ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 34 กลั่นยาโอสถสารีกาทองคำในคลิกเดียว!!
=บ้านตระกูลหยวน ณ ห้องประชุมตระกูล=
บรรยากาศภายในห้องประชุมนั้นเงียบสงัด และเต็มไปด้วยสมาชิกระดับสูงของตระกูล
“หลายวันผ่านมาแล้ว ที่เราไม่ได้ข่าวจากไอ้บ้าเดรกเลย ไม่ต้องพูดทุกคนก็พอจะรู้ใช่ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น..”
หยวนเฟ่ยเคอพูดคนด้วยน้ำเสียงที่เย็นเฉียบ
“ไม่ต้องสงสัยเลยครับ ว่าตระกูลจางนั้นให้การปกป้องเด็กน้อยคนนี้อยู่”
ยอดยุทธขั้นกลางคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“การคุ้มกันของตระกูลจางต้องแน่นหนามาก เพราะความสามารถของไอ้บ้าเดรกนั้นไม่ใช่หมูหมาที่ไหน ถึงแม้ว่าจะทำงานพลาด มันก็ยังพอจะหาทางเอาตัวรอดได้!!”
“อย่างน้อยๆ คนที่ถูกส่งไปคุ้มกันเจ้าเด็กนั้น ก็ต้องอยู่ในเขตแดนจอมยุทธขั้นกลาง!!”
สมาชิกระดับสูงของตระกูลหยวนวิเคราะห์เหตุการณ์
ทุกคนในห้องประชุมต่างพยักหน้าเห็นด้วย
พวกเขาไม่คิดว่าไอ้บ้าเดรกที่เป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสูง จะมาพลาดท่าให้กับกึ่งผู้ฝึกยุทธขั้นสูงเป็นแน่!!
ทุกอย่างเลยบ่งชี้ไปที่ตระกูลจาง ว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังในครั้งนี้
“ฑูตของตระกูล ต้องค่อยช่วยเหลือตระกูล แต่นี้ตระกูลกลับคุ้มกันช่วยเหลือฑูต เห็นแบบนี้แล้ว ข่าวที่ว่านั้นคงจะเป็นความจริง ที่ว่าเด็กน้อยผู้นี้คืออัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะด้วยกัน!!”
“ตอนนี้ตระกูลจางได้ปิดกั้นทุกช่องทางอย่างสมบูรณ์ ไม่มีข่าวรั่วไหลออกมาเลยแม้แต่น้อย ตอนแรกฉันก็คิดว่าเราจะพอหาคนนอกไปจัดการเรื่องนี้ให้กับตระกูลหยวนของเราได้ โดยที่ตระกูลหยวนไม่ต้องออกหน้า แต่เมื่อสถานการณ์ในปัจจุบันมันเปลี่้ยนไปแล้ว ตระกูลหยวนไม่มีทางเลือก!!”
แววตาของหยวนเฟ่ยเคอ เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
“หยวนฉี!!”
“ครับท่านผู้นำ”
ยอมยุทธขั้นกลางลุกขึ้น
“จงออกตามหาเด็กอายุ 17 ปี ชื่อสกุลซู่ ในพื้นที่เขต 18 อย่างเงียบๆ”
“หากพบเห็นใครก็ตามที่ตรงตามข้อมูลนี้ และมีกลิ่นไอของผู้ฝึกตน จัดการได้ในทันที!!”
คำสั่งของหยวนเฟ่ยเคอนั้นดูเย็นชาราวกับจะเยือกแข็งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ได้
“รับคำสั่ง ท่านผู้นำ!!”
ยอดยุทธขั้นกลางพยักหน้า พร้อมกับคำนับรับคำสั่ง
ทุกคนในห้องประชุมแห่งนี้ ก็ต่างรับรู้ได้ถึงกระแสพลังที่เย็นเฉียบที่กำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ
ผู้นำตระกูลเอาจริงแล้ว!!
ทุกคนต่างรู้ดีว่า ผู้ที่ถูกส่งไปนั้นเป็นยอดฝีมือของตระกูล ต้องมีข่าวดีกลับมาให้อย่างแน่นอน
….
“ครบสักที!!”
ในเวลาเดียวกันซู่เสี่ยวไป่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ว่ากำลังโดนตระกูลหยวนตามสืบอย่างจริงจังแล้ว
เขากลับวิ่งไปทั่ว เพื่อหาซื้อวัตถุดิบสำหรับกลั่นยาระดับ 4 โดยที่ปิดบังใบหน้าของตัวเองไว้ และใช้เงินไปเกือบ 1 ล้านเหรียญจิตในการซื้อวัตถุดิบทั้งหมด
“ระบบ!! เปิดพื้นที่กลั่นยาในคลิกเดียว!”
เมื่อกลับมาถึงบ้านซู่เสี่ยวไป่ก็ออกคำสั่งทันที
“-เจ้านาย โปรดใส่วัตถุดิบในการกลั่นเพื่อทำยาหรือโอสถทิพที่ต้องการ-”
ซู่เสี่ยวไป่นำของทั้งหมดออก แล้วใส่เข้าไปในระบบ
“-ตรวจความทรงจำของเจ้านาย ค้นพบสูตร*โอสถสาริกาทองคำ*-”
“-บันทึกสูตร-”
“-เริ่มกระบวนการกลั่น-”
เมื่อระบบแจ้งทุกอย่างเสร็จสิ้น วัตถุดิบทั้งหมดก็ลอยเข้าไปในหม้อยา ก่อนที่ฝาของหม้อยาจะปิดลง และแถบแสดงความคืบหน้าก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
และยังคงใช้เวลาในการกลั่นยาเพียง 5 นาที เช่นเดิม
ดูเหมือนว่าความสามารถในการกลั่นยาของระบบนั้น ไม่ว่ายาจะเป็นระดับไหนก็ใช้เวลาเท่ากันทั้งหมด
แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ก็พอที่จะทำให้นักปรุงยาทั่วทั้งโลกต้องร้องโอดครวญอย่างบ้าคลั่งได้แล้ว!!
ยิ่งยามีระดับสูงเท่าไร ก็ยิ่งต้องใช้เวลาในการกลั่นมากขึ้นเท่านั้น
การกลั่นยาระดับสูงๆ กินเวลาเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือนเพื่อกลั่นและปรุงยา!!
ถึงจะทุ่มเทเวลาและความสามารถ ก็ไม่ได้การันตีว่าจะสำเร็จ 100%
มีเพียงซู่เสี่ยวไป่เท่านั้นที่กล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าเขาทำได้
และไม่ต้องมานั่งทำเป็นเดือนๆ
ไม่ต้องกลัวล้มเหลว
แค่รอ 5 นาที ไม่ต่างจากต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
“-ติ๊ง กลั่นยาสำเร็จ: โอสถสาริกาทองคำx3-”
เสร็จแล้ว!!
นัยน์ตาของซู่เสี่ยวไป่ลุกวาวราวกับเป็นทองคำ เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบว่าการกลั่นยาเสร็จสิ้นแล้ว
ในระหว่างที่เขากำลังตื่นเต้น เม็ดยาที่กลั่นเสร็จทั้ง 3 เม็ดก็ปรากฏขึ้นในฝ่ามือของเขา มันปล่อยควันสีทองออกมา เม็ดยาราวกับลูกปัดที่ทำมาจากทองคำ!!
โอสถสาริกาทองคำ ระดับ 4
ยาเม็ดนี้มีสรรพคุณในการรักษาและป้องกันเส้นกระแสพลังภายในร่าง
ผู้คนมากมายต่างต้องการยาเม็ดนี้ไม่ว่าจะเป็น จอมยุทธ ยอดยุทธ ก็ต่างไขว่คว้าหามาไว้ในครอบครอง เพื่อช่วยบำรุงรักษาพวกเขา
ต้องรู้ก่อนว่าผู้ฝึกตนที่เลื่อนขั้นหรือข้ามเขตแดน พวกเขาต้องตั้งมั่นและควบแน่นกระแสพลังเพื่อทะลวงด่าน
ในการทำเช่นนั้น กระแสพลังทั่วทั้งร่างจะถูกเร่งเร้าอย่างมาก มันจะไปทำให้เส้นเลือด และเส้นกระแสพลังภายในร่างบอกช้ำ เพื่อจะทำการทลายโซ่ตรวนที่เหนี่ยวรั้งพวกเขาไว้
การทำเช่นนี้ยาวนานจะส่งผลเสียกับร่างกายได้
ดีไม่ดีอาจทำให้เส้นกระแสพลังเสียหาย
บางคนอาจจะแค่กระอักเลือด แต่บางคนก็ต้องพักฟื้นเป็นสิบๆ วัน หรือเป็นเดือนเพื่อรักษาเส้นเลือดและเส้นกระแสพลังให้กลับมาเป็นปกติก่อน
เพราะเหตุนี้ทำให้ผู้ฝึกตนระดับสูงต่างออกตามหายาเม็ดนี้กันให้ทั่ว และยอมจ่ายเงินในจำนวนมหาศาลเพื่อรักษาตัวเองและบำรุงเส้นเลือดและเส้นกระแสพลังให้กับพวกเขา เพราะอนาคตของพวกเขาสำคัญกว่าเงินมากนัก!!
“โอสถสาริกาทองคำ ระดับ 4 น่าจะขายได้อย่างน้อยๆ เม็ดละ 15 ล้านเหรียญจิต แม้แต่ในท้องตลาดไม่มีขาย!!”
“เข้ เหมือนอยู่ดีๆ แล้วเสกเงินขึ้นมา 45 ล้านเลยแหะ”
“หากว่ายังไม่มีใครจับได้ว่าฉันเป็นคนทำ งานนี้จะทำกำไรให้ฉันได้มากกว่าการล่าสัตว์อสูรเสียอีก!!”
หัวใจของซู่เสี่ยวไป่พองโต
เขาแค่วิ่งไปทั่ว เพื่อหาของทำยาแล้วรอเพียง 5 นาที เขาก็สามารถทำเงินได้ 45 ล้านเหรียญจิตแล้ว หากพูดออกไปคงมีแต่คนหัวเราะจนฟันร่วงหมดปาก
แต่มันคือความจริง!!
เพียงออกแรงเล็กน้อยเขาสามารถกลั่นยาระดับ 4 โอสทสาริกาทองคำได้!!
“ตอนที่วิ่งหาซื้อวัตถุดิบอยู่ ได้ยินจากพ่อค้าว่ามี หอการค้าเป่าตันที่เป็นแหล่งรวมของสินค้าระดับสูง และยังมีเครื่อข่ายไปทั่ว และเป็นขาใหญ่ในการประมูลยาหรือโอสถอีกด้วย บางทีเราคงต้องเอายาของเราไปประมูลขายที่หอการค้าเป่าตัน!!”
ซู่เสี่ยวไป่ค่อยๆ วางแผน
ถ้ายาของเราออกสู่สายตามากเท่าไร มันก็อาจจะสะดุดตาน้อยลงก็ได้
หากขายให้กับที่เล็กๆ เกรงว่าจะตกเป็นเป้าได้ง่ายกว่า
“แต่ถึงยังงั้นเราก็ต้องเตรียมแผนการรองรับเอาไว้!!”
…
วันต่อมา ซู่เสี่ยวไป่แต่งตัวมิดชิดทั้งเสื้อคลุมสีดำ สวมผ้าปิดปากใส่แว่นและสวมถุงมือ เปิดเผยให้เห็นเนื้อหนังของเขาน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไปยืนอยู่ต่อหน้าหอการค้าเป่าตัน
นอกจากซู่เสี่ยวไป่แล้วแถวนั้นมีใครอีกไหม?
บอกเลยว่ามี แต่ตอนแรกซู่เสี่ยวไป่คิดว่าการที่เขาแต่งตัวแบบนี้ มันอาจจะไปสะดุดตาคนเข้าหรือทำตัวดูผิดสังเกต
แต่เมื่อมาถึงหอการค้าเป่าตัน ทำให้ซู่เสี่ยวไป่คิดว่าที่เขาแต่งตัวมานั้นยังน้อยไปด้วยซ้ำ!!
บางคนสวมหน้ากากปิดทั้งหน้า
หนักๆ เข้ามีพวกสุดโต่งใส่หมวกกันน็อคเต็มใบมาเลย
การซื้อขายของที่มีมูลค่าสูง ใครกันจะกล้าเปิดเผยตัวตน?
เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างเหมือนกับเขา ก็ทำให้ซู่เสี่ยวไป่โล่งใจ ก่อนจะเดินไปลงทะเบียนฝากขายของ
“ผมมียามาขาย!!”