CD บทที่ 147 คราวนี้ก็หลุดมือไปอีก
“อะไรนะ!” หลังจากจ้าวหยู่จบประโยค เจ้าหน้าที่ทุกคนที่อยู่ด้วยอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาและใบหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นสีขาวด้วย!
“เอ่อ... เดี๋ยวก่อน ๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ!” จ้าวหยู่ตระหนักว่าเขาพูดเกินไปและรีบขอโทษอย่างรวดเร็ว “ฉันรอให้หัวหน้าเหมี่ยวดึงกางเกงของเธอขึ้นก่อนจะกัดเธอต่างหาก! ฉันกัดเธอที่เสื้อผ้าของเธอน่ะ! อย่าเข้าใจผิดนะ ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ห๊ะ!” ทุกคนอุทานอีกครั้งและใบหน้าของเจ้าหน้าที่ก็เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเขียว! หลังจากนั้น ทุกคนก็เงียบไปและไม่พูดอะไร ทางด้านเหมี่ยวอิง ริมฝีปากของเธอเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธและร่างกายของเธอก็เริ่มสั่น…
เมื่อนึกถึงการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่โรงเรียนตำรวจ สองสิ่งที่เหมี่ยวอิงไม่ต้องการให้คนอื่นพูดถึงมากที่สุดคือกางเกงที่หลุดและเธอถูกกัด ไม่เพียงแต่จ้าวหยู่จะพูดออกมาดัง ๆ เท่านั้น แต่เขายังพูดต่อหน้าลูกน้องของเธอด้วย เธอจะยังสงบสติอารมณ์ได้อย่างไร?
ในขณะนั้น เธออยากจะคว่ำโต๊ะและทุบตีจ้าวหยู่! แต่... นี่เป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำและจ้าวหยู่เป็นตัวแทนของสถานี ดังนั้นจึงไม่สมควรที่จะทุบตีเขา หลังจากคิดอย่างรอบคอบ เหมี่ยวอิงก็ระงับความโกรธที่ลุกโชนของเธอและค่อย ๆ นั่งลง
อย่างไรก็ตาม จ้าวหยู่ดูราวกับว่าเขาไม่สนใจและยังคงชิมปลาแสนอร่อยต่อไป เขาได้พูดคำเหล่านั้นทั้งหมดโดยเจตนา!
“ห๊ะ! นี่เรียกว่าการแลกเปลี่ยนกัน! อย่าคิดว่ามีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถสรรเสริญฉันได้ ฉันก็ยังสรรเสริญคุณได้ด้วย!”
เมื่อเห็นหน้าตาที่ร่าเริงและยียวนของจ้าวหยู่ เหมี่ยวอิงก็จ้องเขาอย่างดุเดือดก่อนจะพูดกับเจ้าหน้าที่อย่างโกรธจัด “เอาล่ะ กินข้าวกันเสร็จแล้ว ไปร้องเพลงที่หลู่หยินคาราโอเกะกัน พวกนายไปหาห้องใหญ่ก่อน ฉันจะ ‘จ่ายบิล’ ที่นี่ แล้วตามไป!”
เจ้าหน้าที่รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องนัก จางรีบก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็วแล้วถามว่า “หัวหน้า…”
"ไปซะ!" เหมี่ยวอิงโบกมือของเธอ “เจ้าหน้าที่จ้าวและฉันจะไปที่นั่นในไม่ช้า!” เมื่อรู้ถึงอารมณ์ของเหมี่ยวอิงก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรและพวกเขาทั้งหมดก็ไปที่รถของพวกเขา
หลังจากที่ทุกคนจากไป มีเพียงเหมี่ยวอิงและจ้าวหยู่ที่เหลืออยู่ในห้อง จ้าวหยู่ไม่ใช่คนโง่และเขาสังเกตเห็นว่าเหมี่ยวอิงโกรธและโมโหมากแต่เขาก็ไม่สนใจ เขายังคงพูดอย่างไม่รู้รู้ร้อนรู้หนาวว่า
"เอาล่ะ หัวหน้าเหมี่ยว ฉันอิ่มแล้ว! ฉันไม่เคยไปหลู่หยินคาราโอเกะมาก่อน ที่นั่นมันอยู่ไกลไหม!?"
เหมี่ยวอิงกำหมัดแน่น ขณะที่เธอเดินไปทางจ้าวหยู่และตะโกนว่า
"จ้าวหยู่! ไสหัวของแกไป! อย่าโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก! ไปซะ!!"
“เอ๊ะ?” แม้ว่าจ้าวหยู่จะเตรียมจิตใจไว้แล้วแต่ความโกรธของเขาก็ถูกจุดขึ้นเช่นกัน หลังจากเห็นการแสดงออกที่โกรธและไร้หัวใจของเหมี่ยวอิง เขาตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า
“หัวหน้าเหมี่ยว เรื่องในคราวนี่ฉันไม่ได้เป็นฝ่ายผิดนะ คุณเป็นคนเริ่มก่อนแต่คุณกลับเป็นฝ่ายโกรธ ฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องโกรธ...”
แต่ก่อนที่จ้าวหยู่จะพูดจบ เหมี่ยวอิงก็ไม่อยากเสียเวลาหายใจร่วมกับคนอย่างเขา เธอเดินจากไปทันที หลังจากที่จ้าวหยู่ออกจากห้องไป เขาเห็นว่าเหมี่ยวอิงที่แคชเชียร์เพื่อรับบิลแล้ว เนื่องจากมีคนรอต่อแถวมากมาย ดูเหมือนว่าเหมี่ยวอิงต้องรอซักพักก่อนจะถึงคิวเธอ!
“หือ คุณบอกให้ฉันไสหัวไปแต่คุณเป็นคนไปก่อนไม่ใช่เหรอ?” จ้าวหยู่พึมพำกับตัวเอง ถ้าเขาเดินหน้าและโต้เถียงกับเธอต่อไป มันคงไม่เหมาะสมจริง ๆ ด้วยเหตุนี้จ้าวหยู่จึงสวมเสื้อโค้ทและออกจากร้านอาหารไป
เขามองไปทางซ้ายและขวาและตระหนักว่าสถานที่นั้นอยู่ไกลจากตัวเมืองมากและไม่มีรถแท็กซี่อยู่รอบ ๆ มันคงจะยากถ้าจะกลับไปโดยไม่ได้นั่งรถกลับ!
‘บ้าเอ๊ย!’ จ้าวหยู่รู้สึกโกรธเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ‘นี่มันหมายความว่ายังไงกันเนี่ย!’ นอกจากรู้สึกโกรธ จ้าวหยู่ยังรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาไม่ต้องการตัดขาดกับเหมี่ยวอิงจริง ๆ มีบางอย่างเกี่ยวกับเหมี่ยวอิงที่ดึงดูดใจเขาอย่างลึกซึ้งแต่เขาไม่เคยตระหนักมาก่อนจนถึงตอนนี้!
เนื่องจากไม่มีรถแท็กซี่อยู่รอบ ๆ เขาจึงต้องใช้แอพแชร์รถ! “ถ้าอย่างงั้น…” จ้าวหยู่เห็นรถโฟล์คสวาเก้นเฟย์ตันของเหมี่ยวอิงและคิดกับตัวเองว่า “ทำไมฉันไม่ซ่อนอยู่หลังรถแล้วแอบเข้าไปเมื่อเหมี่ยวอิงเปิดประตูล่ะ!?” เมื่อความคิดของจ้าวหยู่ผุดขึ้นมา เขาก็เดินไปที่รถ ในระหว่างนั้น เขาเห็นโต๊ะเล็ก ๆ ข้างรถ มีคนสองคนกำลังกินและดื่มอยู่ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ชาย พวกเขาทั้งสองก็มีผมยาว คนหนึ่งอ้วนและอีกคนผอม ทั้งสองคนมีรอยสักที่แขน พวกเขาแต่งตัวพวกพังก์เลย
พวกเขากำลังเมาได้ที่อยู่ด้วย หลังจากเห็นพวกเขา จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็นึกเรื่อง ‘สนุก’ ขึ้นมาได้ เขามองไปที่รถของเหมี่ยวอิงสลับไปกลับชายสองคนนั้น จากนั้น มุมปากของเขาก็ยกขึ้น เขาหยิบเงินหนึ่งร้อยหยวนจากกระเป๋าเงินของเขาและเดินไปหาชายสองคนนั้น
“เฮ้ พวกแกสองคนว่างมั้ย ฉันมีอะไรสนุก ๆ ให้พวกแกทำ! เคะเคะ…” จ้าวหยู่แสร้งทำเป็นเมาแล้วทุบเงินลงบนโต๊ะ “เห็นรถนั่นมั้ย?” เขาชี้ไปที่รถของเหมี่ยวอิง “ใครไปที่นั่นแล้วฉี่บนรถคันนั้นจะได้เงินนี่ไป!”
"อะไรนะ!" ชายผมยาวอ้วนเหลือบมองที่จ้าวหยู่ ก่อนที่จะคำราม "นี่แกบ้าไปแล้วเหรอ ห๊ะ!"
*ปัง*
จ้าวหยู่หยิบกระเป๋าเงินออกมาวางอีกร้อย! คราวนี้ ชายสองคนมองหน้ากันและสีหน้าของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป
“เฮ้…”
ชายร่างผอมเพิ่งอ้าปาก ในระหว่างนั้น จ้าวหยู่ตบเงินเพิ่มไปอีกใบ
ชายสองคนนี้เห็นเงินแล้วรู้สึกสนใจ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็รับเงินคืนหลังจากเห็นว่าทั้งสองได้หลงกลอุบายของเขาแล้ว
“งั้นก็ลืมมันไปซะ! ทำเป็นว่าฉันไม่ได้พูดอะไร ฉันไปล่ะ” ด้วยเหตุนี้เขาจึงหันหลังเดินออกไปแต่ชายร่างผอมก็รั้งเขาไว้ทันที ขณะที่ชายอ้วนก้าวเท้าใหญ่ไปที่รถ!
จ้าวหยู่พยักหน้าอย่างพอใจแล้ววางเงินไว้บนโต๊ะ ในขณะนั้นชายอ้วนที่ไปถึงรถแบะมองไปรอบ ๆ ก่อนจะเริ่มถอดกางเกงออกเพื่อฉี่!
จ้าวหยู่ต้องการรอให้ชายคนนั้นฉี่เสร็จแต่เขาเห็นว่าเหมี่ยวอิงจ่ายเงินเสร็จแล้วและกำลังเดินมาทางนี้!
หัวใจของจ้าวหยู่เต้นผิดจังหวะและเขาก็ทิ้งเงินสามร้อยหยวนไว้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะจากไป เขาเร่งฝีเท้าและวิ่งออกไปไม่ถึง ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของเหมี่ยวอิงตะโกนจากด้านหลังของเขา
"เฮ้! คุณกำลังอะไรน่ะ...ฮึ่ม! ไอ้สารเลว!!!"
“ไอ้เหี้ย! ไอ้สัตว์!” เหมี่ยวอิงโกรธจริง ๆ เธอตบและตะโกนพร้อมกันและเสียงของเธอก็เปลี่ยนไป “ไอ้สารเลว! แกต้องเลียรถฉันให้สะอาด ถ้ามันไม่สะอาดอย่าคิดว่าจะหนีไปจากที่นี่ได้!”
“ฟู่…” จ้าวหยู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดกับตัวเองว่า “โชคดีจริง ๆ ที่เหมี่ยวอิงไม่เห็นฉัน ถ้าเธอรู้ว่าฉันเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังล่ะก็ ฉันต้องจบเห่แน่ ๆ!” จ้าวหยู่ต้องการหันหลังกลับไปมองแต่เขากลัวว่าจะถูกมองโดยเหมี่ยวอิง เขารีบก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็วและเดินออกไป
เขาเดินไปไม่กี่ก้าว เสียงคำรามของชายร่างผอมก็ดังมาจากด้านหลังอีกครั้ง "เอ๊ะ ทำไมเธอถึงทุบตีเรา เราคุยกันได้นะ โอ๊ย! คุณต้องการอะไร โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย..."
*พลัวะ พลัวะ*
ชายร่างผอมร้องโอดคราญ เขาต้องถูกเหมี่ยวอิงทุบตีอย่างรุนแรง!
"ใครก็ได้ช่วยด้วย! มีคนตีเรา ช่วยด้วย...โอ๊ย!"
หลังจากถูกทุบตี ชายคนหนึ่งตะโกนสุดปอดและคนสองสามคนที่กำลังกินไก่เสียบไม้ย่างข้ามถนนก็รีบวิ่งเข้ามา
ไม่กี่วินาทีต่อมา มีเสียงการต่อสู้มากขึ้นในที่ที่เหมี่ยวอิงอยู่ จ้าวหยู่ขมวดคิ้วและอดไม่ได้ที่จะหันกลับมามอง ภายใต้แสงสลัวมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งและเหมี่ยวอิงถูกรายล้อมไปด้วยคนกลุ่มนั้น
ความตั้งใจของจ้าวหยู่คือการแกล้งเหมี่ยวอิงเล่น ๆ แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะทำให้เรื่องมันบานปลายอย่างนี้! ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอคงรับมือไม่ไหว!
ขณะที่จ้าวหยู่กำลังไตร่ตรองว่าจะทำอย่างไร ประตูอาคารข้าง ๆ เขาก็เปิดออกและชายที่ดูคล้ายนักเลงห้าหรือหกคนก็วิ่งออกมา! คนเหล่านี้เล่นไพ่นกกระจอกอยู่ข้างในและยังมีกองเงินอยู่บนโต๊ะไพ่นกกระจอก ในหมู่พวกเขามีชายหน้ารอยแผลเป็นถามว่า
"เฮ้ย!! เกิดอะไรขึ้น เสียงดังโวยวายไปถึงข้างในเลย"
อีกคนพูดว่า “ฉันได้ยินทัลลีร้องขอความช่วยเหลือ เขาโดนใครทุบตีอยู่หรือเปล่า? ไปดูกันเถอะ!”
จ้าวหยู่มองเข้าไปในบ้านและเห็นว่านอกจากโต๊ะไพ่นกกระจอกแล้ว ยังมีกล่องใหญ่อีกหลายกล่อง กล่องใหญ่ทั้งหมดมีคำศัพท์ภาษาเกาหลีอยู่ด้วยและบางกล่องก็มีรูปภาพโทรศัพท์มือถือด้วย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าในกล่องที่เปิดอยู่นั้นมีสายเคเบิลโทรศัพท์มือถือและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับหูฟัง ฯลฯ จำนวนมาก
เนื่องจากความรู้ของเขาจากชีวิตที่แล้วของจ้าวหยู่ สามารถบอกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติในอาคารหลังนั้น พวกเขาลักลอบนำเข้าหรือจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
เมื่อเห็นจ้าวหยู่มองเข้าไปข้างใน ชายผู้เป็นแผลเป็นก็ตะโกนใส่เขาอย่างดุเดือด
"เฮ้ย! แกมองอะไรอยู่?" หลังจากนั้น เขาก็รีบสั่งให้ชายที่อยู่ข้างหลังปิดประตู จากนั้นประตูก็ปิดลงไป
“บอส ฉันคิดว่าพวกเขาทะเลาะกันจริง ๆ!” มีคนชี้ไปที่ที่เหมี่ยวอิงอยู่และตะโกน
"ไปดูกันเลย!" เมื่อชายหน้าแผลเป็นสั่ง ทุกคนก็พุ่งเข้าใส่!
‘เชี่ย เชี่ย เชี่ย... นี่มันแย่แล้ว!’ หัวใจของจ้าวหยู่เต้นผิดจังหวะ ‘เรื่องมันใหญ่โตกว่าฉันจะควบคุมได้แล้ว!!!’