ตอนที่แล้วChapter 6: การลงมือของหลิงหลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 8: ปราณดาบไร้รูปมหาอากาสะ

Chapter 7: รังมาร


Chapter 7: รังมาร

ชื่อ: เจียงหมิง

ฐานการบ่มเพาะ: อาณาจักรก่อร่างแกนกลาง (แกนจริง)

กรรมวิธี : มหาวิถีพระสูตร

คาถา: วิชาดาบลมหนาว, ควบคุมวายุ, บงการฝน, ยันต์ไฟ, ลูกไฟ

ความสามารถพิเศษ : ไม่มี

สิ่งของ: บันทึกเส้นทางมนุษย์, ตำราการสร้างค่ายกลพื้นฐาน, ตำรายันต์พื้นฐาน, ดาบเมฆาไหล, แหวนเมฆาไหล, ตำราเทพเจ้าตำราการทำอาหาร, ตำราการทำไร่

ดูเหมือนว่าคุณสมบัติของเจียงหมิงจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่เขากำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทุกวัน ปัจจุบันเขาเกือบจะถึงจุดสูงสุดของแกนจริง ขั้นตอนต่อไปคือการทำให้แก่นของเขาแข็งแกร่งขึ้นเพื่อให้ได้รับคุณลักษณะของความเป็นอมตะและเปลี่ยนเป็นแกนทองคำ หลังจากได้รับแกนทองคำ มันจะกำหนดอายุขัยของเขา

เขามองข้ามสถานะของเขาอย่างไม่สนใจมันเลย เขาดูที่บันทึกเส้นทางของมนุษย์ซึ่งแสดงข้อมูล

ชื่อ: เจียง โมโมะ

เพศหญิง

ฐานการบ่มเพาะ: อาณาจักรพื้นฐานแห่งรากฐานระยะสุดท้าย

ข้อมูลประกอบ: ศิษย์แห่งยอดเขาเจียวหยางของสำนักจิวหยาง (หมายเหตุ: จริงๆ แล้วเธอมาจากสำนักบิชุย)

ความสัมพันธ์: 59

สถานะ: เสร็จสิ้นการสอบสวนสถานการณ์ที่สำนักจิวหยาง

เจียงหมิงพูดไม่ออกเมื่อเห็นค่าของความสัมพันธ์ของพวกเขา จากพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของโมโมะเขาคาดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะมีค่าอย่างน้อย 60 หรือไม่ก็ 70 ..แต่ 59 มันไม่ถึงเครื่องหมายผ่านด้วยซ้ำ

ความสัมพันธ์ของพวกเขามีค่า 59 นั่นเป็นตัวเลขที่น่าอึดอัดใจ

“สำนักบิชุย..” เจียงหมิงขมวดคิ้ว “เธอเป็นสายลับ หรือเธอออกจากสำนักนั้นเพื่อเข้าร่วมจิวหยางกันนะ”

เขาไม่มีทางรู้ แต่เขาไม่มีความตั้งใจที่จะติดตามเรื่องนี้ ตราบใดที่มันไม่กระทบกระเทือนเขา เขาก็จะไม่เข้าไปยุ่ง เขาไม่สนใจสิ่งอื่นใดและเขาก็ไม่มีความสามารถในการจัดการสิ่งนี้ เป็นการดีที่สุดที่จะรักษาความเป็นกลางไว้

“ตรวจสอบสถานการณ์ที่สำนักจิวหยางงั้นหรือ” เจียงหมิงหัวเราะ “เจ้ามาเพื่อบิชุย,เพื่อจิวหยางหรือเพื่อตัวเองกันล่ะ ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เป็นมิตรเท่าใด เพราะความสัมพันธ์ของเราเป็นเพียงในฐานะเพื่อนศิษย์ หวังว่าเจ้าจะไม่มีความคิดตลกๆ ..โมโมะ”

ฟรึบ!

บันทึกเส้นทางมนุษย์พลิกไปที่หน้าอื่นที่แสดงข้อมูลของหลิงหู่หยิน

เจียงหมิงรู้สึกพูดไม่ออกมากขึ้นหลังจากที่เขาอ่านเนื้อหาของหน้านี้

ชื่อ: หลิงหู่หยิน

เพศชาย

ฐานการบ่มเพาะ: อาณาจักรการก่อร่างแกนกลางเริ่มต้น

ข้อมูลประกอบ: ศิษย์แห่งยอดเขาจื่อหยางของสำนักจิวหยางของ (หมายเหตุ: เขาเป็นศิษย์ของสำนักมาร)

ความสัมพันธ์: -88.

สถานะ: ถูกจื่อหลิงหลงทำให้บาดเจ็บสาหัสและได้หลบหนีกลับไปที่ยอดเขาจื่อหยาง

"ช่างน่าประหลาด มีคนหนึ่งจากบิชุยและอีกคนจากสำนักมาร นี่หมายความว่ามีหนอนบ่อนใส้มากมายในสำนักจิวหยาง…”

เจียงหมิงรู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลังของเขา เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับสำนักมารมาก่อน พวกเขาถูกกล่าวถึงในหนังสือหลายเล่ม สำนักมารถูกล่าและกำจัดสิ้นซาก ไม่มีพวกเขาอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ไม่เปิดเผย

ถ้าไม่ใช่เพราะบันทึกเส้นทางของมนุษย์เขาคงไม่ต้องสงสัยว่ามีคนจากสำนักมารอยู่ใกล้เขา

ค่าความสัมพันธ์เชิงลบทำให้เขาตกใจเช่นกัน

“แม้ว่าเจ้าจะถูกทุบตีอย่างอนาถใจ แต่ข้าไม่ใช่คนที่ทุบตีเจ้า ทำไมถึงมาถือโทษข้าล่ะ”

ค่านี้บ่งชี้ว่าหลิงหู่หยินจะไม่หยุดพักจนกว่าจะได้แก้แค้น

“หวังว่าเจ้าจะไม่บังคับให้ข้าต้องลงมือนะหลิงหู่หยิน”

หลังจากจดจำชื่อของหลิงหู่หยินไว้ในความทรงจำแล้ว เขาวางแผนที่จะติดตามหลิงหู่หยินทุกวันผ่านบันทึกเส้นทางของมนุษย์

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็เขียนชื่อ 'เยว่เฉิง' ลงในหน้าว่างของบันทึกเส้นทางของมนุษย์

ชื่อ: เยว่เฉิง

เพศชาย

ฐานการบ่มเพาะ: อาณาจักรเมล็ดพันธุ์แห่งเต๋า

ข้อมูลประกอบ: ลำดับแรกของยอดเขาจื่อหยาง (หมายเหตุ: แท้จริงแล้วเขาเป็นผู้อาวุโสของสำนักมาร)

ความสัมพันธ์: -33.

สถานะ: ฟังลูกศิษย์ของเขา ฟังรายงานของหลิงหู่หยิน

“เวรเอ้ย!?”

เจียงหมิงตกใจอย่างมาก เขาหนาวสั่นตั้งแต่โคนกระดูกสันหลังไปถึงสมองขณะที่ขนลุกลุกลามบนเนื้อของเขา

เยว่เฉิงเป็นลำดับแรกที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับปรมาจารย์ของสำนัก เขาเป็นผู้อาวุโสของสำนักมารงั้นหรอกหรือ!

มีรังมารอยู่ที่ยอดเขาจื่อหยางชัดๆ!

สำนักจิวหยางประกอบด้วยยอดเขาเก้ายอด: ยอดเขาไท่หยาง, ยอดเขาฉูหยาง, ยอดเขาเส้าหยาง, ยอดเขาเหลาหยาง, ยอดเขาเจียวหยาง, ยอดเขาลี่หยาง, ยอดเขาห่าวหยาง, ยอดเขาจื่อหยาง และยอดเขาชุนหยาง

ยอดเขาไท่หยางถือเป็นผู้นำของยอดเขาตั้งแต่ระดับอาจารย์ซึ่งถือเป็นปรมาจารย์ของสำนัก

ยอดเขาแต่ละแห่งได้รับเอกราช นอกเหนือจากยอดเขาฉูหยางที่ย่ำแย่ลงแล้ว ยอดเขาอื่นๆ ก็พัฒนาขึ้นทุกวัน

“ทำไมผู้อาวุโสของสำนักมารจึงกลายเป็นลำดับแรกในสำนักจิวหยางล่ะ มันฟังดูบ้อบอเหลือเกิน ข้าไม่เข้าใจสิ่งนี้เลย!”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เจียงหมิงก็ยังไม่สามารถคิดออกได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจทิ้งเรื่องนี้ไว้ก่อน

จากนั้นเขาก็จดชื่อของลำดับแรกอื่นๆ ในบันทึกเส้นทางของมนุษย์ โชคดีที่คนอื่นๆ ไม่ใช่บุคคลภายนอก พวกเขาเป็นสมาชิกที่แท้จริงของสำนักจิวหยาง

“สำนักบิชุยและสำนักมาร..ข้าหวังว่าจะไม่รู้เรื่องนี้ เมื่อตอนนี้รู้แล้ว มันรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ ข้ายังอ่อนแอเกินไป …ต้องทำอาหารมากขึ้นและทำไร่มากขึ้นเสียแล้ว!..”

เจียงหมิงไม่สามารถลดความรู้สึกไม่สบายใจที่เกิดขึ้นในใจของเขาได้ เขาต้องการให้บันทึกเส้นทางของมนุษย์แสดงอดีตของบุคคล อนิจจามันยังไม่มีระบบแบบนั้น

สำนักจิวหยางค่อนข้างมีเสถียรภาพ ไม่มีเหตุการณ์แปลก ๆ ไม่มีรายงานของศิษย์ที่หายไปอย่างกะทันหันในช่วงแปดปีที่ผ่านมาปรมาจารย์ในสำนักนั้นทรงพลังและเหล่าสาวกก็แข็งแรง

ด้วยความคิดนี้ เจียงหมิงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

“สมองของข้าปวดจากความคิดทั้งหมดนี้”

หลังจากนั้นครู่หนึ่งเจียงหมิงได้ศึกษาเนื้อหาของตำราการสร้างค่ายกลพื้นฐาน เขาวางแผนที่จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างค่ายกลและกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างค่ายกล เขาต้องการสร้างค่ายกลแบบที่ไม่มีใครเทียบได้บนภูเขาเพื่อความปลอดภัยของทุกคน โดยเฉพาะหลิงหลงด้วย เขาต้องดูแลเธอ

เจียงหมิงหลับตาและเข้าใจข้อมูลจากตำรา เขาได้เคยพยายามเรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างค่ายกลก่อนหน้านี้ แต่เขาแทบจะไม่ได้แม่แต่ขีดข่วนพื้นผิวของมันด้วยความรู้ของเขาเลย

เจียงหมิงขยันหมั่นเพียรศึกษาตำราและตั้งใจแน่วแน่ที่จะฝึกหนักอีกครั้ง

ยอดเขาจื่อหยาง

มีคนจำนวนมากในห้องโถง และจำนวนมากกระจัดกระจายไปทั่วภูเขา เห็นได้ชัดว่ามันมีชีวิตชีวากว่ายอดเขาฉูหยาง

ภายในห้องโถงที่สูงที่สุด

“ท่านอาจารย์ จื่อหลิงหลงอายุเพียง 10 ขวบ แต่เธอทำให้ข้าบาดเจ็บได้อย่างง่ายดาย เธอดูผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด เราสามารถทำอะไรกับสิ่งนี้ได้หรือไม่” หลิงหู่หยินถามเบา ๆ

เยว่เฉิงมีบรรยากาศที่กดดันของลำดับแรก เขาจ้องไปที่ลูกศิษย์ของเขาและพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าลืมแล้วหรือ ว่าข้าบอกว่าอย่าสร้างปัญหากับยอดเขาฉูหยางโดยไม่ได้รับอนุญาตจากข้า!”

“แต่ทำไมล่ะท่านอาจารย์” หลิงกหู่หยินงงงวย “คนแก่คนนั้น กู้ไห่ เห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะที่จะเป็นลำดับแรก…”

หลิงหู่หยินหยุดพูดเมื่อเขาเห็นการจ้องมองที่เย็นชาของเยว่เฉิง

“เจ้ามันปัญญาอ่อน! ออกไปให้พ้นหน้าข้าซะ” เยว่เฉิงกล่าวอย่างเย็นชา

หลิงหู่หยินตัวสั่นและรีบถอยกลับ

“ฉูหยางเฟิง, กู้ไห่,..จื่อหลิงหลงอายุ 10 ขวบ!” เยว่เฉิงพึมพำภายใต้ลมหายใจขณะที่เขาหลับตา “ก่อนหน้านี้เจ้าโชคดี ข้าไม่ควรทำอะไรในตอนนี้ ข้าต้องอยู่ให้พ้นจากสิ่งนี้ ข้าจะรอ…”

ยอดเขาฉูหยาง

เจียงหมิงลืมตาขึ้นเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน

“นี่คือพื้นฐานของการสร้างค่ายกลงั้นหรือ?”

เขารู้สึกหนักใจเล็กน้อย แม้ว่านี่จะเป็นเพียงความรู้พื้นฐาน แต่ก็เกินข้อมูลที่มีอยู่ในตำราของยอดเขาฉูหยาง

“นี่มันยากกว่าการทำไร่มาก…” เจียงหมิงถอนหายใจ

“ทำไมข้าถึงควบคุมสิ่งนี้ไม่ได้ด้วยเพียงนิ้วแตะกันนะ”

หลังจากบ่นกับตัวเอง เขาก็ออกจากห้องไปเตรียมอาหารเย็น

ตามปกติเจียงหมิงได้รับรางวัลสำหรับการทำอาหารเย็น

เขาขึ้นไปบนดาดฟ้าหลังจากทำความสะอาดเสร็จเพื่อจ้องมองดวงดาว

ในขณะนี้จื่อหลิงหลงไม่ได้ฝึกฝน เธอนั่งอยู่ข้างๆเขา

ค่ำคืนนั้นเงียบสงัด

เมื่อมันเย็นลงเรื่อยๆ ทั้งคู่ก็กลับไปที่ห้องของตนในที่สุด

หลังจากกลับมาที่ห้องของเขา เจียงหมิงได้สกัดการบ่มเพาะที่เขาได้รับในวันนี้ เมื่อเขาทำเสร็จแล้ว เขาอยู่ห่างจากขอบเขตแกนทองคำเพียงไม่กี่ก้าว นอกจากนั้น ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งมากขึ้นอีก..

5 2 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด