ตอนที่แล้วEp.55 - วิหารเนโครแมนเซอร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.57 - แผนพัฒนากองทัพพี่หวัง

Ep.56 - กองทัพพี่หวัง


3/3

Ep.56 - กองทัพพี่หวัง

เมื่อกลับมายังโลกมนุษย์ สิ่งแรกที่ฮังอวี่ตรวจสอบคือสภาพห้อง

อืม เฟอร์นิเจอร์ยังอยู่ดี เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่บุบสลาย ทุกอย่างยังคงเดิมไม่ได้ถูกหมาแทะ

ฮังอวี่ค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อย เขารีบตรวจสอบสวนพืชวิญญาณต่อทันที

เขาพบว่าสมุนไพรพลังจิตและสมุนไพรพลังชีวิตได้เติบโตเป็นรูปเป็นร่างแล้ว พร้อมเด็ดไปกลั่นเป็นโพชั่นได้ทันที

นี่แสดงให้เห็นว่าอาณาเขตวิญญาณนี้ทรงพลังมากเพียงใด!

แต่เอ๊ะ? แปลกจริง ทำไมถึงยังไม่เห็นหวังเอ๋อ นี่มันไม่เหมือนกับนิสัยตามปกติของเจ้าหมานั่นเลย!

ลองหาทั้งหน้าบ้านหลังบ้านแล้วก็ยังไม่พบฮัสกี้ ไม่ใช่ว่าหวังเอ๋อหนีออกจากบ้านไปแล้วหรอกนะ?

แต่ในตอนนั้นเอง ซอยข้างบ้านที่คั่นด้วยกำแพง ฮังอวี่ได้ยินเสียงหมาเห่าติดต่อกัน

ฮังอวี่อยู่ในเลเวล 3 แล้ว ดังนั้นประสาทการได้ยินเฉียบคมกว่าคนทั่วๆไป จึงง่ายที่จะได้ยินเสียงสัตว์

และเสียงนี้ ดูเหมือนจะเป็นของหวังเอ๋อ

เจ้าฮัสกี้ไปทำอะไรอีกล่ะเนี่ย?

การเลี้ยงฮัสกี้เดิมก็เป็นงานที่น่ากังวลอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวังเอ๋อที่มี IQ สูง สมองได้รับการพัฒนา มันอาจคิดเรื่องพิเรนแล้วกำลังก่ออาชญากรรมที่คาดไม่ถึงอยู่ก็เป็นได้

เพราะงั้นต้องเตรียมรับมือ พร้อมแก้ไขสถานการณ์ตลอดเวลา!

ฮังอวี่ปีนข้ามกำแพงทันที

ซอยเบื้องหน้านี้เป็นซอยตันที่ถูกทิ้งร้าง เป็นสถานที่ที่ผู้คนในบริเวณใกล้เคียงนำขยะมาทิ้ง กองสุมๆกันไว้

แต่ตอนนี้ มีสุนัขหลายสิบตัวกำลังก้มหน้าก้มตาขุดหลุมอยู่ และอีกหลายตัวกำลังเข็นรถเพื่อขนดินที่พึ่งถูกขุดออกไปทิ้งอีกทาง

โดยในหมู่พวกมัน มีฮัสกี้ขนขาวดำกำลังเดินไปเดินมา ทำตัวเหมือนผู้รับเหมาที่กำลังตรวจสอบงาน แถมมันกำลังยืดอกเชิดหัว บอกได้เลยว่ากำลังฟินสุดๆ

จะทำตัวเย่อหยิ่งไปหน่อยไหม!

“หวังเอ๋อ นั่นพวกนายกำลังทำอะไรอยู่!?”

ฝูงสุนัขเมื่อได้ยินเสียงนี้ ทั้งหมดสะดุ้งโหยง เกิดความโกลาหลขึ้น

ฮัสกี้แยกเขี้ยวขู่ เปล่งเสียงเห่าสองครั้ง

ฝูงสุนัขจรจัดกลับมาสงบลง เริ่มก้มหน้าก้มตาปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

หวังเอ๋อวิ่งมาเบื้องหน้าเขา เปิดปากกว้าง “ฮ่ง! เจ้านายเชิญตรวจสอบ ทั้งหมดนี้คือทีมผู้ประกอบการของเปิ่นหวัง พวกเขาจะติดตามเปิ่นหวังนับจากนี้ คอยช่วยเจ้านายสร้างอาณาจักรไปด้วยกัน!”

ทีมผู้ประกอบการ?

ฮังอวี่หลุดหัวเราะ เจ้าหมานี่หาเรื่องได้ทุกวันจริงๆ แมวหมาที่ไหนกันที่เรียกตัวเองว่าผู้ประกอบการ

“ฉันว่าชื่อนี้แปลกไปหน่อย เอาเป็นตั้งชื่อว่ากองทัพพี่หวังดีกว่าไหม?”

มีน้องหมาหลายสายพันธุ์อยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นเชา เชา , อาคิตะ , บลูเทอร์เรีย , อลาสก้า ... ทุกสายพันธุ์ที่อยู่ในชุมชนตรอกมังกรฟ้า

แม้กระทั่งสุนัขบ้านบางตัวก็ยังมี คาดว่าพวกมันคงถูกพี่รองฮัสกี้เรียกตัวมา แล้วสั่งให้ทำอะไรแปลกๆ

แต่นี่มันดูยังไงก็ผิดปกติ ... ผิดปกติมาก!

ชุมชนตรอกมังกรฟ้าเป็นอาณาเขตวิญญาณคุณภาพสูงก็จริง ซึ่งตรงจุดนี้ช่วยให้ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ หากอาศัยอยู่เป็นเวลานาน ร่างกายจะแข็งแรงขึ้น สุขภาพดีขึ้น สมองแจ่มใส ชาญฉลาดขึ้น

แต่นั่นไม่มากพอที่จะทำให้สัตว์ธรรมดามีภูมิปัญญาได้!

ซึ่งเอาจริงๆกระทั่งในโลกวิญญาณ สัตว์ที่มี IQ สูงเป็นอะไรที่หายากมาก

ฮังอวี่ทราบจากในความทรงจำ ว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีแค่ระดับราชันย์ขึ้นไปเท่านั้น จึงจะพอมีสติปัญญาสูงส่งได้

ขณะที่ระดับชั้นยอด , ระดับเจ้าถิ่น , ระดับทรราชย์ แม้บางตัวจะพอมีสติปัญญาอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง

สำหรับสัตว์วิญญาณที่มีภูมิปัญญาสูงส่งอย่างแท้จริงนั้น ในโลกวิญญาณยังหาได้ยากยิ่ง แล้วนับประสาอะไรกับสุนัขธรรมดาพวกนี้?

ไฉนเบื้องหน้าเขา พวกมันถึงมุ่งมั่นทำงานเหมือนถูกฝึกมาอย่างดี?

เป็นไปได้ไหมว่าหวังเอ๋อมีพรสวรรค์ในการฝึกสัตว์หรือพวกมอนสเตอร์?

หวังเอ๋อเห็นสีหน้าของฮังอวี่เปลี่ยนไป มันหลงคิดว่าเจ้านายอาจเริ่มไม่ปลื้ม ส่งเสียงเห่าฮ่งฮ่งทันที รีบปกป้องตัวเองและทีมของมัน

“ฮ่ง ฮ่ง! เจ้านายอย่าประเมินพวกเราต่ำไป”

“ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว ต่อให้เป็นแค่สุนัขก็ยังสามารถปีนป่ายสู่ท้องฟ้าได้เหมือนกัน!”

“กองทัพพี่หวังสามารถพึ่งพาตัวเองได้โดยเจ้านายไม่ต้องเสียเงินค่าอาหารหมาสักหยวนเดียว”

ฮังอวี่เห็นหวังเอ๋อมีความทะเยอทะยานถึงขนาดนี้ เป็นอีกครั้งที่เขาเริ่มรู้สึกปวดหัวตุบๆ

หมาคิดสร้างกองกำลังของตัวเอง?

นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว!

“ฮ่ง! เจ้านายโปรดเข้าใจไว้ด้วย ว่าเปิ่นหวังกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเจ้านาย” ฮัสกี้เห็นสีหน้าไม่เชื่อถือของฮังอวี่ กล่าวต่อว่า “เปิ่นหวังเตรียมของดีเพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้านายเอาไว้ด้วย!”

“เป็นเกียรติแก่ฉัน? มันคืออะไร”

ฮัสกี้พาฮังอวี่ไปยังส่วนในสุดของซอย งับเศษหญ้าขึ้น เริ่มขุดหลุมดิน แล้วคาบผ้าที่พันอะไรบางอย่างไว้ในปาก ยื่นหน้ามาทางฮังอวี่ กระดิกหางไปมา สายตาจ้องมองเขาอย่างคาดหวัง “เจ้านายลองเปิดดู!”

ฮังอวี่รับถุงผ้าแล้วเปิดมัน และพบว่าเป็นพืชวิญญาณสีเขียวสดใหม่ ตามต้นของมันถูกปกคลุมไปด้วยชั้นเรืองแสงจางๆ บ่งบอกชัดว่าเป็นสมบัติชั้นดี เหนือยิ่งกว่าสมุนไพรวิญญาณในสวนซะอีก

ฮังอวี่เปิดพื้นที่เก็บของโยนพืชวิญญาณสีเขียวนี้ลงไป

ข้อมูลของมันแสดงในโทรศัพท์ทันที

[สมุนไพรวิญญาณแห่งชีวิตของเอลฟ์] สีขาวคุณภาพกลาง เพิ่มค่าพลังชีวิต 1 หน่วยอย่างถาวร สามารถเพิ่มได้สูงสุด 5 ต้น

เพิ่มพลังชีวิตถาวร?

นี่มันของโคตรดีเลยไม่ใช่รึไง!?

มูลค่าของสมุนไพรชิ้นนี้มันสูงกว่าผลไม้วิญญาณหลายเท่า!

สำหรับช่วงเริ่มเกมแบบนี้ การที่มีพลังชีวิตเพิ่มขึ้น 1 หน่วย มันสามารถช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้เป็นอย่างมาก

สมุนไพรวิญญาณที่หวังเอ๋อนำกลับมา เทียบได้เลยกับผลไม้วิญญาณจากต้นไม้ผู้พิทักษ์ มูลค่าของมันอย่างน้อยเท่ากับมูลค่าของอาวุธสีขาวเลเวล 1 หรือ 2 ด้วยซ้ำ

ราคาของมัน มากพอที่จะซื้อคฤหาสน์หลังเก่านี้ของเขา แล้วทุบทำใหม่ ทุบทำใหม่ซ้ำๆสามสี่รอบก็ยังได้!

แล้วแบบนี้ ฮังอวี่จะไม่ตกใจได้อย่างไร?

เวลานี้ เขารู้สึกเหมือนลูกชายปัญญาอ่อนของตน จู่ๆก็สามารถทำคะแนนสอบได้เป็นที่หนึ่งของเมือง!

หวังเอ๋อเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของเจ้านาย มันดูมีความสุขและภูมิใจมาก กระดิกหางเร็วขึ้น ส่งเสียงเห่า

“ฮ่ง! ว่าอย่างไร เปิ่นหวังไม่ได้โกหกใช่ไหม ครั้งก่อนเปิ่นหวังเผลอกินผลไม้ของเจ้านาย แม้เจ้านายจะมอบบทเรียนให้แล้ว แต่เปิ่นหวังก็ยังรู้สึกผิด เลยเตรียมของขวัญชิ้นนี้เพื่อชดใช้เจ้านาย”

พูดถึงเรื่องนี้ หวังเอ๋อเองลึกๆก็รู้สึกปวดใจเช่นกัน เพราะมันก็อยากกินสมุนไพรต้นนี้มาก

ฮังอวี่ลูบหัวหวังเอ๋อ เอ่ยกับสุนัขด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “นายก็ไม่ได้สร้างแต่ปัญหา ทำเรื่องดีๆก็เป็นเหมือนกันนี่”

ฮัสกี้มีความสุขมาก มันแลบลิ้นเลียมือฮังอวี่

หวังเอ๋อสุดท้ายก็ยังเป็นสุนัข ไม่ว่าจะ IQ สูงแค่ไหน แต่ธรรมชาติของเผ่าพันธุ์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

เขี้ยวของมันยังคงแหลมคม เฉกเช่นเดียวกับหมาป่าใน และด้วยเอกลักษณ์ที่สลักอยู่ในสายเลือด พวกมันจึงมีความจงรักภักดีต่อผู้บังคับบัญชาอย่างแท้จริง

แม้ฮังอวี่จะไม่ยอมให้ฮัสกี้เรียกเขาว่าเจ้าของ แต่ในพจนานุกรมของหวังเอ๋อ เจ้าของกับเจ้านายมีความหมายเดียวกัน

ตอนนี้มันเลยรู้สึกมีความสุขมากที่ได้รับการยอมรับจากเจ้านาย

“โบร๋วว! ขอบคุณเจ้านาย แต่เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้มนุษย์หัวล้าน เป็นเขาที่สร้างแรงบันดาลใจให้เปิ่นหวัง”

“มนุษย์หัวล้านสามารถสร้างทีมรวบรวมวัตถุดิบได้ แล้วทำไมเปิ่นหวังถึงทำไม่ได้?”

ที่พูดมาก็จริง สุนัขมีข้อได้เปรียบมากกว่ามนุษย์ บวกกับภายใต้การนำทัพของหวังเอ๋อ บทบาทของกองทัพนี้ย่อมไม่น้อยแน่นอน อาศัยแค่ทรัพยากรที่พวกมันค้นพบ เกรงว่าย่อมมากพอที่จะพึ่งพาตัวเอง

หลังจากได้เห็นความสามารถของหวังเอ๋อ ฮังอวี่ก็ไม่กังวลอีกต่อไป เขานึกบางอย่างออก เอ่ยถามว่า “แล้วหมาพวกนี้จะเชื่อฟังคำสั่งนายไปตลอดหรอ?”

“ฮ่ง! เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว เปิ่นหวังสั่งให้ทำอะไร พวกเขาก็จะทำ สาธิตให้เจ้านายดูเลยแล้วกัน”

ว่าจบฮัสกี้ก็เห่าสองครั้ง พวกหมาที่กระจายกันทำงานกลับมารวมตัวกันทันที จากนั้นตั้งแถวเป็นรูปตัว S ซักพักเรียงแถวเป็นรูปตัว B

“ฮ่ง! เป็นไงบ้างเจ้านาย เชื่อรึยัง?”

พิสูจน์ได้แล้ว!

กลายเป็นว่านอกจากมีพรสวรรค์ในการตรวจจับ ฮัสกี้ยังมีพรสวรรค์ในการสั่งการสัตว!

มิฉะนั้นฝูงสุนัขจรจัดไม่มีทางมีความคิดแบบนี้ได้ สติปัญญาของพวกมันยังต่ำเกินไป ที่ทำได้เพราะหวังเอ๋อทั้งสิ้น

หากเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน มีเพียงรับคำสั่งจากหวังเอ๋อจึงจะทำสำเร็จได้

อย่างไรก็ตาม พวกมันยังมีหน้าที่เหมาะๆอีกมาก เช่นรับหน้าที่ลาดตระเวน ตรวจตรา ฯลฯ

ตราบใดที่หวังเอ๋อสั่งการ หมาแมวทั้งหมดในตรอกมังกรฟ้า ก็จะกลายเป็นดวงตาของเขาที่แทรกซึมอยู่ทุกหนแห่ง!

ความสามารถนี้กล่าวได้ว่าทรงพลังมาก หากหวังเอ๋อร่วมมือกับหน่วยค้นหาของโล้นซ่า ผลลัพธ์ต้องดีกว่าตอนที่เขาทำงานเพียงลำพังแน่นอน

หวังเอ๋อมีประโยชน์มากกว่าที่คิดไว้ ฮังอวี่จึงตัดสินใจมอบหมายความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงนี้แก่มัน

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ถึงโล้นซ่าจะพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ฮังอวี่เชื่อใจหมาหวังเอ๋อมากกว่า แต่หากจะให้เหตุผล

ประการแรกคือสุนัขเป็นสัตว์ที่มอบความจงรักภักดีให้เจ้านายโดยธรรมชาติ

ประการที่สองหากเขาผูกสัญญาสัตว์เลี้ยงวิญญาณกับมัน ชีวิตของมันจะผูกพันกับเขาอย่างสมบูรณ์ เป็นไปไม่ได้ที่จะทรยศ

โลกวิญญาณน่ะไม่เหมือนเกมคอมพิวเตอร์

ในทางทฤษฏี เขาสามารถทำสัญญากับสัตว์วิญญาณได้ไม่จำกัด

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ตราบใดที่มีสัตว์วิญญาณให้ทำสัญญา ต่อให้คุณจะทำสัญญาเป็นร้อยตัว มากจนเปิดสวนสัตว์ก็ไม่ใช่ปัญหา

อย่างไรก็ตาม การทำสัญญากับพวกมันก็เหมือนการเรียนรู้สกิล จริงอยู่ที่ทุกอาชีพสามารถเรียนรู้สกิลได้ไม่จำกัด แต่ในทางปฏิบัติต้องใช้ต้นทุนมหาศาล ไหนจะหินสกิล ไหนจะแต้มวิญญาณ หรือเวลาที่จำเป็นต่อการพัฒนาให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้นอีก

ซึ่งสัตว์วิญญาณเองก็ต้องการเวลาในการพัฒนาเช่นกัน แต่ขั้นตอนการฝึกและอัพเลเวลสูงกว่ามาก

ดังนั้นไม่มีใครโง่พอที่จะทำสัญญากับสัตว์วิญญาณเป็นร้อยตัวแน่ เว้นแต่จะเป็นพวกบ้า

หวังเอ๋อจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณตัวแรกของฮังอวี่

แม้มันดูอ่อนแอหรือไม่องอาจเหมือนสัตว์วิญญาณตัวอื่นๆ แต่ความสามารถในการเรียนรู้และสติปัญญาของมัน มากพอแล้วที่จะไปยืนหยัดอยู่ในระดับราชันย์ได้

ยังมีเวลาอีกเยอะไว้ให้ฝึกฝนในอนาคต

และนี่คือจุดเริ่มต้นเรื่องราวของขุนศึกสุนัขสะท้านปฐพี!