ตอนที่ 827+828 คุณนำเกียรติมาสู่เรา
ตอนที่ 827 คุณนำเกียรติมาสู่เรา
หลังจากที่พวกเขาพูดคุยกันเป็นเวลานาน ทั้งสองก็ยังไม่สามารถคิดออกเกี่ยวกับของขวัญได้ เจียงเหยารู้แล้วว่าเธอไม่สามารถพึ่งพาเหวินเสวี่ยฮุ่ยในเรื่องนี้ได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงไม่ถามคำถามอะไรเพิ่มอีก
ทั้งสองจับมือกันและกลับไปที่หอพัก เจียงเหยารู้สึกโล่งใจ เธอยังมีเวลาคิดเรื่องนี้ ในที่สุด เธอก็จะมีของขวัญดี ๆ ให้กับเขา
หลินชุนเหอไปที่มหาวิทยาลัยของเธอในช่วงเช้าเพื่อเปิดเผยว่าเจียงเหยาเป็นคนโกหก แต่เธอก็สามารถเอาชนะเขาได้ ข่าวแพร่กระจายไปทั่วมหาวิทยาลัยและรวมถึงข่าวว่าเธอเป็นลูกศิษย์ของเทวแพทย์ด้วย
ไม่เป็นไร ถ้ามีใครไม่รู้เกี่ยวกับเทวแพทย์ แค่เมื่อใครอยากรู้ นักศึกษาแพทย์คนไหน ๆ ก็มักจะกระตือรือร้นที่จะตอบข้อสงสัยให้ในทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้นเรื่องของเทวแพทย์และลูกศิษย์ของเขา เจียงเหยาจึงกลายเป็นประเด็นร้อยในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัยการแพทย์หนานเจียงโดยไม่คำนึงถึงคณะ เกือบทุกคนให้ความสนใจกับหัวข้อนี้
การมีส่วนร่วมของเจียงเหยาในการวินิจฉัยเคสผู้ป่วยของศาสตราจารย์โอวหยางอย่างกะทันหันก็แพร่กระจายไปทั่วมหาวิทยาลัย ทุกคนก็เล่าเรื่องนี้ต่อ ๆ กันไปทั่วมหาวิทยาลัย เรื่องราวจึงเปลี่ยนไปเมื่อมันแพร่กระจายออกไป จากเรื่องธรรมดาทั่วไป กลายเป็นเรื่องแปลกประหลาดอย่างยิ่ง
ไม่ว่าคนที่เผยแพร่เรื่องราวจะเป็นนักศึกษาแพทย์หรือไม่ก็ตาม และไม่ว่าพวกเขาจะเข้าใจบริบทของการวินิจฉัยของเจียงเหยาและศาสตราจารย์โอวหยางหรือไม่ ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเร่าร้อนเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยต่างอิจฉา เมื่อศาสตราจารย์โอวหยางให้การยอมรับเจียงเหยาเป็นนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
เมื่อเหวินเสวี่ยฮุ่ยได้ยินข่าว เธอวิ่งกลับมาที่หอพัก เปิดประตูและปิดประตูอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกระแทกที่มุมโต๊ะของเธอราวกับว่าเธอไม่รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ
“เจียงเหยา เจียงเหยา เธอเก่งเกินไปแล้ว” เหวินเสวี่ยฮุ่ยทำตัวราวกับว่าเธอถูกฉีดสารกระตุ้น ทันทีที่เธอเข้ามาในห้อง เธอกอดเจียงเหยาและหมุนเพื่อนของเธอไปรอบ ๆ “เธอนำเกียรติมาสู่คณะของเรา ไม่คิดว่าเธอจะมีอาจารย์ที่น่าทึ่งขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่เธอรู้คำตอบทั้งหมด ตอนที่ฉันทดสอบเธอครั้งล่าสุด เธอเป็นนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของศาสตราจารย์โอวหยางหรือเปล่า งั้นเธอก็จะเป็นรุ่นพี่ของเราในเร็ว ๆ นี้สินะ”
“ใจเย็น ๆ ก่อน ใจเย็น ๆ” โจวเสี่ยวเซียวปลอบโยนเหวินเสวี่ยฮุ่ย แต่ก็ไร้ประโยชน์ เธอรู้สึกเช่นเดียวกันเมื่อได้ยินข่าวนี้ครั้งแรก ปรากฏว่าเพื่อนร่วมห้องของเธอ เจียงเหยาได้ซ่อนตัวตนที่แท้จริงของเธอไว้ หลายคนเคารพและมองไปที่ลูกศิษย์ของเทวแพทย์
“ไม่ได้ยืนยันหรอก” เหวินเสวี่ยฮุ่ยเขย่าตัวเจียงเหยามากจนเธออยากจะอ้วก ถ้าพวกเขารู้ว่าเธอเป็นเทวแพทย์ พวกเธอจะคลั่งกันขนาดไหน
บางทีพวกเธออาจจะคิดว่าเป็นเรื่องตลก เหมือนกับที่เธอพูดว่าเธอเป็นผู้ถือหุ้นของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย คงไม่มีใครเชื่อ
“ยังไม่ได้ยืนยันอะไรกัน ศาสตราจารย์โอวหยางได้ส่งคำเชิญให้เธอแล้วไม่ใช่เหรอ แต่เธอเองนั่นแหละที่ลังเล เขาไม่มีนักศึกษาระดับปริญญาโทเลยนะ นักศึกษาของเขาเกือบทั้งหมดเป็นนักศึกษาระดับปริญญาเอก ตื่นได้แล้ว ถ้าเป็นฉัน ฉันคงยอมรับออกไปทันที”
ศาสตราจารย์โอวหยางเป็นอาจารย์ที่น่าเคารพนับถือและมากด้วยประสบการณ์ มันยากสำหรับคนที่จะได้รับการยอมรับในหลักสูตรปริญญาเอกของเขา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่ศาสตราจารย์จะริเริ่มรับนักศึกษาระดับปริญญาโท เหวินเสวี่ยฮุ่ยทนไม่ได้จริง ๆ ที่เจียงเหยายังคงแค่รับข้อเสนอนั้นไปพิจารณา
__
ตอนที่ 828 รีบไปรับการรักษา
หากเรื่องนี้เกิดกับเหวินเสวี่ยฮุ่ย พ่อของเธอคงจะมีความสุขมากที่เขากลับบ้านและจุดประทัดเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสนี้เลยด้วยซ้ำ
เจียงเหยาไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย เธอเพียงแค่ยิ้มและเทน้ำหนึ่งแก้วให้กับเหวินเสวี่ยฮุ่ยเพื่อที่เธอจะได้จิบสงบสติอารมณ์ ในช่วงเวลาสั้น ๆ อาลู่โทรมาและบอกว่าเขามาถึงหอพักของเธอแล้ว
“ฉันจะออกไปข้างนอกนะ ฉันมีบางอย่างต้องทำ แต่คืนนี้ฉันจะกลับมา ฉันจะพาพวกเธอไปทานข้าวเย็นด้วยกัน รอฉันด้วยล่ะ” เจียงเหยาหยิบกระเป๋าของเธอและสวมเสื้อคลุม มัวซ่อนตัวอยู่ในที่นอนของเขา เมื่อเขาตระหนักว่าเจียงเหยากำลังจะออกไป เขารีบกระโดดเข้าไปในกระเป๋าเป้าสะพายหลังของเธอ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการไปกับเจียงเหยา
เจียงเหยาคิดว่ามันแปลก มัวไม่อยากตามเธอไปทุกครั้งที่เธอออกไปข้างนอก เมื่อเธอกลับมาที่หอพัก มัวก็อยู่ห่างจากเธอเสมอ แต่ในวันนนี้ เขาได้เริ่มกระโดดเข้ามาในกระเป๋าเป้สะพายหลังของเธอ เธอไม่เข้าใจเลย
“ยังจะออกไปไหนอีกเหรอ” เหวินเสวี่ยฮุ่ยถาม “สามีของเธอเพิ่งกลับไปทำงานไม่ใช่เหรอ”
“เขาออกไปจัดการเรื่องส่วนตัวบางอย่างน่ะ” เจียงเหยายิ้ม “อะไร ฉันทำได้แค่อยู่ในมหาวิทยาลัยเพราะเขาไม่อยู่ที่นี่อย่างนั้นเหรอ ชีวิตของฉันมีแค่สามีและการเรียนหรือไงกัน ไม่มีอย่างอื่นอีกแล้วหรือไง”
อีกห้าคนในหอพักพยักหน้าโดยปริยายและตอบพร้อมกันว่า "ใช่”
เหวินเสวี่ยฮุ่ยหัวเราะเสียงดัง “ดูเหมือนว่าฉันไม่ใช่คนเดียวที่คิดว่าเธอเป็นคนที่อยากอยู่ใกล้สามีตลอด 24 ชั่วโมง ฉันคิดว่าเธอต้องการเอาตัวเองแขวนไว้บนตัวสามีของเธอเสียอีก”
“อืม เธอคิดผิดแล้ว ดูเหมือนเธอจะไม่สบายนะ รีบไปรักษาเถอะ”
เจียงเหยายกมือขึ้นและดีดหน้าผากของเหวินเสวี่ยฮุ่ย จากนั้นเธอก็ถือกระเป๋าเป้สะพายหลังออกไปจากห้องพัก
หลังจากที่เธอเดินจากไป เธอก็พึมพำ “ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าฉันเป็นคนประเภทที่รอไม่ได้ที่จะอยู่ใกล้ลู่ชิงสีตลอดทั้งวันนะ”
“ทำไมจะไม่ใช่” มัวตอบเจียงเหยา จากกระเป๋าเป้สะพายหลัง “ดมกลิ่นตัวเองเสียบ้าง ร่างกายของเธอมีแต่กลิ่นของผู้ชายคนนั้นติดตัว”
เจียงเหยารู้สึกว่าถูกดูถูก เธอส่ายไหล่อย่างไม่พอใจ แม้ว่าเธอจะไม่ได้เขย่ามัวออกจากกระเป๋า แต่เธอก็ยังสูดอากาศหายใจอย่างมีความสุขเมื่อได้ยินเสียงมันคราง “ทำไมวันนี้ถึงตามฉันมาล่ะ ปกตินายไม่ชอบตามไปนั่นไปนี่ด้วยนี่ ตอนฉันอยู่ที่เมืองรง นายก็แอบกลับมาพร้อมกับผู้จัดการซุนโดยไม่บอกไม่กล่าว”
มัวนอนเงียบ ๆ ในกระเป๋าของเจียงเหยา และไม่ตอบเธอ เขาเพียงแค่ปัดหางของเขาผ่านใบหน้าของเจียงเหยา เพื่อแสดงความไม่พอใจ
“อ๋อใช่ ฉันยังไม่ได้บอกนายสินะ ฉันเจอเพื่อนตัวน้อยของนายแล้ว เธอชื่อมีมี่ เธอเป็นแมวน้อยที่น่ารักและมีมารยาท ตอนนี้เธออยู่ที่โรงแรม รอบ้านใหม่ปรับปรุงเสร็จก่อน นายกับมีมี่ย้ายไปอยู่ด้วยกัน จะมีพี่เลี้ยงดูแลนายอยู่ที่บ้าน” เจียงเหยาย้ายกระเป๋าบนหลังของเธอมาไว้ที่ด้านห้า เพื่อที่เธอจะได้เห็นมัว ว่ามันฟังเธอหรือไม่
มัวยังคงไม่พูดอะไร แต่ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความรังเกียจและดูถูกเหยียดหยาม
เมื่อเจียงเหยาเห็นสีหน้าของเขา เธอโกรธมากจนยกมือขึ้นและจิ้มไปที่หน้าผากของเขา จากนั้นเธอก็ย้ายกระเป๋าไปที่ด้านหลังเหมือนเดิมอีกครั้ง เป็นไปได้มากที่มัวจะไม่ชอบแมวธรรมดาอย่ามีมี่
เจียงเหยามีเรื่องส่วนตัวที่เธอต้องทำตอนกลางคืน เธอได้รับปากอธิการบดีว่าจะช่วยตรวจดูอาการของลูกสาวเพื่อนของเขา อย่างไรก็ตาม มีหลายอย่างเกิดขึ้นตั้งแต่นั้นมา ทำให้เรื่องนี้ช้าออกไป