ตอนที่ 825+826 ไล่พวกเขาออกไป
ตอนที่ 825 ไล่พวกเขาออกไป
กู้ฮ่าวอวี้และลู่ชิงสีขับรถกลับไปที่โรงแรม เมื่อพวกเขามาถึง ลู่ชิงสีขอให้ผู้จัดการซุนขับรถออกไป กู้ฮ่าวอวี้จะเป็นคนพาเขาไปส่งที่สนามบินในภายหลัง
“ทำไมจู่ ๆ นายถึงเพิ่มเงื่อนไขให้กับตระกูลจู เรื่องที่ให้ย้ายบริษัทเครื่องประดับออกจากเมืองหนานเจียงล่ะ” กู้ฮ่าวอวี้คิดว่าลู่ชิงสีอาจเพิ่มเงื่อนไขใหม่ด้วยความตั้งใจ เพราะเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เมื่อวันก่อน
“เจียงเหยากำลังเตรียมเปิดบริษัทเครื่องประดับ จะเกิดอะไรขึ้นกับการมีคู่แข่งน้องลงอีกหนึ่งรายในเมืองหนานเจียง ในเมื่อฉันสามารถขับไล่พวกเขาออกไปได้ ทำไมฉันถึงเก็บพวกเขาไว้ใกล้ ๆ ให้สามารถสร้างปัญหาให้เจียงเหยาในอนาคตอีกเล่า” ลู่ชิงสีรู้สึกว่าคำถามของกู้ฮ่าวอวี้ออกจากงี่เง่าไปบ้าง เขาไม่ได้เพิ่มข้อนี้ลงไป เพราะก่อนหน้านี้เจียงเหยายังไม่ได้ตัดสินใจ แต่เธอได้ไตร่ตรองและตัดสินใจที่จะเปิดบริษัทเครื่องประดับในเมืองหนานเจียง แล้วทำไมเขาถึงจะไม่ต้องการให้ตระกูลจูถอนตัวออกจากตลาดเมืองหนานเจียงเล่า
เขาไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติถ้าตระกูลจูจะมอบตลาดนี้ให้กับภรรยาของเขา
กู้ฮ่าวอวี้ถูกทำให้พูดไม่ออกจากคำตอบของลู่ชิงสี คำตอบแต่ละข้อของเขาฟังดูเหมือนไม่มีอะไรผิด เหมือนว่าเขาควรทำในสิ่งเดียวกัน
ลู่ชิงสีตัดสินใจกินอะไรสักอย่างขณะที่เขาคุยกับกู้ฮ่าวอวี้ที่โรงแรม ถึงเวลาแล้วที่กู้ฮ่าวอวี้ต้องไปส่งเขาที่สนามบิน
ก่อนที่เครื่องบินจะออกบิน ลู่ชิงสีส่งข้อความออกไปสองข้อความไปให้เจียงเหยา ข้อความแรก เขาบอกเจียงเหยาว่าเขากำลังจะขึ้นเครื่องแล้ว และอีกข้อความหนึ่ง
เจียงเหยาอยู่ในชั้นเรียน ตอนที่เธอได้รับข้อความของลู่ชิงสี ขณะที่เธอนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เด่นนัก เธอสามารถแอบก้มลงมองโทรศัพท์มือถือของเธอได้อย่างสุขุม
เธอเปิดข้อความแรกและมองดูข้อความนั้น เธอตอบข้อความเขา บอกเขาให้ส่งข้อความถึงเธออีกครั้งเมื่อถึงกองทัพ จากนั้นเธอก็รู้ว่ามีอีกข้อความหนึ่งส่งมาจากสามีเธอ
เธอเปิดอ่านเนื้อหาสั้น ๆ นั้น [ภรรยาที่รัก คุณควรเริ่มคิดถึงของขวัญวันเกิดที่คุณจะต้องเตรียมให้ผมได้แล้วนะ ผมรอไม่ไหวแล้ว]
หลังจากที่เธออ่านข้อความ เจียงเหยารู้สึกสับสน
วันเกิดเหรอ
วันเกิดของลู่ชิงสีเหรอ
เธอกะพริบตาขณะที่วางโทรศัพท์ จากนั้นเธอก็เกาศีรษะ เธอเพิ่งรู้ว่าเธอจำวันเกิดของเขาไม่ได้
เจียงเหยารู้ว่า หากลู่ชิงสีรู้ว่าเธอไม่ได้คิดเกี่ยวกับของขวัญให้เขา แต่กลับคิดเกี่ยวกับวันเกิดของเขาแทน เขาอาจจะกระโดดออกจากเครื่องบิน เพื่อมาเอาเรื่องกับเธอแน่
น่าเสียดายที่เจียงเหยาไม่รู้วันเกิดของลู่ชิงสี
เธอจำวันเกิดของตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ
ครอบครัวของเธอมักจะฉลองวันเกิดตามปฏิทินจันทรคติ และเธอก็จำวันเกิดของเธอไม่ได้
เธอสามารถจดจำหมายเลขบัตรประจำตัวของลู่ชิงสีได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจำวันเกิดของเขาได้
ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นภรรยาที่แย่ที่สุดในโลก
หลังจากที่เธอครุ่นคิดเรื่องนี้เป็นเวลานาน เจียงเหยาก็ไม่สามารถคิดอะไรได้เลย ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์
เจียงเหยาหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาและส่งข้อความถึงลู่อี้ชิง เพื่อถามเธอเกี่ยวกับวันเกิดของลู่ชิงสี โชคดีที่ลู่อี้ชิงตอบกลับเธออย่างรวดเร็ว
[เจ้าเด็กนั่นรู้วิธีเลือกวันเกิดจริง ๆ เขาเกิดวันวาเลนไทน์ ทำไม เขาขอของขวัญจากเธอเหรอ]
หลังจากที่เธออ่านข้อความแล้ว เจียงเหยาก็วางโทรศัพท์ของเธอกลับอย่างเงียบ ๆ ลู่อี้ชิงรู้จักน้องชายของเธออย่างดีเลยทีเดียว แค่ข้อความเดียว เธอก็เดาการกระทำของน้องขายของเธอได้อย่างถูกต้อง
__
ตอนที่ 826 เธอเป็นของเขาแล้ว
ตอนนี้ยังเป็นปลายเดือนพฤศจิกายน ดังนั้นยังพอมีเวลาอีกสองเดือนครึ่ง จนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ผู้ชายคนนี้ก็เตือนเธอเสียเร็วอะไรอย่างนี้
เขากลัวว่าเธอจะจำไม่ได้และไม่ได้เตรียมอะไรให้เขาอย่างนั้นล่ะสิ
บางทีเขาอาจจะตื่นเต้นเกินไปที่จะได้ฉลองวันเกิดกับเธอ
ขณะที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น เจียงเหยาหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาอีกครั้งและเปิดปฏิทิน เธอดูวันที่ในเดือนกุมภาพันธ์ของปีหน้า และเมื่อเธอยืนยันว่าวันที่14นั้นรวมอยู่ในการหยุดฤดูหนาวของพวกเขาแล้ว เธอก็เริ่มนึกถึงคำถามของเขา
เนื่องจากลู่ชิงสีตั้งตารอวันนั้น เขาอาจจะอารมณ์เสีย ถ้าเธอไม่เตรียมของขวัญให้เขา แล้วเธอควรจะเอาอะไรให้เขาดี
เจียงเหยาคิดไม่ออก กระทั่งเลิกเรียน
“เป็นบ้าไปแล้วเหรอ ดูท่าทางเปลี่ยนไปตลอดทั้งคลาสเลย” เหวินเสวี่ยฮุ่ยถามเจียงเหยา “เธอคิดอะไรอยู่”
“ฉันกำลังคิดว่าควรให้ของขวัญอะไรเป็นของขวัญเกิดคนอื่นดี” เจียงเหยากล่าว “เสื้อผ้า? แต่ก็ดูว่าเขาไม่ได้ขาด เสื้อที่ฉันซื้อให้เขายังไม่ได้สวมเลย”
เหวินเสวี่ยฮุ่ยกล่าว “เขาอยู่ในกองทัพทั้งวันและสวมชุดฝึกและเครื่องแบบทหาร เขาจะสวมเสื้อผ้าธรรมดาได้ที่ไหนกัน ไร้ประโยชน์น่า แม้เธอจะซื้อให้มากแค่ไหน ก็ไร้ประโยชน์ แล้วมีอะไรที่เขาต้องการหรือเปล่าล่ะ หรืออยากให้เธอทำให้เขา บางทีเธออาจจะผูกโบไว้ที่คอแล้วมอบตัวเองให้กับเขา”
จากนั้นเหวินเสวี่ยฮุ่ยก็ส่ายหน้า “เดี๋ยวสิอาจจะไม่ใช่แบบนั้น เธอแต่งงานแล้วนี่ เธอเป็นของเขาอยู่แล้ว ดังนั้นจะทำแบบนั้นก็ไม่ได้ด้วย สามีของเธอไม่ได้ขาดเงินหรือขาดเสื้อผ้า โอ้ใช่ เธอทำอาหารให้เขาก็ได้นี่”
เจียงเหยาสังเกตเห็นว่าเหวินเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อเธอพูด
เธอส่ายหน้าและขัดจังหวะเพื่อนของเธอ “ปกติเขาเป็นฝ่ายทำอาหารให้ฉัน แม้ว่าจะอยู่ในค่ายก็ตาม ฉันเข้าครัวก็ทำได้เพียงช่วยล้างผัก เขาไม่ยอมให้ฉันทำอาหาร อีกอย่าง ฉันทำอาหารไม่เป็น”
“แล้วเขามีเธอไปเพื่ออะไรกัน จบกัน” เหวินเสวี่ยฮุ่ยผลักเจียงเหยาเบา ๆ ด้วยใบหน้าดูถูก
“ท่าทางแบบนั้นมันอะไรกัน เธอทำอาหารเป็นด้วยเหรอ” เจียงเหยาหัวเราะเยาะเย้ยเหวินเสวี่ยฮุ่ย เพื่อนของเธอคือลูกสาวที่ถูกเอาอกเอาใจจากตระกูลเหวิน เธอคงนิสัยเสียอย่างเต็มที่ อะไรคือความแต่งต่างระหว่างเธอกับเจียงเหยา
“ก็ฉันยังไม่แต่งงานไง ฉันจะทำอาหารไปทำไมกัน” เหวินเสวี่ยฮุ่ยมองไปที่เจียงเหยา ราวกับว่าเธอบ้าไปแล้ว
“และฉันไม่ได้แต่งงานเพื่อเป็นเชฟในครอบครัวของสามีเสียหน่อย ทำไมฉันต้องรู้วิธีทำอาหารเพียงเพราะฉันแต่งงานแล้วด้วย” เจียงเหยาถามตามความเป็นจริง จากนั้นเธอก็ยกมือขึ้นแตะปลายจมูกของเธอ “ไม่ใช่ว่าฉันทำอาหารไม่เป็น แค่ทำไม่เก่ง พ่อแม่ของฉันก็ไม่ต้องการให้ฉันทำอาหารตอนที่ฉันอยู่บ้านด้วย แม้ว่าแม่จะดุว่าเป็นผู้หญิงต้องรู้จักเรียนรู้งานบ้าน แต่แม่ก็บ่นเสมอเวลาที่ฉันทำงานบ้าน ถ้าฉันใช้มีด แม่ก็กลัวว่าจะบาดมือ ตอนที่ฉันล้างผัก เธอก็กลัวว่าฉันจะร้อนในช่วงฤดูร้อนและหนาวในช่วงฤดูหนาว มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันโดนน้ำมันร้อนกระเด็นโดนตอนทำอาหาร แม่ปวดใจมากจนไม่อนุญาตให้ฉันทำอาหารอีก”
เจียงเหยายักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “เพราะงั้น เมื่อฉันแต่งงาน ฉันเลยไม่ได้เรียนรู้วิธีทำอาหารมากมายนัก ฉันได้เพียงเจียวไข่ ผัดผักอะไรแบบนี้แหละ”
เหวินเสวี่ยฮุ่ยกุมท้องของเธอและหัวเราะออกมาเสียงดัง “แม่ของเธอ เหมือนกับแม่ฉันทุกอย่างเลย ทุกครั้งที่แม่พูดถึงงานบ้านกันฉัน ท่านก็ชอบพูดอะไรที่ขัดแย้งกันเอง”
จากนั้นเหวินเสวี่ยฮุ่ยพูดอีกว่า “ช่างมันเถอะ สามีของเธอสามารถทำอาหารได้และไม่ต้องการให้เธอทำ ก็เพราะว่าเขารักเธอ ถ้าผู้ชายเต็มใจจะทำให้เธอ เธอก็สนุกกับรับเถอะ”