ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 27
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 29

เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 28


เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 28

"เอาเถอะ ที่ผ่านไปแล้วก็ให้แล้วกันไป ไม่ทราบผู้กล้าเตียนจะเข้าร่วมทัพปิงโจวของข้าหรือไม่?" ลิโป้เอ่ยชักชวน

"เข้า ข้าเข้า" เตียนอุยพยักหน้าหงึกๆก่อนจะกุมหมัดค้อมคำนับ เดิมทีที่ออกมาท้าทายลิโป้ก็เพราะต้องการเข้าร่วมกับทัพปิงโจวอยู่แล้ว เพราะทัพปิงโจวมีชื่อเสียงจากการทำศึกกับตั๋งโต๊ะอยู่หลายครั้ง อีกทั้งนามของลิโป้ยังเสมือนฟ้าร้องดังกรอกหู เลื่องลือไปทั่วทั้งแผ่นดิน

นับเป็นครั้งแรกที่ลิโป้ได้ตระหนักถึงประโยชน์ของการมีชื่อเสียง แต่หากว่าเหล่าแม่ทัพเลื่องชื่อในประวัติศาสตร์ล้วนเข้าร่วมกับทัพปิงโจว เช่นนั้นแล้วประวัติศาสตร์ยังจะดำเนินไปตามเรื่องราวที่เคยเป็นอีกหรือไม่?

"ได้ผู้กล้าเตียนมาเข้าร่วม กองทัพของข้าก็เหมือนเสือติดปีก" ลิโป้เอ่ยขึ้นด้วยความยินดี จากนั้นจึงประคองเตียนอุยขึ้น "นับแต่นี้ผู้กล้าเตียนก็ติดตามข้าเถอะ"

"ขอบคุณนายท่าน" เตียนอุยกุมหมัดขอบคุณ

"ไม่ทราบผู้กล้าเตียนเป็นคนจากถิ่นภูมิลำเนาใด?" ลิโป้จำได้ว่าในประวัติศาสตร์นั้นมีข้อมูลของเตียนอุยอยู่ไม่มากเท่าใด ดังนั้นจึงนึกสงสัยขึ้นมา

"เรียนนายท่าน ข้าน้อยมีภูมิหลังต่ำต้อย ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงขอรับ" เตียนอุยตอบ

"อ้อ เช่นนี้นี่เอง นับแต่นี้ให้เจ้าขึ้นเป็นหัวหน้าองค์รักษ์ คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยของแม่ทัพผู้นี้ก็แล้วกัน" ลิโป้ยิ้มกล่าว

"ขอรับ" เตียนอุยรับคำด้วยความซาบซึ้ง เขาเพิ่งล่วงเกินลิโป้ ลิโป้กลับไม่ถือสา ทั้งยังเห็นคุณค่าในตัวเขา ฝีมือของเขาไม่อ่อนแอ ทั้งยังมีความรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ที่อยู่ในวิถียุทธ์เช่นเดียวกัน

"เตียนอุย เจ้าทราบได้อย่างไรว่าแม่ทัพผู้นี้จะผ่านมาทางนี้?" ลิโป้ถามด้วยความสงสัย

"เรียนนายท่าน เดิมทีข้าเป็นทหารของเตียวเมาเจ้าเมืองตันหลิว แต่ไม่ได้รับการใช้สอย ข้าน้อยได้ยินชื่อเสียงของนายท่านอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อทราบว่ากองทัพปิงโจวกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ข้าจึงมารอคอยอยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายวันแล้วขอรับ" เตียนอุยกล่าวตอบอย่างสัตย์ซื่อ

ลิโป้ดีใจมาก เตียวเมากลับไม่รู้จักของดีเสียแล้ว มียอดนักรบเช่นนี้อยู่ในมือแต่กลับไม่รู้จักใช้สอย จากที่ได้ประมือเมื่อครู่ ฝีมือเชิงยุทธ์ของเตียนอุยร้ายกาจมาก กล่าวได้ว่าภายในทัพปิงโจวแห่งนี้ไม่มีผู้ใดสามารถโค่นเขาลงได้แน่

จู่ๆลิโป้ก็ฮัมเพลงที่เตียนอุยไม่รู้จักออกมาเบาๆ ดูเหมือนเจ้านายของเขาจะอารมณ์ดียิ่ง

ระยะทางจากลั่วหยางถึงปิงโจวนั้นไม่ไกล หากเดินทางโดยม้า จะใช้เวลาเพียงสามถึงห้าวันเท่านั้น เพียงแต่ในขบวนของเขามีชาวบ้านอยู่มากมาย ชาวบ้านเหล่านี้อย่างมากวันหนึ่งสามารถเดินทางได้เพียงสามสิบถึงห้าสิบลี้

ต้องขอบคุณเสบียงอาหารที่ชิงมาจากตั๋งโต๊ะ มิเช่นนั้นหลายคนคงไปไม่ถึงปิงโจว กว่าครึ่งคงหิวตายก่อน

ในระหว่างทาง ลิโป้ได้สั่งไว้ไม่ให้ทหารของเขาไปรบกวนชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านลั่วหยางรู้สึกสบายใจมากขึ้นแม้จะต้องอพยพจากถิ่นเกิด

หลังจากใช้เวลาเดินทางอยู่เกือบหนึ่งเดือน ในที่สุดขบวนแถวอันยาวเหยียดของพวกเขาก็เข้าสู่เขตปิงโจว ระหว่างนั้นลิโป้มักจะเข้าไปคลุกคลีพูดคุยกับเหล่าชาวบ้านอยู่บ่อยๆ ทำให้เขาค่อยๆมีชื่อเสียงในหมู่ชาวบ้านขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านเดินทางอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อติดตามลิโป้ไปยังปิงโจว พวกเขาย่อมไม่ต้องการติดตามทรราชผู้โหดเหี้ยมเช่นตั๋งโต๊ะ

ในช่วงที่เข้าไปคลุกคลีกับชาวลั่วหยางนั้น ลิโป้ก็ค้นพบผู้มีความสามารถอยู่หลายคน ซึ่งมีแม้กระทั่งช่างตีเหล็กที่ทำหน้าจัดสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์จัดส่งให้กับทัพหลวง ด้วยการค้นพบนี้เอง ทำให้ลิโป้ยิ่งมายิ่งให้ความสนใจต่อเหล่าชาวบ้าน

ตั๋งโต๊ะกวาดต้อนผู้คนจากลั่วหยาง คนที่เขาคัดเลือกมาแน่นอนว่าย่อมต้องมีทักษะความสามารถใด หรือไม่เช่นนั้นก็เพราะมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ เมื่อคิดถึงว่าผู้มีพรสวรรค์มากมายต้องตายเพราะตั๋งโต๊ะแล้ว ลิโป้ก็รู้สึกเศร้าใจ เขาเกิดความคิดอยากจะไปช่วงชิงขบวนผู้คนจากตั๋งโต๊ะอีกสักครา

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแทรกซ้อน ลิโป้จึงสั่งการให้ลงทะเบียนรายชื่อของผู้มีความสามารถเอาไว้ เพื่อคัดแยกออกจากชาวบ้านคนอื่นๆ

"ไป ใกล้ถึงบ้านเราแล้ว" ลิโป้ตะโกนปลุกใจ ทหารหลายพันคนทางด้านหลังก็ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น หลายคนกระทั่งหลั่งน้ำตาด้วยความยินดี

พวกเขาติดตามเต๊งหงวนไปยังลั่วหยางเป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้ว เพียงแต่ไม่มีเวลาให้คิดถึงครอบครัวเพราะต้องกรำศึกอย่างต่อเนื่อง พวกเขาไม่คาดหวังว่าจะได้กลับไปยังบ้านเกิดเสียด้วยซ้ำ

"นายท่าน อีกไม่ไกลก็ถึงด่านหูกวนแล้ว พวกเราควรระวังเตียนเอี๋ยงไว้" ลิซกกล่าวเตือน

"อืม ด่านหูกวนเป็นด่านสำคัญของเตียนเอี๋ยง ถึงอย่างไรเขาก็เคยเป็นเจ้าเมืองเสียงตงมาก่อน" ลิโป้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"นายท่านสามารถส่งคนไปหยั่งเชิงดูก่อน และควรหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับเตียนเอี๋ยง" ลิซกเสนอแนะ

"โจเส็ง เจ้านำคนไปสอบถามดู บอกว่านายอำเภอแห่งจิ่วหยวน ลิโป้ ขอผ่านทาง" หูกวนถือเป็นแนวด่านสำคัญของปิงโจว เป็นเส้นทางเข้าสู่ปิงโจว หากไม่เข้าปิงโจวจากทางนี้ พวกเขาก็ต้องอ้อมไปอีกไกล

"แม่ทัพผู้เฝ้าด่านเป็นใคร? ขบวนของท่านนายอำเภอจิ่วหยวนกำลังจะผ่านทาง โปรดเปิดประตูโดยเร็ว" เมื่อมาถึงหน้าด่าน โจเส็งก็ตะโกนออกไป

"มีหนังสือคำสั่งของท่านเจ้าเมืองเตียนเอี๋ยงมาด้วยหรือไม่?" บอกสุ้นยืนเท้าเอวอยู่เหนือด่านก่อนจะเอ่ยถามอย่างวางท่า ในฐานะทหารเอกของเตียนเอี๋ยงแล้ว เมื่อเตียนเอี๋ยงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองปิงโจว สถานะของเขาก็พลอยสูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้านายของเขาหวาดกลัวลิโป้อย่างมาก เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ ถึงอย่างไรเตียนเอี๋ยงก็มีตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองปิงโจวโดยชอบธรรม แล้วจะกลัวอะไรกับนายอำเภอตัวเล็กๆผู้หนึ่ง?

"แม่ทัพบอก ตอนที่นายท่านของข้านำกำลังไปรบกับตั๋งโต๊ะ ท่านเตียนเอี๋ยงยังไม่ได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองปิงโจวด้วยซ้ำ แล้วจะไปมีหนังสือคำสั่งลายมือของท่านเตียนเอี๋ยงได้อย่างไร? ขอท่านสั่งเปิดประตูด้วย เวลานี้ข้างนอกอากาศหนาวยิ่ง ที่นี่ยังมีชาวบ้านจำนวนหลายแสนที่ต้องตากลมหนาว" โจเส็งจดจำบอกสุ้นได้ เขากล่าวพลางกุมหมัดคารวะขอผ่านทาง

"ฮ่าๆ ไม่ใช่แม่ทัพผู้นี้ไม่อยากเปิดทางให้ หากแต่นี่เป็นคำสั่งของท่านเจ้าเมือง ทุกคนที่ผ่านทางจะต้องมีหนังสือคำสั่งที่ออกโดยท่านเตียนเอี๋ยง ผู้ใดจะทราบได้ว่าในขบวนของท่านนั้นมีสายสืบของตั๋งโต๊ะแฝงตัวอยู่หรือไม่" บอกสุ้นหัวเราะกล่าวอย่างวางท่า ในขบวนที่นอกด่านนั้นมีเพียงแต่ชาวบ้านและเกวียนสัมภาระ หามีเครื่องมือตีเมืองไม่ เขาไม่เชื่อว่าลิโป้จะมีความสามารถบุกตีด่านแห่งนี้ให้แตกได้

"ฮึ่ม เช่นนั้นข้าขอตัว" โจเส็งสะกดโทสะที่คุกรุ่นในใจไว้พลางหันหัวม้ากลับไป

"ดูเหมือนเตียนเอี๋ยงจะหวาดระแวงข้ามากทีเดียว ถึงกับส่งบอกสุ้น ทหารเอกของเขาออกมาเฝ้าด่าน ช่างให้เกียรติแม่ทัพผู้นี้จริงๆ" ลิโป้ยกยิ้มมุมปาก

"ท่านแม่ทัพ ขอท่านออกคำสั่งบุกตีด่าน ข้าจะขึ้นไปฆ่าเจ้าบอกสุ้นอะไรนั่นเอง พวกเราหลั่งเลือดต่อสู้ทำศึกกับตั๋งโต๊ะ หวังขจัดภัยร้ายให้แผ่นดินฮั่น นึกไม่ถึงเลยว่าพอพวกเรากลับมา เจ้าโจรถ่อยบอกสุ้นจะตั้งด่านสกัดพวกเราไว้"

"นายท่าน ด่านหูกวนง่ายแก่การป้องกัน แต่ยากที่จะตีหัก หากออกคำสั่งโจมตีจะต้องมีไพร่พลล้มตายอย่างสาหัส เวลานี้อากาศหนาวเหน็บ ประชาชนของเรารอนแรมเดินทางมาไกล ควรจะลงหลักปักฐานโดยเร็วที่สุด มิเช่นนั้นความรู้สึกของชาวบ้านจะเปลี่ยนไป" ลิซกเริ่มทำหน้าที่ของกุนซือ "ทำไมนายท่านไม่เปลี่ยนเส้นทางไปยังจิ่วหยวนก่อน จากนั้นค่อยนึกหาวิธีจัดการเตียนเอี๋ยง"

ลิโป้รู้สึกคล้อยตามอยู่บ้าง ทหารของเขากรำศึกต่อเนื่องแทบไม่หยุดพัก นอกจากนี้ยังมีปัญหาในกองทัพอีกหลายประการ เขาต้องรีบกลับไปยังจิ่วหยวนเพื่อแก้ไขปัญหานี้ก่อน เวลานี้ที่เขาขาดแคลนมากที่สุดก็คือ เวลา

"ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยมีเรื่องหนึ่งคิดบอกกล่าว" โกซุ่นเดินมาก่อนจะลดเสียงกล่าว

ลิโป้ไม่ได้ระแวงสงสัย เขาสั่งให้แม่ทัพคนอื่นๆถอยออกไปก่อน จากนั้นจึงถามขึ้น "ซุ่นจื่อมีเรื่องใด?"

"ท่านแม่ทัพ แม่ทัพเฝ้าด่านคนก่อน หลี่ก้าน เป็นสหายเก่าของข้าน้อย ไม่รู้ตอนนี้เขายังประจำการอยู่ในด่านหรือไม่ แต่หากสามารถติดต่อลงมือประสานจากทั้งภายในและภายนอกได้ ด่านหูกวนแห่งนี้ก็สามารถตีหักได้ไม่ยาก" โกซุ่นกวาดสายตามองโดยรอบก่อนจะกระซิบบอก จะระวังไว้ก่อนก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะสุดท้ายแล้วผู้ใดจะรู้ได้ว่า ในทัพปิงโจวไม่มีสายลับของอีกฝ่ายอยู่

"เอาเถอะ ลองดูก่อนก็ได้ เจ้าลองพาคนไปดูซิว่าหลี่ก้านยังอยู่ที่ด่านหรือไม่" ลิโป้พลันยินดีขึ้นมา หากสามารถยึดด่านหูกวนได้ และเพื่อระวังป้องกันเตียนเอี๋ยงเอาไว้ก่อน จะดีที่สุดหากสามารถสังหารบอกสุ้น ทหารเอกของอีกฝ่ายไปด้วยในคราวเดียวกัน