อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 27 พรสวรรค์ของฮาร์ดี้
ตอนที่ 27 พรสวรรค์ของฮาร์ดี้
“หัวหน้าของเรา?”
ฮาร์ดี้ถามด้วยความแปลกใจ
“ใช่ หัวหน้าที่แท้จริงของชาวยิว ผู้นำในโลกใต้ดินของลอสแองเจลิส หนึ่งในผู้ก่อตั้งมาเฟีย เบนจามิน ซีเกล หัวหน้าของฉัน”
เฟร็ดพูดชื่อซีเกลด้วยความเคารพ
เมื่อมาเฟียมาที่ลอสแองเจลิสเพื่อเริ่มทำธุรกิจ เฟร็ดเป็นหนึ่งในลูกน้องที่มีความสามารถของซีเกล หลังจากที่แก๊งยิวตั้งหลักในลอสแองเจลิสได้อย่างมั่นคงแล้ว ซีเกลก็ออกไปคุมเบื้องหลัง และให้เฟร็ดมารับตำแหน่งหัวหน้าของแก๊งชาวยิวแทน
‘เบนจามิน ซีเกล’
หลังจากได้ยินชื่อนี้ ฮาร์ดี้ก็นึกถึงหนังเรื่องหนึ่งที่เขาเคยดูมาก่อน ‘Bugsy’
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับแก๊งอันธพาลที่โด่งดัง ซึ่งบอกเรื่องราวเกี่ยวกับการลงทุนและการก่อสร้างคาสิโนในลาสเวกัสของ เบนจามิน ซีเกล
เดิมทีซีเกลเป็นหนึ่งในหัวหน้ามาเฟีย และเป็นหัวหน้ากลุ่มนักฆ่ามาเฟีย ในปี 1940 องค์กรได้ส่งเขาไปยังลอสแองเจลิสเพื่อขยายอาณาเขตและอำนาจของมาเฟีย
ซีเกลได้สั่งธันเดอร์ ลูกน้องเขาให้ไปกวาดล้างแก๊งต่างๆ ในลอสแองเจลิส และก็ทำการตั้งแก๊งชาวยิวขึ้นมา ซึ่งแก๊งชาวยิวได้เป็นแก๊งที่มีอำนาจมากที่สุดในลอสแองเจลิส ในเวลาอันสั้น
อย่างไรก็ตาม หลักจากก่อตั้งแก๊งแล้ว เขาไม่ได้ไปทำงานเบื้องหน้า แต่ได้ส่งเฟร็ดขึ้นมาดูแลจัดการภายในแก๊งแทน เขาได้ซื้อบริษัทภาพยนต์และกลายเป็นคนดังในฮอลลี่วูด คนดังหลายคนเป็นเพื่อนกับเขา
ซีเกลเป็นผู้ชายโรแมนติกที่มีความสัมพันธ์กับนักแสดงดาราหญิงและคนในวงในมากมาย ต่อมาเขาได้พบกับ เวอร์จิเนีย ฮิล สาวสวยนักแสดงฮอลลีวูดตัวน้อยที่ไม่มีใครรู้จัก ซึ่งซีเกลตกหลุมรักอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อสร้างคาสิโนในลาสเวกัสเสร็จ เขายังแต่งตั้งเวอร์จิเนีย ฮิลให้ดูแลด้านการเงินด้วย แต่ในตอนสุดท้ายคาสิโนของซีเกลก็ล้มละลาย ซีเกลถูกฆ่าตาย และเวอร์จิเนีย ฮิลก็ฆ่าตัวตายด้วยการยิงปืนกรอกปากตัวเอง
นี้เป็นเหตุผลว่าทำไมภาพยนต์เรื่องนี้จึงได้ชื่อว่า ‘Bugsy’ ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักของทั้งคู่
ขณะที่ฮาร์ดี้คิดเรื่องนี้ รถก็มาถึงคฤหาสน์สุดหรูใน เบเวอร์ลี่ฮิลส์ ประตูเปิดออก และขับเข้าไปในสวน ในที่สุดรถก็หยุดอยู่หน้าวิลล่าสามชั้น
พ่อบ้านพาเฟร็ดและฮาร์ดีี้เข้าไปที่สำหน้าสุดหรู และพบกับเบนจามิน ซีเกล
“เฟร็ด มา…มานั่งนี้สิ” เบนจามินยิ้ม แล้วมองไปที่ฮาร์ดี้ “นี้คือคนที่นายพูดถึงในโทรศัพท์ใช่ไหม?”
“ใช่แล้วครับ คุณซีเกล นี่คือฮาร์ดี้”
“ยินดีที่ได้พบ คุณซีเกล” ฮาร์ดี้กล่าวอย่างสุภาพ
ซีเกลยิ้มแล้วพยักหน้า “ช่างเป็นชายหนุ่มที่แข่งแกร่งจริงๆ มานั่งด้วยกันสิ” เขาหยิบวิสกี้ขึ้นมาบนโต๊ะเทแก้วให้แต่ละคน
ซีเกลนั้นหล่อเหลาอย่างมาก ตาสีฟ้า และดูสุภาพ แต่ฮาร์ดี้รู้ดี้ว่าซีเกลคือฆาตกรตัวจริง เขาเป็นคนบ้าถึงขนาดลอบสังหารมุสโสลินี
ซีเกลสนใจฮาร์ดี้เป็นอย่างมาก เขาเห็นการกระทำทั้งหมดของฮาร์ดี้ในวันที่คาสิโนถูกปล้น เขาเป็นชายหนุ่มที่น่าสนใจจริงๆ
เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เก่งในการควบคุมสถานการณ์ และเป็นหัวหน้าที่คุมลูกน้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เขาเป็นคนที่พรรสวรรค์อย่างแน่นอน
“นายรู้ไหม ฉันอยู่ที่คาสิโนของพวกสเปนเมื่อคืนนี้ด้วย” ซีเกลกล่าว
ฮาร์ดี้ตกใจเล็กน้อย
“ขอโทษด้วยคุณซีเกล ที่ไปขัดจังหวะความสนุกของคุณ” ฮาร์ดี้กล่าว
ซีเกลหัวเราะ “ฉันไม่เป็นไรหรอก แต่เวอร์จิเนียตกใจมาก หลังจากฉันกลับมา ฉันต้องใช้เวลาทั้งคืนกว่าจะปลอบเธอได้”
“เมื่อวานนี้ฉันเห็นการกระทำของนายทั้งหมด มันรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ ลูกน้องของนายนั้นมีทักษะสูงจริงๆ พวกเขาไม่ได้ฆ่าคนบริสุทธิ์ แค่ทำให้พวกเขาตกใจ เรียกได้ว่าเป็นการปล้นที่สมบูรณ์แบบที่สุด ที่ฉันเคยเห็นมา แล้วลูกน้องของนายมาจากไหนกัน?”
“เป็นสหายร่วมรบของผมเอง”
"หลังจากที่ขัดแย้งกับแก๊งอื่นๆ มันก็อันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ ผมรู้สึกว่าผมขาดคนช่วยงาน ผมจึงติดต่อกับเพื่อนร่วมรบหลายคน ซึ่งทุกคนเป็นพี่น้องนาวิกโยธินทั้งหมด” ฮาร์ดี้กล่าว
ไม่น่าแปลกใจ
หลังจากสงครามที่โหดร้าย พวกเขาก็เป็นคนที่รอดชีวิตมาได้
และฮาร์ดี้คนนี้ฉลาดมาก เขารู้ว่ามีปัญหากับแก๊งอื่นๆ จึงเริ่มที่หาคนมาเสริมประสิทธิภาพการต่อสู้ของตัวเอง
“แล้วนายปล้นมาได้เท่าไร?” ซีเกลถามอีกครั้ง
“210,000 ดอลลาร์” ฮาร์ดี้กล่าว
“โอ้ มันเยอะมาก”
เฟร็ดมองไปทีซีเกล “หัวหน้า ส่วนแบ่งของแก๊ง 63,000 เงินนี้ยังไม่ถูกตรวจสอบ และยังไม่มีใครรู้เรื่อง คุณจะจัดการกับเงินอย่างไร?”
ซีเกลโทรหาฮาร์ดี้ให้มาพร้อมกับเงิน เฟร็ดพอจะเข้าใจซีเกลได้ว่า เขาต้องการอะไร
“เอามาให้ฉัน ตอนนี้ฉันยังมีปัญหาทางการเงินอยู่ ดังนั้นอย่างให้คนรู้เรื่องเงินก้อนนี้” ซีเกลพูดอย่างตรงไปตรงมาm
“ครับบอส” เฟร็ดกล่าว
“ว่าแต่ การตรวจสอบเรื่องไวน์เป็นอย่างไรบ้าง?” ซีเกลถาม
เฟร็ดหยุดคิดไปครู่หนึ่ง “ยังไม่รู้อะไรเลยครับ”
ใบหน้าของซีเกลเริ่มบึ้ง “ฉันไปเจอเพื่อนคนนึงเพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องไวน์ที่ถูกยึดไป ซึ่งวิธีแก้ปัญหาที่ดีสุดคือยอมจ่ายภาษีนำเข้า เพื่อเปลี่ยนไวน์เหล่านั้นให้เป็นสินค้านำเข้าอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งฉันซื้อไวน์พวกนี้มา 200,000 ดอลลาร์และจะต้องจ่ายภาษีเพิ่ม 200,000 ดอลลาร์นายคิดว่าฉันควรทำยังไง?”
ซีเกลพูดอย่างไม่พอใจ
เฟร็ดก้มหัวลง
เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของเขา
ซึ่งสินค้านี้ยังเป็นความยังคงเป็นที่ต้องการหรือไม่นั้นเขาไม่ทราบได้ เขาคิดอย่างลังเลอยู่พักนึง
ภาษีนำเข้านั้นสูงมาก และราคาขายส่งของแก๊งนั้นถูกกว่าช่องทางขายแบบถูกกฎหมายมากๆ แม้ว่าจะยอมจ่ายภาษีเพื่อนำไวน์พวกนี้มาขาย ก็จะได้แค่ทุน นอกจากนี้ยังมีเรื่องส่วนแบ่งที่ต้องให้แก๊งอีกผลลัพธ์สุดท้าย อาจจะต้องขาดทุนเลยด้วยซ้ำ
ต่อให้เลือกทางไหนก็มีแต่ขาดทุน
ซีเกลรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับความลังเลของเฟร็ด เขาเป็นลูกน้องที่เชื่อฟังมาโดยตลอด สาเหตุที่เฟร็ดได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าแก๊งยิวใน Los Angeles เพราะความเชื่อฟังที่เฟร็ดมี อย่างไรก็ตามเฟร็ดไม่มีความสามารถที่จะพัฒนาแก๊งชาวยิวให้ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้เลย และความมุ่งมั่นของของเฟร็ดนั้นเห็นได้ชัดว่ามันไม่เพียงพอเลย
ตอนที่เขามอบตำแหน่งหัวหน้าในลอสแองเจลิสให้ เขาหวังให้เฟร็ดพัฒนาแก๊งยิวให้มีอำนาจมากขึ้นไปอีก และมันยังคงเหมือนเดิมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแก๊งชาวยิวไม่สามารถขยายอำนาจได้เลย
หันไปมองฮาร์ดี้
“ฮาร์ดี้ ถ้าเป็นนายจะทำอย่างไร นายจะแก้ปัญหานี้ยังไง?” ซีเกลมองไปที่ฮาร์ดี้แล้วถาม
ฮาร์ดี้คิดอยู่ครู่นึง
“ผมจะเลือกไม่จ่ายภาษี การที่สินค้าถูกยึด มันถือได้ว่าเป็นความล้มเหลวแล้ว ถ้าผมจ่ายภาษีและรับสินค้าคืน นอกจากมันจะไม่ทำเงินแล้วมันยังเป็นการเสียเวลาเปล่าประโยชน์”
“แต่มันยังมีอีกทางหนึ่งถ้าโชคดีบางทีเราอาจจะเอาสินค้าพวกนี้กลับมาได้
“โอ้ นายจะเอามันออกมายังไง?” ซีเกลเริ่มสนใจ
เฟร็ดมองไปที่ฮาร์ดี้
“โกดังของศุกลการไม่มีการเฝ้าระวังมากนัก เราสามารถขโมยไวน์ชุดนั้นได้ ราคาไวน์ 250,000 ดอลลาร์นั้นคุ้มค่ากับการลงมือแน่นอน”
ซีเกลส่ายหัว
“มีหลายคนรู้ว่าสินค้านั้นมาจากแก๊งชาวยิว ถ้าสินค้าพวกนั้นถูกปล้น ทุกๆ คนก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ นอกจากนี้ ฉันไปหาใครสักคนเพื่อเจรจาเรื่องนี้แล้ว ถ้าสินค้าถูกปล้นพวกเขาก็คงก็ไม่พอใจ”
ซีเกลปฏิเสธความคิดของฮาร์ดี้
ฮาร์ดี้คิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดต่อ
“นอกจากนี้ยังมีวิธีการที่ปลอดภัยกว่าในเอาสินค้ากลับมา หาขวดไวน์เปล่ามาจำนวนหนึ่ง เติมไวน์แดงราคาถูก แล้วบรรจุลงกล่อง จากนั้นซื้อตัวเจ้าหน้าที่ศุลกากรสักคนและไปสลับสินค้ากับสินค้าในโกดังของศุลกากร”
“ความจริงแล้ว ศุลกากรยึดสินค้าไวน์แดงที่เราลักลอบเข้ามาเพียงชุดเดียว แต่พวกเขาไม่รู้ไวน์ที่ถูกยึดมานั้นเป็นของแท้หรือเปล่า ต่อให้พวกเขารู้ว่าสินค้าถูกสลับก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี”
ดวงตาของซีเกลเป็นประกาย
เขาคิดว่าความคิดนี้ของฮาร์ดี้เป็นวิธีที่ดีมาก ไวน์แดงที่ถูกยึดนั้นทั้งหมดเป็นไวน์แดงชั้นนำของฝรั่งเศส แต่ละขวดมีราคาตั้งแต่ สิบดอลลาร์หรือหลายร้อยดอลลาร์ ส่วนราคาของไวน์แดงราคาถูกมีราคาแค่ไม่กี่เซ็นต์ เป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่ามาก
สำหรับวิธีการสลับสินค้านั้น ซีเกลคิดว่าไม่จำเป็นต้องแอบเข้าไปในโกดัง เขามั่นใจว่าสามารถตัดสินบนเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ช่วยสลับสินค้าได้
ซีเกลยิ้มและมองไปที่ฮาร์ดี้
“นายมีความคิดที่ดีมาก เฟร็ด นายยังเก็บใบสินค้าของไวน์ไว้ใช่ไหม? เตรียมไวน์ปลอมให้เท่ากับใบสินค้าด้วย ฉันจะหาทางตัดสินบนเจ้าหน้าศุลกากรลอสแองเจลิส ถ้าวิธีนี้สำเร็จ เราจะได้กำไรกลับคืนมา”
ซีเกลมองไปที่ฮาร์ดี้ ดวงตาของเขาแสดงออกถึงความชื่นชม ชายหนุ่มคนนี้ไม่เพียงเก่งในเรื่องการต่อสู้ แต่เขายังมีความฉลาดหลักแหลมอีกด้วย
เป็นพรสวรรค์ที่หายากจริงๆ
“ฮาร์ดี้ นายสนใจวงการภาพยนตร์ไหม?” ซีเกลถามทันที
ฮาร์ดี้ไม่ได้คาดหวัง ที่ซีเกลจะเปลี่ยนหัวข้อไปอย่างมาก เขาตอบสนองไม่ทันจริงๆ
“ภาพยนตร์? ผมสนใจมันมากจริงๆ”
ซีเกลยิ้ม
“"คืนพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงในวิลล่าของฉัน ในเวลานั้นจะมีเจ้าของบริษัทภาพยนตร์ ตัวแทน ดารา และคนชั้นสูงหลายคน นายจะมาด้วยไหม?."
“ยังไงก็ตาม ถ้านายมีผู้หญิงของนาย นายก็พามาได้”
ฮาร์ดี้คิดอยู่ในใจ
นี้เป็นรางวัลของเขาหรือเปล่า?
หรือเพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง
...