Ep.68 - โลกกลม
1/3
Ep.68 - โลกกลม
มีสมบัติในค่ายมนุษย์ปลามากกว่าที่คาดไว้
เนื่องจากพื้นที่เก็บของไม่พอ ฮังอวี่จึงไม่สามารถนำกลับไปได้ทั้งหมด
สำหรับของที่เอาไปไม่ได้ แม้เขาจะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เสียใจ
เพราะสิ่งที่เหลืออยู่ล้วนเป็นทรัพยากรราคาถูกไม่ก็ไร้ประโยชน์ ของดีๆฮังอวี่ฮุบไปหมดแล้ว
อย่างแร่เหล็กเย็น มันคือวัสดุหลักสำหรับใช้หลอมอาวุธระดับต่ำจำนวนมาก สามารถนำไปใช้สร้างค้อนคนงานของมนุษย์ปลาได้
ส่วนกระดองเต่าเต่าเหล็กนั้นสามารถนำไปใช้สร้างโล่เต่าเหล็กได้
ด้านสารสกัดกระดูกฉลามขาวและสมุนไพรเต่านั้นเป็นวัถดุดิบคุณภาพสูง
อย่างแรกสามารถใช้สร้างหอกก้างปลาอันทรงพลัง อย่างหลังสามารถนำไปกลั่นโพชั่นลมหายใจเต่า
นอกจากนี้ก็เป็นพวกพิม์เขียว
สำหรับฮังอวี่ กอบโกยเท่านี้ก็นับว่ามากพอแล้ว
ฮังอวี่ไม่มีแผนจะสำรวจต่อ แม้รู้ทั้งรู้ว่าในแม่น้ำมีเรือผีอยู่ และที่นั่นมีโอกาสได้รับสมบัติมากกว่าที่นี่
อย่างไรก็ตาม การลอบขึ้นไปบนเรือนั้นเสี่ยงเกินไป!
ตอนนี้ในแม่น้ำเต็มไปด้วยพวกมนุษย์ปลา การว่ายลงไปเท่ากับแส่หาที่ตาย
มีโอกาสถูกฆ่า 100%!
บนเรือผีสิงนั่นคงเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ และอาจมีพวกมอนสเตอร์ชั้นสูงอย่างมนุษย์ปลานักล่าอยู่เป็นจำนวนมาก
ทีนี่คือโลกจริง หากตายจะไม่มีโอกาสฟื้นคืนชีพ
ไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้ได้แต่ปล่อยมันไปเท่านั้น!
ฮังอวี่กลับมาบนถนน ขึ้นขี่จักรยานแล้วปั่นออกจากสถานที่นี้ไป
แต่ฮังอวี่ออกไปไม่กี่นาที เขาก็ได้ยินเสียงต่อสู้ดุเดือดดังขึ้นเบื้องหน้า
ดูเหมือนว่าจะมีมนุษย์ปลากลุ่มใหญ่กำลังต่อสู้กับคนกลุ่มหนึ่ง
“ฉันก็นึกอยู่ว่าทำไมไม่มีพวกมอนสเตอร์ในค่าย”
“ที่แท้พวกมันก็ถูกคนกลุ่มนี้ล่อมานี่เอง”
ปรากฏว่า ฮังอวี่ไม่ใช่คนแรกที่ค้นพบค่าย
เห็นได้ชัดว่ามีอีกกกลุ่มหนึ่งเร็วกว่าเขา แต่คนพวกนี้เลือกบุกซึ่งๆหน้า เลยเป็นการดึงดูดมอนสเตอร์ออกไป
เพราะพวกเขา เมื่อฮังอวี่ไปถึงค่ายจึงพบว่ามันแทบว่างเปล่า
พิจารณาจากเสียงการต่อสู้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ!
ฮังอวี่นิ่งคิดพักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจย่องเข้าไปดู
ยังไงซะ หากอีกฝ่ายไม่ล่อพวกมนุษย์ปลาออกไป อะไรๆฝั่งเขามันคงไม่ง่ายดายขนาดนี้
ไหนๆตัวเองก็ได้ประโยชน์แล้ว หากปล่อยให้อีกฝ่ายเดือดร้อน แล้วตนตบตูดจากไปเพียงลำพัง มันคงไม่ดี
ขณะที่พละกำลังที่ได้รับจากไตแกะยังไม่หายไป ดาเมจที่สามารถสร้างได้ในระหว่างนี้จึงยังสูงมาก ปล่อยให้เสียเปล่าคงไม่ได้
แต่ยังไงอันดับแรกขอไปดูกันก่อน
ฮังอวี่ค่อยๆปั่นจักรยานเข้ามาใกล้ๆอย่างช้าๆ สายตาเขาเริ่มเห็นกลุ่มคนผ่านหมอกจางๆ ทั้งหมดดูเหมือนจะมี 6 คน
แต่ตอนนี้พวกเขากำลังถูกปิดล้อมโดย มนุษย์ปลากว่า 50 ตน!
นอกจากนี้ยังมีศพมนุษย์ปลาแน่นิ่งอยู่กับพื้นอีกเป็น 10 ตน ชัดเจนว่าเกิดการต่อสู้มาระยะหนึ่งแล้ว
“มีพวกมนุษย์ปลาอยู่เยอะขนาดนี้เชียว?”
“ทีมนี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมาก”
จำนวนมนุษย์ปลาในที่นี้ เห็นได้ชัดว่ามากกว่าฝ่ายมนุษย์มาก!
อย่างไรก็ตาม ทีมหกคนนี้ แม้ถูกปิดล้อม แต่ก็ยังทนมาจนถึงตอนนี้ได้
นี่มากพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าพลังรบของพวกเขาไม่อ่อนแอ
แน่นอน เพราะมีมอนสเตอร์มากเกินไป ขณะนี้พวกเขาจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ฮังอวี่พบร่างอันคุ้นเคยในคนกลุ่มนั้น เขาอดประหลาดใจไม่ได้
“ให้ตายเหอะ นั่นอาจารย์ซูไม่ใช่หรอ?”
โลกกลมจริงๆ
แม้เขาจะรู้ว่าอาจารย์ซูกำลังออกสำรวจริมแม่น้ำ แต่ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอกันในสถานการณ์แบบนี้
คาดว่าอาจารย์ซูน่าจะได้ข้อมูลมาตั้งนานแล้ว เธอจึงบุกเข้ามา คิดกอบโกยสมบัติจากพวกมนุษย์ปลาที่นี่
เพียงแต่ว่าจำนวนของมนุษย์ปลาเหมือนจะเกินปัญญารับมือ มากเกินจนตอนนี้กลายเป็นฝ่ายถูกเล่นงานเสียเอง
แม้พวกเธอจะแข็งแกร่งมาก แต่ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป คงมีผู้บาดเจ็บหนักไม่ก็เสียชีวิต
สถานการณ์ที่ถูกฝูงมนุษย์ปลาล้อมเช่นนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงอาจารย์ซู ต่อให้เป็นฮังอวี่ก็ไม่น่าไหวเช่นกัน
ทว่าแม้เขาไม่ไร้เทียมทาน แต่ก็ไม่อาจทนดูคนอื่นๆตายได้เช่นกัน
ตอนแรกฮังอวี่คิดเรียกหน้ากากโนมขึ้นมาใส่ แต่เมื่อคิดได้ว่าอาจารย์ซูค่อนข้างคุ้นเคยกับตนเอง ดังนั้นเลยตัดสินใจหยิบหน้ากากอุลตราแมนขึ้นสวมอีกครั้ง แล้วค่อยๆปั่นจักรยานเข้าใกล้สนามรบจากด้านข้าง
...
ทีม 6 คนแบ่งออกเป็นสองทีมเล็กๆ
นำทีมโดยซูหยุนปิงและหลี่ซ่ง สมาชิกระดับสูงแห่งสมาคมโลกวิญญาณ
ฝั่งซูปยุนปิงลูกทีมประกอบด้วยชายหญิง ผู้ชายเป็นเด็กหนุ่มผิวขาวหน้าตาหล่อเหลา
ฮังอวี่ ร้องอ๋อทันทีที่เห็นหน้าเขา
คนผู้นั้นมิใช่ใครอื่น แต่เป็นประธานนักศึกษาเฉารุ่ย
บุคลิกของเฉารุ่ยนับว่าไม่เลว คนๆนี้มีความสามารถหลากหลาย ได้รับรางวัลจากการแข่งขันต่างๆมากมาย แต่ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายจะกลายเป็นลูกน้องของอาจารย์ซู
สองมือของเฉารุ่ยกวัดแกว่งดาบคู่จากโลกวิญญาณ ความว่องไวในการโจมตีรวดเร็วมาก สามารถสู้กับมนุษย์ปลาที่รุกเข้ามาหลายตัว ฟาดฟันได้ติดต่อกัน
ผู้หญิงเป็นสาวสวยบุคลิกอ่อนโยน ผมยาวถึงเอว เธอเองก็เคยเรียนมหาลัยเดียวกัน
แต่อย่ามองแค่ภายนอกที่ดูอ่อนโยนหรืออ่อนแอเชียว หญิงสาวคนนี้มีความสามารถกว่าที่คิด เธอชื่อหลินหลาน ตอนที่เธอยังเรียนอยู่ เคยรับตำแหน่งประธานสภานักศึกษา และยังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากในช่วงนั้น
หลินหลานถือไม้เท้าในมือ เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวทมนต์
เธอสามารถปลดปล่อยการโจมตีจากพายุเฮอริเคนได้ หอบเอามนุษย์ปลาที่บุกเข้ามาลอยกลับออกไป สร้างดาเมจจากระยะไกล
แต่สกิลประเภทนี้ดูเหมือนจะสิ้นเปลืองพลังจิตมาก ดังนั้นน่าจะรั้งไว้ได้อีกไม่นาน
สามคนจากอีกทีมหนึ่ง นำโดยหลี่ซ่ง ระดับสูงของสมาคมโลกวิญญาณ
หลี่ซ่งเป็นชายชราอายุมากกว่า 60 ปี มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลของซูหยุนปิง
จะเรียกว่าเขาเป็นผู้อาวุโสของซูหยุนปิงก็ได้
ส่วนลูกทีมอีกสองคนของเขาเป็นยอดฝีมือจากสมาคมโลกวิญญาณ
หน่วยข่าวกรองตรวจพบว่ามีมนุษย์ปลาจำนวนมากได้ขนส่งเสบียงจากเรือผีไปยังค่าย
หรือก็คือ หากสามารถเข้ายึดค่ายสำเร็จ ย่อมได้รับทรัพยากรมหาศาล
แต่สิ่งที่ทั้งหกคาดไม่ถึงก็คือ พวกเขาไม่นึกว่าจะมีมนุษย์ปลาอยู่ในค่ายมากขนาดนี้!
ตัดสินจากพลังรบของทั้งหกแล้ว นับเป็นอันดับต้นๆของเจียงเฉิง แต่ก็ยังแกร่งไม่พอสำหรับสถานการณ์นี้อยู่ดี --การที่รีบบุกเข้ามาแล้วต้องเผชิญหน้ากับมนุษย์ปลาเป็น 60-70 ตัว นั่นไม่ต่างจากการแหย่รังแตน!
ทำได้แค่สู้และค่อยๆถอยเท่านั้น
เนื่องจากอิทธิพลของหมอก ทำให้ยากจะแยกแยะทิศทาง สุดท้ายกลายเป็นถูกบีบให้เข้าสู่ทางตัน
“ฉันขอกำลังสนับสนุนแล้ว” หลี่ซ่งตะโกน “ทุกคนอดทนไว้!”
ซูหยุนปิงครั้งนี้ไม่ได้ใส่ชุดสูทแบบเป็นทางการ ท่อนบนเธอสวมเสื้อกั๊กเกราะหนัง โชว์สองแขนเรียวสวย หน้าอกนูนกระชับกับเกราะหนัง และหากเพ่งดีๆจะเห็นร่องลึกกลางหน้าอก และนั่นมากพอแล้วที่จะกระตุ้นจินตนาการลามก
อุปกรณ์ท่อนล่างเธอสวมเป็นกางเกงหนังที่ได้มาจากโลกวิญญาณ จากลวดลายสมควรเป็นหนังงู สองขาเพรียวยาวรัดรูป ส่วนโค้งของสะโพกและเอวช่างสมบูรณ์แบบราวกับภาพวาด มองแล้วชวนให้เลือดลมสูบฉีด
ครั้งนี้เธอไม่ได้สวมแว่น ผมสีดำถูกมัดเป็นหางม้า ในมือขวาถือแส้ยาว สภาพต่างจากตอนปกติอย่างสิ้นเชิง
หากสภาพยามปกติเธอเหมือนพี่สาวทรงภูมิปัญญา เวลานี้เธอเหมือนนางพญาซาดิสม์!
ทั้ง 6 คนมีเลเวล 2 ขึ้นไปทั้งสิ้น ทุกคนต่างมีอุปกรณ์จากโลกวิญญาณมากกว่าหนึ่งชิ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งซูหยุนปิง อาวุธของเธอวิเศษมาก ยามแส้ขาวร่ายระบำ ฟาดเพียงสองสามทีก็สามารถล้มมนุษย์ปลาคนงานลงไปหมอบกับพื้นได้ มีมนุษย์ปลาหลายตนกำลังถูกเธอทุบตีล้มลงต่อเนื่อง
แต่ในตอนนั้นเอง มนุษย์ปลาคนรับใช้ตนหนึ่งได้ถือฉมวกและพยายามย่องเข้าหาเธอ
เฉารุ่ยกับหลินหลานรีบยตะโกนพร้อมกัน “อาจารย์ซู ระวัง!”
ซูหยุนปิงตอบสนองในฉับพลัน เธอเอี้ยวตัวหลบฉมวกมนุษย์ปลาคนรับใช้ไปทางซ้าย ระหว่างกระบวนการไม้เท้าลวดลายสีม่วงปรากฏขึ้นในมือเธอ
มันคืออาวุธไม้เท้าสีเทาใสเลเวล 3 ที่เธอแลกเปลี่ยนกับฮังอวี่!
การที่เธอสามารถสวมใส่และใช้อาวุธเลเวล 3 ได้ นั่นหมายความว่า ... เธอได้ไปถึงเลเวล 3 แล้วเช่นกัน!
มนุษย์ปลาคนรับใช้เมื่อพลาด มันเร่งโจมตีอีกหลายครั้ง
ท้ายที่สุดแล้ว ซูหยุนปิงไม่ใช่นักรบ ดังนั้นแม้เธอสามารถอัพเลเวล 3 แต่ปฏิกิรยาตอบสนองยังคงเชื่องช้า หลบได้ไม่กี่ทีก็ถูกฉมวกแทงเป็นแผล
หว่างคิ้วของเธอย่นเข้าหากันด้วยความเจ็บปวด แต่ยังมั่นคงไม่หวั่นไหว เหวี่ยงไม้เท้าในมือฟาดหัวมนุษย์ปลาคนรับใช้
“เนตรมนต์เสน่ห์!”
ดวงตาของซูหยุนปิงเปล่งแสงประหลาดตา
ฝ่ายมนุษย์ปลาคนรับใช้ มันเงยหน้าขึ้นอย่างไม่อาจควบคุมตัวเอง จ้องมองเข้าไปในดวงตาของซูหยุนปิง ซักพักร่างมันเริ่มสั่นสะท้าน สั่นกึกๆเหมือนเป็นลมชัก
กระชวนการนี้กินเวลากว่า 2 วินาที สุดท้ายมนุษย์ปลาคนรับใช้สูญสิ้นการต่อต้านอย่างสิ้นเชิง มันหมุนตัวกลับ และแทงฉมวกไปยังร่างของมนุษย์ปลาคนงานที่อยู่ข้างหลังอย่างไม่ลังเล