เล่มที่ 2 ตอนที่ 1: ฉันกลายเป็นเจ้าหญิง ตอนที่ 1
ตอนนี้ เป็นวันใหม่
เกือบหนึ่งปีแล้วตั้งแต่เหตุการณ์อัญเชิญปีศาจครั้งที่สอง และฉันจะอายุห้าขวบในอีกสามเดือน
ได้กินขนมอร่อยๆ ได้เจอคุณปู่ที่กลายเป็นราชา ปีนี้มีอะไรมากมายเกิดขึ้น และค่อนข้างตึงเครียด อีกอย่าง มองออกไปนอกหน้าต่างในเมืองแล้วพึมพำ “ให้ความรักของคุณกับฉัน”......
อร๊ายยยยยยยยยยยยย
......โทษที
แค่กำลังดิ้นไปมาบนเตียงนิดหน่อย
ตอนนี้ เป็นวันใหม่
เกือบหนึ่งปีแล้วตั้งแต่เหตุการณ์อัญเชิญปีศาจครั้งที่สอง และฉันจะอายุห้าขวบในอีกสามเดือน
.....หืม? คุณคิดว่ามีอะไรผิดปกติมั้ย? ช่างมันเถอะ
ยังไงก็เถอะ ชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปมาก แม้ว่าฉันจะได้รับการเอาอกเอาใจมากเกินไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เลยไม่คิดว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ก็เพิ่มขึ้นอีกมากอยู่น่ะ
.....วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในหลายวัน
“สำหรับเจ้าหญิงยูรุ หัวหน้าพ่อครัวได้อบขนมที่เป็นที่นิยมในเมืองหลวงไว้มากมายเลยเจ้าค่ะ”
“ขอบใจ”
อาหารของมนุษย์เพียงเล็กน้อยคงไม่ฆ่าฉันตายหรอก
มีเสียงดังมาตามทางเดินของฉัน หัวหน้าสาวใช้..... พอท่านพ่อย้ายเข้ามาอยู่ในปราสาท ผู้คนที่ดูแลฉันก็เริ่มเยอะขึ้นมาก ตั้งแต่เขากลายเป็นดยุค ก็มีสาวใช้เข้ามาเป็นโหลๆ
พ่อบ้านคนแก่คนนั้น ‘แค่คุณปู่’ ภรรยาของคุณปู่ บังคับให้ฉันเรียกเธอว่า ‘นาน่า’.... ทำไมคุณสองคนถึงยืนกรานขนาดนี้น่ะ?
ฉันกับนาน่าเดินจับมือกันไปอย่างช้าๆ
ฉันอายุเกือบห้าขวบแล้ว ถึงเวลาที่ฉันจะต้องจบการศึกษาจากการถูกอุ้มได้แล้ว และถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ อีกมือของฉันก็กำลังถูกสาวใช้อีกคนจับฉันไว้อยู่เหมือนกัน
ด้วยเหตุนี้ ฉันเลยนึกถึงภาพขาวดำของลิงที่ถูกจับมือทั้งสองข้างไว้เหมือนกัน
การถูกดึงโดยคนสองคนแทบจะเรียกได้ว่าเดินไม่ได้ หรือมากกว่านั้น เท้าของฉันกำลังลอยอยู่ ฉันไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ แต่พอฉันบ่นเมื่อไหร่ฉันก็จะถูกพาไปรอบๆแทน ห้ามคัดค้าน!
ฉัน.... ฉันเป็นเจ้าหญิงใช่ไหม?
ในทางกลับกัน พอท่านแม่อุ้มฉันไปตามทางเดิน ฉันเห็นวีโอเดินผ่านประตูที่เปิดอยู่พร้อมกับสาวใช้ที่อายุน้อยกว่า ทำการวิดพื้นเหมือนกำลังฝึกอย่างเข้มข้น
จะฝึกเพื่อ....?
ความรักของพวกเธอทุกคนช่างน่าหนักใจจริงๆ
บ้านของเรา.... เอาเป็นว่าครอบครัวของตระกูลเวอรูซีเนีย อยู่ในสถานะการเงินที่ดี (ร่ำรวย) มาก
แคว้นนี้ อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ทาเทรุโดเป็นดินแดนที่ร่ำรวย อาจเป็นเพราะผู้คนเคร่งศาสนา พวกเขาทำงานหนักและจ่ายภาษี จึงดูเหมือนไม่มีการทุจริตเพราะการเคร่งศาสนาของแคว้นนี้.....
เอาล่ะ ตัดไปที่ประเด็นเลยคือ ดินแดนโทอูรุของท่านพ่อต้องเสียภาษีเป็นจำนวนมาก และแน่นอน ว่าไม่ใช่เงินของดยุคทั้งหมด ถึงส่วนหนึ่งจะถูกยึดไปแต่เรายังคงทำกำไรได้จากการค้าขายกับต่างประเทศที่ท่านพ่อของดยุคทำด้วยตัวเอง
ดินแดนโทอูรุอยู่ทางทิศตะวันตกของอาณาจักร ไกลออกไปทางทิศตะวันตกคือแคว้นชิกุเระสึ เนื้อที่ประมาณ 30% ของที่ดินเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางการเกษตร
ชิกุเระสึซึ่งเป็นแคว้นแห่งเกษตรกรรมส่วนใหญ่ บูชาเทพธิดาองค์เดียวกันกับเรา เทพีแห่งการเก็บเกี่ยวคอสโตรุ ราชินีที่นั่นเป็นพี่สาวของท่านพ่อ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือคุณป้าของฉันเอง
แน่นอนว่าเขาได้กำไรเต็ม จะมีใครอีกละที่เขาจะไว้ใจได้มากกว่าในฐานะหุ้นส่วนทางการค้า
เช่นเดียวกัน ฉันได้ยินจากคุณตาพ่อบ้านว่าเมื่อรัฐมนตรีที่เกษียณอายุอยู่ในความดูแล มีการทำกำไรมากขึ้นไปอีกถึงจะอย่างนั้น บ้านเราก็ค่อนข้างมั่งคั่ง แม้กระทั่งในหมู่พวกผู้ดีเก่า
เนื่องจากทั้งท่านพ่อและท่านแม่ไม่มีงานอดิเรกอย่างอื่นให้ทำสุรุ่ยสุร่าย พวกเขาเลยทุ่มเงินทั้งหมดมาที่ฉัน
บรรดาพ่อบ้านและสาวใช้ปรากฏขึ้นทุกครั้งที่ท่านพ่อมาที่นี่ ปรนเปรอฉันอย่างตั้งอกตั้งใจ บางคนถึงกับทิ้งนายจ้างคนเก่าที่พวกเขาเคยทำงานด้วยมาเป็นเวลานาน ส่วนวีโอก็ต้องคอยฝึกฝนสาวใช้ใหม่อย่างเข้มงวดขึ้นอีก
มันค่อนข้างน่ากลัวอยู่นะรู้มั้ย
ฉันมีเสื้อผ้าและอาหารฟุ่มเฟือยมากมาย ฉันไม่คุ้นเคยกับความหรูหราระดับนี้เลย แต่ก็พูดไม่ได้ว่า “ไม่ต้องการมัน” จริงๆ
ทำไมถึงถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะแตกต่างไปจากความปกติรูปแบบใหม่หรือเปล่าน่ะหรอ?
ก็เมื่อไหร่ก็ตามที่จะออกไปข้างนอก ฉันก็จะถูกเหล่าอัศวินคอยคุ้มกันจนเป็นเรื่องปกติที่จะมีอัศวินคอยคุ้มกันอยู่เสมอ แต่คราวนี้มีอัศวินหญิงเป็นโหลมาตามเรา.... พวกเขาชอบแต่งตัวครอสเดรสหรอ? พวกคุณไม่จำเป็นต้องปกป้องพวกเราจริงจังขนาดนี้ก็ได้
อัศวินหญิง..... ฟังดูดีใช่มั้ยล่ะ
และด้วยเหตุในครั้งนี้เราอยู่ที่ด้านหลังของกลุ่มอัศวินนั้น
“ดูสิ ยูรุเชีย เราเห็นปราสาทจากตรงนี้ได้ด้วยน่ะ”
“เห็นเจ้าค่ะ”
ฉันเผลอพูดเสียงอ้อแอ้ยังกับเด็กน้อยไปโดยไม่ทันรู้ตัว แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันกำลังขี่ม้ากับกษัตริย์ พูดอีกอย่างหนึ่งก็กับปู่ของฉันเองแหละ
แม้ว่าหน้าตาจะไม่ได้แย่ แต่คุณปู่ก็เป็นคนที่ละเอียดอ่อนและเขาให้ความรักแก่ฉัน คุณปู่กับคุณลุงก็เหมือนกัน: (ป่าเถื่อน) พวกเขาไม่มีความอ่อนแอเลย
ขอบคุณพระเจ้าที่ท่านพ่อมีนิสัยเหมือนคุณย่า
วันนี้ฉันขี่ม้าไปกับคุณปู่ยาวๆ
ใช่แล้ว ฉันอยู่ในเมืองหลวง อัศวินที่มาคุ้มกันเราในเมืองหลวงวันนี้ได้รับคำสั่งการภายใต้คำสั่งของกษัตริย์
ฉันพักอยู่สามวันและใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการไปและกลับจากเมืองหลวง เราได้รับคำเชิญให้ไปเยี่ยมชมปราสาทเดือนละครั้ง
น่ารำคาญชะมัด
คุณปู่รักฉันมาก
สำหรับเด็ก ฉันมีรูปลักษณ์ที่น่าสะพรึงกลัว.... ฉันคิดอย่างนั้น แต่ดูเหมือนคุณลุงจะมีแต่ลูกชาย คุณปู่เลยมอบความรักให้ฉันเยอะหน่อยเพราะดูเหมือนว่าเขากำลังรอหลานสาวอยู่ ความรักของเขาทำให้ฉันมึนเมา
เอิ่มมม.... แล้วพี่สาวทั้งสองคนของฉันล่ะ?
“ยูรุเชีย วันนี้เราจะไปตามล่านกที่ชื่อไก่ฟ้าในป่านั้นกัน”
“โน๊ก”
ฉันพูดซ้ำพอดีและมองหาว่านกจะอยู่ที่ไหน ฉันไม่เคยมีประสบการณ์การล่าสัตว์ในโลกแห่งความฝันนั้นมาก่อน ฉันเลยสงสัย
......โอยะ? มีสัญญาณของอสูรร้ายในป่า
แน่นอน เนื่องจากเราอยู่ใกล้กับเมืองหลวงมาก จึงไม่ควรมีสัตว์ร้ายมากมายโดยเฉพาะปีศาจ อสูรเป็นกลุ่มที่ถูกพูดถึงว่าคล้ายกับผีที่ชอบกินมนุษย์
......พุดอีกอย่างก็ บางสิ่งเช่นฉัน
อย่างน้อยสัญญาณก็ไม่แรงขนาดนั้น มันเป็นประเภทที่จะ ‘ฆ่าเพื่ออาหาร’ มากกว่าที่จะอยู่ในระดับที่ ‘ฆ่าเพื่อความสุขของมันเอง’ ทำให้อุ่นใจขึ้นมาหน่อย แม้ว่าฉันจะรู้วิธีใช้พลังอสูรในระดับหนึ่งก็เถอะแต่ฉันจะไปอวดดีไม่ได้ ถึงจะบอกฉันว่าฉันก็ไม่รู้ว่ากองกำลังของแคว้นนี้มันขนาดไหน
ถึงยังไง ฉันก็จะไม่เป็นศัตรูใช่ไหม ฉันรัก ‘มนุษย์’ นิเนอะ
แต่.... สำหรับฉันไม่ต้องกังวลกับการปรากฏตัวระดับนี้หรอก....
“.............”
ฉันสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่าง วิ่งผ่านสายตาของฉันไปทันที
แต่พอมันรู้ว่าฉันเห็นมัน มันก็สะดุ้งและหายวับไป
“.......มันคืออะไร? ยูรุเชีย”
“เอ่อ อืม กระรอก”
พอคุณปู่ถาม ฉันก็ชี้ไปยังที่ซึ่งฉันเคยเห็นเจ้ากระรอกตัวแข็งก่อนหน้าที่แล้ว
แกไม่จำเป็นต้องทำตัวแข็งทื่อเพราะถูกมองก็ได้น่ะ.....
“โอ้ว น่ารักอะไรอย่างนี้ หนูอยากได้มันไหม?”
“เอ๊ะ มันจะไม่เศร้าที่โดนจับหรอ.....”
มันดูออกจะกลัวมากอยู่
“ยูรุเชียอ่อนโยนจังเลยนะ”
เสียงที่นุ่มนวลดูผ่อนคลายดังมาจากข้างๆเรา
พอมองไปทางนั้น ฉันก็เห็นเด็กชายผมบลอนด์ออกชมพู มองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่อบอุ่นและคลุมเครือ เขาคือพี่ชายของริค เจ้าชายรัชทายาทคนแรก ทิมโมธีคุง อายุ 13 ปี ลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง
นอกจากผมสีสตรอว์เบอร์รี่-น้ำผึ้ง-ของเขาแล้ว รูปร่างหน้าตาของเขาโดยรวมยังดูยุ่งเหยิงแต่น่ารัก นอกจากท่านป้าอีเลียแล้วเขาดูเหมือนเจ้าชายในอุดมคติจริงๆ ทิมโมธียังเต็มไปด้วยความละมุนและอ่อนหวานอยู่ข้างใน ส่วนริคนะหรอ ฉันจะไม่มีวันเรียกเขาว่า ‘ท่าน’ เด็ดขาด
สำหรับผู้ชายคนนั้น คงไม่เป็นไรถ้าจะเรียก ‘เด็กเหลือขอ’ ก็ดีพอสำหรับริคแล้ว
ส่วนตอนนี้ ที่ทิมโมธีมาก็เพื่อดูแลลูกพี่ลูกน้องอย่างฉัน
ท่านพ่อ ท่านลุง และท่านป้าอีเลียแม้แต่คุณปู่ก็ยังเล่นกันเหมือนเป็นงานของพวกเขา
อีกอย่าง ฉันคิดว่าริคเริ่มเข้าโรงเรียนแล้ว ดีสำหรับทิมโมธีคุงฉันคิดนะ แต่ในทางกลับกันก็น่าเสียดายที่นักเรียนใหม่จะติดอยู่กับริค แต่ริคยังไม่ไปโรงเรียนนิ
แต่ฉันคิดผิด ในการลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนเวทมนตร์ แทนที่จะเป็นเด็กอายุเจ็ดขวบในปีนั้น พวกเขาต้องมีอายุเจ็ดขวบเมื่อถึงเวลาลงทะเบียน… กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เด็กเหล่านั้นจะได้เข้าเรียนก็ต่อเมื่อเริ่มอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนประถมศึกษา (TL : บนโลก) เด็กๆ จะจบการศึกษาจากสถาบันเวทมนตร์เมื่ออายุได้ 17 ปี
“ฉันไม่ได้อ่อนโยน...”
“เพราะคิดถึงความปลอดภัยของคุณกระรอก ยูรุเชียถึงใจดีไง”
ทิมโมธีคุงพูดด้วยรอยยิ้มหวานๆ ขณะที่เขาลูบผมของฉัน
เขาพูดเหมือนอีเลียมาก ในราชวงศ์ที่ผู้ชายไม่น่าเชื่อเช่นนี้ มีเพียงพี่ชายอายุ 10 ขวบคนนี้เท่านั้นที่ไม่ทำตัวเป็นเด็กนิสัยเสีย และเขาไม่กลัวฉันด้วย
“......ฮ่าฮ่าฮ่า”
นั่นทำให้ฉันมีความสุขเล็กน้อย ขณะที่ฉันกำลังยิ้มอย่างพอใจขณะที่ผมกำลังถูกลูบ คุณปู่ก็เข้ามาลูบหัวของฉัน *กะชิกะชิ* มันเจ็บนิดหน่อย
“ยูรุเชีย ดูนกตัวนั้นสิ!”
เสียงดังเกินไปแล้วคุณปู่
พอส่งฉันให้อัศวินหญิงที่อยู่ข้างหน้า คุณปู่ก็ดึงสายธนูที่ยอดเยี่ยมนั้นกลับคืนมา และในการยิงออกไปเพียงครั้งเดียว นกสีชมพู.... ไก่ฟ้า?... ก็ถูกยิงตก
โอ้โห..... ข้างหลังเหล่าอัศวิน.... คุณปู่และทิมโมธีถูกคุ้มกันกว่า 32 คนและของฉันมีคนคุ้มกัน 15 คนโอ้...อา...แต่สำหรับฉัน ฉันรู้สึกหลอนกับใครบางคนที่พูดว่า ‘ยิงได้สวยเลยขอรับ!’ (TL: ซาวเสียง)
“เป็นยังไงบ้าง”
“ท่านปู่ สุ สูด ⁓ ยอด!”
ใช่ ฉันควรยกย่องชื่นชมไม่เช่นนั้น ถ้าฉันไม่ชื่นชมในขณะที่คุณกำลังทำหน้าแบบนั้น ในเรื่องแบบนี้ คุณปู่ก็คล้ายกับริคมาก และรู้สึกว่าคุณลุงก็เหมือนคุณปู่เหมือนกัน
แล้ว พวกเขายังคล้ายกับ ‘เขา’
ดูเหมือนว่าฉันจะอ่อนแอกับอะไรประเภทนี้