เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 169
ตอนที่ 169
“มีเหล่าอัจฉริยะจากที่อื่นอยู่มากมายเพียงใด?”
“มากเกินไป” ชายในชุดเกราะผู้นั้นดึงเอาแผ่นหยกออกมาก่อนจะส่งให้หวังตี้เหออย่างระมัดระวัง จากนั้นมันก็เอ่ยขึ้น
“มีกองกำลังที่น่าเกรงขามมากมายปรากฏตัวขึ้น ข้าจึงไม่กล้าจะบันทึกสิ่งใดมากนัก อย่างไรเสีย ข้าก็ได้สอดส่องพวกมันมาบ้าง อย่างเช่นอาณาจักรศิลาจากอาณาเขตสงคราม ตระกูลหยวนโย่วจากอาณาเขตเก้าสุสาน และราชวงศ์อมตะ.... ตระกูลทั้งหลายของอาณาเขตเหนือครามเองก็ส่งอัจฉริยะของพวกมันมาเช่นกัน”
ตาแก่หวังโบกมือคราหนึ่ง แผ่นหยกนั้นก็ได้รับปราณกระตุ้นการทำงาน และรูปภาพมากมายก็ปรากฏขึ้น
เบื้องหน้าของกำแพงเมืองที่ผุพัง มีผู้คนมากมายยืนอยู่ พวกมันมิได้ดูมีอายุแต่อย่างใด และล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะขั้นยอดจากหลากหลายตระกูล
ไกลออกไป มีนาวาศึกและนาวาล่องอากาศมากมาย ผู้คนที่อยู่ที่นั่นต่างทรงพลังยิ่งนัก พวกมันย่อมต้องเป็นผู้ปกป้องของเหล่ารุ่นเยาว์ทั้งหลาย
“บรรพบุรุษ แดนลึกลับจะเปิดขึ้นในคืนนี้แล้ว พวกเราควรส่งตัวอัจฉริยะระดับสูงของตระกูลไปหรือไม่ขอรับ?” ชายผู้นั้นเอ่ยถามอย่างเคารพ
“แดนลึกลับเก่าแก่กว่าล้านปีนับว่าเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่และหาได้ยาก หากมิใช่เพราะว่ามันอนุญาตให้เพียงรุ่นเยาว์เข้าไปเท่านั้น ข้าเองก็อยากจะเข้าไปเช่นกัน... ช่างเถิด ส่งตัวเจ้าเด็กคนนั้น หวังเถิงเฟย ไปที่นั่น”
หวังตี้เหอยกมือของมันขึ้น ดวงตาเปล่งประกาย
“ในตอนนี้ สำนักศึกษาเซียนอมตะของอาณาเขตกลางกำลังจะเปิดทดสอบขึ้น ยิ่งกว่านั้น พวกเขาย่อมต้องส่งคนของตนเองเข้าไปยังแดนลึกลับอย่างแน่นอน...”
“เถิงเฟยจำเป็นต้องไปที่นั่น อายุของมันก็อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม ด้วยพรสวรรค์ของมัน ย่อมต้องสามารถเข้าสำนักศึกษาระดับสูงได้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าในแดนลึกลับนั้นจะอันตราย แต่อย่างไรเสียก็เป็นโอกาสอันหาได้ยากยิ่งนัก ไม่มีเหตุผลใดให้ต้องกังวลเกินไป ยิ่งกว่านั้น ในเส้นทางแห่งการบ่มเพาะนี้ หากมันมิเสี่ยงเสียบ้าง และจะไปยังจุดสูงสุดได้อย่างไรกัน?”
ในตอนนั้นเอง บรรพบุรุษตระกูลหวังเหมือนจะนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ ดวงตาของมันเย็นชายามมองไปยังทิศของอาณาจักรฉีซาน มันหรี่ตาลงเล็กน้อย
“ต่อให้ตระกูลมีเจ้าเด็กสวะนั่นแล้วอย่างไร?”
“ตระกูลข้ามีหวังเถิงเฟยซึ่งมีชะตาจะขึ้นเป็นจักรพรรดิ!”
“คอยดูเถิด ในยามที่ทารกสวะนั่นเปล่งประกาย อัจฉริยะของตระกูลข้าก็ขึ้นไปเหยียบอยู่บนท้องฟ้าแล้ว! ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็มิอาจเทียบได้กับคนของข้า!”
“ตระกูลหวังของข้าจะสยบตระกูลหลินและทำให้พวกเจ้าไม่อาจจะเงยหน้าขึ้นมาได้อีกตลอดกาล!”
..............
กาลเวลาเคลื่อนผ่านไป หลังจากแดนลึกลับในทะเลไร้ขอบเขตเปิดขึ้น อัจฉริยะนับไม่ถ้วนจากอาณาเขตเหนือครามก็มุ่งหน้าไปยังที่แห่งนั้น
เดิมที ในตอนนี้ตระกูลหลินและราชวงศ์อมตะกำลังต่อสู้กัน ทั่วทั้งอาณาเขตเหนือครามต่างตกอยู่ในความปั่นป่วน บัดนี้ เรื่องต่างๆ กลับสงบลงราวกับผู้บ่มเพาะในโลกใบนี้หายตัวไปจนหมดสิ้น
ทว่า หลังจากที่แดนลึกลับเปิดออก ภายในไม่กี่วันก็ปรากฏอัจฉริยะวัยเยาว์มากมายที่ต้องการจะค้นหาโอกาสและสมบัติล้ำค่าปรากฏขึ้น!
เวลาผ่านไปเพียงสี่วันเท่านั้น ทว่าเหล่าอัจฉริยะน้อยทั้งหลายกลับสามารถพัฒนาการบ่มเพาะของตนได้อย่างมหาศาล สมบัติและมรดกทั้งหลายที่พวกเขาได้รับนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ล้ำค่ายิ่งของโลกใบนี้!
ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังมิได้เดินทางเข้าไปลึกในแดนลึกลับแต่อย่างใด เพราะรู้ตัวดีว่าไม่สามารถต่อกรกับอัจฉริยะจากกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลายได้ พวกเขาเพียงค้นหาสมบัติโดยรอบไม่ไกลนับ และถอยหนีทันทีเมื่อได้รับสิ่งที่มีประโยชน์!
สิ่งนี้ทำให้คนทั้งหลายต่างตื่นตะลึง เพียงรอบนอกของแดนลึกลับก็เต็มไปของล้ำค่ามากมาย หากว่าเดินทางลึกเข้าไปในดินแดนแห่งนี้ จะมีสิ่งใดที่ปรากฏอยู่กัน?
อย่างไรก็ตาม เหล่ารุ่นเยาว์ทั้งหลายก็ได้รับโชคและโอกาสที่ดียิ่ง และพวกเขาก็พอใจมากเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อตระกูลต่างๆ ได้ต้อนรับการกลับมาของเหล่าอัจฉริยะน้อยทั้งหลาย พวกเขาต่างรีบพาคนของตนเองกลับไปยังตระกูลทันที!
มีเหล่าคนมากมายที่ประสบความสำเร็จในการนำสมบัติกลับไปยังอาณาเขตเหนือคราม ตระกูลอื่นๆ ที่เฝ้าคอยอยู่เองก็เริ่มต้องการส่งอัจฉริยะของตนเข้าไปยังแดนลึกลับเพื่อค้นหาสมบัติล้ำค่า!
เหล่ารุ่นเยาว์ทั้งหลายต่างกลับมาพร้อมทรัพยากรมากมาย!
ทักษะศักดิ์สิทธิ์ อักขระมนตรา สมบัติล้ำค่า... เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครคาดคิดว่าก่อนว่าจะปรากฏอยู่ในแดนลึกลับแห่งนี้!
กระทั่งเหล่าอัจฉริยะขั้นสูงบางคนที่นำเอาสมบัติชั้นยอดที่กระทั่งเหล่าผู้บ่มเพาะแดนแก่นทองคำยังต้องน้ำลายสอออกมา!
ทรัพยากรมากมายปรากฏขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ขอเพียงแค่พวกเขาสามารถจะเข้าไปเก็บเกี่ยวมันได้!
หากมิใช่เพราะความจริงที่ว่าสามารถเข้าไปยังแดนลึกลับนั้นได้เพียงครั้งเดียวแล้วล่ะก็ เหล่ากองกำลังทั้งหลายย่อมต้องส่งคนทั้งหมดของพวกเขาเข้าไปยังแดนลึกลับแห่งนั้นเพื่อแกวาดเอาทรัพยากรทั้งหมดออกมาอย่างแน่นอน!
ในตอนนี้ ตระกูลทั้งหลายที่เสียอัจฉริยะของตนไปต่างก็เจ็บช้ำในหัวใจยิ่งนักเมื่อได้เห็นสิ่งที่ตระกูลอื่นๆ นำออกมาจากแดนลึกลับแห่งนั้น!
“บัดซบ! เหตุใดเรื่องน่าเศร้าเช่นนี้จึงเกิดขึ้นกับข้า แดนลึกลับอายุนับล้านปีปรากฏขึ้น และนี่นับว่าเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่สำหรับเส้นทางการบ่มเพาะของพวกเรา โอกาสเช่นย่อมมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทว่าการต้องพลาดสิ่งที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ไป...”
“ต่อให้โศกเศร้าแล้วอย่างไร? ราชวงศ์อมตะใช่ตัวตนที่พวกเราสามารถจัดการได้อย่างง่ายดายเช่นนั้นหรือ?”
“อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเหล่าตระกูลที่สูญเสียอัจฉริยะไปจะน่าสงสารเพียงใด ก็มิอาจเทียบได้กับตระกูลหลิน พวกเขาไม่มีแม้แต่โอกาสในการได้เข้าไปยังแดนลึกลับเสียด้วยซ้ำ เมื่อเมืองต้าหยานกลายเป็นสถานที่ซึ่งมิอาจเข้าไปและออกมาได้เช่นนี้ สถานะของพวกเขาย่อมต้องตกต่ำลงอย่างแน่นอน...”
เหล่าตาแก่ทั้งหลายที่ได้ยินประโยคนั้นทำได้เพียงถอนหายใจและส่ายหน้าไปมา
กล่าวได้ว่าการเปิดขึ้นของแดนลึกลับในทะเลไร้ขอบเขตนั้นคือโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นของอาณาเขตเหนือคราม
หากว่าเป็นช่วงเวลาก่อนที่แดนลึกลับจะเปิดออก เซียนน้อยตระกูลหลิน หลินซวน คืออัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งของโลกใบนี้!
ทว่าบัดนี้ เขาก็เป็นได้เพียงคนธรรมดาเท่านั้น
นี่เป็นเพราะว่าเหล่าอัจฉริยะจากตระกูลทั้งหลายสามารถได้รับโอกาสที่หาได้ยากยิ่งจากแดนลึกลับ และระดับการบ่มเพาะของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
เช่นนั้นแล้ว ทรัพยากรมีค่ามากเพียงใดที่อัจฉริยะชั้นยอดเช่นคนของอาณาจักรศิลา ตระกูลหยวนโย่ว และกองกำลังขนาดยักษ์อื่นๆ จะได้รับจากการเข้าไปยังส่วนลึกของแดนลึกลับกันเล่า?
ต้องรู้ก่อนว่าแห่งนี้มิใช่เพียงคลังสมบัติธรรมดา หากแต่เป็นคลังมหาสมบัติของอาณาจักรสวรรค์ มีทรัพยากรมากมายที่มิอาจจะอธิบายได้อยู่เต็มไปหมด หากใครก็ตามพลาดโอกาสในครั้งนี้ นั่นย่อมหมายความว่าพวกเขาพลาดโอกาสในการจะแข่งขันกับผู้อื่นได้ในอนาคตไปเสียแล้ว!
แม้ว่าเหล่ารุ่นเยาว์จากตระกูลเล็กทั้งหลายอาจจะยังไม่สามารถเทียบกับหลินซวนได้ แต่เมื่อเหล่าอัจฉริยะชั้นยอดจากกองกำลังยิ่งใหญ่ทั้งหลายกลับออกมา พวกเขาย่อมสามารถจะสยบหลินซวนได้อย่างแน่นอน!
ต่อให้เซียนน้อยตระกูลหลินจะเต็มไปด้วยพรสวรรค์แล้วอย่างไร?
เขาก็ไม่มีหนทางในการได้เข้าไปยังแดนลึกลับแห่งนี้ และไม่มีโอกาสได้พบเจอทรัพยากรล้ำค่าทั้งหลาย ในอนาคตเส้นทางการบ่มเพาะย่อมต้องคับแคบลง แล้วในที่สุดก็จะถูกคนในรุ่นเดียวกับทิ้งไว้เบื้องหลัง สุดท้ายก็กลายเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญเท่านั้น!
………….
“พวกเราพลาดโอกาสครั้งใหญ่ไปเสียแล้ว”
บัดนี้ ในเมืองต้าหยาน ผู้คนของตระกูลหลินได้พวกกล้ำกลืนความโกรธเอาไว้ในหัวใจ
“ราชวงศ์อมตะช่างน่าด้านเหลือเกินจะเอ่ย!” ตอนนั้นเอง ในจวนแห่งหนึ่ง หลินเฮ่าเต็มไปด้วยสายตาอันเย็นชา
หลังจากพักรักษาตัวอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง หลินเฮ่าก็ตื่นขึ้นมา อาการบาดเจ็บทั้งหลายฟื้นฟูขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ทว่าการต่อสู้ในครั้งนั้นได้ทำร้ายจุดกำเนิดปราณของเขา การบ่มเพาะของเขาเองก็ลดลง จนกลับไปอยู่ในขั้นที่เก้าของแดนปราณอาณาเขตม่วงเท่านั้น