ตอนที่แล้ว664 - ทารกศักดิ์สิทธิ์ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป666 - ที่แท้ก็เขาเอง 

665 - คืนพระจันทร์เต็มดวง


665 - คืนพระจันทร์เต็มดวง

แน่นอนว่าหลังจากถูกทำลายล้างดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซวนยังมีสมบัติมากมายอยู่ภายใน มรดกของพวกเขาถูกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแบ่งปันกันไปหมดแล้ว มีเพียงดินแดนของพวกเขาเท่านั้นที่ไม่มีผู้ใดกล้าเหยียบย่ำเข้าไป

  

หกพันปีที่แล้ว หลังจากความล้มเหลวในการโจมตีดินแดนต้องห้ามโบราณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์ซึ่งรุ่งเรืองมาก หายไปในชั่วข้ามคืน และมีเพียงสามหรือสี่คนเท่านั้นที่หนีกลับมาได้

  

ในอดีตเคยมีมหาอำนาจหลายแห่งที่ต้องการยึดสถานที่แห่งนี้ แต่ไม่นานนักทุกคืนพระจันทร์เต็มดวงจะมีเสียงกรีดร้องดังขึ้น ต่อให้ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ออกค้นหาด้วยตัวเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้

  

หลังจากนั้นในทุกๆพันปี จะเกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายหวาดกลัว

หลังจากนั้นในทุกๆพันปี เสียงร้องแห่งความเศร้าโศกจะปรากฏขึ้นกลางดึก ทำให้ดินแดนศักสิทธิ์ทั้งหมดตกตะลึง

  

ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้ามาสนใจสถานที่แห่งนี้ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าที่นี่คือดินแดนมังกรศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้พวกเขาสามารถพัฒนาสำนักของตัวเองให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แต่พวกเขาก็ไม่คิดเอาชีวิตของตัวเองมาเสี่ยง

“ลองคิดดูอีกไม่กี่วันก็จะครบรอบพันปีอีกแล้ว และคืนพระจันทร์เต็มดวงก็ใกล้เข้ามาทุกที เป็นไปได้ไหมว่าคนคนนั้นจะกลับมาอีกครั้ง?” หวังเฉินอี้ขมวดคิ้ว

  

“คนวิกลจริตผู้ปรากฏขึ้นในรอบพันปี!” สุนัขสีดำตัวใหญ่พึมพำด้วยความกลัวในใจ

  

เย่ฟ่านจำสิ่งหนึ่งได้ และขอคำแนะนำจากหวังเฉินอี้ โดยกล่าวว่า “ผู้อาวุโส ท่านทราบเนื้อหาในคัมภีร์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซวนหรือไม่ และที่มาของทักษะท่าเท้าที่พวกเขาเชี่ยวชาญคืออะไร?”

  

สุนัขสีดำตัวใหญ่เคยกล่าวไว้ว่าทักษะก้าวย่างของชายชราผู้บ้าคลั่ง มีเงาของ "การเคลื่อนไหว" ในญาณวิเศษลึกลับทั้งเก้าและเขาต้องการที่จะเข้าใจมัน

  

“คัมภีร์โบราณของเทียนซวนนั้นทรงพลังและลึกลับมาก แต่น่าเสียดายที่พวกมันถูกลบล้างและไม่ได้สืบทอดมา ฝีเท้าของพวกเขาไม่มีใครเทียบได้ในโลก”

  

หวังเฉินอี้ครุ่นคิดเล็กน้อยและพูดว่า "มีไม่กี่คนในโลกที่รู้เรื่องนี้ ฝีเท้าของเทียนซวนพัฒนามาจากเก้าญาณวิเศษลึกลับ"

  

"อะไรนะ?" เย่ฟ่านตกใจไม่คิดว่าจักรพรรดิดำจะเดาถูก

  

“ในสมัยโบราณบรรพบุรุษของพวกเรามีความคุ้นเคยต่อวิชานี้อยู่บ้าง” หวังเฉินอี้พูดช้าๆ

  

เมื่อหลายหมื่นปีก่อน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายล้อมปราบศาลสวรรค์ ทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนักฆ่า นิกายหลักเหล่านั้นก็หยิบฉวยเอาของวิเศษจากพวกเขาไปมากมาย

  

และสิ่งที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซวนได้รับคือสิ่งล้ำค่าที่สุดนั่นคือม้วนคัมภีร์หลักของศาลสวรรค์

"การเคลื่อนไหว" ของศาลสวรรค์ถูกตัดขาดไปก็เพราะการครอบครองของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซวนนั้นเอง

  

ฝีเท้าของชายชรามีต้นกำเนิดมาจาก "การเคลื่อนไหว" ของสวรรค์ แต่ก็ไม่สมบูรณ์ ในท้ายที่สุดดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซวน ก็พัฒนามันกลายเป็นวิชาประจำสำนักของตัวเอง

  

คืนพระจันทร์เต็มดวงใกล้จะมาถึงแล้ว เย่ฟ่านและคนอื่นๆยืนอยู่บนยอดเขาไกลๆ และมองไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซวน

  

“อ๊าก!!”

ในเวลาไม่นานเสียงคำรามก็ดังขึ้นอีกครั้ง

  

“เป็นเขา เป็นคนที่เราเห็นนั่นเอง!” สุนัขสีดำตัวใหญ่ตกใจ

  

เย่ฟ่านและคนอื่นๆได้เห็นคนๆ นั้นอีกครั้ง บุคคลที่หลอกหลอนดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายเหมือนวิญญาณร้าย การเคลื่อนไหวของเขาเร็วมาก บางทีแม้แต่ชายชราผู้บ้าคลั่งอาจจะเทียบไม่ได้

  

“วู้...” เมื่อเขาคำรามเสียงดังราวกับฟ้าร้องโลกทั้งใบก็สั่นสะเทือน

  

“แน่นอนว่าคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาที่นี่จริงๆ!” หวังเฉินอี้กล่าวเบาๆ ดวงตาของเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า

  

ช่วงเวลาสหัสวรรษเป็นวันที่พิเศษมาก ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดต้องการมาดูว่าบุคคลนั้นกลับมาหรือไม่ หรือว่าเขาตายไปแล้ว? หากเขาตายไปแล้วดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคงไม่ลังเลที่จะยึดครองสถานที่แห่งนี้

  

สามารถจินตนาการถึงความตกใจในหัวใจของพวกเขา คนคนนั้นส่งเสียงคำรามอีกครั้ง แม้ว่าจะผ่านไปหลายพันปีแต่เขาก็ยังมีชีวิตเป็นปกติสุขอยู่เช่นเดิม

  

“ในช่วงพันปีแม้แต่ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายคนก็ยังไม่สามารถข้ามพ้นไปได้ ต่อให้ผ่านไปได้ก็ไม่มีทางที่จะอยู่ถึงสองพันปีหากพวกเขาไม่ใช่เผ่าพันธุ์อสูร!” สุนัขสีดำตัวใหญ่พึมพำ

  

“เจ้าหมาที่น่าตาย เงียบไว้อย่าพูดไร้สาระ!” หลี่เหอซุยเตือน

  

ในที่ห่างไกลผู้คนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายได้ถอยหลังกลับอย่าเงียบ พวกเขาไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน ทุกคนต่างมาที่นี่เพื่อดูว่าคนคนนั้นของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซวนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

สุดท้ายผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นก็ต้องถอยกลับด้วยความเศร้าเสียใจ

  

วันนี้ร่างที่ไม่มีใครเทียบได้นี้ยังมีชีวิตอยู่ ยังจะมีผู้ใดสามารถสบายใจได้ คนคนนี้มีอายุไม่ต่ำกว่าหกพันปีแล้ว ต่อให้เป็นเจียงไท่ซูก็ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้อย่างแน่นอน

หรือบางทีคนคนนี้อาจจะเป็นผู้อมตะที่แท้จริง!

  

“เป็นชายชราคนนั้นหรือไม่” เย่ฟ่านพึมพำ ยกเว้นชายชราผู้บ้าคลั่ง ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซวนยังจะมียอดฝีมือระดับสูงอีกคนเหลือรอดจริงๆหรือ!

  

เสียงคำรามดังต่อเนื่องเป็นเวลาครึ่งชั่วยาม และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนภูเขาก็หยุดสั่น และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ก็กลับมาสงบเสงี่ยมครั้ง

  

“คราวนี้ เขาควรจะไปแล้ว ว่ากันว่าทุกครั้งที่เขาคำรามจนจบ เขาจะหายไปเป็นพันปี” หวังเฉินอี้ถอนหายใจ

  

“ไปดูกันเถอะ!” หลี่เหอซุยกล่าว

  

ในตอนกลางคืน ซากปรักหักพังของเทียนซวนนั้นเงียบสนิท อากาศที่อยู่ภายในค่อนข้างหนาวเหน็บต่อให้เป็นช่วงฤดูร้อนแล้วแต่ที่นี่ยังคงมีสภาพอากาศไม่แตกต่างจากยอดเขาหิมะ

  

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อมตะที่รุ่งโรจน์และทรงพลังครั้งหนึ่งได้จบลงเช่นนี้ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกทำใจยอมรับได้ยากจริงๆ

  

ขั้นบันไดถูกปกคลุมด้วยตะไคร่น้ำสีเขียวและวัชพืชก็ท่วมพื้นดิน หินแต่ละก้อนถูกจารึกไว้ด้วยอักขระมากมาย

หกพันปีผ่านไป สิ่งล้ำค่าได้สูญเปล่าไปนานแล้ว ไม่มีอะไรเหลือ และทุ่งสมุนไพรก็มีแต่วัชพืชปกคลุม

  

“ไปเถอะ ข้าจะศึกษาแผนผังของทุ่งสมุนไพรเหล่านี้อย่างระมัดระวัง”

หวังเฉินอี้กล่าว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาสำรวจ แต่ทุกครั้งที่เขาพบรูปแบบเต๋าที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งสามารถเร่งการเติบโตของยาอายุวัฒนะได้

  

เย่ฟ่านและคนอื่นๆ เดินอยู่ในซากปรักหักพังขนาดใหญ่ ซากปรักหักพัง กำแพงที่พังทลายมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง และมีวิหารโบราณบางแห่งที่พังทลายลงมาครึ่งหนึ่ง พวกมันปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนาทึบ

  

"พระราชวังใต้ดิน..." พวกเขาพบพระราชวังใต้ดินขนาดใหญ่ และอาคารภายในยังคงไม่บุบสลาย

  

แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปลึกๆ พวกเขาทั้งหมดก็ต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ แท้ที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่วังใต้ดินแต่กลับเป็นสุสานที่ตั้งอยู่ใต้ดินต่างหาก

  

ไฟส่องสว่างและมีกระดาษเงินอยู่หน้าสุสานแต่ละแห่ง มีเครื่องเซ่นไหว้ภูตผีมากมาย เห็นได้ชัดว่ามีคนคอยดูแลสถานที่แห่งนี้อยู่เสมอ

  

“ผู้อาวุโสหวังเฉินอี้กล่าวว่าไม่มีดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งใดพบคัมภีร์ลับของนิกายเทียนซวน เป็นไปได้ไหมว่าพวกมันจะถูกซ่อนอยู่ที่นี่?” หลี่เหอซุยสงสัย

โชคไม่ดีที่สถานที่แห่งนี้ถูกปกป้องไว้ด้วยค่ายกลขนาดใหญ่ จึงไม่มีทางที่พวกเขาจะเข้าไปได้และทุกคนทำได้เพียงสำรวจสถานที่อื่นแทน

  

เมื่อมาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของซากปรักหักพังเทียนซวน พวกเขาเห็นความรกร้างมากขึ้น วิหารโบราณที่พังทลาย ขั้นบันไดสีน้ำเงินที่แตกหัก สนามประลองขนาดมหึมาที่พังทลาย

  

ทุกอย่างบรรยายถึงความรุ่งโรจน์ของอดีต และความรกร้างในปัจจุบัน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ครั้งหนึ่งคือมหาอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนทางตะวันออก บัดนี้กลายเป็นอดีตไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

  

“สถานที่ลึกลับที่สุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนซวนยังไม่ถูกค้นพบ และคัมภีร์โบราณได้กลายเป็นเถ้าถ่านแห่งประวัติศาสตร์ไปแล้วจริงๆ…” หลายคนเสียใจมาก

  

พระจันทร์ส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้าและแสงจันทร์โปรยปรายบนป่าที่แห้งแล้งราวกับขนนกสีขาว ร่างกายของหนานหนานเปล่งประกายด้วยแสงหลากสีและหินของนางก็ค่อยๆจมลงไปในร่างกายอีกครั้ง

  

“หนานหนานจะลืมอดีตอีกแล้ว...” เด็กหญิงรู้สึกหดหู่และเสียงของนางก็ดังมาก

  

ในคืนพระจันทร์เต็มดวง นางจะได้พบกับชีวิตใหม่และลืมทุกอย่างในอดีต แต่เย่ฟ่านได้เตรียมการไว้แล้ว เขานำหยกที่สดใสและสวยงามออกมา

  

“ไม่ต้องห่วง ทุกสิ่งที่เจ้าทำมาทั้งหมดถูกบันทึกไว้ที่นี่ และอีกไม่นานเจ้าก็จะรู้ทั้งหมด”

  

“ใช่!” หนานหนานพยักหน้าอย่างจริงจัง

  

เฉกเช่นน้ำและแสงจันทร์ เฉกเช่นควันบางๆ คิ้วของหนานหนานก็เปล่งแสงหลากสีออกมา และหินก้อนใหม่ก็ปรากฏขึ้น

  

นางสับสนอย่างมาก นางไม่รู้จักใครเลย นางเขินอายเล็กน้อย และมองทุกสิ่งรอบตัวนางอย่างหวาดกลัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด