Ep.60 - ความสำคัญของโพชั่น
1/3
Ep.60 - ความสำคัญของโพชั่น
อันดับแรกฮังอวี่เรียนรู้สูตรยา 3 สูตรก่อน ได้แก่โพชั่นฟื้นพลังชีวิตก็อบลิน , โพชั่นฟื้นพลังจิตก็อบลิน และโพชั่นแก้ปวดโนม
ทั้งสามสูตรเปลี่ยนเป็นจุดแสง ผสานเข้ากับร่างกายเขา ช่วยให้เกิดความหยั่งรู้ในทันที
ทักษะและเทคนิคมากมาย รวมไปถึงความรู้ที่เกี่ยวข้องปรากฏขึ้นในใจเขา
เกิดความเข้าใจในกระบวนการทำ สามารถลงมือได้โดยไม่ต้องเอ่ยปากใดๆ
การกลั่นโพชั่นเกรดต่ำทำได้ง่ายมาก ตัวอย่างการกลั่นโพชั่นฟื้นพลังจิต วัตถุดิบที่ใช้คือสมุนไพรพลังจิต น้ำพุวิญญญาณปริมาณหนึ่ง แล้วก็หลอดโพชั่น เท่านั้นเลย
ซึ่งหลอดโพชั่นที่ว่า มีจำหน่ายที่แผ่นศิลาในค่ายก็อบลิน 1 หินคริสตัลเทาสามารถซื้อได้ 200 หลอด ราคาถูกมาก
บางคนอาจถาม ว่าหลอดแก้วธรรมดาใช้บรรจุโพชั่นไม่ได้หรอ?
แน่นอน! หลอดแก้วธรรมดาก็ใช้ได้ อย่างไรก็ตาม วัตถุในโลกนุษย์ไม่มีพลังงานทางวิญญาณ ซึ่งจะไม่สามารถใส่มันเข้าไปในพื้นที่เก็บของได้ และนั่นไม่สะดวกสบายเป็นอย่างยิ่ง
ทุกอย่างพร้อมแล้ว
ฮังอวี่เริ่มกลั่นยาอย่างเป็นทางการ
ขั้นแรก เขาต้องสกัดแก่นแท้ของสมุนไพรออกจากสมุนไพรพลังจิต จากนั้นนำมันไปผสมกับน้ำพุวิญญาณเพื่อสร้างโพชั่น
หลังจากทำการสกัดเป็นเวลาประมาณหนึ่งนาที ความเข้มข้นเหลือไม่ถึงหนึ่งในสิบของปริมาณตอนแรก ฟองอากาศได้หายไป น้ำหยุดเดือด น้ำยาถูกเปลี่ยนเป็นสีคราม บรรจุลงในหลอดโพชั่น
ยาฟื้นฟูพลังจิตชุดแรก ในที่สุดก็สามารถกลั่นได้สำเร็จด้วยประการฉะนี้
[ยาฟื้นพลังจิตก็อบลิน] เกรด 1 สีเทาคุณภาพกลาง , เริ่มแสดงผลภายใน 5 วินาที , ฟื้นฟูพลังจิต 2 หน่วยต่อวินาที , ระยะเวลาแสดงผล 18 วินาที
“สำเร็จแล้ว!”
“ไม่นึกเลยว่ามันจะง่ายขนาดนี้!”
ตามปกติแล้ว ทุกครั้งที่ทำการกลั่นยาจะมีโอกาสล้มเหลว กระทั่งโพชั่นเกรดต่ำสุดก็ไม่มีข้อยกเว้น
ฮังอวี่นึกหาเหตุผลว่าทำไมเขาถึงประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย และค้นพบว่า ตั้งแต่ที่เขาเรียนรู้สกิลการกลั่นยา ภายใต้อิทธิพลของสกิลพรสวรรค์ที่ได้มา ส่งผลให้ค่าความชำนาญเต็ม นี่เองคือสาเหตุที่ช่วยให้ผลิตโพชั่นได้ง่ายขึ้น
สกิลพรสวรรค์ ‘ความทรงจำของจอมปราชญ์’ เป็นสกิลที่ไม่ได้ช่วยในการต่อสู้ ป้องกัน หรือส่งเสริมการผลิต
มันไม่เพิ่มพลังการต่อสู้ได้โดยตรง แต่สามารถมอบความรู้และประสบการณ์อันล้ำค่าได้ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความชำนาญให้แก่สกิลต่างๆได้อีกด้วย
สำหรับฮังอวี่แล้ว ค่าความชำนาญของสกิลส่วนใหญ่จะเต็มทันทีที่เรียนรู้มัน ซึ่งนี่สามารถลดเวลาเสียเปล่าในการฝึกฝนได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จในการผลิตได้อย่างมหาศาล
ณ จุดนี้ แม้สกิลพรรสวรรค์ของเขาจะไม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของไอเท็มที่ผลิต แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เขาประหยัดเวลา วัตถุดิบ หรือวัสดุต่างๆได้มาก
ฮังอวี่ตรวจสอบโพชั่นขวดแรกที่เขากลั่นด้วยมือตัวเองอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ถ้าเขาจำไม่ผิด โพชั่นนี้คุณภาพของมันสมควรมีสีเทาขุ่น และระยะเวลาแสดงผล 15 วินาที
ทว่าโพชั่นในมือฮังอวี่กลับเป็นสีเทาอ่อน และมีระยะเวลาแสดงผล 18 วินาที
ฮังอวี่ไม่มีโบนัสช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของไอเท็มที่เขาผลิต ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ ต้นเหตุจึงไปตกอยู่ที่น้ำพุวิญญาณ
หากเขากลั่นโพชั่นโดยใช้น้ำประปาธรรมดา ย่อมไม่ได้ผลลัพธ์เช่นนี้แน่นอน เป็นเพราะเขาใช้น้ำพุวิญญาณเป็นส่วนผสม ประสิทธิภาพของตัวโพชั่นจึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
“ไม่เลว! ด้วยยาตัวนี้ เรื่องเพิ่มกระบวนการผลิตของอ้วนต้าไห่ก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว!”
ฮังอวี่พอใจมากกับผลงานของเขา “ฟื้นฟู 2 หน่วยต่อวินาที แสดงผล”18 วินาที รวมๆก็เท่ากับฟื้นฟู 36 หน่วย นี่มันเกินกว่าจำนวนพลังจิตของผู้เล่นในตอนนี้ไปมากแล้ว!”
ไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ ก็บอกได้เลยว่าคุณสมบัติของมัน เพียงพอต่อความต้องการในการใช้งานไปอีกนาน
เอฟเฟกต์ของโพชั่นไม่สามารถซ้อนทับได้ก็จริง แต่เมื่อเทียบกับไอเท็มฟื้นฟูอย่างผลเบอร์รี่แดงและฟ้าแล้ว โพชั่นในรูปแบบน้ำยานี้ใช้งานได้ง่ายกว่ามาก
มันออกฤทธิ์เร็ว ฟื้นฟูก็รวดเร็ว สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการในเวลาต่อสู้ได้ดียิ่งขึ้น
ฮังอวี่ทดลองกลั่นยาฟื้นฟูพลังชีวิตเป็นขวดต่อไป
[โพชั่นฟื้นพลังชีวิตก็อบลิน] เกรด 1 , สีเทาคุณภาพกลาง , เริ่มแสดงผลภายใน 5 วินาที , ฟื้นฟูพลังชีวิต 2 หน่วยต่อวินาที , ระยะเวลาแสดงผล 18 วินาที
โพชั่นทั้งสองชนิดนี้มีเอฟเฟกต์เหมือนกัน ต่างกันแค่ฟื้นฟูคนละส่วน
หากสามารถผลิตพวกมันล็อตใหญ่ได้ จะถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่แน่นอน
ปัจจุบันฮังอวี่อยู่ในเลเวล 3 แต่ค่าพลังชีวิตทั้งหมดของเขามีแค่ 20 หน่วย แม้ได้สมุนไพรของหวังเอ๋อเพิ่มเข้ามา แต่ก็ขยับขึ้นไปเป็น 21 เท่านั้น
หรือความหมายก็คือ ต่อให้เขาบาดเจ็บแค่ไหนในการต่อสู้ ตราบใดที่ดื่มโพชั่นฟื้นพลังชีวิต เขาจะสามารถเติมเต็มส่วนที่เสียไปได้ทั้งหมด
เมื่อมีโพชั่นฟื้นฟูอยู่ในมือ โอกาสในการรอดชีวิตจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ มากพอที่จะพลิกกระแสสงคราม! ช่วยให้ฮังอวี่มีความกล้าที่จะบุกฝ่าไปยังสถานที่อันตราย ท้าทายมอนสเตอร์ที่ทรงพลังได้มากขึ้น! ได้รับของดรอปที่ดียิ่งขึ้น!
ฮังอวี่รู้สึกว่าปริมาณสมุนไพรที่จำเป็นต่อการกลั่นยาในตอนนี้ยังไม่เพียงพอ เขาต้องขยายการสวนพืชวิญญาณ ในอนาคตจะเป็นการดีที่สุดหากใช้ที่ดินของเพื่อนบ้านที่อยู่รอบๆ
ชุมชนตรอกมังกรฟ้าเป็นดินแดนขุมทรัพย์สำหรับการปลูกพืชวิญญาณ ทุกตารางนิ้วสามารถสร้างมูลค่าได้มหาศาล!
...
หลังจากฮังอวี่ทดลองกลั่นโพชั่นทั้งสอง สิ่งต่อมาที่ทำคือรีบมุ่งหน้าไปยังสำนักงานอาหารพี่อ้วน
เมื่ออ้วนต้าไห่ได้รับโพชั่นสีฟ้าครามในมือ ก็ทราบได้ทันทีว่าฮังอวี่ทำเรื่องที่เคยรับปากไว้สำเร็จแล้ว ในดวงตาเขาเต็มไปด้วยความแตกตื่นดีใจ
ปัญหาที่อ้วนต้าไห่กำลังเผชิญอยู่คืออะไร?
ก็ปัญหาด้านการผลิตอย่างไรเล่า!
“เชี่ยเอ๊ย ของโคตรดี! นายไปหามันมาได้ยังไง?”
“ฉันกล้าพูดเลย ว่าต่อให้ขายมันในราคาขวดละ 100,000 หยวน ก็ยังมีคนรับซื้อ!”
“แล้วถ้าได้ยานี่มาใช้ในร้านอาหารนะ มันจะช่วยเพิ่มข้อได้เปรียบให้เราได้แน่นอน!”
“นายรู้ไหม ช่วงไม่กี่วันมานี้ เมื่อมีการเปิดเผยถึงความสำคัญของอาหารพลังงานวิญญาณ ค่าจ้างเชฟวิญญาณพุ่งสูงลิ่ว! ตราบใดที่นายมีสกิลที่เกี่ยวข้องกับการทำอาหาร ทั้งชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป”
ตอนนี้วัตถุดิบจากโลกวิญญาณนับวันยิ่งปรากฏขึ้นในโลกจริงมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็หยิบพวกมันติดไม้ติดมือกลับมาจากโลกวิญญาณ บ้างก็ปรากฏขึ้นเองภายใต้การแทรกซึมของโลกวิญญาณ มีผลไม้วิญญาณ สมุนไพรวิญญาณ และยาวิญญาณหลายชนิดปรากฏขึ้นในโลกจริง
อย่างไรก็ตาม พวกมันเทียบไม่ได้เลยกับโพชั่นในมือเขาขวดนี้!
หรือต่อให้เทียบได้ แต่ปริมาณของมันก็ไม่มากพอที่จะรับรองการบริโภคของผู้คนนับสิบล้านคนในเจียงเฉิงอยู่ดี!
ฮังอวี่กล่าวตามตรง “ฉันขายให้ขวดละ 50,000 หยวน ขายให้นายก่อน 100 ขวด”
“อะไรนะ! 50,000! 100!” ท่าทีของผังต้าไห่เกินจริงมาก “จริงอยู่ที่ราคา 50,000 กับคุณภาพของมันไม่ถือว่าแพงอะไร แต่ด้วยเงินสดสำรองของสำนักงานในตอนนี้ ไม่สามารถจ่ายได้ ต่อให้พี่ผังพลีกายขายบริการก็ยังมีเงินไม่พอ!”
“ฉันไม่ได้ให้นายพลีกาย!” ฮังอวี่บ่น “นายสามารถติดเป็นเครดิตก่อน ได้เงินมาแล้วค่อยจ่ายคืนทีหลัง อ้อ แล้วฉันจะให้นายยืมเงินสดเพิ่มอีก 4 ล้าน นำไปเปิดร้านอาหารอย่างเป็นทางการให้ฉัน”
หนี้ยังไงก็ต้องชำระ
แน่นอน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะยกยาให้เจ้าอ้วนฟรีๆ โพชั่นของฮังอวี่เองก็มีค่าใช้จ่าย นี่เห็นว่าอ้วนต้าไห่เป็นคนในถึงได้ลดให้สุดๆแล้ว
ฮังอวี่คำนวณต้นทุนในการกลั่นยาโดยอ้างอิงจากราคาของไอเท็มอื่นๆ เช่น
ราคาของหินคริสตัลขาวปัจจุบันมีความผันผวนอยู่ราวๆ 3-4 ล้านหยวน
ราคาเมล็ดพันธุ์จากป่าแห่งความเที่ยงธรรมถุงละ 1 หินคริสตัลขาว และจำนวนเมล็ดต่อถุงคือ 200 เมล็ด
อัตราการรอดชีวิตของเมล็ดพันธุ์จากโลกวิญญาณนั้นมีสูงมาก ดังนั้นเมื่อนำจำนวนของเมล็ดมาหารกับราคาหินคริสตัลขาวที่ใช้ซื้อถุงเมล็ด 1 ถุง
จะเท่ากับว่าสมุนไพรแต่ละต้นมีราคาตกที่ราวๆ 15,000 - 20,000 หยวน
แม้จะมีน้ำพุวิญญาณกับราคาหลอดโพชั่นเพิ่มเข้ามา แต่ต้นทุนทั้งหมดไม่น่าเกิน 25,000 หยวน
หรือก็คือต่อให้เขาขายโพชั่นให้อ้วนต้าไห่ในราคาพิเศษแล้ว แต่ฮังอวี่ก็ยังฟันกำไรได้เกือบสองเท่า
และแน่นอน เขาไม่ได้ขายให้แค่อ้วนต้าไห่ แต่จะแบ่งส่วนหนึ่งไปขายให้กับคนนอกด้วย และราคาต่อชิ้น ไม่มีทางต่ำกว่า 100,000 หยวนแน่นอน
ฟันกำไรได้เกินกว่า 3 เท่า!
ช่วงนี้โพชั่นยังขาดตลาด อุปสงค์มีมากกว่าอุปทานอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง มั่นใจได้เลยว่าเขาสามารถทำเงินได้มหาศาล!
ฮังอวี่ไม่แน่ใจว่าหลังจากที่คนอื่นซื้อยานี้ไปแล้ว จะนำมันไปใช้เพิ่มพลังการผลิตอาหารเช่นเดียวกับเขาหรือไม่
แต่หากพวกนั้นคิดแข่งขันกับสำนักงานอาหารพี่อ้วน นั้นไม่จำเป็นต้องกังวลเลย
เพราะอ้วนต้าไห่อย่างไรก็ได้เปรียบในด้านต้นทุนการซื้อยาที่มากกว่าครึ่งหนึ่ง
“ยังไม่หมดนะ ฉันเตรียมเครื่องปรุงอาหารหลายอย่างจากโลกวิญญาณมาให้นายด้วย นี่จะช่วยให้รสชาติของอาหารดีขึ้นไปอีก ไม่ใช่อะไรที่เครื่องปรุงในโลกจริงจะเทียบได้!”
“ด้วยสิ่งเหล่านี้ รับประกันได้เลยว่าอาหารที่ผลิตโดยสำนักงานพี่อ้วน จะสามารถครองตลาดระดับสูงของอุตสาหกรรมจัดเลี้ยงในเจียงเฉิงได้อย่างมั่นคง!”
“ในขณะที่คนอื่นแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่พวกเราแค่ยืนดูจากที่สูง!”
อ้วนต้าไห่ดูตื่นเต้นมาก
เชี่ยเถอะ!
เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวฮังกันแน่?
เขาไปได้รับของดีๆมากมายแบบนี้จากโลกวิญญาณมาได้อย่างไร?
แต่จะยังไงก็ช่าง นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ การทำเงินต่างหากคือเรื่องสำคัญที่สุด!
หลังจากอ้วนต้าไห่รับโพชั่นพลังจิตไปแล้ว ความมั่นใจของเขาพุ่งกระฉูด ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงอีกต่อไป
“ดีล่ะ ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากไอ้เถ้าแก่ใหญ่อย่างนาย เรื่องการเปิดร้านอาหารของพวกเรา จะมัวชักช้าอีกไม่ได้แล้ว!”
อ้วนต้าไห่ยังคงมุ่งความสนใจอยู่กับอาชีพของเขา นำแผนที่ที่เตรียมไว้ออกมา
“ทุกอย่างเตรียมพร้อมเกือบหมดแล้ว ฉันจะรีบไปเซ้งร้านอาหาร แล้วเริ่มต้นธุรกิจ”
“มีร้านอาหารหลายแห่งตั้งอยู่ในทำเลดีๆ และช่วงนี้กำลังเปลี่ยนมือกันให้วุ่น แต่ฉันยังไม่มั่นใจเรื่องทำเล นายมีข้อเสนอแนะอะไรไหม?”
ปัจจุบันสถานการณ์ในเมืองเปลี่ยนแปลงทุกวัน
อย่างสถานีรถไฟใต้ดินหรือแม้แต่พื้นที่เหนือเส้นทางรถไฟใต้ดินล้วนมีความเสี่ยงสูง
นอกจากนี้ บางจุดที่มีมอนสเตอร์กระจุกตัวกันหนาแน่นก็ไม่สามารถซื้อได้ เพราะอนาคตไม่รู้ว่าพวกมันจะอาละวาดขึ้นมาตอนไหน!
ฮังอวี่เชื่อว่าพื้นที่ที่จะเจริญรุ่งเรืองและกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของเมืองในอนาคตจะต้องปรากฏขึ้นรอบๆอาณาเขตวิญญาณ ดังนั้นการซื้ออสังหาที่อยู่ใกล้กับอาณาเขตวิญญาณเป็นความคิดที่ดี
และจากในบรรดาร้านอาหารที่อ้วนต้าไห่กำลังเล็งเซ้งต่อ มีอยู่สองแห่งตั้งอยู่ในเส้นเดียวกับตรอกมังกรฟ้า
ถนนมังกรฟ้าเป็นถนนสายเก่าใกล้กับชุมชนมังกรฟ้า ชาวบ้านเรียกมันว่าถนนมังกร สมัยก่อนเคยเป็นที่นิยม มีร้านขายขนมตั้งแผงเป็นทางยาว
นอกจากนี้ แถวนั้นยังมีบาร์ รถฟู๊ดทรัค และสถานบันเทิงอีกมากมาย เนื่องจากมันอยู่ไม่ไกลจากตรอกมังกรฟ้า ในอนาคตย่อมกลายเป็นถนนการค้าที่ฮอตฮิตที่สุดอย่างแน่นอน
ฮังอวี่แนะนำอ้วนต้าไห่ว่าควรตั้งร้านในสถานที่นี้ พร้อมทั้งอธิบายแก่อีกฝ่ายเรื่องที่เขาซื้อบ้านในชุมชนตรอกมังกรฟ้า
ฮังอวี่เชื่อมั่นว่าด้วยมันสมองของอ้วนต้าไห่ ด้วยคำแนะนำของเขา อีกฝ่ายจะตระหนักถึงความสำคัญของอาณาเขตวิญญาณได้อย่างแน่นอน
ณ สถานที่ที่พืชพรรณเติบโตขึ้นอย่างบ้าคลั่งจนทำให้ชาวเมืองปวดหัว แต่หลายคนกลับไม่รู้ ว่าในสถานที่แห่งนั้น ในอนาคตจะมีค่าอย่างมหาศาล!