ตอนที่แล้วChapter 7: รังมาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 9: สภาวะสุดขั้วขั้น 81

Chapter 8: ปราณดาบไร้รูปมหาอากาสะ


Chapter 8: ปราณดาบไร้รูปมหาอากาสะ

วันถัดมา

เจียงหมิงตื่นขึ้น ทำอาหารเช้า กินอาหารเช้า ตักน้ำ สับฟืน และทำความสะอาด โดยส่วนตัวแล้วพวกงานไม่ได้มีจำนวนมากเกินไป แต่โดยรวมแล้วมันเป็นเรื่องที่แตกต่างกัน

หลังจากนั้นเขาก็ไปไร่ผักของเขา เขาดูแลที่ดินที่เขาไถเมื่อวานนี้และที่ดินที่ตอนนี้ว่างเปล่าหลังจากที่เขาเก็บเกี่ยวผัก จากนั้นเขาก็ดูแลแปลงดินที่เขาเก็บเกี่ยวเมื่อวานและปลูกข้าวจิตวิญญาณที่โมโมะมอบให้เขา

เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เขาปลูกมันเขาจึงปลูกมันตามแบบของมะระที่เขาปลูก และรดมันด้วยการร่ายคาถาคุมฝน

"เรียบร้อย หวังว่ามันจะเติบโตได้ดีนะ”

เจียงหมิงไม่รู้สึกมั่นใจเลย โชคดีที่เขามีเวลาเหลือเฟือ ดังนั้นเขาจะสามารถติดตามการเติบโตของมันได้

[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับการปลูกพืชทางจิตวิญญาณเป็นครั้งแรก รางวัล: ค่าฝึกฝนสองปีและความสามารถพิเศษ พลังปราณดาบไร้รูปมหาอากาสะ]

"ว้าว! ความสามารถพิเศษ!” เจียงหมิงรู้สึกประหลาดใจ

จากความรู้ของเขา ผู้ที่ได้รับความสามารถพิเศษในสำนักจิวหยางมีจำนวนไม่มากนัก

กู้ไห่ได้รับความสามารถพิเศษเพียงครั้งเดียว ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังต้องควบคุมความสามารถพิเศษของเขา

ผู้ที่มีฐานการบ่มเพาะต่ำกว่าอาณาจักรคฤหาสน์สีม่วงไม่มีสิทธิ์แม้แต่คิดเกี่ยวกับความสามารถพิเศษ

เมื่อเจียงหมิงสงบลง การตระหนักรู้ก็เกิดขึ้นกับเขา

“เป็นที่ชัดเจนว่ารางวัลสำหรับการทำฟาร์มนั้นยิ่งใหญ่ที่สุด ดูเหมือนว่าระบบจะพยายามเปลี่ยนข้าเป็นชาวนาจริงๆ แต่…” เขาเดินจากไปในขณะที่สำรวจที่ดินของเขาก่อนจะยิ้ม “ทำไร่ดีที่สุด! เป็นการกระทำที่มีเกียรติที่สุด! ชาวไร่นั้นยิ่งใหญ่!”

หลังจากนั้นเจียงหมิงก็กลับไปที่เอนกายและนอนลงอีกครั้ง ในขณะที่เขาพักผ่อน เขาได้ศึกษาวิธีการบ่มเพาะปราณดาบไร้รูปมหาอากาสะ เมื่อเขาเข้าใจมันในที่สุด เขาก็ถอนหายใจ มันยากกว่าการก่อค่ายกลพื้นฐานมาก

“ตามคาดของเขาถึงความสามารถพิเศษนี้ มันยากมากที่จะฝึกฝน…” เจียงหมิงรู้สึกหมดหนทาง “ข้ามีมหาวิถีพระสูตรแล้วเหตุใดทักษะความเข้าใจของข้าจึงยังไม่ดีที่สุดล่ะ?”

ราวกับภูเขาขุมทรัพย์ตั้งอยู่ตรงหน้าเขา แต่เขาไม่สามารถแตะต้องมันได้

'ให้ตายสิ!'

เขายืนขึ้นและเดินไปรอบๆ ลานบ้าน ก่อนจะนั่งลงอีกครั้งด้วยสีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูก

สักพักเขาก็ตัดสินใจกลับห้อง เนื่องจากน้องสาวของเขากำลังฝึกฝนและไม่ต้องการจะกินในตอนนี้ เขาจึงสามารถพักผ่อนได้สักครู่

ทันทีที่เขากลับมาที่ห้อง เขานั่งขัดสมาธิบนเตียงและซึมซับการฝึกฝนที่เขาได้รับในวันนี้

เกิดเสียงดังก้อง!

เมื่อเขาเปิดใช้งานมหาวิถีพระสูตรตันเถียนและแก่นแท้ของเขาก็สั่นไหวก่อนที่พวกมันจะระเบิดออกมาด้วยแสงสีทอง ขณะที่เขาดูดซับปราณ แกนจริงของเขาก็เปลี่ยนเป็นแกนทองคำ

ในที่สุดเขาก็พัฒนาได้สำเร็จ!

แกนทองคำเป็นขั้นที่สามของอาณาจักรการก่อร่างแกนกลาง

ออร่าอันยิ่งใหญ่ของเจียงหมิงเพิ่มขึ้นในห้อง เขารู้สึกว่าออร่าของเขาตอนนี้แข็งแกร่งกว่าอาจารย์ของเขา

“ข้าสงสัยเหลือเกินว่าข้าจะเหมาะสมกับผู้บ่มเพาะในระดับคฤหาสน์สีม่วงหรือไม่” เจียงหมิงคิดกับตัวเองอย่างสงสัย ไม่ว่าในกรณีใด เขาไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเพิ่มฐานการบ่มเพาะของเขาต่อไป

เมื่อเจียงหมิงออกจากห้องของเขาในที่สุด มันก็เริ่มจะมืดลงแล้ว

รังสีจากดวงอาทิตย์ตกกระทบใบไม้ของต้นไม้ มันทำให้ทัศนียภาพค่อนข้างน่าทึ่ง

“สิ่งเดียวที่ขาดที่นี่คือความบันเทิง” นอกจากขาดความบันเทิงแล้ว เขายังรู้สึกว่าชีวิตของเขาที่นี่สบายมาก

เจียงหมิงเดินไปที่ศาลาหลักซึ่งเป็นที่ตั้งของหอสมุดของยอดเขาฉูหยาง มีบางอย่างที่เขาต้องการตรวจสอบ

หอสมุดไม่ได้ใหญ่ และตำราก็มีจำกัด

หอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในสำนักจิวหยางอยู่บนยอดเขาไท่หยาง ซึ่งปกครองโดยปรมาจารย์ของสำนัก

แม้ว่าเจียงหมิงจะสามารถเข้าชมหอสมุดบนไท่หยางได้ แต่ก็เป็นการสะดวกกว่าที่จะใช้หอสมุดบนยอดเขาฉูหยางของเขาเอง

เนื่องจากเขามีคำถามเกี่ยวกับอาณาจักรแกนทองคำ เขาจึงหาตำราบางเล่มเกี่ยวกับเรื่องนี้

อาจารย์ของเขาเคยบอกเขาว่าอาณาจักรแกนทองคำนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลังจากสร้างแกนทองคำแล้ว ก็สามารถพัฒนาไปต่อในอาณาจักรคฤหาสน์สีม่วงได้ซึ่งเป็นขั้นต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม มีบางสิ่งที่เรียกว่าสภาวะสุดโต่งในอาณาจักรแกนทองคำที่อนุญาตให้ปรับแต่งแกนทองคำได้

เจียงหมิงหมกมุ่นอยู่กับการอ่านจนเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงการกลับมาของกู้ไห่

เมื่อกู้ไห่เข้าไปในห้องสมุดและเห็นเจียงหมิง เขาพูดว่า “ช่างเป็นภาพหายากจริงๆ! เจ้ากำลังอ่านมันอยู่จริงๆหรือ?”

"ทำไมท่านถึงแปลกใจล่ะ? ข้าก็เคยอ่านเป็นปกติ”

“เฮอะ! สิ่งที่เจ้าอ่านล้วนเป็นนิทานและตำราแปลกๆ หืม? ทำไมเจ้าถึงอ่านตำราเกี่ยวกับอาณาจักรแกนทองทำล่ะ? เจ้าเป็นเพียงผู้ฝึกตนในขั้นที่ 6 ของการบ่มเพาะชี่ เฮ้ ไม่ใช่เจ้าคิดว่าตัวเองจะก้าวไปถึงขั้นนั้นได้หรอกนะ? คนที่ขี้เกียจอย่างเจ้าคงจะไม่สามารถสร้างแกนทองคำได้หรอก!”

“ข้าเป็นลูกศิษย์ลำดับแรกของท่าน ท่านไม่คิดว่าคำพูดของท่านมันทำร้ายจิตใจเกินไปหรือ?”

“ถ้าเจ้าไม่ใช่ลูกศิษย์ของข้า ข้าจะไม่เพียงแค่ทำร้ายด้วยคำพูดหรอก ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!” กู้ไห่โต้กลับ

“ช่างโหดร้ายอะไรเช่นนี้! อย่างไรก็ตามหลิงหลงอาจเข้าสู่อาณาจักรก่อร่างแกนกลางได้ตลอดเวลา ข้ากำลังพยายามเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น ข้าจะได้สามารถให้คำแนะนำได้หากมีสิ่งที่เธอไม่เข้าใจ ในเมื่อท่านกลับมาแล้ว ทำไมท่านไม่สอนเรื่องนี้ให้ข้าเล่า?”

“ในที่สุดเจ้าก็ทำตัวเหมือนคนเป็นพี่ชายเสียที ยังไงก็เถอะ ทำไมเจ้าต้องให้ข้าสอนเล่า เพียงตำรายังไม่พอหรือ?”

“ข้าอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะสุดโต่งของแกนทองคำ”

“สถานะสุดโต่งของแกนทองคำ?” กู้ไห่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินออกจากห้องสมุด จากนั้นเขาก็นั่งในห้องนั่งเล่น

เจียงหมิงรีบตามเขาไป หลังจากชงชาเสร็จ เขาก็นั่งถัดจากกู้ไห่

“หากเจ้าไม่มีพรสวรรค์ที่เหลือเชื่อ ความมุ่งมั่นที่ไม่ย่อท้อ และวิธีการฝึกฝนที่ทรงพลัง มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะเปลี่ยนแกนทองคำไปสู่สถานะสุดโต่ง” กู้ไห่กล่าวอย่างช้าๆ

แกนทองคำเป็นสภาวะปกติ ผู้ฝึกฝนแกนทองคำยังคงสามารถทะลุทะลวงไปยังอาณาจักรคฤหาสน์สีม่วงได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแกนทองคำให้อยู่ในสภาพสุดโต่ง

เป็นเรื่องยากที่จะสามารถผลักดันแกนทองคำให้อยู่ในสภาพสุดโต่งได้ ข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวที่คนจะได้รับคืออาจรวบรวมพลังที่มากกว่าและอาจแข็งแกร่งพอที่จะท้าทายผู้ฝึกตนในระดับที่สูงขึ้น

แกนทองคำนั้นกลม ในสภาพสุดโต่ง ลวดลายของพลังเต๋าจะปรากฏราวกับว่าได้รับพรจากธรรมชาติ

แกนทองคำที่มีลวดลายเดียวเรียกว่าแกนทองคำสุดโต่งขั้นแรก

“ลวดลายที่มีจำนวนมากที่สุดในสำนักจิวหยางคือแกนทองคำที่มีลวดลายเต๋าสามแบบ ด้วยแกนทองคำดังกล่าว บุคคลจะมีความสามารถในการต่อสู้ที่น่าเกรงขาม หนึ่งสามารถประมือกับผู้ฝึกตนบ่มเพาะในอาณาจักรคฤหาสน์สีม่วงได้ เมื่อไปถึงอาณาจักรคฤหาสน์สีม่วง ตันเถียนของคนนั้นจะได้รับการพัฒนามากขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ฝึกตนทั่วไป ตามตำนานเล่าว่าจำนวนลวดลายสูงสุดคือเก้า หรือที่เรียกว่าแกนทองคำขั้นที่เก้า ทุกครั้งที่มันปรากฏขึ้นก็จะทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั่วยุทธจักร ผู้ฝึกตนเช่นนี้ย่อมอยู่เหนือเพื่อนของเขาอย่างแน่นอน! ..แต่ยังไงมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า...”

กู้ไห่จิบชาจากถ้วยหลังจากที่เขาพูดจบ

ริมฝีปากของเจียงหมิงกระตุก “ท่านไม่มีศรัทธาในตัวลูกศิษย์ของท่านเลยหรือ?”

กู้ไห่เพียงหัวเราะตอบเท่านั้น..

เจียงหมิงรู้สึกผิดหวังกับคำตอบของอาจารย์ของเขา ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ถามว่า “แล้วน้องสาวของข้าล่ะ?”

“เธอมีความหวัง!” กู้ไห่พูดอย่างไม่พอใจ “อย่างไรก็ตาม เธอยังเด็กเกินไป เธอไปถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรพื้นฐแห่งรากฐานตั้งแต่อายุยังน้อย ข้ากังวลว่าอารมณ์ของเธออาจส่งผลต่อการฝึกฝนของเธอและขัดขวางการเติบโตของเธอ ไอ้คนขี้เกียจ เจ้ามีหน้าที่นำทางเธอ…”

"แล้วท่านล่ะ?"

“ข้าเหมือนกระบองทองคำ”

เจียงหมิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาถามว่า “มีสถานะที่สูงกว่าแกนทองคำขั้นที่เก้าหรือไม่?”

กู้ไห่เย้ยหยัน “เก้าคือขีดจำกัด นี่เจ้าคิดว่ามันง่ายมากเลยหรือยังไง อาจไม่มีแกนทองคำขั้นที่เก้าเลยแม้แต่น้อยในสหัสวรรษนี้ แม้แต่ผู้ที่มีกายาศักสิทธิ์หรือกายาเซียนก็สามารถบรรลุได้อย่างง่ายดาย แต่แกนทองคำระดับเก้าน่ะหรือ มันเหมือนกับการเดินในสวนสาธารณะเพื่อหาผู้ฝึกฝนในอาณาจักรคฤหาสน์ม่วง!”

เจียงหมิงพยักหน้า ดูเหมือนว่านี่เป็นความสำเร็จที่บุคคลธรรมดาไม่สามารถทำได้

หลังอาหารเย็นเจียงหมิงยังคงคิดว่าแกนทองคำของเขาสามารถไปถึงสภาวะสุดขั้วได้หรือไม่ เขาไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่ก็ไม่ยอมให้มันกวนใจเขา

หลายวันผันผ่านราวพริบตา

เจียงหมิงคาดว่าหลิงหู่หยินจะเคลื่อนไหว แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวจากหลิงหู่หยินเลย

ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาได้เริ่มจัดการที่ดินและแปลงให้เป็นที่ดินที่อุดมสมบูรณ์

..เมื่อกู้ไห่รู้เรื่องนี้ เขาแทบขาดใจตายด้วยความโกรธ..

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด