Ep.59 - ทุกอย่างพร้อมแล้ว
3/3
Ep.59 - ทุกอย่างพร้อมแล้ว
ในร้านคาเฟ่
ฮังอวี่กับซูหยุนปิงนั่งลงตรงข้ามกัน
“นี่คือผลไม้วิญญาณสามลูก , ไม้เท้า และเกราะอกตามที่ตกลงกันไว้” ฮังอวี่ไม่อยากเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว เขาไม่รอให้ซูหยุนปิงเปิดบทสนทนา นำทุกอย่างออกมาในพริบตาเดียว
“ทุกสิ่งที่อาจารย์ซูต้องการอยู่ที่นี่แล้ว แล้วไหนของที่ผมต้องการ?”
ซูหยุนปิงตรวจสอบพวกมันทีละชิ้น เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็นำหินสกิลออกมา
“เอ้านี่ นี่คือหินสกิลกลั่นยาที่นายต้องการ”
ทั้งสองแลกเปลี่ยนกันอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดฮังอวี่ก็ได้รับของตามปรารถนา แม้ราคาที่ต้องจ่ายจะสูงมากก็ตาม แต่ก็ยังคุ้มค่าสำหรับเขา เพราะยังไงซะ เวลาคือสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ แล้วจะให้เริ่มตอนไหน!
หากเขาพลาดโอกาสในช่วงเวลานี้ ผลร้ายจะไม่ใช่แค่การสูญเสียอุปกรณ์หนึ่งหรือสองชิ้นแบบในตอนนี้แน่นอน
ฮังอวี่ใช้หินสกิลโดยไม่พูดอะไรซักคำ เรียนรู้สกิลกลั่นยาโดยตรง
“ยินดีที่ได้ร่วมมือกัน” ในสมองของฮังอวี่มีแต่เรื่องที่ว่าสมุนไพรพร้อมเก็บเกี่ยว ดังนั้นไม่อยากสนทนากับอาจารย์ซูอีกแม้แต่ครึ่งคำ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวคำอำลาทันที
“ในเมื่อหมดธุระแล้ว ผมยังมีอย่างอื่นที่ต้องทำ ขอตัวก่อน”
“รอเดี๋ยว!”
ซูหยุนปิงงงมาก ไฉนเด็กหนุ่มถึงมีท่าทีแบบนี้กับเธอ
ตามปกติแล้ว ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น เมื่อได้เจอเธอ พวกเขามักทำตัวเหมือนพลาสเตอร์หนังสุนัข เกาะติดไม่ยอมปล่อย
ตรงกันข้ามกับทัศนคติของฮังอวี่ ที่ไม่เต็มใจจะรั้งอยู่แม้ซักวินาทีเดียว ทำราวกับเธอเป็นเทพแห่งโรคระบาด
เรื่องนี้ทำให้เธอทั้งประหลาดใจและคาดไม่ถึง
ฮังอวี่ไม่เข้าใจ เขามีอย่างอื่นต้องทำจริงๆ ทำไมอาจารย์ซูถึงยังรั้งเขาไว้อีก?
“ไม่ทราบอาจารย์ซูยังมีเรื่องอะไรอีก?”
“วันสองวันจากนี้ นายพอมีเวลาไหม?” ซูหยุนปิงผลักกรอบแว่นขอบดำแล้วพูดว่า “ฉันกำลังวางแผนออกปฏิบัติการในเร็วๆนี้ ร่วมมือกับสมาชิกอาวุโสหลายคนของสมาคมโลกวิญญาณ อาจได้รับผลกำไรที่ดี นายสนใจไปด้วยกันไหม?”
ฮังอวี่ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ แค่เอ่ยถามว่า “ปฏิบัติการแบบไหน?”
“เกิดความผิดปกติขึ้นในแม่น้ำแยงซี ปรากฏหมอกหนาหลายจุดเหนือน่านน้ำ และพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำในเจียงเฉิงของเราก็เป็นหนึ่งในนั้น
“ฉันมีช่องทางพิเศษ เลยได้ข้อมูลนี้มาล่วงหน้า ว่าอาจได้รับวัตถุดิบดีๆจากสถานที่แห่งนั้น และมันน่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาในช่วงต้นๆ แต่อันตรายก็มากเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่ต้องเชื้อเชิญยอดฝีมือ”
“มีสมาชิกของสมาคมโลกวิญญาณไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าไป แต่ก็อย่างที่บอก ยิ่งเสี่ยงมาก ผลกำไรก็ยิ่งมาก ถูกไหม?” อาจารย์ซูดันแว่นขึ้นอีกครั้ง “คนเราระมัดระวังตัวมากไป สุดท้ายก็ยากที่จะสร้างความแตกต่างจากคนอื่นๆ”
“สถานการณ์ก็ราวๆนี้ ฟังดูเป็นไง นายสนใจไหม?”
ซูหยุนปิงเชื่อว่าเป็นเรื่องยากที่ฮังอวี่จะปฏิเสธ เพราะตามปกติยากนักที่เธอจะเอ่ยเชิญผู้ชาย และยากยิ่งกว่าที่คนเหล่านั้นจะปฏิเสธ
และที่สำคัญที่สุดก็คือ ความร่วมมือในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เป็นประโยชน์สำหรับทุกฝ่าย
แล้วแบบนี้ ยังเหลือเหตุผลอะไรให้ต้องปฏิเสธอีก?
“อาจารย์ซูผมต้องขอโทษด้วย ช่วงนี้ผมยุ่งมากจริงๆ เกรงว่าคงไม่มีเวลา!”
สิ่งที่ซูหยุนปิงคาดไม่ถึงก็คือ ฮังอวี่ปฏิเสธแบบตาไม่กระพิบ “ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน”
ใบหน้าของซูหยุนปิงแข็งค้าง
เฮ้ย! นี่นายจริงจังใช่ไหม?
ไอ้เด็กตัวเหม็น กล้าปฏิเสธเธอจริงๆหรือ?
ขอถามหน่อยเถอะ ทำไมเขาถึงปฏิเสธ? มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธด้วย?
“อย่างงั้นหรือ น่าเสียดายนะ”
อย่างไรก็ตาม ซูหยุนปิงไม่ใช่คนธรรมดา แม้ในใจเคลือบแคลงสงสัย แต่ก็ไม่คิดดื้อดึงรั้งเขาไว้
“แต่ฉันหวังว่านายจะลองกลับไปทบทวนดูอีกที ถ้าเกิดเปลี่ยนใจ โทรหาฉันได้ตลอดเวลา”
ซูหยุนปิงต้องการให้ ฮังอวี่ร่วมมือ เพราะเธอสนใจเขามาก อยากรู้ว่าอีกฝ่ายมีความสามารถอะไร และปัจจุบันแข็งแกร่งถึงขนาดไหน
ส่วนฮังอวี่ มีหรือเขาจะไม่รู้ความคิดของซูหยุนปิง? แต่เขาไม่สนใจเข้าร่วมกับทีมไหน
มอนสเตอร์ในโลกจริงวันนี้ มันจะแข็งแกร่งซักแค่ไหนเชียว?
ไอ้ผลกำไรคุ้มค่าน่ะไม่เถียง แต่สำหรับเขาแล้ว มันไม่จำเป็นต้องร่วมทีมเลย
บิดามีสกิลล่องหน ถ้ามีของดีจริง งั้นลอบเข้าไปเอาคนเดียวไม่ง่ายกว่าหรือ?
ทำไมต้องร่วมมือกับคนอื่นๆด้วย?
จุดสำคัญที่สุดก็คือ ฮังอวี่จะไม่ยอมก้มหัวให้คนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอย่างซูหยุนปิงที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องเขา
...
ณ คฤหาสน์เก่าในตรอกมังกรฟ้า หวังเอ๋อกำลังตั้งสมาธิเล่นPUBGในมือถือ อุ้งเท้าของมันมีว่องไวมาก สามารถทำงานได้อย่างลื่นไหล
เห็นแค่เพียงสุนัขกวาดมุมกล้องยิงสังหารไปทุกทิศทาง ศพแล้วศพเล่าร่วงไปกองกับพื้น
แต่ในตอนนั้นเอง ใครจะไปทันคิด ว่าประตูห้องจู่ๆถูกผลักเข้ามา
ฮัสกี้ได้กลิ่นอายของเจ้านาย มันรีบซ่อนมือถือ จากนั้นหยิบหนังสือศิลปะสงครามของซุนวูขึ้นมา แสร้งทำเป็นกำลังซาบซึ้งกับ 36 กลยุทธ์อย่างลึกล้ำ
ฮังอวี่เดินเข้ามาพร้อมกับถังใบใหญ่ หวังเอ๋อเห็นแบบนั้น ก็เกิดอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที มันดีดตัววิ่งสี่ขามาหาเขา เห่าฮ่งฮ่ง
“ฮ่ง! เจ้านาย เจ้านาย เจ้านายเอาถังใบใหญ่ขนาดนี้กลับมาทำไม? ไม่นะ! จะจับเปิ่นหวังไปเคี่ยวไม่ได้นะ!”
ฮังอวี่แบกถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 ปอนด์
ด้วยพละกำลังในตอนนี้ของเขา มันเยอะยิ่งกว่าแชมป์ยกน้ำหนักรุ่นเฮฟวี่เวทซะอีก ดังนั้นการแบกแท็งค์น้ำใหญ่นี้จึงไม่รู้สึกว่าหนักอะไร
“อย่ามาขวาง ไม่งั้นฉันจะจับนายไปเคี่ยวจริงๆ”
ฮังอวี่ใช้เท้าเตะไล่มัน แล้วเดินไปทางห้องนั่งเล่น จากนั้นใช้สายยางต่อกับท่อน้ำ แล้วเติมมันลงไป สุดท้ายโยนอัญมณีน้ำพุวิญญาณเข้าไปในถัง
น่าจะใช้เวลาสักชั่วโมง เพื่อทำการเปลี่ยนคุณภาพน้ำ
ฮังอวี่คำนวณเวลา ระหว่างรอ เขาตัดสินใจไปดูสวนพืชวิญญาณ
เจ้าตัวพบว่าสมุนไพรพลังจิตและสมุนไพรพลังชีวิตทั้งหมดเติบโตเต็มที่แล้ว
สมุนไพรวิญญาณทั้งสองชนิดง่ายต่อการแยกแยะมาก
สมุนไพรพลังจิตเป็นสีฟ้าคราม สมุนไพรพลังชีวิตเป็นสีแดง มีแสงเรืองรองจางๆเคลือบอยู่เหนือผิวมัน และนี่เป็นสัญญาณว่ามันอันแน่นไปด้วยพลังงานทางวิญญาณ
การเก็บสมุนไพรเป็นเรื่องง่ายมาก แค่ต้องระวัง อย่าเผลอบี้หรือทำให้มันเสียหายก็พอ
สำหรับพืชวิญญาณ ขอแค่ไม่ทำให้มันสูญเสียพลังงานทางวิญญาณไป ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บเกี่ยวโดยใช้สกิลรวบรวมวัตถุดิบ
ฮังอวี่เด็ดสมุนไพรวิญญาณเข้าไปในพื้นที่เก็บของ แถบคุณสมบัติของมันปรากฏขึ้นทันที
[สมุนไพรพลังจิต] : เกรด 1 วัตถุดิบทั่วไป หากรับประทาน จะสามารถค่อยๆฟื้นฟูค่าพลังจิตอย่างช้าๆ เป็นจำนวน 4 หน่วย
[สมุนไพรพลังชีวิต] : เกรด 1 วัตถุดิบทั่วไป หากรับประทาน จะสามารถค่อยๆฟื้นฟูค่าพลังชีวิตอย่างช้าๆ เป็นจำนวน 4 หน่วย
สมุนไพรพวกนี้มีประสิทธิภาพด้อยกว่าผลเบอร์รี่แดงกับฟ้าของก็อบลินเล็กน้อย
ทว่าหากเทียบกับการต้องมานั่งแทะผลไม้แล้ว สมุนไพรพวกนี้สะดวกในการรับประทานกว่ามาก
อย่างไรก็ตาม เอฟเฟกต์ของพวกมันไม่สามารถซ้อนทับได้ ต่อให้กินทีเดียว 10 ต้น แต่ก็สามารถฟื้นฟูได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
แต่จะยังไงก็ช่าง ด้วยสมุนไพรหลายร้อยต้นที่อยู่เบื้องหน้า ทั้งหมดสามารถใช้เป็นยาช่วยฟื้นฟูได้ หรือก็คือ ต่อให้มันไม่ผ่านกระบวนการกลั่นใดๆ แค่นำออกไปวางขาย ก็สามารถทำเงินได้มหาศาล นอกจากนี้ พวกมันยังจำเป็นต่อผู้เล่นสายผลิตเป็นอย่างมาก
“สมุนไพรพลังจิตกว่า 400 ต้น”
“สมุนไพรพลังชีวิตกว่า 200 ต้น”
“ผลไม้แก้ปวดมากกว่า 50 ผล”
“ไม่เลว ไม่เลวเลย อัตราการเก็บเกี่ยวและอัตราการการรอดตายของพืชวิญญาณ สูงอย่างไม่น่าเชื่อ!”
ฮังอวี่พบว่าพืชวิญญาณที่เขาปลูก เกือบทุกต้นสามารถเติบโตได้อย่างราบรื่น มีอัตราการรอดตายและเก็บเกี่ยวเกินกว่า 98%!
ดูเหมือนว่าแม้จะปลูกพืชวิญญาณหลายชนิดในที่เดียวกัน แต่พวกมันไม่แย่งสารอาหารกันเอง พลังชีวิตสูงมาก!
แต่ในตอนนั้นเอง หวังเอ๋อวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีตื่นตระหนก
“ฮ่ง! เจ้านาย! เจ้านาย! ไม่ได้การแล้ว!”
“ถังใบใหญ่ที่เจ้านายแบกมาจู่ๆก็เปล่งแสงสว่าง เหมือนกับว่ามันกำลังจะระเบิดเลย!”
“ไม่ต้องเอะอะโวยวายไป” ฮังอวี่ตอบ เขากลับมายังห้องนั่งเล่น และพบว่าน้ำในถังใสมาก มันเรืองแสงแวววาวอย่างไม่น่าเชื่อ
หากมองจากภายนอก จะพบว่ามีแสงเรืองรองทั่วทั้งถัง ดูมีมนต์ขลังมาก
สถานการณ์ในตอนนี้ มันเหมือนกันน้ำพุวิญญาณในหุบเขาเลย
อัญมณีน้ำพุวิญญาณจะช่วยกลั่นกรอง ทำให้น้ำมีความบริสุทธิ์โดยอัตโนมัติ เปลี่ยนน้ำธรรมดาในถังนี้ ให้กลายเป็นน้ำพุวิญญาณที่มีอาจจะมีเพียงถังเดียวในโลกมนุษย์!
ฮังอวี่ใช้ทัพพีช้อนมันขึ้นมาจิบ
ในเสี้ยวพริบตา ความรู้สึกเย็นสบายไหลผ่านลำคอลงท้องเขา แพร่กระจายไปตามแขนขาและกระดูก เติมเต็มชีวิตชีวาไปทั่วร่างกาย
ฮังอวี่พึ่งทำงานเสร็จ เขารู้สึกว่าความเหนื่อยล้าถูกพัดพาไป เกิดความสดชื่นและสบายตัวมาก
ดี ดีมาก!
ทั้งๆที่เป็นแค่น้ำเปล่า แต่กลับให้รสชาติดีกว่าเครื่องดื่มใดๆ
ฮัสกี้เห็นแบบนั้นก็เห่าออกมาทันที
ชัดเจนว่ามันได้กลิ่นอันเย้ายวนของน้ำพุวิญญาณ
ฮังอวี่เติมน้ำลงในชามใบใหญ่แล้ววางลงพื้น ฮัสกี้แลบลิ้นเลียเพียงสองครั้ง จิตใจของมันพลันสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น มุดทั้งหน้าลงไปในชาม เริ่มสูบกกินอย่างบ้าคลั่ง
เพียงระยะเวลาสั้นๆ น้ำพุวิญญาณในชามใบใหญ่ก็หมดลง
“ฮ่ง ฮ่ง! มันอร่อยมาก!”
“เปิ่นหวังไม่เคยดื่มน้ำที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย”
“เจ้านาย ขออีกชาม เปิ่นหวังอยากดื่มอีก!”
ฮังอวี่ดุ “ไปให้พ้น! น้ำพวกนี้มีไว้ใช้ประโยชน์อื่น ไม่ใช่ให้หมาดื่ม มากสุดฉันอนุญาตแค่วันละ 1 ชามเท่านั้น แล้วก็รู้ใช่ไหม ว่าถ้าแอบดื่ม ฉันจะลงโทษนายยังไง!”
หวังเอ๋อหดหู่ขึ้นมาทันที เขาเกิดความรู้สึกว่า เมื่อได้ดื่มน้ำจากน้ำพุวิญญาณแล้ว น้ำอื่นๆไม่สามารถกลืนได้อีกต่อไป
ฮังอวี่ถอนหายใจยาว
วัตถุดิบพร้อมหมดแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลากลั่นยาอย่างเป็นทางการซักที