ตอนที่ 811+812 อย่ามามุงกันที่นี่
ตอนที่ 811 อย่ามามุงกันที่นี่
“ลู่ชิงสีที่จินโดทุกคนต่างก็เรียกคุณว่าคุณชายลู่ แต่ที่เมืองหนานเจียง คุณไม่ใช่คุณชายลู่อีกต่อไป” หลินชุนเหอยืนอยู่ที่นั่นในขณะที่เขาได้พบกับการจ้องมองของลู่ชิงสี เขาไม่ได้ถอยหลังเลยแม้แต่น้อย พวกเขาอยู่ที่เมืองหนานเจียง และลู่ชิงสีไม่กล้าทำอะไรเขาที่นี่
ก่อนที่หลินชุนเหอจะพูดอะไรอีก คำหนึ่งก็แวบเข้ามาในใจของเจียงเหยา – ‘ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย’
ลู่ชิงสีไม่ใช่แค่เป็นที่นับถือในจินโด แต่เขายังได้รับความนับถือที่เมืองหนานเจียงด้วย
“หลินชุนเหอ เคยสงสัยไหมว่าการใส่ร้ายคนในครอบครัวทหารจะได้รับผลอย่างไร หลังออกจากโรงพยาบาลทหารก็ลืมกฎเกณฑ์ของทหารไปเสียหมดแล้วหรือ” ลู่ชิงสีพูดพร้อมกับมือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋า
หลินชุนเหอยืนอยู่ตรงข้ามกับเขา และชายคนนั้นไม่มีสีหน้ากลัวเขาเลย ในขณะที่ลู่ชิงสีดูเฉยเมย ราวกับว่าความกล้าของคู่ต่อสู้ทำให้เขาอยากจะหัวเราะอย่างอธิบายไม่ถูก เหมือนไก่ที่หลงเข้าไปในฝูงของนกกระเรียนและต้องเรียนรู้วิธียืนให้สูงอย่างนกกระเรียน ช่างไม่ต่างอะไรกับตัวตลก
หลินชุนเหอไม่สนใจคำถามของลู่ชิงสีเลย เขาพูดกับผู้ชมที่อยู่รอบ ๆ แทน “นักศึกษาทุกท่าน นี่คือสามีของเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่คุณรัก เขาอนุญาตให้เจียงเหยา ภรรยาของเขารับงานของฉันที่กองทัพเมืองจิน ทั้งที่ภรรยาของเขาเพิ่งจะเรียนปีหนึ่งได้เพียงเดือนเดียว แต่กลับให้เธอเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกสอนการกู้ชีพในโรงพยาบาลของกองทัพ แม้แต่หัวหน้ากองทัพยังยอมให้เขาทำทุกอย่างที่เขาต้องการ เพียงเพราะชายคนนี้มีอำนาจในเมืองจินโด”
การแสดงออกของศาสตราจารย์ดูค่อนข้างปกติในตอนแรก เมื่อเขาเข้ามาในประตูมหาวิทยาลัย เขาเห็นคนมาวิพากษ์วิจารณ์นักศึกษาใหม่ ที่ชื่อเจียงเหยา อยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัย เขาจึงพาอีกฝ่ายเข้ามาในมหาวิทยาลัย
เมื่อต้นปีการศึกษา การเลือกตัวแทนนักศึกษาใหม่ทำให้เขาเสียศักดิ์ศรี และทำให้ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยไม่มีความสุขกับเขาไปด้วย จากเรื่องนั้นเขาจึงเกลียดเจียงเหยามาโดยตลอด
เขายังได้ยินคนจากคณะแพทย์บอกว่าเจียงเหยาลาเรียนทุก ๆ สองหรือสามวัน เธอได้หยุดเรียนไปทั้งเดือนเสียด้วยซ้ำ เขาจำเรื่องนี้ไว้ในใจเสมอ และหวังว่าปลายเทอมจะมาถึงเร็ว ๆ เขาต้องการให้คนที่สนับสนุนเจียงเหยาได้เห็นถึงตัวตนของคนที่พวกเขาสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบกับสิ่งที่น่าสนใจเช่นนี้
ก่อนปิดภาคเรียน มีคนเข้ามาในมหาวิทยาลัยและเปิดเผยตัวตนจอมปลอมของเจียงเหยา ในฐานะนักศึกษาแพทย์ ของมหาวิทยาลัยหนานเจียง
เขาบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่าเขาจะพาคนคนนี้ไปที่สำนักบริหาร แต่ในความเป็นจริง เขาได้พาหลินชุนเหอมาที่หน้าสำนักบริหารเพื่อให้อีกฝ่ายต่อว่าเจียงเหยา ให้นักศึกษาคนอื่น ๆ ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ทั้งที่ตัวเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าอธิการบดีและผู้บริหารของมหาวิทยาลัยหลายคนไม่อยู่ที่สำนักงานในช่วงเช้า ดังนั้นหลังจากที่เขาพาคนคนนี้มาถึงหน้าสำนักงาน เขาไม่ได้พาคนคนนี้ขึ้นไปข้างบน เขาจงใจไม่ไล่นักศึกษาคนอื่นออกไป และเขาไม่ได้หยุดหลินชุนเหอที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของเจียงเหยาต่อหน้าทุกคน
ในเวลานั้นเขารู้สึกยินดีเมื่อได้ฟังหลินชุนเหอต่อว่าเจียงเหยา
อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นเอง
เมื่อเขาได้ยินหลินชุนเหอพูดว่าสามีของเจียงเหยามีสถานะแข็งแกร่งในจินโด การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที
เขาไม่รู้ว่าสามีของเจียงเหยามีพลังมากจนสามารถบังคับให้แพทย์ทหารออกจากกองทัพและหนีมาถึงที่นี่ได้ หากเขารู้ว่าสามีของเจียงเหยาเป็นคนที่น่ากลัวมากขนาดนี้ เขาจะไม่มีวันเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้ด้วยเลย
“เอาล่ะ เอาล่ะ ทุกคนอย่ามามุงดูกันอยู่ที่นี่”
นั่นเป็นสิ่งแรกที่ศาสตราจารย์ทำเมื่อเขาได้สติคืนกลับมา เขาแยกย้ายนักศึกษาทันทีและสังเกตท่าทางสามีของเจียงเหยาอย่างระมัดระวัง เขาแอบอธิษฐานให้เจียงเหยาและสามีของเธอไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับความตั้งใจแรกเริ่มของเขา
__
ตอนที่ 812 อย่าปฏิเสธ
“ทุกอย่างปกติดีค่ะ ให้ทุกคนอยู่ดูต่อได้เลยค่ะ” เจียงเหยากล่าว “ฉันไม่มีอะไรต้องปิดบัง”
เจียงเหยาไม่ได้โง่ เธอรู้ว่าเหตุใดอาจารย์ท่านนี้ถึงได้เปลี่ยนใจ ต้องเป็นเพราะเขาได้ยินหลินชุนเหอพูดถึงชื่อของลู่ชิงสี เธอพูดได้เพียงว่าศาสตราจารย์คนนี้เป็นคนฉลาด เขารู้ว่าเขาไม่ควรทำให้ใครต้องขุ่นเคือง
หากหลินชุนเหอไม่ได้กล่าวถึงลู่ชิงสี อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ท่านนี้คงไม่ไล่นักศึกษาที่มามุงดูออกไป เขาต้องการให้ทุกคนในเมืองหนานเจียงรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ฉันมีความสามารถที่จะทำอย่างนั้น กองทัพเองก็เชื่อใจฉันและมองภารกิจให้กับฉัน แล้วฉันก็ทำสำเร็จได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย ถ้าคุณมีข้อโต้แย้ง คุณสามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในกองทัพได้นี่คะ หรือหากรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม ก็สามารถร้องเรียนผู้บริหารระดับสูงได้ แต่ถึงแม้ตัวฉันจะไม่ได้รับภารกิจนั้น คุณเองก็ไม่ได้รับภารกิจนั้นด้วยเช่นกัน เรื่องนี้คุณเองก็น่าจะรู้ดีนี่” แม้แต่เจียงเหยาก็คิดว่ามันเป็นการเสียคำพูดที่จะพูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหานั้น
อย่างไรก็ตาม นี่คือมหาวิทยาลัย และทุกคนต่างก็รู้ว่าหลินชุนเหอมาที่เพื่อสร้างความโกลาหล ถ้าเธอจัดการได้ไม่ดีพอ มันจะส่งผลเสียอย่างมากต่อชื่อเสียงในอนาคตของเธอ
ที่สำคัญที่สุด เธอไม่ใช่เพียงนักศึกษาเท่านั้น เธอยังเป็นผู้ถือหุ้นของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย และเป็นประธานฉางกังกรุ๊ป แม้จะมีคนไม่มากที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ในอนาคตพวกเขาก็ต้องได้รู้เรื่องนี้ ถ้าทุกคนเชื่อคำกล่าวอ้างของหลินชุนเหอ ว่าเธอเป็นคนโกหก มันจะส่งผลต่อธุรกิจที่อยู่ในมือของเธอ
ดังนั้น แม้ว่าเธอไม่ต้องการคุยกับหลินชุนเหอ แต่เธอก็ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการแก้ไขปัญหา
“ไม่ว่าจะวงการไหน อายุไม่ได้บ่งบอกถึงความสามารถนี่ค่ะ คุณเองก็ได้ทดสอบทักษะของฉันในระหว่างหลักสูตรการฝึกอบรมไม่ใช่หรือคะหลินชุนเหอ มีผู้บริหารจำนวนมากนั่งอยู่ที่นั่น และพวกเขาทั้งหมดสามารถพิสูจน์ได้ว่าฉันมีทักษะและมีคุณสมบัติในการเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมได้ เรื่องนี้ก็นานมาแล้ว คุณจะมาพูดถึงเรื่องนี้ในตอนนี้ทำไมกัน คุณกำลังพยายามหลอกลวงผู้คนให้คิดว่ากองทัพเป็นสนามหลังบ้านของเราหรืออย่างไรคะ”
“หากคุณมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการตัดสินใจของกองทัพ คุณควรแย้งขึ้นในทันที ตอนนั้นคุณก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้น และนั่นเป็นเพราะว่าคุณไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในตอนนั้น แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดเรื่องไร้สาระที่นี่ คุณบอกว่าสามีของฉันบังคับให้คุณออกจากกองทัพ แล้วทำไมคุณไม่บอกฉันล่ะว่าเขาบังคับให้คุณทำอย่างนั้นได้อย่างไร คุณทำอะไรลงไป ไหนล่ะหลักฐาน ถ้าไม่มีหลักฐาน แสดงว่าคุณแค่พูดในสิ่งที่คุณต้องการเท่านั้น หลินชุนเหอ คุณเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ คุณรู้ไหมว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร หมายความว่าคุณกำลังทำให้กองทัพและองค์เสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้ทหารเสียชื่อเสียงไปด้วยทั้งหมด เข้าใจความหมายนั้นจริง ๆ แล้วใช่ไหม”
แม้ว่าลู่ชิงสีจะบังคับให้หลินชุนเหอออกจากกองทัพ เจียงเหยาเชื่อว่าจะไม่มีใครสามารถหาหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
ดังนั้นเธอจึงมองไปที่หลินชุนเหอ ซึ่งถูกถามโดยคำถามของเธอและเยาะเย้ย “คุณเรียกฉันว่าคนโกหก คุณเห็นฉันโกหกคนไข้ของฉันอย่างนั้นเหรอคะ”
“ฉันเห็นคุณเข้าออกห้องผ่าตัดที่ชั้นบนของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย ปฏิเสธไม่ได้ล่ะสิ คุณเป็นแค่นักศึกษาใหม่ คุณไม่มีใบอนุญาตทางการแพทย์” หลินชุนเหอตะโกน
“คุณคิดว่าฉันกำลังทำการผ่าตัดเพียงเพราะเข้าไปในห้องผ่าตัดอย่างนั้นเหรอ แล้วถ้าคนทำความสะอาดเข้าไปในห้องผ่าตัดเล่า แสดงว่าเธออยู่ที่นั่นเพื่อทำการผ่าตัดคนไข้ด้วยหรือเปล่า อีกอย่างหากไม่มีใบอนุญาตทางการแพทย์ คนคนนั้นจะไม่สามารถเข้าห้องผ่าตัดเพื่อฝึกเป็นผู้ช่วยได้เหรอ แม้ว่าฉันจะทำการผ่าตัดเหล่านั้น แต่ก็หมายความว่าผู้ป่วยไว้วางใจฉัน และฉันไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยเหล่านั้นผิดหวัง มันเกี่ยวอะไรกับคนนอกอย่างคุณด้วย”