ตอนที่ 821+822 ไม่อนุญาต
ตอนที่ 821 ไม่อนุญาต
“ฉันไม่สมควรได้รับเกียรตินั้น คุณควรเรียนรู้ให้ดีจากอาจารย์ของคุณ ฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าฉันจะสอนอะไรคุณได้อีก” ศาสตราจารย์โอวหยางยิ้มและพูดว่า ทำไมคุณไม่สมัครเป็นนักศึกษาปริญญาโทของฉันในปีหน้าเล่า”
“...”
นั่นคือปฏิกิริยาแรกของนักศึกษาคนอื่น พวกเขาตกตะลึง
ศาสตราจารย์โอวหยางได้สนับสนุนให้นักศึกษาใหม่สมัครสอบระดับปริญญาโทในปีหน้า เขามีความมั่นใจในตัวเจียงเหยามากขนาดไหน
“คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้นนะ” ลู่ชิงสีไม่ได้รอให้เจียงเหยาตอบ เขากระซิบที่หูของเธอ “ถ้าคุณต้องการสมัครหลักสูตรระดับสูงกว่าปริญญาตรี คุณสามารถทำได้ที่เมืองจินโด”
ช่างเป็นเรื่องตลกนัก แม้ว่าเขาจะเข้าร่วมกองกำลังพิเศษและย้ายไปอยู่ทางใต้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิหน้า ท้ายที่สุดเขาก็ยังคงต้องกลับไปที่เมืองจินโด หากเขาปล่อยให้เจียงเหยาสมัครสอบระดับสูงขึ้นอีก บางทีศาสตราจารย์โอวหยางอาจจะสนับสนุนให้ภรรยาของเขาเรียนหลักสูตรที่สูงขึ้นไปอีก เธอชอบเรียนหนังสือ และหากเธอทำอย่างนั้น ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องพลัดพรากจากภรรยาทุกวัน เมื่อเขากลับไปที่จินโดหรอกหรือ
เจียงเหยาผลักลู่ชิงสีและกลอกตาใส่เขา จากนั้นเธอก็พูดกับศาสตราจารย์ว่า “ฉันจะลองคิดดูค่ะ”
“ได้ แล้วฉันจะรอคำตอบจากคุณ” เจียงเหยาไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของเขาในทันที ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสที่เธอจะตอบตกลงกับเรื่องนี้ ศาสตราจารย์โอวหยางกลับมาที่ห้องทำงานของเขาพร้อมกับแฟ้มเวชระเบียนอันล้ำค่าอยู่ในอ้อมแขนของเขา – เขาพอใจมาก
เมื่อศาสตราจารย์โอวหยางจากไปแล้ว นักศึกษาต้องการเข้าไปคุยกับเจียงเหยาเพื่อพูดคุยกับเธอ แต่เมื่อพวกเขาเห็นชายที่กำลังทำหน้าเย็นชา ราวกับราชาแห่งนรก พวกเขาก็ถอยห่างออกไป
พวกเขารู้ว่าสามีของเจียงเหยาไม่ใช่คนธรรมดา และมันจะไม่ง่ายที่จะพูดคุยกับเขา ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจจากไป พวกเขาจะพูดกับเธออีกทีเมื่อสามีของเธอไม่อยู่ – พวกเขาต้องการรู้วิธีการเรียนของเธอ
นักศึกษาส่วนใหญ่จากไปแล้ว ทว่ายังมีนักศึกษาแพทย์บางคนที่ยังอยู่ที่นั่น – พวกเขาจ้องไปที่หลินชุนเหอ
พวกเขาสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาบุคลากรของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย พวกเขาสรรหาหมอที่มารยาทเช่นนี้มาทำให้กับพวกเขาได้อย่างไร “ฉันคิดว่าจะไปฝึกงานกับหมอที่โรงพยาบาลเฉิงอ้ายในอีกครึ่งปีข้างหน้า ดูแล้วน่าหงุดหงิดเสียจริง” นักศึกษารุ่นพี่จ้องไปที่หลินชุนเหอ เขากำลังจะเริ่มต้นฝึกงาน และเขาไม่มีความสุขถ้าเขาไม่ได้พูดออกมา
“ใช่ เราเริ่มไม่แน่ใจในฝีมือทางการแพทย์ของหมอที่นั่น” มีคนพูดต่อไปว่า “เขาถามถึงนิสัยของเจียงเหยาและเข้ามาที่มหาวิทยาลัยเพื่อแจ้งเรื่องนี้ ตอนนี้เราแน่ใจแล้วว่านิสัยเขานั่นแหละที่เป็นปัญหา เราน่าจะรายงานเรื่องนี้ไปที่โรงพยาบาลได้นี่”
“พูดได้ดี จัดการเลยเถอะ เจียงเหยาเป็นรุ่นน้องของเขา ในฐานะรุ่นพี่ พวกเราต้องปกป้องเธอ” คำพูดของแต่ละคนปลุกจิตวิญญาณของกันและกันให้ต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
เจียงเหยายืนอยู่ที่นั่นและยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับทุกคน ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขาควรทำอะไรบางอย่างเพื่อปกป้องรุ่นน้องที่บอบบางและอ่อนแอของพวกเขา ท้ายที่สุดเจียงเหยาก็เป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัย แม้แต่ศาสตราจารย์โอวหยางยังไม่สามารถทนรอรับเธอเป็นลูกศิษย์ในระดับปริญญาโทเลย เธอเป็นเหมือนสมบัติหายากของมหาวิทยาลัย พวกเขาต้องปกป้องเธออย่างดี
เมื่อลู่ชิงสีดึงตัวเจียงเหยาเข้าไปในรถ รุ่นพี่ของเธอบอกว่า พวกเขาจะต้องแสวงหาความยุติธรรมให้กับเธอ
__
ตอนที่ 822 คุณต้องถูกจัดการ
เจียงเหยาหยุดได้ยินเสียงเหล่านั้น เมื่อลู่ชิงสีขับรถห่างออกไปอย่างรวดเร็วและทิ้งกลุ่มนักศึกษาไว้เบื้องหลัง
ใครจะรู้สึกราวกับว่าโลกนี้เป็นสถานที่อบอุ่นเมื่อสภาพแวดล้อมในมหาวิทยาลัยของพวกเขาสว่างไสวราวกับแสงแดด สังคมไม่ได้ทรมานจิตใจคนรุ่นเยาว์เหล่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงยังมีจิตวิญญาณการต่อสู้และความกล้าหาญอย่างไร้ขีดจำกัด
โลกของพวกเขาเป็นสีดำหรือสีขาว และพวกเขามีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างความรักและความเกลียดชัง พวกเขายังกล้าต่อสู้กับสิ่งที่พวกเขาคิดว่าไม่ยุติธรรม
เจียงเหยาหวังว่าพวกเขาจะยังคงรักษาจิตวิญญาณการต่อสู้ที่เร่าร้อนนั้นไว้ เมื่อพวกเขากลายเป็นสมาชิกของสังคมการทำงาน เธอยังหวังว่าความเป็นจริงจะขัดเกลาบุคลิกภาพของพวกเขาในทางบวกจนกระทั่งทุกอย่างราบรื่น
“มีความสุขไหม” ลู่ชิงสีจอดรถไว้ที่อาคารหอพักของเจียงเหยา แต่เขาไม่ได้ปลดล็อกประตูรถ เขาหันศีรษะและมองไปที่เจียงเหยา – น้ำเสียงของเขาฟังดูไม่พอใจ “คุณเป็นของผมและมีเพียงผมเท่านั้น แม้ว่าคุณต้องการการปกป้อง ผมก็จะเป็นคนทำให้ รุ่นพี่พวกนั้นของคุณมาเกี่ยวอะไรด้วย คุณควรอยู่ให้ห่างจากพวกเขา”
ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะกำลังหึง
เจียงเหยาถอนหายใจ เธอไม่สามารถต่อต้านชายขี้หึงในขณะนั้น
“ใช่ ใช่ ใช่ ฉันเป็นของคุณ เป็นของคุณเท่านั้น ถ้าฉันไม่ใช่ของคุณ แล้วฉันจะเป็นของใครได้” เจียงเหยาพยักหน้าซ้ำ ๆ ขณะที่เธอยิ้มให้กับเขา
“คุณเกิดมาเพื่อเป็นของผม แม้ว่าคุณจะต้องตาย คุณก็เป็นผีของผม”
“ใช่ ใช่ ใช่ จะอยู่หรือตาย ฉันก็เป็นคนของคุณ ต่อให้ฉันตาย ฉันก็ยังเป็นของคุณ” สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเจียงเหยาในตอนนี้คือการปลอบโยนชายขี้หึง ลู่ชิงสี
เธอจะตอบรับเชิงบวกกับเขาจนกว่าเขาจะมีความสุข
เมื่อเขาคิดว่าเจียงเหยายังมีความรู้สึกบางอย่างในตัวเธอ ความทุกข์ของลู่ชิงสีก็หายไป “คุณรู้สึกไม่สบายใจกับข้อเสนอของอาจารย์ในเรื่องสมัครเข้าเรียนปริญญาโทรใช่ไหม”
“พูดตามตรงนะ ฉันก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน” เจียงเหยาพยักหน้าอย่างจริงใจ จากนั้นเธอก็เอื้อมมือไปจับฝ่ามือของลู่ชิงสี “ฟังฉันนะ ที่ฉันไม่ปฏิเสธ เพราะศาสตราจารย์โอวหยางเป็นอาจารย์ของฉัน เขาเป็นคนสอนทักษะที่ฉันมีให้กับฉัน”
ลู่ชิงสีรู้ว่าเธอหมายถึงการเกิดใหม่ของเธอ ประสบการณ์ของเธอช่างเหลือเชื่อเสียจนแม้แต่บางครั้งเขาก็ยังไม่ชินกับมัน
“ฉันจะบอกคุณเกี่ยวกับครั้งแรกที่ฉันก้าวเข้ามาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้” เจียงเหยาพิงไหล่ของลู่ชิงสี "ฉันซื้อตั๋วรถไฟและมารายงานตัวที่มหาวิทยาลัย ฉันไม่ได้ขอให้ฉันออกมาส่ง ตอนนี้ฉันมีความสุข แต่ตอนนั้นฉันรู้สึกหดหู่ ฉันตัวคนเดียวในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และฉันไม่มีเพื่อนเพราะฉันปฏิเสธไม่ให้ทุกคนเข้ามาในชีวิต ฉันขังตัวเองอยู่ในโลกส่วนตัวและทรมานตัวเอง คุณรู้ไหมว่าการอยู่ในมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่เช่นนี้ตัวคนเดียวมันเป็นยังไง”
เธอไปเรียน ไปทานข้าว ไปห้องสมุด ด้วยตัวคนเดียว เธอเข้าร่วมชมรมใดก็ได้ แม้หลังจากที่เธอเรียนจบ เธอสามารถนับจำนวนคนที่พูดกับเธอในมหาวิทยาลัยได้ด้วยมือเดียว
หากเหวินเสวี่ยฮุ่ยไม่ได้รุกล้ำเข้ามาในโลกของเธออย่างแรงและปฏิเสธที่จากไป เจียงเหยาไม่กล้าจินตนาการว่าความเหงาจะกัดกินเธอทั้งเป็นอย่างไร
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากเหวินเสวี่ยฮุ่ยแล้ว ก็มีเพียงศาสตราจารย์โอวหยางเท่านั้นที่ขอให้เธออยู่ในห้องทำงานของเขา เพื่อที่เขาจะได้พูดคุยกับเธอ มันกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ร่องรอยของความอบอุ่นในช่วงสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของเธอ