวงตาของหยางเหมิงเหมิงเป็นประกาย
สายตาฮังอวี่เบนไปตกลงบนรถเข็นขนมของย่าหวาง
รถเข็นนี้ขายเครปเป็นหลัก ย่าหวางน่าจะทำสิ่งนี้หาเลี้ยงชีพ
ฮังอวี่เอ่ยถามว่า “ตอนนี้คุณย่ายังทำเงินจากการขายเครปได้อยู่ไหม?”
ย่าหวางดูเศร้าๆ “การหาเงินไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้ขายยังไงก็ขาดทุน ราคาแป้งกับไข่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ”
เนื่องจากอิทธิพลจากโลกวิญญาณ วัตถุดิบในตลาดเช่น ไข่ แป้ง ไส้กรอกแฮม ต่างถูกปล้น หาซื้อยากมากในซุปเปอร์มาร์เก็ต และถึงจะมีให้ซื้อ แต่ราคาค่อนข้างแพง
แล้วอีกอย่าง เครปไม่ใช่อาหารที่จำเป็นต้องกินในชีวิตประจำวัน สถานการณ์ระยะยาวของย่าหวางเรียกได้ว่าไม่ดีเลย เพราะเมื่อเวลาผ่านไป สุดท้ายอาหารที่เคยมีในโลกปัจจุบันหายไป ถูกอาหารโลกวิญญาณเข้ามาแทนที่
แต่ย่าหวางเป็นคนธรรมดา จะให้เปลี่ยนใจคิดไปทำอย่างอื่นด้วยตัวเองคงยาก อนาคตของเธอนับวันจะยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ
ยังไงก็ตาม ย่าหวางถือว่ายังโชคดี ที่ลูกชายโล้นซ่าได้มาทำงานให้ฮังอวี่ แถมอีกฝ่ายตอนนี้ก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นแล้ว อนาคตถึงจะพูดได้ไม่เต็มปากว่ารุ่งโรจน์ แต่อย่างน้อยคงไม่มีสภาพเลวร้ายเฉกเช่นปัจจุบัน
แต่จะให้ย่าหวางกับเหมิงเหมิงพึ่งพาแต่โล้นซ่าอย่างเดียวไม่ได้ ฮังอวี่ต้องชี้ทางสว่างให้สองย่าหลาน
“คุณย่าเคยนึกหาเงินด้วยวิธีอื่นไหม?” ฮังอวี่เอ่ยกับหญิงชราและโลลิน้อยเบื้องหน้า “สกิลของคุณย่าและเหมิงเหมิงเอาจริงๆมีประโยชน์มาก ตราบใดที่ได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้อง สามารถทำเงินได้มหาศาล”
เหมิงเหมิงน้อยแสดงท่าทีประหลาดใจ “เหมิงเหมิงทำเงินได้ด้วยหรอ? แต่เหมิงเหมิงอายุแค่ 6 ขวบเองนะ ยังเรียนอนุบาลอยู่เลย”
“แล้วใครบอกว่าเด็กอนุบาลด้อยกว่าคนอื่น?”
ฮังอวี่วางถ้วยชาในมือลง นำค้อนคนงานออกจากพื้นที่เก็บของโลกวิญญาณ
“พวกเรามาทดลองกัน ย่าหวาง ย่าลองย่อยสลายอุปกรณ์ชิ้นนี้ให้ผมหน่อยครับ”
“อา! นี่คืออุปกรณ์จากโลกวิญญาณใช่ไหม? อุปกรณ์จากโลกวิญญาณที่ราคาแพงแสนแพง!”
ย่าหวางมือสั่น เธอเก้ๆกังๆไม่กล้ารับมันเพราะกลัวจะทำเสียหาย
เธอไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ได้หากอุปกรณ์โลกวิญญาณเกิดเป็นรอย
“อุปกรณ์ชิ้นนี้แทบไม่เหลือค่าความทนทาน ไม่ต่างอะไรจากเศษเหล็ก แล้วอีกอย่าง ผมมีพวกมันอีกมาก คุณย่าไม่ต้องกังวล ขอแค่ทดลองดู”
ฮังอวี่พูดถึงขนาดนี้ ย่าหวางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากร่ายสกิลย่อยสลาย
ค้อนคนงานถูกห่อหุ้มไปด้วยชั้นแสง จากนั้นค่อยๆเปล่งประกาย สุดท้ายย่อยสลายออกเป็นสองส่วน
หนึ่งคือ ‘เศษเหล็กเย็น’
อีกหนึ่งคือ ‘ผงหินคริสตัลเทา’
อย่างไรเสีย ค้อนคนงานก็แค่อุปกรณ์เกรดต่ำ มันไม่สามารถย่อยสลายเป็นวัสดุดีๆได้
เศษเหล็กเย็นไม่สามารถใช้หลอมอาวุธ ส่วนผงหินคริสตัลเทาเองก็ไม่ถือว่าเป็นหินคริสตัลในสภาพสมบูรณ์
หากอยากให้สมบูรณ์ ตามปกติแล้วต้องใช้ 20 ผงหินคริสตัลมาผสม จึงจะกลายเป็นก้อนหินคริสตัลได้
ฮังอวี่หยิบค้อนคนงานอีกอันออกมา แล้วมอบวัสดุที่ได้จากการย่อยสลายทั้งสองชนิดให้เหมิงเหมิง
“เหมิงเหมิงน้อยมานี่สิ ตอนนี้ฉันขอให้เธอใช้วัสดุทั้งสองชนิดนี้ ทดลองซ่อมค้อนอีกชิ้นดู”
เด็กปกติมีนิสัยช่างสงสัยอยู่แล้ว เธอปฏิบัติตามอย่างไม่กังวล
เหมิงเหมิงเลื่อมใสในตัว ฮังอวี่มากดังนั้นเธอเชื่อเขาสุดหัวใจ สั่งให้ทำอะไรก็ทำตาม
เธอไม่ได้ยื่นมือรับวัสดุหรือค้อนคนงาน เพียงหลับตาลง และในชั่วพริบตานั้นเอง ดั่งได้รับพรดลใจ เหมิงเหมิงน้อยรู้สึกได้ว่าเธอสามารถซ่อมแซมค้อนชิ้นนี้ได้
ร่ายสกิลซ่อมแซม!
‘เศษเหล็กเย็น’ และ ‘ผงหินคริสตัลเทา’ ระเหยเป็นแสง ลอยเข้าไปในค้อนคนงาน ค่อยๆเปล่งแสงสว่างจ้า
กระบวนการนี้กินเวลาประมาณ 4-5 วินาทีก่อนจะจางหายไป
ค้อนโฉมใหม่ปรากฏสู่สายตาทุกคน
รอยแตกร้าวของมันหายไปหมดแล้ว สภาพดูไม่ต่างจากค้อนที่พึ่งถูกสร้างขึ้นใหม่
[ค้อนคนงาน] อุปกรณ์เลเวล 1 สีเทาคุณภาพต่ำ การโจมตีทางกายภาพ +1 ค่าความทนทาน 8/8
ขีดจำกัดค่าความทนทานลดลด 2 หน่วย นี่คือการความสูญเสียที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในกระบวนการซ่อมแซม
เนื่องจากคุณภาพของวัสดุที่ใช้ในการซ่อมอุปกรณ์นั้นต่ำเกินไป
“ว้าว! อัศจรรย์จริงๆ ค้อนเก่าเหมือนของใหม่เลย!”
เหมิงเหมิงมองค้อนใหม่เอี่ยม ปากเธออ้ากว้างลืมหุบ
“มันน่าทึ่งใช่ไหม” ฮังอวี่พอใจมาก พร้อมอธิบายว่า “ค้อนคนงานที่มีค่าความทนทานน้อยจะขายได้ในราคาแค่ 20,000 - 30,000 หยวนเท่านั้น แต่ตอนนี้ ค้อนคนงานมีค่าความทนทานเต็ม ต่อให้ตั้งขายในราคา 200,000 หยวน คนก็ยังแย่งกันซื้อ”
เหมิงเหมิงไม่มีหัวเรื่องการเงินเลย เธอแค่รู้สึกว่าได้พบเรื่องน่าสนุกใหม่ที่ได้เล่นกับค้อน
ในทางกลับกัน ย่าหวางมีสีหน้าตกตะลึง
ขั้นแรกทำการย่อยสลายค้อนพังๆเพื่อรับเอาวัสดุ
ขั้นต่อไป นำวัสดุที่ได้ไปซ่อมค้อนพังๆ
เพียงกระบวนการสั้นๆแต่สามารถสร้างผลกำไรได้มหาศาล!
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เธอตกใจยังไม่หมดลงเพียงเท่านี้
เห็นแค่เพียงฮังอวี่เรียกค้อนคนงานและฉมวกล่าปลาทั้งหมดที่เขาเก็บได้ออกมา
เป็นค้อนคนงาน 38 ชิ้น และฉมวกล่าปลาอีก 20 เล่ม
กองพะเนินในพริบตาเดียว!
“ทำไมพี่ชายฮังถึงมีอาวุธเยอะจัง” ดวงตาไร้เดียงสาของหยางเหมิงเหมิงเบิกกว้าง “แต่ดูๆแล้วอาวุธพวกนี้พังเสียหายหมดเลย จำเป็นต้องซ่อมพวกมันทั้งหมดใช่ไหม?”
“ใช่ ทั้งหมดนี้ต้องได้รับการซ่อมแซม!” ฮังอวี่หยิกแก้มโลลิน้อย “แต่พี่ชายซ่อมไม่เป็น คงได้แต่หวังพึ่งเหมิงเหมิง เธอพอจะช่วยฉันได้ไหม?”
เหมิงเหมิงไม่นึกฝันเลยว่าพี่ชายทรงพลังที่สามารถทำได้ทุกอย่างอย่างฮังอวี่จะขอความช่วยเหลือจากเธอ
เด็กสาวเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมาทันที เธอตบหน้าอกรับปากสัญญา “ไม่ต้องห่วงพี่ฮัง เหมิงเหมิงจะช่วยซ่อมพวกมันเอง!”
ย่าหวางตกใจจนพูดไม่ออก
ไม่นานมานี้ เธอเคยตั้งวงซุบซิบกับพวกป้าแก่ๆ และหนึ่งในประเด็นร้อนแรงที่คุยกันบ่อยสุดคืออุปกรณ์จากโลกวิญญาณ
ดังนั้นเธอจึงเข้าใจดีว่าต่อให้เป็นอุปกรณ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่ถ้ามันมาจากโลกวิญญาณยังไงก็มีค่าเป็นเงินจำนวนมาก
ใครก็ตามที่ได้รับอุปกรณ์จากโลกวิญญาณ จะกลายเป็นคนร่ำรวย มีหน้ามีตาขึ้นมาทันที!
แต่เพื่อนบ้านหนุ่มคนนี้ กลับนำพวกมันออกมาทีเดียวหลายสิบชิ้น!
แล้วแบบนี้จะไม่ให้เธอตกใจได้อย่างไร? นี่มันการทดสอบจิตใจกันชัดๆ!
มันให้ความรู้สึกเหมือนคนยากคนที่อาศัยอยู่ในสลัมมาทั้งชีวิต แล้วจู่ๆวันหนึ่งก็มีใครไม่รู้ขับรถกระบะมาเทแท่งทองหน้าบ้าน
อุปกรณ์เหล่านี้ในสายตาของฮังอวี่ มันไม่มีอะไรมากไปกว่าเศษเหล็กที่ปราศจากค่าความทนทาน เก็บไว้กับตัวก็ไม่มีประโยชน์ แต่จะทิ้งไปก็น่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเรื่องที่ว่ากระทั่งหน้ากากอุลตร้าแมนยังมีมูลค่าเกือบร้อยหยวนเขายังเสียดาย
เช่นนั้นแล้วค้อนคนงานในราคาหลักหมื่นเขาจะไม่เสียดายได้อย่างไร?
ยังไงก็ตาม อาวุธที่มีค่าความทนทานเพียง 1 - 2 หน่วยมันไม่สามารถใช้งานจริงได้ บวกกับเรื่องที่ต่อไปพวกมนุษย์ปลาจะยิ่งมีจำนวนมากขึ้น และสุดท้ายเรื่องที่สามารถยึดอุปกรณ์จากพวกมันได้ก็จะเปิดเผย
ต่อไป อุปกรณ์เกรดต่ำและค่าความทนทานต่ำเหล่านี้จะมีจำนวนมากขึ้น และนั่นจะทำให้ราคาของพวกมันนับวันยิ่งตกฮวบ
ทว่าหากสามารถซ่อมแซม มูลค่าก็จะเพิ่มขึ้น ไม่ต้องกังวลปัญหาข้างบนอย่างสิ้นเชิง!
ฮังอวี่สามารถทำเงินให้กับตัวเอง ทั้งยังถือเป็นการช่วยเหลือคนยากจนไปในตัว
เมื่อมีโอกาสแบบนี้ แล้วทำไมเขาจะไม่ทำล่ะ?
ที่สำคัญก็คือ ย่าหวางกับเหมิงเหมิงเป็นคนไว้ใจได้ ในอนาคตไม่ว่าจะชุมชนหรือขุมกำลังใด พวกเขาไม่สามารถอยู่ได้หากปราศจากสกิลย่อยสลายและซ่อมแซม
หากฮังอวี่เลือกชุบเลี้ยงสองย่าหลานตั้งแต่เนิ่น มันมีแต่จะได้รับผลประโยชน์ ไม่มีอันตรายต่อตนเอง