ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 29 ผู้ฝึกยุทธที่เก่งเหมือนจอมยุทธ
ด้วยค่าสถานะที่ถูกเพิ่มขึ้นจากวิชาต่างๆ ที่เขามี ทำให้ค่าสถานะของซู่เสี่ยวไป่สูงกว่าที่ควรจะเป็น
วิชากายาเพชรที่เสริมความแข็งแกร่งทั้งร่างกายให้กับเขา ทำให้ทั้งพละกำลังและความคงทนเทียบเท่าผู้ฝึกยุทธขั้นสูง
และหากเปิดใช้วิชากายาเพชร จะมีเกราะกระแสพลังปกคลุมไปทั่วทั้งร่าง และทำให้ทั่วทั้งร่างส่องประกายแสงสีทองราวกับเป็นรูปปั้นพระพุทธรูปสีทอง เกราะป้องกันนี้แข็งแกร่งมาก จนขนาดที่การโจมตีของผู้ฝึกยุทธขั้นสูงไม่สามารถทำลายได้ นั่นคืออีก 1 เหตุผลที่เดรกนั้นไม่สามารถทำอะไรซู่เสี่ยวไป่ได้เลย
และด้วยวิชาควบคุมธาตุ ทำให้เขาสามารถจัดการกับกับผู้ฝึกยุทธขั้นสูงได้
แต่ดูเหมือนว่าเวลานี้ การจัดการกับผู้ฝึกยุทธขั้นสูงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ตอนนี้เขามีศาสตร์แห่งอาวุธและกริชเกรดผสาน ที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้เขามากขึ้นไปอีก แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ได้ถูกคำนวนเพิ่มในค่าสถานะในระบบ ถึงจะพูดว่าซู่เสี่ยวไป่นั้นสามารถสู้กับเขตแดนจอมยุทธขั้นแรกได้ก็ไม่เกินจริงเลย
“หากว่าต้องสู้กับเดรกอีกครั้ง ฉันคงสามารถตัดคอเขาได้ในพริบตาเดียว!!”
แววตาของซู่เสี่ยวไป่เวลานี้ดูแหลมคมขึ้น
โลหิตสังหารนอกจากจะทำให้ร่างกายของเขาคุ้นเคยกับการใช้อาวุธ มันยังไปเพิ่มรังสีฆ่าฟันในตัวของซู่เสี่ยวไป่ ทำให้รับรู้ถึงความหนาวเย็นเมื่อต้องสัมผัสกับกลิ่นอายของกริชที่ซู่เสี่ยวไป่ใช้
ครืน!!!!!
อยู่ๆ ก็เกิดเสียงแปลกๆ ดังขึ้นมาจากภายในจิตใจของซู่เสี่ยวไป่
เปรี้ยง!!
แล้วก็เกิดเสียงที่เหมือนอะไรแตกตามออกมา แล้วกระแสพลังมากมายก็ระเบิดออกมานอกร่างของซู่เสี่ยวไป่
กระแสพลังที่ระเบิดออกมาทำให้สิ่งของที่อยู่รอบๆ ตัวซู่เสี่ยวไป่สั่นสะเทือนไปหมด จากแรงที่มองไม่เห็น
“ผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง!!”
ซู่เสี่ยวไป่เต็มไปด้วยความยินดี
เขาทะลวงขั้นมาอยู่ในขั้นกลางแล้ว
อันที่จริง ด้วยความเร็วในการฝึกบ่มเพาะเดิมของซู่เสี่ยวไป่ คงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะทะลวงขั้นได้ แต่เพราะการเพิ่มระดับพื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวให้เป็นระดับ 5 และได้ความสามารถเสริม ทำให้เพิ่มความเร็วอีก 2 เท่า เปลี่ยนความเร็วในการบ่มเพาะเป็น 32 เท่า ทำให้-การดูดซับกระแสพลังงานฟ้าดินเร็วขึ้นเป็นหลายเท่า เป็นเหตุที่ทำให้ซู่เสี่ยวไป่ทะลวงขั้นได้เร็วขึ้น โดยที่ปกติผู้ฝึกตนทั่วไปใช้เวลาหลายปีกว่าจะทะลวงได้
“รู้สึกเลยว่าพลังมันมากกว่าเดิม!!”
ซู่เสี่ยวไป่ยกมือขึ้นกำหมัด เขารู้สึกได้ถึงพละกำลังที่มากขึ้น
อีกทั้งเขารู้สึกว่าร่างกายนั้นเบาหวิว เพียงแค่ลองกระโดดเบาๆ เหมือนโลกใบนี้ไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วง ตัวของเขาพร้อมที่จะพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าทุกเมื่อ
ถึงร่างกายจะดูเบา แต่กลับรู้สึกของมวลกล้ามเนื้อที่แข็งขึ้น
และที่เด่นชัดที่สุดคือกระแสพลังที่ไหลเวียนอยู่ในจุดตันเถียนของเขา เพิ่มขึ้นสองสามเท่า
มนุษย์ : ซู่เสี่ยวไป่
เขตแดน : ผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง
ระดับพละกำลัง: จอมยุทธขั้นแรก
ระดับความคงทน: จอมยุทธขั้นแรก
ระดับความว่องไว: จอมยุทธขั้นแรก
พรสวรรค์บ่มเพาะ: ขั้นต่ำ
วิชา: กายาเพชร(พื้นฐาน) เหยียมย่ำข้ามนภา (พื้นฐาน) หัตถ์อัคนีเที่ยงแท้ (ฝึกหัด)
โลหิตสังหาร (ฝึกหัด)
ความสามารถของระบบที่เปิดใช้งาน: พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียว[ระดับ 5]
พื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียว[ระดับ 5] ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียว [ระดับ 3]
“สุดจัด!!”
ซู่เสี่ยวไป่ร้องอุทานเมื่อได้เห็นค่าสถานะของตัวเองที่เปลี่ยนไป
นั่นก็เพราะความแข็งแกร่งของเขาเทียบเท่ากับจอมยุทธขั้นแรกแล้ว
แม้แต่เขาเองก็ยังขนลุกกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
เพราะเขาคิดว่าหากทะลวงถึงขั้นกลางแล้ว ก็แค่เปลี่ยนไปในเชิงกลิ่นไอ กระแสพลัง ไม่คิดว่าระบบจะสามารถปรับปรุงความแข็งแกร่งให้ข้ามเขตแดนไปได้ เพราะเขตแดนระหว่างผู้ฝึกยุทธกับจอมยุทธนั้นห่างกันมาก
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ซู่เสี่ยวไป่ขนลุกไปทั้งตัว
เขาประเมินความสามารถของตัวเองต่ำเกินไป
ทั้งกายาเพชรและเหยียบย่ำข้ามนภาที่อยู่ในขั้นพื้นฐาน
และยังมีวิชาโลหิตสังหารที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
แค่นี้ก็ทำให้ซู่เสี่ยวไป่มีพลังทัดเทียมกับจอมยุทธในขั้นแรกแล้ว
แต่เมื่อเขาทะลวงขั้นได้ เหมือนกับโซ่ตรวนที่เหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้ได้ขาดลง และได้เพิ่มขีดความสามารถของเขาให้สูงขึ้นไปอีก
“ถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับว่าพลังพื้นฐานของเราเทียบเท่ากับจอมยุทธขั้นแรกแล้วงั้นสิ!!”
“แล้วถ้ายิ่งเสริมด้วยวิชาโลหิตสังหาร ฉันสามารถรับมือจอมยุทธขั้นกลางได้!”
ซู่เสี่ยวไป่พูดออกมาอย่างตื่นเต้น
ช่องว่างระหว่างเขตแดนกับขั้นระหว่างในเขตแดนนั้นต่างกัน
ผู้ฝึกยุทธขั้นแรกสามารถจัดการกับผู้ฝึกยุทธที่เหนือกว่าตนเองได้ไม่ใช่เรื่องแปล เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่หาได้ยากมาก และมันมีเหตุผลที่รองรับที่ทำให้เกิดขึ้นได้
ผู้ฝึกตนจะถูกเหนี่ยวรั้งไว้ด้วยโซ่ของเขตแดนพลัง ทำให้การสู้กันในเขตแดนเดียวกันแต่คนละขั้นนั้นยังพอเป็นไปได้ แต่มันจะต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงหากเป็นการสู้แบบข้ามเขตแดน
ช่องว่างระหว่างผู้ฝึกยุทธกับจอมยุทธนั้นกว้างมาก
มันกว้างกว่าระหว่างผู้ฝึกยุทธขั้นแรกกับผู้ฝึกยุุทธขั้นสูงรวมกันเสียอีก
ตอนที่ซู่เสี่ยวไป่ไปยังตระกูลจาง เขาได้จัดการกับจางเฟยอันที่อยู่ในเขตแดนผุ้ฝึกยุทธขั้นแรก โดยที่ซู่เสี่ยวไป่ยังอยู่ในเขตแดนกึ่งผู้ฝึกยุทธขั้นสูง นั่นก็เป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก
แต่หากตอนนี้พวกเขารู้ว่าซู่เสี่ยวไป่สามารถจัดการกับจอมยุทธขั้นกลางได้ทั้งที่เขาอยู่ในเขตแดนผู้ฝึกยุทธขั้นกลางเท่านั้น คนเหล่านั้นคงไม่อึ้งจนตาแทบถล่นออกมาเลยงั้นหรอ!
อย่างที่เราทราบกันดี
หนทางแห่งการฝึกตนนั้น ยิ่งสูงยิ่งลึกล้ำ
ต่อหน้าจอมยุทธขั้นแรก แม้แต่ผู้ฝึกยุทธขั้นสูงที่ทรงพลังก็ถูกจอมยุทธขั้นแรกบดขยี้ได้ง่ายดายราวกับบี้มดตัวหนึ่ง หากตัวตัวเหล่านั้นต้องเผชิญหน้ากับจอมยุทธขั้นแรก ก็มีแต่จะต้องหนีลูกเดียว!!
สำหรับจอมยุทธ
ไม่ต้องก้าวทะลวงขั้นก็ได้ เพียงสำเร็จขั้นเล็กๆ เหนือกว่าคนที่อยู่ในขั้นเดียวกัน ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ฝึกตนที่อยู่ในขั้นเดียวกันต้องหวั่นเกรง
แต่ซู่เสี่ยวไป่สามารถต่อกรกับผู้ฝึกตนที่เขตแดนเหนือกว่าตน อีกทั้งยังมากถึง 2 ขั้นในเขตแดนที่เหนือกว่าอีก หากเรื่องนี้หลุดออกไปคงได้เกิดความโกลาหลไปทั่วแน่
และที่สำคัญเขามีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น!!
จะมีเด็กอายุ 17 ปีที่ไหน ที่อยู่ในเขตแดนผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง แต่แข็งแกร่งพอจะต่อกรกับจอมยุทธขั้นกลางได้!!
แค่ฟังก็ทำให้ขนหัวลุกไปหมดแล้ว
“-ติ๊ง! ตรวจพบว่าเจ้านายทะลวงขั้น และความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก เจ้านายต้องการจะเปลี่ยนพื้นที่ออกล่าสัตว์อสูรหรือไม่?-”