ตอนที่ 83 คู่หมั้นมา!
กู่ฉางเกอหรี่ตา แต่ไม่ช้าสีหน้าก็กลับเป็นปกติ
คนตรงหน้าเขาคือเจ้าสำนักเม็ดยาหินม่วง จือหยาน นางคือคนที่ปกครองสำนักเม็ดยา และแม้นางจะเป็นผู้หญิง นางก็เป็นที่รู้จักดีในอาณาจักรเบื้องบนด้านพลังและความสำเร็จในเต๋าแห่งการหลอม
แม้นางจะไม่ดูแก่ แต่นางก็ถือเป็นบรรพบุรุษของกู่ฉางเกอได้สบายถ้าพูดถึงอายุจริง
ตอนกู่ฉางเกอมาถึงนี่ เขาได้พิจารณาถึงการให้นางเป็นอาจารย์ของหลินชิวหาน ตอนนี้ที่นางส่งตัวเองมาหน้าประตู นางช่วยเหลือเขาไว้มาก
“นายน้อยกู่ฉางเกอใจกว้างจริงๆ ท่านได้แก้ความกังวลของสำนักเราโดยการนำเมล็ดพันธุ์ชั้นดีมายังสำนักเม็ดยาเรา”
เจ้าสำนักจือพูดด้วยรอยยิ้มหลังมาถึงภายในวัง เสียงของนางอ่อนนุ่ม ในเวลาเดียวกัน สายตาของนางยังจับจ้องกุ่ฉางเกอ มันราวกับว่านางอยากมองทะลุเขา
นางได้ยินเรื่องของสุดยอดอัจฉริยะแห่งตระกูลกู่มานานแล้ว ข่าวลือบอกว่าเขาเป็นชายที่โหดเหี้ยมและไม่แยแสอย่างมาก เขาสนใจแต่การบ่มเพาะ
เหตุการณ์ที่เกิดในตระกูลกู่กว่าสิบปีก่อนไม่อาจปกปิดจากสำนักใหญ่อื่นได้ แม้พวกเขาจะรีบปกปิดข่าว นางก็ยังได้ยินข่าวลือ
พวกเขาบอกว่าเรื่องนั้นเกิดขึ้นโดยชายหนุ่มตรงหน้านาง!
“ผู้อาวุโสจือหยาน ผู้เยาว์ก็แค่มอบของขวัญ สำนักเม็ดยาหินม่วงคือสถานที่ที่ดีสุดสำหรับชิวหาน”
กู่ฉางเกอพูดด้วยรอยยิ้ม
เจ้าสำนักจือหยานตอบคำพูดเขาด้วยรอยยิ้ม นางไม่รู้ว่าข่าวลือเป็นจริงไหม แต่นางมั่นใจว่าชายหนุ่มตรงหน้านางคือคนที่เต็มไปด้วยแผนการ
แถม ฐานบ่มเพาะเขายังสูง มีคนไม่มากในอาณาจักรเบื้องบนที่เทียบเขาได้
เขาคือคนเจ้าแผนการ หนุ่มหล่อที่รู้จักใช้รอยยิ้มอ่อนโยน เขาไม่ใช่คนธรรมดา!
“นี่คือคำสั่งหินม่วงของสำนักเรา ด้วยสิ่งนี้ ท่านจะสามารถเรียกนักหลอมโอสถของสำนักเม็ดยาหินม่วงเราได้ นายน้อยฉางเกอ”
“ท่านยังสามารถเรียกตัวผู้อาวุโสหรือผู้นำยอดเขาของสำนักเราโดยใช้คำสั่งนี้ แต่มันจะใช้ได้แค่ครั้งเดียวในกรณีนี้”
“สำนักเม็ดยาหินม่วงเราจะไม่ลืมบุญคุณของนายน้อยฉางเกอที่นำเด็กคนนี้มาให้เรา”
จากนั้น บางสิ่งก็ปรากฏในมือเจ้าสำนักจือหยาน มันเป็นตราที่สลักด้วยอักขระโอสถ มันมีหน้าตาธรรมดามาก และคำว่าหินม่วงก็เขียนอยู่บนนั้น
“ท่านเจ้าสำนัก!”
เหล่าผู้อาวุโสเม็ดยาหน้าเปลี่ยนสี ไม่คิดว่าเจ้าสำนักพวกเขาจะมอบคำสั่งหินม่วงให้กู่ฉางเกอ
สำหรับว่าคำสั่งหินม่วงหมายความว่าอะไร?มันไม่ต้องพูด!สำหรับสำนักต่างๆของอาณาจักรเบื้องบน การเห็นคำสั่งหินม่วงก็เหมือนกับการเห็นเจ้าสำนักหินม่วง!
ต่อให้กู่ฉางเกอ นายน้อยตระกูลกู่จะส่งเมล็ดพันธ์ชั้นดีอย่างหลินชิวหานให้ เขาก็ยังไม่คู่ควร!
“โอ้ ผู้เยาว์ขอน้อมรับความใจกว้างของผู้อาวุโส!”
กู่ฉางเกอย่อมไม่ปล่อยโอกาสอันดีไป เขารู้ดีว่าคำสั่งหินม่วงหมายถึงอะไร มันไม่เกินจริงที่จะบอกว่าคำสั่งหินม่วงมีอำนาจมหาศาลและสามารถให้เขาบัญชาการนักหลอมโอสถหลายคนในอาณาจักรเบื้องบนได้
แม้กระทั่งเขาก็ยังแปลกใจที่เห็นเจ้าสำนักมอบของดีแบบนี้ให้
กู่ฉางเกอยึดมั่นในหลักการไม่ให้ผลประโยชน์โดยไม่ได้อะไรตอบแทน เขาย่อมรับมัน ในอนาคต เขาจะไม่ต้องเตรียมสมุนไพรและวัตถุดิบใดถ้าเขาต้องการให้นักหลอมโอสถของสำนักเม็ดยาหินม่วงมาทำเม็ดยาให้เขา เขาแค่ต้องนำคำสั่งหินม่วงออกมาและเพลิดเพลินกับของฟรี
เขายังสามารถได้รับ[เม็ดยารวมวิญญาณ] [เม็ดยาแปลงวิญญาณ]และอื่นๆได
โดยธรรมชาติ กู่ฉางเกอเข้าใจความหมายเบื้องหลังที่เจ้าสำนักจื่อหยานมอบคำสั่งหินม่วงให้เขา นางอยากให้เขาขายหลินชิวหานให้เป็นการแลกเปลี่ยน เขาอดรู้สึกสนใจไม่ได้
น่าเสียดายสำหรับพวกเขา เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องขาดทุน ในเมื่อเขากล้าส่งตัวหลินชิวหานให้พวกเขา งั้นเขาก็ย่อมไม่กังวลว่านางจะทรยศเขา
“ชิวหาน คนคนนี้คือเจ้าสำนักเม็ดยาหินม่วง จากนี้ไป นางจะเป็นอาจารย์ของเจ้า เจ้าต้องฝึกฝนให้หนักและเรียนรู้วิชาหลอมจากนาง!”
หลังจากนั้น กู่ฉางเกอก็ยิ้มและลูบหัวหลินชิวหานโดยไม่พูดอะไรเกี่ยวกับการส่งมอบตัวนางให้สำนักเม็ดยาเลย ไม่ว่ายังไง คำสั่งหินม่วงก็อยู่ในมือเขาแล้ว เขาจึงไม่กังวลว่าพวกเขาจะริบคืน
เขาไม่คิดมาก
แต่กู่ฉางเกอก็ยังอยากมอบไพ่คนดีให้เจ้าสำนักจือหยาน เขาได้เอาเปรียบพวกนางแล้ว แต่นางก็ยังมอบผลประโยชน์ที่ดีให้เขา!
“ข้าเข้าใจแล้ว!นายน้อยโปรดวางใจ ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!”
หลิวชิวหานตอบอย่างเชื่อฟัง ในเวลาเดียวกัน นางก็รู้สึกว่าหน้านางร้อนขึ้นจากการโดนกู่ฉางเกอลูบหัว
สีหน้าของเจ้าสำนักจือหยานเปลี่ยนไปตอนนางเห็นกู่ฉางเกอแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจความหมายของนาง การกระทำของเขาเกินความคาดหมายของนางอย่างสิ้นเชิง แต่ไม่ช้าสีหน้านางก็กลับเป็นสงบตามปกติ
แต่นางก็ยังสงสัยว่าทำไมนางถึงรู้สึกราวกับนางเพิ่งตบหน้าสุนัขด้วยก้อนเนื้อ?
นางอดเสียใจไม่ได้และสงสัยว่าทำไมนางถึงคิดว่ากู่ฉางเกอเป็นคนมีเหตุผล?
ใบหน้าอ่อนโยนของเขาไม่ต่างอะไรจากใบหน้าจอมปลอม แม้กระทั่งนางก็ยังโดนหลอกให้คิดว่าเขาอาจไม่ใช่คนชั่ว
แต่เจ้าสำนักจือหยานเชื่อว่าหลังหลินชิวหานอยู่กับนางไปสักพัก และถูกนางสั่งสอน นางจะต้องพัฒนาความรู้สึกลึกซึ้งต่อสำหนัก ตอนนั้น แผนของกู่ฉางเกอที่คิดใช้สำนักเม็ดยาหินม่วงเพื่อช่วยเขาเลี้ยงปรมาจารย์โอสถก็จะต้องพัง
“เจ้าชื่อชิวหานสินะ?จากนี้ไป เจ้าจะเรียกข้าว่าอาจารย์”
เจ้าสำนักจือหยานพูดกับหลินชิวหานอย่างอ่อนโยน นางชอบเด็กใสซื่อไร้เดียงสาคนนี้มาก และยังวางแผนเลี้ยงนางให้เป็นว่าที่เจ้าสำนัก
ด้วยพรสวรรค์ของนาง มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ที่หลินชิวหานจะเหนือกว่านางในอนาคต
“ชิวหานขอคารวะท่านอาจารย์!’
หลินชิวหานเองก็เป็นเด็กเชื่อฟัง และนางก็คารวะอาจารย์นางทันที นางเองก็มีความประทับใจที่ดีต่ออาจารย์คนนี้ที่มอบของให้นายน้อยนางทันทีที่พบหน้ากัน
..
ในการเดินทางเดียว ไม่เพียงกู่ฉางเกอจะส่งตัวหลินชิวหานให้สำนักเม็ดยาหินม่วงได้ แต่หลินชิวหานยังกลายเป็นศิษย์ของเจ้าสำนัก ไม่เพียงสำนักจะเป็นหนี้เขา แต่เขายังได้รับคำสั่งหินม่วงมาโดยไม่ต้องทำอะไร
แม้กระทั่งค่าโชคของเขาก็พุ่งขึ้นไปห้าร้อยแต้ม!
กู่ฉางเกอรู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้คุ้มค่ามาก
ไม่ช้า ร่างของกู่ฉางเกอก็ปรากฏด้านนอกประตูสำนักเม็ดยาหินม่วง พร้อมด้วยเหล่าผู้อาวุโสที่มาส่งเขา
“นายน้อย!’
อาต้า เฒ่าหมิงกับคนอื่นทักทายเขาทันทีที่เห็นเขา
“ผู้อาวุโส ขอบคุณที่มาส่งข้ากัน ข้าขอฝากชิวหานให้พวกท่านดูแลด้วย”
กู่ฉางเกอหันไปหาเหล่าผู้อาวุโสด้านหลังเขาและพูดด้วยรอยยิ้ม
“ท่านพูดอะไรกัน นายน้อยฉางเกอ?สำนักเม็ดยาหินม่วงเราต่างหากที่ต้องขอบคุณท่าน เราจะไม่มีวันลืมบุญคุณนี้!”
เหล่าผู้อาวุโสประสานมือและตอบเขาด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจ พวกเขาได้แต่กลอกตา
แม้นายน้อยตระกูลกู่จะมีภาพลักษณ์อ่อนโยนและใจดี แต่หัวใจของเขาดำมืดมาก เขารับคำสั่งหินม่วงไปโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าสักนิด ราวกับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ พวกเขายังจำสีหน้าตกใจของเจ้าสำนักพวกเขาได้
..
“ชิวหาน เจ้าเจอกับนายน้อยกู่ได้ไง?’
ตอนกู่ฉางเกอไป เจ้าสำนักจือหยานก็อดถามด้วยความอยากรู้ไม่ได้ขณะสอนกฏของสำนักให้หลินชิวหาน
กู่ฉางเกอไปหาคนไร้เดียงสาเช่นนางมาจากไหน?
มันดูเหมือนกู่ฉางเกอจะเก็บหลินชิวหานไว้ในที่มืด และนางก็ไม่รู้ว่านางกำลังช่วยกู่ฉางเกอนับเงินที่เขาได้จากการขายนาง
เจ้าสำนักจือหยานอดกังวลแทนศิษย์นางไม่ได้ ศิษย์ของนางไม่น่าโง่ขนาดนี้เลย เห้อ
“อาจารย์ ท่านอยากรู้ว่าข้าเจอกับนายน้อยได้ยังไง?ตอนข้าพบนายน้อยครั้งแรก เราอยู่ในตระกูลหลินของแคว้นกลาง มันคือตระกูลของข้า....”
ขณะที่หลินชิวหานพูดถึงการพบครั้งแรก นางก็นึกถึงฉากที่ยังแจ่มแจ้งในหัว ย้อนกลับไป กู่ฉางเกอเหมือนเทพหนุ่มที่นั่งบนบัลลังก์ ก้มมองทุกสิ่ง
ตอนนั้น นางกำลังยืนอยู่กับฝูงชนด้านนอกโถง และลอบมองเขา
เจ้าสำนักจือหยานพูดไม่ออกพอได้ยินคำอธิบาย นางมีชีวิตมาเป็นพันปี นางจึงมองอะไรได้ทะลุปรุโปร่ง
กู่ฉางเกอไม่ใช่คนดีจริงๆ แค่คำหวานจากปากเขาก็ทำให้หลินชิวหานติดเขางอมแงมได้แล้ว
มันดูเหมือนนางจะต้องเตือนหลินชิวหานให้อยู่ห่างจากกู่ฉางเกอในอนาคต และนางยังต้องช่วยศิษย์นางให้เห็นธาตุแท้ของเขา
..
กู่ฉางเกอกับพรรคพวกกลับตระกูลกู่
สามวันผ่านไปไว้เหมือนโกหก กู่ฉางเกอนั่งในดอกบัวด้วยสีหน้าสงบ ด้วยชุดขาวหิมะไร้ฝุ่นปกคลุม และผมที่มัดอย่างเรียบร้อยเขาจึงดูเหมือนเทพเซียนอย่างมาก
ใบหน้าของเขาดูสงบอย่างยิ่ง ดวงตายังดูลึกล้ำเหมือนจักรวาล และอักขระดำนับไม่ถ้วนก็แวบผ่านรูม่านตาเขา ในฝ่ามือเขา เขาถือขวดสมบัติเต๋าที่เต็มไปด้วยแสงสีดำสนิทไว้
“มันต้องใช้เวลาหลายวันเลยกว่าจะหลอมขวดมารนี้ได้..”
กู่ฉางเกอพึมพำ และจากนั้นก้รีบเก็บ[ขวดสมบัติเต๋า]มารไป แสงสีดำแวบผ่านตาเขา และขวดมารก็หายไประหว่างคิ้วเขา
‘หน้าต่างสถานะ!’
กู่ฉางเกอร้องเรียกระบบในใจ
เจ้าของ : กู่ฉางเกอ
รัศมี : วายร้ายสวรรค์ลิขิต
อาวุธ : ง้าวมารแปดทิศ
ตัวตน : ศิษย์แท้จริงวังเต๋าเซียนสวรรค์ นายน้อยของตระกูลเซียนกู่
เส้นชีพจร : ใจมาร กระดูกเต๋า
ฐานบ่มเพาะ : จักรพรรดิ(ขั้นต้น)
ความสามารถลี้ลับ : เคล็ดเต๋าเซียนสวรรค์(ขั้นแปด) วิหารจิตเทพบรรพกาล(พรสวรรค์) กายหมื่นปีศาจจำแลง(พรสวรรค์) เคล็ดเซียนปีศาจกลืนกิน ภูมิปัญญาไร้สิ้นสุด
ค่าโชคชะตา : 1000
ค่าโชคลาภ : 1500(มืด)
ร้านค้าระบบ : เปิด
คลัง : หนึ่งในสามชิ้นส่วนเมล็ดพันธุ์โลกx3(ผสาน) การ์ดปล้นโชคx3
กู่ฉางเกออดคร่ำครวญไม่ได้หลังมองค่าโชคชะตาแสนน้อยนิด ในเวลาเดียวกัน เขาก็มองผ่านร้านค้าระบบ
‘ถ้าข้าแลกค่าโชคลาภ ข้าจะมีค่าโชคชะตา 16000 และนั่นควรพอให้ข้าได้ของดี’
แม้กระดูกเต๋าจะดี มันก็ไม่ได้เป็นของเขา แถม ใจมารของเขายังสะกดความสามารถของกระดูกเต๋าไว้มิด ทำให้มันไร้ประโยชน์
แน่นอน เขาเพิ่งดูหมวดหมู่ของระบบ เพื่อเตรียมการในอนาคต เหตุผลเดียวที่เขายังไม่กลับวังเต๋าอมตะสวรรค์ก็เพราะเขากำลังรอการกลับมาของหยานจี เขาจึงได้รู้ที่อยู่ของกู่เซียนเอ๋อร์และเตรียมการรับมือนาง
ไม่ช้า กู่ฉางเกอก็สังเกตเห็นของดีและอดหรี่ตาไม่ได้
‘ข้าจะมีวิธีการเพิ่มในมือ’
มุมปากของเขาขดขึ้น ไม่ว่าผู้หนุนหลังของกู่เซียนเอ๋อร์จะแกร่งแค่ไหน มันก็ไม่สำคัญตราบเท่าที่เขามีทุกอย่างอยู่ในการควบคุม แต่ตอนนี้ เสียงของบริวารดังจากด้านนอกตำหนักเขาและคำพูดนั้นก็ทำให้เขาแปลกใจ
“นายน้อย ท่านผู้นำสั่งให้ท่านไปที่โถงหลัก จักรพรรดิแห่งราชวงศ์เซียนสูงสุดกับเจ้าหญิงสี่ได้มาพบท่าน พวกเขากำลังรอท่านอยู่ในโถง!’
กู่ฉางเกอผงะ จากนั้นก็หัวเราะ
‘คู่หมั้นที่รักของข้า เจ้ามาแล้ว?’