เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 165
ตอนที่ 165
สงครามนั้นเพิ่งผ่านไปเพียงครึ่งเดือน ทว่าในที่แห่งนี้กลับดูเหมือนเวลาชั่วกัปชั่วกัลป์ไหลพ้นไป เพียงสัมผัสอย่างแผ่วเบา เหล่าโครงกระดูกและโลหะประดับทั้งหลายก็กลายเป็นเพียงเศษฝุ่น!
กระทั่งกระดูกของเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายยังไหม้เกรียมและปรากฏรอยแตกขึ้น ซากร่างเหล่านั้นถูกปกคลุมด้วยวัชพืช ราวกับเป็นเพียงศิลาหรือก้อนถ่านหิน
อย่างไรก็ตาม เหล่าคนจากราชวงศ์อมตะกลับสามารถสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ซากศพเหล่านี้เผชิญในยามสิ้นใจจากร่องรอยน่าเวทนาบนกระดูกนั้น
“ทั้งหมดที่เป็นเพราะตระกูลหลิน! หากมิใช่เพราะว่าบรรพบุรุษของราชวงศ์อมตะเรามีสิ่งที่จำเป็นต้องทำในตอนนี้ ท่านย่อมต้องมาที่นี่เพื่อแล่เนื้อเถือกระดูกเหล่าคนแซ่หลินทั้งหมด จากนั้นก็ทำลายดวงวิญญาณของพวกมันจนไม่อาจเกิดใหม่ได้อีก!” เป็นยอดฝีมือครึ่งก้าวแดนก่อตั้งจิตกล่าวขึ้นด้วยความแค้นและขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ในตอนนั้นเอง มันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายชั่วร้ายบางอย่าง!
มันหันมองไปรอบด้านและเจอแสงสีเดียวสองจุดปรากฏขึ้นด้านหลัง เป็นดวงตาสีแดงฉานคู่หนึ่ง!
จากนั้น เปลวไฟก็ถูกส่งออกมาโดยหวังจะสังหารพวกมันทั้งหมด!
“อ๊าก!”
เหล่าองครักษ์ขนนกดำจากราชวงศ์อมตะไม่มีเวลามากพอให้หลบหลีก พวกมันถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปพร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังขึ้น!
“บัดซบ!” ผู้บ่มเพาะแดนปราณอาณาเขตม่วงในชุดสีขาวทองโจมตีออกไปด้วยโทสะพลางหลบเปลวเพลิงเหล่านั้น ทว่าเมื่อมันมองเห็นต้นกำเนิดของเปลวไฟ ม่านตาของมันก็หดเล็กลงเหลือเท่าปลายเข็มจากความประหลาดใจ!
มัน...เป็นปลาตัวหนึ่ง? อย่าได้กล่าวถึงผู้ฝึกตนอาณาเขตม่วงคนนั้น กระทั่งพวกมันที่เหลือเองยังนิ่งค้างไปชั่วขณะ
สิ่งนั้นคือปลาขนาดใหญ่ที่ตัวยาวกว่าสามสิบฉื่อ เกล็ดบนร่างของมันเรียบลื่น ทว่ามีเปลวไฟเต้นระริกอยู่บนนั้น ครีบของมันราวกับกำเนิดมาจากเพลิงที่รวมตัวกันกลายเป็นรูปร่าง จากนั้น มันอ้าปากออกและแหวกว่ายในความว่างเปล่า!
การที่พวกมันจะนิ่งค้างไปย่อมมิใช่เรื่องแปลกประหลาดอันใด อย่างไรเสีย เจ้าสิ่งมีชีวิตนั้นก็คือปลา แต่ที่นี่มิได้มีลำธารหรือแม่น้ำใด มีเพียงผืนป่ากว้างใหญ่ กระทั่งน้ำสักหยดยังไม่ปรากฏให้เห็น แล้วปลาตัวยักษ์เช่นนี้จะมาจากที่ใด?
ยิ่งกว่านั้น ต่อให้เจ้าปลาตัวนี้จะเป็นอสูรกลายพันธุ์ ทว่ายอดฝีมือครึ่งก้าวแดนก่อตั้งจิตกลับมิเคยเห็นการคงอยู่เช่นนี้มาก่อนตลอดชั่วชีวิต!
จากนั้น เสียงปะทุดังขึ้น และครีบของปลาตัวนั้นก็ลุกไหม้ด้วยเปลวไฟ ก่อนที่ทั่วร่างมันจะเปล่งแสงเจิดจ้าและพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว!
“นี่มันตัวบัดซบอันใดกัน? ในบริเวณนี้ไม่มีแม่น้ำแม้แต่น้อย แล้วมันปรากฏตัวมาจากที่ใด? ยิ่งไปกว่านั้น เหตุใดร่างของมันจึงลุกเป็นไฟเช่นนี้?” ผู้บ่มเพาะแดนแก่นทองคำคนหนึ่งเอ่ยขึ้นพลางปลดปล่อยแสงสว่างออกมาจากฝ่ามือ หม้อสามขาใบยักษ์ปรากฏขึ้นพลางดูดซับเอาเปลวเพลิงเข้าไป จากนั้นในชั่วพริบตามันก็กลายเป็นปราณกระบี่และสังหารปลาประหลาดตัวนั้นลง!
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเอง ขนหัวของพวกคนจากราชวงศ์ที่เหลืออยู่ทั้งหมดก็ลุกชัน พวกมันต่างก็เงยหน้าขึ้นไปยังทิศทางหนึ่ง ทันใดนั้นเอง พื้นดินก็ปรากฏแสงสีแดงเจิดจ้า มิใช่อื่นใดหากแต่เป็นดวงตาของปลาทั้งหลาย!
“พวกมันอยู่กันเป็นฝูง? !”
เหล่าคนจากราชวงศ์อมตะทำได้เพียงแสดงสีหน้าโง่งมออกมา พวกมันรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกค่ายกลแห่งนี้เยาะเย้ยอย่างรุนแรง!
นี่มันเรื่องบัดซบอันใด? ทำไมจึงมีปลาอาศัยอยู่ในป่า? ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนของพวกมันมากมายราวกับหมู่ดาวบนท้องฟ้า ไร้ที่สิ้นสุด!
ในตอนนั้นเอง อย่าได้กล่าวถึงองครักษ์ขนนกดำ กระทั่งยอดฝีมือครึ่งก้าวแดนก่อตั้งจิตจากราชวงศ์อมตะยังทำได้เพียงวิ่งหนีอย่างเต็มกำลัง จำนวนของปลาผีเหล่านั้นน่าหวาดกลัวเกินไป พวกมันมีมากถึงขั้นสามารถเผาไหม้ท้องนภาให้กลายเป็นจุณได้เสียด้วยซ้ำ!
ในตอนนั้นเอง พวกมันมองเข้าไปยังกลุ่มของปลาสีแดงฉาน และพบกับว่าความยาวของพวกมันบ้างก็นับสิบฉื่อ บ้างก็นับร้อยฉื่อ เมื่อพวกมันทั้งหมดรวมตัวกัน ราวกับว่ารอบด้านกลายเป็นแม่น้ำที่มีสีแดงก่ำซึ่งกำลังพัดกระหน่ำเข้ามา!
ก่อนจะจากไป ยอดฝีมือครึ่งก้าวก่อตั้งจิตผู้นั้นสะบัดกระบี่ในมือของมันและสังหารเหล่าปลาประหลาดบางส่วนเพื่อเป็นการเตือนพวกมันว่าอย่าได้บังอาจไล่ตามมนุษย์ที่กำลังหนีไป
“ฟ่อ!”
ทว่า ในตอนนั้นเอง เสียงคำรามที่น่าสะพรึงก็ดังขึ้นโดยฉับพลัน โลกทั้งราวกับกำลังสั่นสะท้าน และเสาสีแดงต้นหนึ่งก็เรืองแสงขึ้นมา อาบย้อมบริเวณโดยรอบจนเป็นสีเดียวกัน อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างไร้ที่มา และมันมากมายเสียจนหินและดินรอบด้านเริ่มส่งสัญญาณของการหลอมละลาย!
เหล่าคนจากราชวงศ์อมตะหันไปรอบด้านก่อนจะรู้สึกถึงความหนาวเย็นพุ่งขึ้นในกระดูกสันหลัง ขนทั่วร่างลุกชัน นี่เป็นเพราะพวกมันได้ค้นพบปลาตัวมหึมาที่มีขนาดใหญ่กว่าภูเขาปรากฏขึ้นและกำลังแหวกว่ายในความว่างเปล่าตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว!
ทว่า นั่นยังมิใช่สิ่งที่น่าสยดสยองที่สุด แต่เป็นเกล็ดของปลายักษ์ตัวนั้นที่ปลดปล่อยแสงสีแดงออกมาจนดูคล้ายปราณกระบี่!
และปราณกระบี่จากปลาตัวนั้นก็เต็มไปด้วยจิตสังหารและพลังทำลายล้างมากล้น ราวกับมันสามารถจะเข่นฆ่าเทพเจ้าและตัดแยกผืนฟ้าทลายแผ่นดิน!
และหากผู้ใดก็ตามที่ได้เฝ้ามองสงครามก่อนหน้านี้ พวกมันจะต้องตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เพราะปราณกระบี่สีแดงที่ปลาตัวนั้นปลดปล่อยออกมาเป็นปราณกระบี่แบบเดียวกันกับค่ายกลของตระกูลหลิน!
ก่อนที่ปราณกระบี่เหล่านั้นจะเปลี่ยนรูปของมันไปจนคล้ายกับปลาตัวหนึ่ง นี่มันน่าหวาดผวาเกินใครจะจินตนาการได้ โดยเฉพาะเมื่อจ้องมองให้ดีเข้าไปในดวงตาของปลายักษ์ตัวนั้น จะสามารถมองเห็นได้ว่ามีประกายของสติปัญญาแฝงอยู่ ราวกับมันคือเป็นมนุษย์ผู้หนึ่ง ชัดเจนแล้วว่ามันคืออสูรที่มีภูมิปัญญาอย่างแน่นอน
เมื่อเล่าคนจากราชวงศ์อมตะสัมผัสได้ถึงสติปัญญาของอสูรปลา พวกมันก็เร่งความเร็วขึ้นอีกระดับ และนั่นถือว่าเป็นโชคของพวกมัน เพราะทันทีที่พวกมันทะยานออกไปจากพื้นที่เดิม บริเวณตรงนั้นก็กลับกลายเป็นลาวาหลอมเหลวในชั่วพริบตา และทำให้ผืนป่าโดยรอบกลายเป็นเพียงฝุ่นธุลี!
เหล่าคนจากราชวงศ์บัดนี้ไม่หลงเหลือความกล้าใด อสูรปลาเหล่านั้นน่าหวั่นเกรงและแปลกประหลาดมากเกินไป ยิ่งกว่านั้น พวกมันยังมีจำนวนมหาศาล หากพวกมันแต่ละตัวแข็งแกร่งเท่ากับตัวที่คนของราชวงศ์จัดการไปก่อนหน้านี้ แน่นอนว่ายอดฝีมือทั้งหลายย่อมไม่มีโอกาสสังหารเหล่าอสูรปลาทั้งหมดลงได้ และต้องหมดสิ้นเรี่ยวแรงจนตกตายไปในที่สุด!
นี่ยังมิได้กล่าวถึงเจ้าปลายักษ์ตัวเท่าภูเขาที่กำลังแหวกว่ายอยู่ด้านหลัง ปราณกระบี่ที่มันปลดปล่อยออกมาน่าหวาดกลัวนัก หัวใจของเหล่ามนุษย์ที่กำลังถูกไล่ล่าต่างสั่นเทา!
แม้ว่าอสูรปลาประหลาดเหล่านั้นจะกัดไม่ปล่อย ทว่าเมื่อพวกมันไล่ล่าไปจนถึงระยะพันลี้ พวกมันก็จากไป
ในตอนนี้ สีหน้าของเหล่าคนจากราชวงศ์อมตะช่างน่าเกลียดยิ่งนัก พวกมันเหนื่อยล้าเต็มที
“ค่ายกลแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากเจ้าเด็กสวะนั่นจริงหรือ? มันยังอายุเพียงครึ่งปีเท่านั้นนะ!”
“น่าสยดสยองเกินไปแล้ว!”
“เจ้าสวะน้อยนั่นต้องมิใช่ผู้สร้างค่ายกลนี้อย่างแน่นอน! ต่อให้มันสามารถทำได้ แต่ต้องมีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น!”
ยิ่งระยะทางไกลมากขึ้นเท่าไหร่ที่พวกมันเดินทางเข้าไป ความน่าสะพรึงกลัวก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
เบื้องบนท้องนภา ประกายแสงเจิดจ้าเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันต้องการจะกระชากห้วงมิติออกจากกัน และพลังที่แสงเหล่านั้นปลดปล่อยออกมาก็มากพอจะทำอันตรายแก่ชนชั้นแดนปราณก่อตั้งจิตได้!
ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ ปราณวิญญาณรอบด้านยิ่งทวีความเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น กระทั่งถึงจุดที่สามารถมองเห็นแสงเลือนรางที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของปราณวิญญาณฟ้าดินได้ด้วยตาเปล่า ถึงขั้นเป็นเรื่องปกติที่ปราณฟ้าดินจะกลั่นตัวออกมาเป็นหมอกลอยล่องอยู่ทั่วบริเวณ บางพื้นที่ถึงขั้นกลายเป็นปราณพิรุณที่โปรยปราย!
ยิ่งไปกว่านั้น หมอกอมตะเหล่านี้ปรากฏตัวหนาแน่นขึ้นทุกที และสนามแม่เหล็กรอบด้านก็ผันผวนจนยากจะระบุทิศทาง อย่างได้กล่าวถึงการระบุพิกัดสถานที่ กระทั่งจะบอกเหนือใต้ในตอนนี้ด้วยสมบัติวิเศษยังแทบเป็นไปมิได้!
และสิ่งที่ยากลำบากที่สุดในการเดินทางก็แรงโน้มถ่วงในอาณาเขตซึ่งลึกเข้ามานั้นเริ่มแสดงออกซึ่งความปั่นป่วน เหล่าองครักษ์ขนนกดำที่เหลืออยู่ หากมีพวกมันคนใดอ่อนแอเกินไป กระดูกในร่างจะส่งเสียงแตกหัก กระทั่งกล้ามเนื้อยังฉีกขาด!
ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา ซากศพยังคงเรียงรายไม่หายไปจากสายตา มิใช่เพียงเหล่ากองทัพนับล้านจากราชวงศ์อมตะเท่านั้น ทว่ายังมีร่างบางส่วนที่เพิ่งตกตายลงไม่นานมานี้ ชัดเจนแล้วว่าเหล่าซากศพนั้นคือผู้มีจุดมุ่งหมายในการสอดแนมตระกูลหลินเช่นกัน