บทที่ 36 เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า
บทที่ 36 เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า
"เจ้าช่างมั่นใจเหลือเกิน" เย่สวี่มองไปที่เย่เฟยเฝิงด้วยท่าทางสงบ
"แน่นอน." รอยยิ้มแห่งความสำเร็จปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่เฟยเฝิง “ตอนนี้ข้าสามารถบอกเจ้าได้ว่า...ข้าไม่ใช่ขั้นกลั่นพลังปราณระดับเก้า ข้าเป็นนักรบขั้นวารีสวรรค์ ระดับแรก คนอย่างเย่หานอู่จะเปรียบเทียบกับข้าได้อย่างไร
และเจ้าอ่อนแอเกินไป ข้าจะเอาชนะเจ้าได้โดยไม่ต้องใช้จิตวิญญาณการต่อสู้ของข้าด้วยซ้ำ”
แสงสีขาวแพรวพราวออกจากร่างกายของเย่เฟยเฝิง แสงนี้เป็นประกายระยิบระยับที่ทรงพลัง และโหดร้ายอย่างยิ่ง ทันทีที่มันปรากฏขึ้น ราวกับว่ามันสามารถทำลายแท่นเวทีต่อสู้ลงไปได้
นักรบขั้นวารีรสวรรค์มีอิทธิพลต่อวัตถุภายนอก เพียงแค่อาศัยพลังปราณของเขาเอง นักรบระดับขั้นกลั่นพลังปราณจะไม่สามารถเอาชนะนักรบขั้นวารีสวรรค์ได้
“นักรบวารีสวรรค์อีกคนหรือ!” ดวงตาของทุกคนเต็มไปด้วยความตกใจ พวกเขาคิดว่าเย่เฉียนเฉียนเป็นม้ามืดที่มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ใครจะรู้ว่า เย่เฟยเฝิงกลับแจ้งข่าวนี้ให้พวกเขาทราบ
เมื่อพิจารณาจากรัศมีของเย่เฟยเฝิงที่ทรงพลังมากกว่าเย่เฉียนเฉียน ความสามารถของรุ่นเยาว์ตระกูลเย่ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
“เย่สวี่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย! ช่องว่างระหว่างนักรบขั้นกลั่นพลังปราณและ นักรบวารีสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่เกินไป เว้นแต่จะมีอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้และมีพรสวรรค์พิเศษ ที่สามารถชดเชยช่องว่างนี้ได้!”
คนในตระกูลเย่บางคนรู้สึกสงสารในใจ พรสวรรค์ของเย่สวี่นั้นไม่ธรรมดา ทุกคนยอมรับว่าเขาเป็นนายน้อยหนุ่มของพวกเขา ในอนาคต เส้นทางการฝึกฝนของเขาจะสดใสอย่างแน่นอน แต่ใครจะคิดว่า เขาจะได้พบกับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างเย่เฟยเฝิง?
ในโลกนี้ คำพูดของผู้ที่มีพละกำลังมหาศาลนั้น สมเหตุสมผลเสมอ ดูเหมือนว่าเจ้านายของตระกูลเย่จะเปลี่ยนแปลงในวันนี้แน่นอน
เย่ไห่ตกใจมาก เขาคิดว่าการที่เย่เฟยเฝิงมั่นใจ เป็นเพราะเขามีทักษะการต่อสู้ที่ลึกซึ้ง แต่ไม่ได้คาดคิดว่า เย่เฟยเฝิงจะเป็นนักรบในขั้นวารีสวรรค์! เขาอดไม่ได้ที่จะเสียใจลึก ๆ จากนั้นเย่ไห่จับจ้องไปที่เวทีการต่อสู้อย่างกังวลใจ
เย่เฉียนเฉียนจ้องไปที่เวทีการต่อสู้ หัวใจของนางเต็มไปด้วยความกังวล เย่เฟยเฝิงเพียงบอกกับเย่สวี่ เกี่ยวกับระดับการฝึกฝนของเขา หลังจากที่เย่สวี่ตกลงที่จะต่อสู้จนตัวตายกับเขา มันน่ารังเกียจจริงๆ
บนเวทีการต่อสู้ ท่าทางของเย่เฟยเผิงนั้นหยิ่งผยองมาก คำพูดของเขานั้นโอ้อวดเหลือคณา
“ข้าสามารถบอกเจ้าได้ว่าจิตวิญญาณการต่อสู้ของข้านั้น เป็นจิตวิญญาณการต่อสู้แบบสองธาตุร่วมกัน และข้ามี ธาตุสายฟ้าและธาตุไฟที่แข็งแกร่ง แต่เย่สวี่..ในวันนี้ข้าจะมอบประสบการณ์ในการต่อสู้ ด้วยการโจมตีทั้งสายฟ้าและธาตุไฟโจมตีพร้อม ๆกัน”
เมื่อครั้งที่เย่เฟยเฝิงอยู่ในสำนัก เย่เฟยเฝิงอาศัยสายฟ้าอันทรงพลังและจิตวิญญาณการต่อสู้ธาตุไฟเพื่อเอาชนะอัจฉริยะรุ่นเยาว์จำนวนนับไม่ถ้วนและได้รับชื่อเสียงที่โด่งดังติดตัวเขามา เขาได้กลายเป็นศิษย์ในของสำนักและได้รับการยกย่องอย่างสูงจากสำนัก
โดยเฉพาะผู้ที่มีความสามารถเท่านั้น ที่จะสามารถกลายเป็นนายน้อยตระกูลเย่ ด้วยความแข็งแกร่งของเขา สิ่งนี้มันมากเกินพอสำหรับเขาที่จะกลายเป็นนายน้อย ตราบใดที่ เย่สวี่ถูกฆ่าตาย เขาจะกลายเป็นนายน้อยคนใหม่!
จากนั้นเย่เฟยเผิงยกมือขวาขึ้น จากนั้นและสายฟ้าหนึ่งปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา ราวกับบอลสายฟ้า และได้ยินเสียงดังก้องราวกับนกนับพันกำลังกรีดร้องตามมาติด ๆ บอลสายฟ้านี้ทรงพลังมาก มันรวมตัวกันเป็นบอลสายฟ้า พลังที่บรรจุอยู่ภายในนั้นเพียงพอที่จะสร้างรูลึกขนาดห้าเมตรในภูเขา เมื่อมันฟาดลงมายังพื้นดิน!
“หมัดห้าธาตุ” เย่สวี่ขี้เกียจเกินกว่าจะพูดเรื่องไร้สาระกับเย่เฟยเฝิง ในที่สุดเขาก็รู้ว่าคนที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะเหล่านี้ เป็นคนประเภทใด จากนั้นร่างของเย่สวี่ค่อย ๆ มีพลังจิตวิญญาณการต่อสู้เขาเขาค่อย ๆ โอบล้อมร่างกายของเขา
“ทักษะพื้น ๆ!” เย่เฟยเฝิงเยาะเย้ยและตั้งใจจะกระแทกฝ่ามือไปยังร่างของเย่สวี่โดยตรง จากนั้นเย่สวี่ลืมตาขึ้นและเผชิญหน้ากับการโจมตีของเย่เฟยเฝิงโดยตรง ทุกๆ คน ต่างได้ยินเสียงสายฟ้าและหมัดหนัก ๆ ปะทะกันบนเวทีการต่อสู้
“เจ้ามีดีแค่นี้หรือ กล้าดีอย่างไรที่รับคำท้าของข้า ....เจ้าช่างไม่รู้เรื่องรู้ราวเอาเสียเลย” เย่เฟยเผิงก้าวถอยหลัง และเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เปลวไฟสว่างขึ้นจากมือซ้ายของเขาในทันที มันสะท้อนกับสายฟ้าและค่อยๆ หลอมรวมเข้าด้วยกัน
เทคนิคใหม่เกิดขึ้นทันที ทักษะการต่อสู้ระดับสูง สีเหลือง
หมัดสายฟ้าอัคคี! ในเวลานี้ท้องฟ้ามืดมิด หมัดนี้เปรียบเสมือนแสงสว่างเจิดจ้า เสียดแทงตาผู้คน และทำให้พวกเขารู้สึกแสบตาจนทนไม่ไหว
ออร่าที่เย็นชาและดุร้ายบีบคั้นจิตใจผู้คนอย่างหนัก การเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่นักรบขั้นกลั่นพลังปราณจะสามารถป้องกันตัวได้!
"ไปตายซะ!" เย่เฟยเผิงร้องตะโกนเสียงดัง และในขณะที่เขากำลังจะเหวี่ยงหมัดออกไป เย่ไห่ขมวดคิ้วและลุกขึ้นยืนทันที เขาต้องการเหาะไปยังเวทีต่อสู้
“นี่คือการต่อสู้แห่งชีวิตความเป็นตาย ผู้นำตระกูล....เจ้าควรยอมรับผลใดๆ อย่างใจเย็น หรือว่าเจ้าต้องการทำลายกฎตระกูลต่อหน้าสมาชิกทุกคน?”
เสียงเย็นชาดังขึ้น ผู้อาวุโสสามยืนอยู่ต่อหน้าเย่ไห่ด้วยใบหน้าที่กล้าหาญ
“ข้ารู้..... ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าเตือน” เย่ไห่คร่ำครวญอย่างเย็นชา แต่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวล ในฐานะบิดาของเย่สวี่ เย่ไห่ถึงกับนั่งไม่ติด
เมื่อเผชิญหน้ากับอุปสรรคอย่างผู้อาวุโสสาม เย่ไห่โกรธมาก หากเขารู้ว่าเย่เฟยเผิงอยู่ในขั้นวารีสวรรค์ เขาคงไม่เห็นด้วยกับการต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น!
อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้นำ เย่ไห่ถูกจำกัดโดยกฎตระกูล ตอนนี้เขาทำได้เพียงหวังว่า เย่สวี่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีนี้ได้ ขณะที่สายฟ้าและไฟของเย่เฟยเฝิงกำลังจะปะทะกับร่างของเย่สวี่ รอยยิ้มอันเย็นชา ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ เย่สวี่
จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหวร่างเพียงเล็กน้อย! ร่างกายส่วนบนของเย่สวี่เอนไปข้างหลัง ราวกับท่วงท่าเดียวกับการหลบการโจมตีของเย่หานอู่ที่พริ้วไหวมาก!
เย่สวี่หลบเลี่ยงหมัดนี้ จนทำให้เสื้อคลุมสีดำของเขาฉีกขาดเป็นชิ้น ๆ เย่เฟยเผิงตอบสนองอย่างรวดเร็ว ดวงตาเย็นชาของเขาเป็นประกาย จากนั้นเปลี่ยนท่าโจมตีโดนหมัดของเขา กลายเป็นฝ่ามือ และฟาดออกไปยังร่างของเย่สวี่ในทันควัน
ในขณะนี้ เย่สวี่ไม่มีที่หลบซ่อนตัว เย่เฟยเผิงมั่นใจว่าเขาสามารถฆ่าเขาได้ด้วยฝ่ามือเดียว! ในขณะนี้ภายใต้สายตาที่ไม่เชื่อของทุกคน
ขาของเย่สวี่เคลื่อนไหว ร่างกายทั้งหมดของเขา ราวกับงู ในทันทีเขาก็กระโดดพลิกตัวไปทางด้านหลังของเย่เฟยเฝิง! เขาหลบการโจมตีนี้ ที่คนธรรมดาไม่สามารถหลบได้พ้น!
หลังจากนั้น ดวงตาของทุกคนก็หยุดนิ่งสนิท ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้เห็นฉากที่น่าทึ่งบางอย่าง ออร่าที่ไม่ธรรมดาผุดขึ้นจากท้องฟ้า โดยมีเย่สวี่เป็นศูนย์กลาง รูปแบบดวงดาวทั้งห้าที่สดใสก็ปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้าของเขา
โลหะ ไม้ น้ำ ไฟ และดิน คุณลักษณะที่แตกต่างกันทั้งห้านี้ล้วนสอดคล้องกับเทคนิคหมัดห้าธาตุ รัศมีของหมัดห้าธาตุที่ก่อนหน้าเงียบงัน กลับกลายเป็นบ้าคลั่งไปทั่วบริเวณ
นี่ไม่ใช่การเพิ่มพลังหมัดขึ้นเล็กน้อย แต่เป็นการเพิ่มพลังของหมัดอย่างกะทันหันและเต็มไปด้วยพละกำลัง พลังหมัดของเย่สวี่นั้นช่างน่าเกรงขาม มันกดขี่มากกว่าหมัดอัคคีสายฟ้าของเย่เฟยเผิงเสียอีก!
เย่สวี่ก้าวไปข้างหน้าและเล็งหมัดไปที่เบื้องหลังของเย่เฟยเฝิง ทันใดนั้นเขากำหมัดและชกออกไป! จากนั้นตามมาด้วยเสียงระเบิดดังกึกก้อง หมัดของเย่สวี่สร้างความหายนะต่อหมัดอัคคีสายฟ้าและถูกทำลายในทันที
ไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้เบื้องหลัง ร่างกายของ เย่เฟยเฝิงสั่นและเขากระอักเลือดออกมาทันที เขามองไปที่รูเลือดในอกของเขา และเขาสามารถมองเห็นหัวใจที่แตกสลายได้อย่างชัดเจน
มือของเย่เฟยเฝิงถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยเลือด และร่างกายของเขาจะหมดเรี่ยวแรง เขาหันศีรษะกลับไปมองเย่สวี่ และในที่สุดเขาก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขาทรุดตัวล้มลงกับพื้นและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
หมัดของเย่สวี่มีพลังแห่งสวรรค์ ปฐพี โลกมนุษย์ และรวดเร็วเด็ดขาด ทำให้เย่เฟยเฝิงไม่มีที่หลบซ่อน เขาไม่สามารถแม้แต่จะพูดว่า "ยอมรับความพ่ายแพ้" เขาทำได้เพียงยอมรับความตายด้วยความสิ้นหวัง
“แม้เจ้าจะเป็นนักรบวารีสวรรค์ แต่ข้าจะใช้เพียงหมัดเดียวเพื่อฆ่าเจ้า” เย่สวี่มองไปที่ร่างกายที่ล้มลงกับพื้นของเย่เฟยเฝิงและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส
คำพูดของเขาทำให้ทุกคนในที่นั้นสั่นสะท้าน คำพูดที่ครอบงำของเขาดังก้องอยู่ในใจพวกเขาเป็นเวลานาน
“ข้าจะใช้เพียงหมัดเดียวเพื่อฆ่าเจ้า!” แม้แต่นักรบวารีสวรรค์ยังไม่สามารถต้านทานการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากเย่สวี่ ....สรุปแล้วเย่สวี่นั้นแข็งแกร่งเพียงใดกันแน่?