ตอนที่ 10 ราชามาเฟียรู้จักกับพี่สาวของหลีหัว
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยผ่านไปด้วยดี จากคำบอกเล่าของหลีหัว เธออดทนได้อย่างไรที่มีคนมาดูถูกเยาะเย้ยเธอได้จำนวนหลายๆครั้งในต่อวัน และแล้วก็ถึงเวลาล้างจาน
“บอส คุณช่วยฉันทำความสะอาดและทำอาหารแล้ว ฉันจะล้างจานเอง”
“ตกลง”
“เดี๋ยวก่อนค่ะอย่าเพิ่งไปวันนี้ฉันมีไอศกรีมเพื่อฉลองการได้ทำงาน เราจะกินของหวานด้วยกันอยู่ต่ออีกสักหน่อยได้มั้ยค่ะ”
เหว่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ได้”
หลีหัวกระโดดเข้าไปด้านในด้วยความยินดี ฉันจะได้ใช้เวลาอยู่กับเขานานที่สุด
เขาออกไปรอที่ห้องนั่งเล่นเพราะเขาไม่มีอะไรจะทำมากไปกว่านี้แล้ว เขาจึงมองไปรอบๆ ห้อง สายตาของเขาก็เลื่อนไปที่ผนังห้องซึ่งมีกรอบรูปสองสามรูปแขวนอยู่
เหว่ยเดินไปที่กรอบรูปและหยิบขึ้นมาหนึ่งรูปมาไว้ในมือของเขา มันเป็นรูปของหลีหัวที่ยืนอยู่กับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งในรูปนั้นทั้งคู่ยิ้มสดใส
เขาจ้องมองไปที่ผู้หญิงอีกคน อย่างไร้อารมณ์เป็นเวลานาน
“ซงเจีย”
เสียงดังยังก้องอยู่ในหูของเขา “เจียงเหว่ย แม้ว่าฉันจะตายในวันนี้ อย่าเย่อหยิ่งมากนัก ความจริงอันน่าเกลียดน่าขยะแขยงของราชามาเฟียจะต้องถูกเปิดเผยออกมาอย่างแน่นอน สักวันหนึ่งคุณจะต้องเสียใจที่ฆ่าฉัน”
มีคนเคาะไหล่ของเขา ทำให้เขาออกจากภวังค์ “บอส ฉันเอาไอศกรีมมาให้ค่ะ”
หลีหัวยิ้ม เธอมองดูรูปถ่ายในมือของเขาและยิ้มสดใสขึ้น
“โอ้! คุณคงสงสัยใช่มั้ยค่ะว่าเธอเป็นใคร เธอเป็นพี่สาวของฉันเองค่ะชื่อ ซงเจีย”
“ฉันรู้”
หลีหัวกระพริบตา “อะไรนะค่ะ คุณรู้จักพี่สาวของฉันด้วยเหรอ”
แทนที่เขาจะถามว่า “เธอเป็นใคร”
ฉันคิดว่าฉันหูฝาดไป บอสรู้จักกับพี่สาวของฉันได้อย่างไร? และแล้วสายตาของหลีหัวก็อ่อนลงและเธอยิ้มสดใส
“พี่ซงเจียทำงานในสาขาอาชญากรรม ฮ่า ฮ่า ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวเธอมาก เธอเป็นตำรวจที่เก่งและทำงานหนักมาก เธอโชคดีและมีชื่อเสียงโด่งดัง สามารถทำงานหนักได้มากมาย ทั้งแข็งแกร่งและรักความยุติธรรม ฉันชื่นชมและรักเธอจริงๆ
เหว่ยเงียบฟังหลีหัวพูดถึงพี่สาวของเธอ
หลีหัวขมวดคิ้ว “ฉันคิดถึงเธอมาก ประมาณสองเดือนที่แล้วซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้คุยกัน เธอกำลังทำงานเกี่ยวกับคดีสำคัญและยุ่งอยู่”
“เข้าใจแล้ว”
“ปกติเราจะออกไปเที่ยวด้วยกันหรือไม่ก็คุยกันผ่านทางข้อความเสมอ แต่คราวนี้เป็นเวลาที่นานที่สุด
ที่เธอไม่ส่งข้อความถึงฉันเลย ฉันหวังว่าเธอจะปลอดภัยและสบายดี
เหว่ยไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร เหว่ยหยิบไอศกรีมจากมือของเธอ ขณะที่เขาพูดน้ำเสียงของเขามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่หลีหัวไม่ได้สนใจ
“เธอบอกหรือเปล่าว่าเธอไปทำงานอะไร?”
หลีหัวแตะคางครุ่นคิด “อืม....เธอไม่ได้พูดบอกอะไรมากค่ะ แต่ฉันคิดว่า เธอเคยพูดถึงบางอย่างเกี่ยวกับคนมาเฟีย เหว่ยไม่ได้โต้ตอบอะไร
หลีหัวเม้มริมฝีปากของเธอ “บอกตามตรงนะค่ะฉันรู้สึกเป็นห่วงเธอบ้างเหมือนกัน คนมาเฟียก็เป็นคนอันตรายไม่ใช่เหรอ บางครั้งฉันก็รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ กับเธอจริง ๆ”
หลีหัวแปลกใจตัวเองที่พูดมากเกินไปเกี่ยวกับซงเจียกับคนที่เธอเพิ่งรู้จักเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง
“รับอีกสักถ้วยได้มั้ยครับ” เหว่ยถามแบบกะทันหัน ทำให้หลีหัวออกจากอาการครุ่นคิดของเธอ หลีหัวแปลกใจที่เห็นถ้วยไอศกรีมของเขาว่างเปล่า
“โอ้ บอสคุณทานหมดแล้วเหรอค่ะ ฉันยังมีอันหนึ่งฉันไปเอามาให้เดี๋ยวนี้ค่ะ”
เหว่ยจ้องไปที่กรอบรูปอีกครั้ง สายตาที่อ่านไม่ออกของเขายากที่จะเข้าใจ เขาเอารูปไปแขวนไว้ที่บนผนังเหมือนเดิมแล้วกลับมานั่งบนโซฟาอย่างสงบ
เขาส่งข้อความหาฟูเหรินชู เช็คข้อมูลเกี่บวกับซงหลีหัวว่าเธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซงเจียมากน้อยแค่ไหน
“ครับเจ้านาย”
เช้าวันรุ่งขึ้นหลีหัวได้รับข้อความจากหมายเลขโทรศัพท์ที่เธอไม่เคยรู้จัก ที่แท้เป็นฟูเหรินชูนี่...เก็บความลับของเธอไว้ในใจ ห้ามบอกบอสในฐานะซี อี โอ จนกว่าเขาจะไปอยู่ที่นั่นไม่เช่นนั้นเธอจะถูกไล่ออก
“.......”
ฉันเข้าใจค่ะแต่ว่า....ฉันไม่ควรบอกเรื่องนี้กับบอสมากกว่าคุณเหรอ? เธอส่งข้อความหาเขาแต่เธอกลับได้คำตอบที่รุนแรง
“ไม่มีการตั้งคำถามแค่ทำตามคำสั่ง!”
หลีหัวถอนหายใจ เธอรีบเตรียมตัวและก้าวออกจากบ้านของเธอ เธอมองไปยังบ้านของเหว่ยในความฝัน อา...มันไม่ใช่ความฝันสิ เจ้าชายที่หล่อเหลาของฉันอยู่ข้างๆ บ้านฉันจริง ๆ ฉันเห็นเขาทุกวัน..
“หลีหัว” ป้าจางเรียกเธอ
“ป้าจาง”
“เจ้านายของหนูเป็นอย่างไรบ้าง? หลังจากกินอาหารฝีมือหนู เขายังมีชีวิตอยู่มั้ย ป้าหวังว่าเขาจะไม่ปวดท้องนะ” ป้าจางถอนหายใจ
หลีหัวไอ “ก็...มันกำลังจะแย่แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ”
ป้าจางพยักหน้าของเธอ “ป้ารู้มั้ยว่าหนูทำพลาดอะไร?” แล้วป้าจางก็มองหลีหัวด้วยความสงสัย
“มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ คุณสองคนจูบกันหรือเปล่า”
ป้าจางตื่นเต้นเหมือนชาวบ้านที่สอดรู้สอดเห็นชอบนินทาทั่วๆไป ป้าจางจินตนาการถึงฉากเลิฟซีนที่เร่าร้อนและสัมผัสน้ำลายที่ไหลออกจากริมฝีปากของเธอ ทำให้หลีหัวคิดถึงริมฝีปากบางๆ สีชมพูของบอส คนพวกนั้นจะรู้สึกยังไงถ้าเธอได้สัมผัสจริงๆ
หลีหัวกระแอมในลำคอ “ป้านั่นมันเร็วเกินไปมั้ยค่ะ”
ปากของหลีหัวเม้ม “ฉันต้องทำอะไรอย่างช้า ๆ ไม่ใช่เร่งรีบกระโดดไปตะครุบเขา”
หลีหัวคิดว่า “เมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือหรือคำแนะนำใดๆ จากเธอที่พักอยู่ที่นี่ คุณก็จะรู้สึกตกหลุมรักเสน่ห์ของฉันทันที”
หลีหัวหน้าแดง เธอหัวเราะคิกคัก “ใช่ ใช่ เธอทำได้ อย่าบอกใครเชียวว่าบอสรวยและไม่ควรพูดถึงซันซาย เมโดว์ มันคงจะน่ารำคาญเกินไปสำหรับบอส ถ้าทุกคนรู้ความจริง”
หลีหัวพยักหน้า “ฉันเองก็รู้สึกเหมือนกัน ไม่ต้องห่วงฉันจะไม่พูดถึงมัน”
เธอส่งจูบ “คุณเก่งที่สุดเลยตอนนี้ฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ บาย...” หลีหัวมองไปที่ประตูห้องของเหว่ย แล้วก็ถอนหายใจ “ฉันคิดว่าฉันจะชนเขา แต่เอ่อ...” เธอคร่ำครวญ
ป้าจางดึงกระเป๋าเธอไว้ “เดี๋ยวก่อนนะ ป้ามีบางอย่างจะบอกหนู สองสามวันนี้กลับบ้านเร็ว ๆ หน่อยนะ”
เธอทำหน้างง ทำไมค่ะป้า?
ป้าจางพูดอย่างกังวลว่า “ป้าได้ยินเขาพูดกันเรื่องผู้ชายที่สะกดรอยตามผู้หญิงในตอนกลางคืน ซึ่งมันมืดมองไม่เห็นใครเลย แต่ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามมาข้างหลัง เวลาหันกลับไปมองดูอีกทีก็ไม่เห็นมีใครเดินตามมา มันน่ากลัวมากนะ ป้าก็เลยบอกให้หนูรีบกลับบ้านเร็ว ๆ”
หลีหัวพยักหน้า “หนูจะระวังตัวค่ะป้า”
ทันใดนั้น เหว่ยก็เดินออกมาข้างนอก เขาสวมสูทดูดีและสง่างาม เขาหยุดชั่วครู เมื่อเขาเห็นหลีหัวกับป้าจาง
หลีหัวทักทาย “อรุณสวัสดิ์ค่ะบอส เมื่อคืนคุณนอนบ้านใหม่เป็นอย่างไรบ้างค่ะ”
เหว่ยเล่าเหตุการณ์ที่เขามีอาการเจ็บปวดว่า เตียงนั้นมีขนาดเล็กจนเกินไปและตัวเขาเองก็ตัวสูงใหญ่จนเกินไป จนทำให้เขามีอาการปวดที่หลังในเวลาตอนตื่นเช้า”
“เมื่อคืนก็เลยนอนไม่ค่อยหลับ”
“อา?”
ป้าจางพูดว่า “เรื่องแบบนี้อาจเกิดขึ้นได้เพราะคุณเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ต้องใช้เวลาปรับตัวสักพัก ให้เข้ากับบ้านใหม่ของคุณนะค่ะ” โดยเฉพาะผู้ชายเช่นคุณที่อาศัยอยู่ที่ ซันซาย เมโดว์ มาก่อน”
เหว่ยเหลือบมองหลีหัว “วิทยาลัยเหรอ?”
“ใช่” หลีหัวอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“รถเมล์ของฉัน! ฉันจะพลาดรถแล้ว! ฉันต้องวิ่ง
“ฉันไปล่ะ”
“เอ๋ ? ต – นั่น”
ป้าจางสะกิดข้อศอกของหลีหัวเบา ๆ “ทำไมหนูคิดมากจัง”
ป้ากระซิบ “นี่เป็นโอกาสทองของหนูนะค่ะที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเขามากขึ้น” แล้วหลีหัวก็ยิ้มให้เหว่ย
“ฉันคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีนะค่ะที่รัก”
หลีหัวไอ “ขอบคุณค่ะบอส”
เหว่ยพยักหน้า ขณะที่พวกเหว่ยเดินจากไป ป้าจางก็พูดขึ้นว่า “หลีหัวอย่าลืมที่ป้าพูดล่ะ เกี่ยวกับคนที่สะกดรอยตามนะ กลับบ้านให้เร็ว ๆ หน่อยนะ”
“หนูไม่ลืมค่ะป้า” หลีหัวพูด
เหว่ยเหล่ตามองเล็กน้อย เมื่อเขาได้ยินป้าจางพูดถึงคนที่สะกดรอยตามและเหลือบมองไปที่หลีหัว จากนั้นเขาก็มองออกไป
*********