ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 28 โลหิตสังหาร
กริชคือสิ่งที่ตอบโจทย์ที่สุดของซู่เสี่ยวไป่
หากมีเรื่องกริชของซู่เสี่ยวไป่จะปาดคอของอีกฝั่ง ก่อนที่อีกฝั่งจะรู้ตัวเสียอีก
เมื่อเลือดเริ่มพุ่งทะลักออกมาแล้ว ซู่เสี่ยวไป่ก็สลายหายไปในฝูงชนอย่างไร้ร่องรอย
การฆ่าแบบไม่ให้รู้ตัว
ลดความเสี่ยงในการปะทะให้กลายเป็นศูนย์
แม้ว่าจะเลือกใช้อาวุธเหมือนเดรกก็ตาม แต่ซู่เสี่ยวไป่ต่างออกไป
การใช้กริชของเดรกนั้นคล่องแคล่วและว่องไว แต่แลกมาด้วยการละทิ้งการฝึกฝนเพิ่มกำลังของร่างกาย มันคือหนึ่งในเหตุผลที่เขาแพ้ให้กับซู่เสี่ยวไป่
หากวันนั้น เป็นผู้ฝึกตนที่ฝึกฝนร่างกายมาอย่างดี การโจมตีของผู้ฝึกตนคนนั้นคงทำให้ซู่เสี่ยวไป่บาดเจ็บได้ แต่การจะฆ่าซู่เสี่ยวไป่ในทันที ก็ยังคงเป็นที่เรื่องยากอยู่
แต่ซู่เสี่ยวไป่มีระบบที่ช่วยปิดจุดอ่อนตรงนั้นได้ไม่เหมือนกับเดรก
หากว่าร่างกายไม่แข็งแกร่งพอ
เขาก็แค่เน้นวิชาฝึกฝนร่างกาย
ขัดเกลาให้ร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้น
หากยังไม่พอ ก็ฝึกมันพร้อมกันสองวิชาไปเลย!!
หากยังเร็วไม่พอ?
ก็ฝึกฝนวิชาที่เน้นการเคลื่อนไหวเอา ที่นี้อยากจะเร็วเท่าไหนก็ฝึกได้ จะให้เร็วจนแม้แต่กล้องก็ยังจับภาพเงาไม่ทันก็ย่อมได้!
พลังโจมตีไม่พอ
ก็ฝึกวิชาเพิ่มพละกำลังให้มากขึ้น มากที่จนถึงขนาดที่ว่าต่อให้ใช้มีดทื่อๆ ใช้แรงอย่างเดียว ก็สามารถแทงทะลุหนังหมูป่าได้แบบสบายๆ
ทุกจุดอ่อนสามารถถูกฝึกเพิ่มเพื่อทดแทนได้
สำหรับซู่เสี่ยวไป่นั้นถือว่ามีความแข็งแกร่งครบทุกด้าน ไม่ว่าจะความอึดความคงทน กำลัง ความว่องไว ทำให้กริชนั้นถือว่าเป็นอาวุธที่เหมาะกับเขา
“เมื่อเลือกอาวุธได้แล้ว ก็ควรมีวิชาคู่กับมันด้วย”
ศาสตร์แห่งอาวุธ การฝึกนั้นยากลำบากและไม่สามารถคาดเดาความยากง่ายของศาสตร์ได้
การฝึกฝนร่างกายกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลยหากเทียบกับศาสตร์แห่งอาวุธ
การฝึกฝนร่างกายหากมีความอดทนและฝึกฝนอย่างมีวินัย ต่อให้ผู้ฝึกจะเข้าใจวิชาได้น้อยแค่ไหน ก็ยังได้รับผลของการฝึกฝนไม่ว่าจะน้อยหรือมากก็ตาม
การฝึกฝนวิชาควบคุมธาตุจำเป็นต้องมีความเข้าใจในวิชาสูง ไม่มีข้อยกเว้น และไม่มีทางลัด หากไม่สามารถเข้าใจวิชาได้ ก็ไม่อาจจะสำเร็จได้
ศาสตร์แห่งอาวุธนั้นอยู่ตรงกลางระหว่างสองวิชานี้
บทจะง่ายก็ง่ายจนหน้าใจหาย
แต่บทจะยากก็ยากเย็นแสนเข็ญเช่นเดียวกัน บางครั้งยากยิ่งกว่าวิชาควบคุมธาตุเสียอีก
แต่ทุกอย่างที่กล่าวมาไม่ได้เป็นปัญหากับซู่เสี่ยวไป่
ทุกอย่างล้วนไร้ความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าระบบของซู่เสี่ยวไป่ ขอแค่มีเงินเป็นพอ
“*รุ่งโลหิต*”
“*จันทร์สีเลือด*”
“*ประกายแสงเทียน*”
“*มารสีคราม*”
“ชื่อศาสตร์แห่งอาวุธของกริช แค่ชื่อก็เท่แล้ว!!”
“เกือบทุกศาสตร์นั้นอยู่ในระดับละเอียดอ่อนเหมือนกัน เราคงต้องเลือกมาสักอัน เพราะแต่ละศาสตร์ก็ไม่ได้โดดเด่นกว่ากันเท่าไร”
ที่ศาลาศาสตร์แห่งการต่อสู้ มีวิชาให้เลือกฝึกฝนมากมาย เพียงแค่มีเงินจ่ายก็สามารถเรียนรู้ได้
วิชาดีๆ แบบนี้ เพียงแค่จ่ายเงินก็ฝึกฝนได้ จะมีที่ไหนอีก
หากวิชาเหล่านี้หลุดออกไปภายนอก ก็คงถูกตระกูลใหญ่แย่งชิงไปหมด และยึดเป็นของตระกูลตัวเอง
ทำให้ทุกวิชาที่อยู่ในที่แห่งนี้มีระดับใกล้เคียงกัน
“*โลหิตสังหาร* เอาอันนี้แหละกัน ชื่อแท่ดี!!”
ซู่เสี่ยวไป่เลือกออกมาหนึ่งศาสตร์จากทั้งหมด
เขาจ่ายเงินไป 80,000 เหรียญจิตเพื่อฝึกฝนวิชานี้ 1 ชั่วโมง
สำหรับอาวุธซู่เสี่ยวไป่เอากริชของเดรกมาใช้ เป็นอาวุธเกรดผสาน
กริชนี้มีลวดลายเป็นคาบเลือดที่ดูล้ำสมัยดูเท่ไปอีกแบบ
อาวุธผสานตามท้องตลาดนั้น มีราคาไม่ต่ำกว่า 6-7 ล้านเหรียญจิต ต้องขอบคุณเดรกที่ช่วยให้ซู่เสี่ยวไป่ประหยัดเงินไปได้เยอะที่เดียว
…..
“-ติ๊ง เหยียบย่ำข้ามนภา สำเร็จขั้นพื้นฐานแล้ว-”
ซู่เสี่ยวไป่ที่กำลังตั้งใจอ่านเนื้อหาของศาสตร์แห่งอาวุธอยู่ ก็ถึงกับหยุดชะงัก
ขั้นพื้นฐานแล้ว!!
แววตาของซู่เสี่ยวไป่เปล่งประกายอีกครั้ง
ในเมื่อวิชาย่างก้าวระดับละเอียดอ่อนของเขาอยู่ในขั้นพื้นฐานแล้ว นั่นแปลว่าความเร็วของเขาจะอยู่ในระดับเดียวกับผู้ฝึกยุทธขั้นสูง หากต้องเจอคนแบบไอ้บ้าเดรกอีก เขาจะไม่เสียท่าเหมือนครั้งก่อนอีกแล้ว เขาจะสามารถหลบการโจมตี และตามการเคลื่อนไหวของอีกฝั่งทัน
“ในเมื่อสำเร็จวิชาเหยียบย่ำข้ามนภาแล้ว ก็ต่อด้วยโลหิตสังหาร”
ไม่ถึงชั่วโมงซู่เสี่ยวไป่ก็สามารถเรียนรู้เนื้อหาศาสตร์แห่งอาวุธได้หมด
“-ตรวจความทรงจำของเจ้านาย-”
“-ค้นพบ *โลหิตสังหาร*-”
เสียงของระบบแจ้งเตือน ซู่เสี่ยวไป่ลุกขึ้นจากเก้าอี้บิดไปมาเพื่อยืดเส้นยืดสาย
จบสักที!!
ต่อไป ก็แค่ต้องรออีก 6 ชั่วโมง เขาก็จะสำเร็จศาสตร์แห่งอาวุธในขั้นฝึกหัด
สำเร็จวิชาระดับละเอียดอ่อนในขั้นฝึกหัดภายใน 6 ชั่วโมง หากพูดออกไปก็คงจะมีแต่คนหัวเราะเยาะและถูกมองเป็นตัวตลก แต่สำหรับซู่เสี่ยวไป่แล้วมันคือมาตรฐานขั้นต่ำในการสำเร็จวิชา!!
หากว่าเขายังมีเงินเหลือ ซู่เสี่ยวไป่ก็คงเพิ่มระดับระบบอีก 2-3 ระดับ เกรงว่าที่นี้มันจะไม่ใช่ 6 ชั่วโมง อีกต่อไป แต่จะกลายเป็นไม่กี่นาที!!
“ตอนนี้ทั้งพื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวกับฝึกวิชาในคลิกเดียวอยู่ในระดับ 5 ทั้งคู่ แต่ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียวยังอยู่ระดับ 3 ครั้งหน้าคงต้องเพิ่มระดับออกล่าอสูร แล้วเมื่อถึงระดับ 4 ความสามารถใหม่ของระบบก็จะปลดล็อค อยากรู้แล้วสิ…ว่ามันจะเป็นความสามารถแบบไหนกัน!!”
อย่างที่ระบบได้เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ หากว่าเพิ่มระดับทั้ง 3 ความสามารถเป็นระดับ 4
ความสามารถใหม่จะเผยออกมาให้เห็น
คือความสามารถใหม่จะดีแค่ไหน ไม่ต้องใช้หัวคิดก็ยังตอบได้ว่าต้องดีมากๆ แน่แบบไม่ต้องสงสัยเลย
ตกดึก
“-ติ๊ง *โลหิตสังหาร* สำเร็จขั้นฝึกหัด-”
ซู่เสี่ยวไป่ที่นอนเล่นอยู่ก็ถึงกับลุกพรวดขึ้นแล้วเริ่มร่ายรำกระบวนท่า มีข้อมูลมากมายไหลเข้ามาในหัวของซู่เสี่ยวไป่
ซู่เสี่ยวไป่หลับตาพร้อมกับร่ายกระบวนท่ากริชไปอย่างไม่รู้ตัว
เพียงสองนาที ที่ซู่เสี่ยวไป่ร่ายรำกระบวนท่า แต่เหมือนราวกับว่าเขานั้นร่ายรำกระบวนท่าพวกนี้มาเป็นล้านๆ ครั้งแล้ว และมันได้ถูกฝั่งลึกลงไปในกล้ามเนื้อของเขาทุกอนูจนถึงกระดูก
แล้วอยู่ๆ ซู่เสี่ยวไป่ก็ลืมตาขึ้น สายตาของเขาแหลมคมดุจใบมีด และแฝงไปด้วยกลิ่นอายอันบ้าคลั่งเช่นเดียวกับแววตาของเดรก
“นี่คือ…โลหิตสังหาร…”
ซู่เสี่ยวไป่วาดมือลงไปเบาๆ
ฟุบ!!
โต๊ะที่อยู่ในห้อง ถูกผ่าออกเป็นสองซีก รอยตัดนั้นเรียบและสวยราวกับเป็นพื้นกระจก เป็นความคมที่เกินจะบรรยาย
ซู่เสี่ยวไป่มองดูค่าสถานะของเขาอีกครั้ง
มนุษย์ : ซู่เสี่ยวไป่
เขตแดน : ผู้ฝึกยุทธขั้นแรก
ระดับพละกำลัง: ผู้ฝึกยุทธขั้นสูง
ระดับความคงทน: ผู้ฝึกยุทธขั้นสูง
ระดับความว่องไว: ผู้ฝึกยุทธขั้นสูง
พรสวรรค์บ่มเพาะ: ขั้นต่ำ
วิชา: กายาเพชร(พื้นฐาน) เหยียมย่ำข้ามนภา (พื้นฐาน) หัตถ์อัคนีเที่ยงแท้ (ฝึกหัด)
โลหิตสังหาร (ฝึกหัด)
ความสามารถของระบบที่เปิดใช้งาน: พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียว[ระดับ 5]
พื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียว[ระดับ 5] ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียว [ระดับ 3]