ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่มที่ 1 บทที่ 2: ฉันกลายเป็นปีศาจ

เล่มที่ 1 บทที่ 1: ฉันกลายเป็นแมว


ฉันมองเห็นทิวทัศน์ภายใต้แสงสว่าง

มันเหมือน…ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก จมอยู่ใต้สระและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า…เห็นทิวทัศน์ที่คลุมเครือแต่ยังคงความรู้สึกให้คิดถึง

ทัศนียภาพไหลไปตามเวลาและเปลี่ยนแปลงไป

เช่นเดียวกับภาพยนตร์เก่าๆ ฉากที่พร่ามัวยังคงถูกแทนที่ไปมาทีละฉากๆ

ผู้ชายที่จับมือเล็ก ๆของฉัน….ผู้หญิงอุ้มฉันไว้ในอ้อมแขนของเธอ….ทั้งชายและหญิงที่ตัวโตกว่าฉันเล็กน้อยจากหน้าต่างรถบัสเห็นอาคารขนาดใหญ่และร้านค้าเล็ก ๆ ลอยห่างออกไป และจากภายในรถไฟ มองเห็นทางรถไฟที่ไม่มีวันสิ้นสุดและทิวทัศน์เมืองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ฉากยังคงเปลี่ยนไป แล้วก็มีฉันที่โตขึ้นและได้ไปโรงเรียนพร้อมกับเด็กคนอื่นๆ ที่สวมชุดเหมือนกัน

ได้คุยกับเพื่อน แลกเปลี่ยนข้อความกันจนดึกดื่น….นั่งรวมกับพี่น้องบนโซฟา ดูหนังเช่า พ่อแม่ของเรากลับบ้านและทุกคนก็ได้เพลิดเพลินกับอาหารด้วยกัน

ฉากเหล่านี้เต็มไปด้วยความสุข แต่แล้วจู่ๆ ทุกอย่างก็กลายเป็นสีขาวอย่างกะทันหัน

กำแพงสีขาว พื้นสีขาวและนอนอยู่บนเตียงสีขาวใต้ผ้าปูสีขาวผืนเดียวกัน สิ่งที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของฉันคือเพดานสีขาวบริสุทธิ์….

มือสั่นที่ฉันยกขึ้นมานั้นมันบางราวกับกิ่งก้านที่เหี่ยวแห้งของต้นไม้

ฉากถูกเลื่อนไปเรื่อยๆแต่โลกสีขาวนั้นยังคงอยู่….และท่ามกลางความแตกสลายและเสียงแหบแห้งของใครบางคนที่กำลังร้องไห้….โลกของฉันก็ค่อยๆถูกย้อมด้วยสีดำ

ฉัน.....กำลังอยู่ในความฝันหรอ?

ทันใดนั้น ความฝันก็ทำให้รู้สึกหวนคิดถึง…และห่างไกลออกไป

ฉันสงสัยว่า…ที่นี้ที่ไหนกัน ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย มันเหมือนกับว่า...มีหมอกจางๆ ลอยอยู่เหนือฉัน รู้สึกเหมือนกำลังจ้องมองดวงอาทิตย์ด้วยตาพร่า…โอ้ ฉันควรตื่นลืมตาได้แล้ว

และเมื่อฉันพยายามยกเปลือกตาขึ้น ทิวทัศน์รอบๆ ของฉันก็พุ่งเข้ามาในทัศนวิสัยของฉันอย่างชัดเจนกว่าเมื่อก่อน

สิ่งที่ฉันเห็น ไม่ใช่ที่ราบที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าหรือภายในห้อง แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีสิ่งใดนอกจากความว่างเปล่าที่แผ่กระจายไปทั่วแผ่นดินแตกร้าวไกลสุดลูกหูลูกตา มองเห็นแต่ท้องฟ้าอันมืดมิด

พูดง่ายๆ ว่า ในโลกที่ว่างเปล่าแห่งนี้ ไม่มีอะไรเลยนอกจากดินสีเทาที่หยาบกร้าน ในสายตาของฉันไม่มีแม้แต่วัชพืชใดๆเลย

“……………”

บรรยากาศคงจะสมบูรณ์ถ้ามีลมหนาวพัดผ่านใบไม้ที่เหี่ยวแห้งในเวลานี้ ฉันคิดว่านี้จะอธิบายความรู้สึกของฉันในตอนนี้ได้หรือเปล่า

ช่างเถอะ…แต่ฉันสงสัย ว่าฉันเห็นทั้งหมดนี้ได้อย่างไร…?

ฉันจำไม่ได้ ว่าลืมตาตื่นขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ พอฉันตั้งสมาธิฉันกลับสามารถมองเห็นทั่วทุกสารทิศในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่ารวมถึงตัวฉันด้วย….

“………………!?”

ฉันเผลอกรีดร้องออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ…ฉันคิดอย่างนั้นน่ะ แต่เสียงกลับไม่เปล่งออกมา ไม่ใช่ซิ…ฉันไม่มีปาก….ไม่ต้องพูดถึงปาก ฉันไม่มีแม้แต่ร่างกาย

ช่ะ ใช่แล้ว… ตอนนี้ใจฉันเย็นขึ้นมาหน่อยแล้ว

ยังไงซะ พอฉันบอกว่าตัวเองไม่มีร่างกาย มันก็ผิดปกตินิดหน่อย เพื่อเป็นหลักฐานพิสูจน์ว่าแม้กระทั่งตอนนี้ ร่างกายของฉันยังตอบสนองต่ออารมณ์ที่ผันผวนของฉันอยู่ แม้จะกระจายและเป็นลูกคลื่น

มันเหมือนบางอย่างที่คล้ายกับการรวมตัวของแก๊ส, หมอก, และการรวมตัวกันของดิน…ที่เป็นตัวฉันในตอนนี้

ฮ่าๆ…มันทำให้ฉันขำ ถึงจะไม่มีอะไรตลกก็เถอะ

นี่ใช่ความฝันที่ฉันคิดไว้ใช่มั้ย……?

อาจเป็นโลกแห่งแสงสว่างที่ฉันเห็นมาเมื่อสักครู่นี้เป็นโลกแห่งความจริง และนี่เป็นเพียงฝันร้าย แต่ความจริงช่างโหดร้ายและความรู้สึกที่ฉันรู้สึกผ่านร่างที่เหมือนหมอกนี้กำลังบอกฉันว่านี่คือของจริง แต่แปลกใจที่ฉันยอมรับว่าร่างนี้เป็นตัวของฉันเอง ฉันรู้สึกแปลก ๆ ที่ยอมรับมันโดยไม่รู้สึกอึดอัดและเฉยๆกับมัน

นี้อาจจะเป็น…สิ่งนั้น?

ฉันคิดโดยใช้ความรู้ที่ได้รับจากโลกแห่งแสงสว่างนั้น สรุปได้ว่าจิตส่งผลต่อร่างกายไปพร้อมๆกัน สภาพร่างกายที่มีอิทธิพลต่อจิตใจ...อะไรแบบนั้น?

สุดท้าย อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในร่างกายโดยทั่วไปของมนุษย์

ฉันไม่มีหัวใจจึงไม่รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจที่กำลังเต้นแรงและด้วยร่างนี้ฉันไม่รู้สึกว่าต้องการอากาศเลย สงสัยจังว่าฉันจะรู้สึกเจ็บปวดหรือหิวโหยหรือเปล่า

ฉันไม่มีอะไรให้ตั้งหน้าตั้งตารอ….ฉันไม่มีตาฉันเลยร้องไห้ไม่ได้!

สะ สำหรับตอนนี้…ฉันควร อย่างน้อยที่สุด ยึดมั่นในความรู้สึกของตัวเอง ถึงมันสายไปหน่อยในการคิดเรื่องนี้ แต่ฉันสงสัยว่าฉันเป็นใครกันแน่?

ชื่อของฉัน…ฉันจำไม่ได้ ใช่ ฉันไม่มีชื่อ ฉันสามารถเลือกชื่อจากความทรงจำในอดีตของฉันได้ แต่ฉันมีความรู้สึกว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น

มันเหมือนว่า ฉันยังจำชื่อครอบครัวหรือเพื่อนไม่ได้ ที่แย่ไปกว่านั้น ฉันลืมแม้กระทั่งใบหน้าของพวกเขา

โอเค…ไปต่อ

ฉันมีความทรงจำถึงตอนได้สวมเครื่องแบบ ดังนั้นฉันน่าจะเคยเป็นนักเรียน พิจารณาจากจำนวนความทรงจำในอดีตของฉัน น่าจะเป็นนักเรียนมัธยมปลายเสียด้วย

แม้ว่าจะมาจากความฝันก็ตาม

เพศคือ…ผู้หญิงใช่ไหม…?ในความทรงจำของฉัน ฉันสวมชุดกระโปรง และโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกเป็นที่ยอมรับมากขึ้น

ดีจัง ความรู้สึกของตัวเองที่ค่อยๆ มาบรรจบกัน…โอ้? สีผิวของฉันค่อนข้างเข้มขึ้นแฮะ? นอกจากนี้ ฉันรู้สึกว่าความหนาของหมอกเริ่มหนาขึ้นมาอีก

สำหรับตอนนี้ฉันไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดพลาด ดังนั้นฉันจะจดจำความทรงจำในความฝันต่อไปเพื่อรักษาความรู้สึกนี้ของตัวเองเอาไว้

การทำเช่นนี้จึงใช้เวลาค่อนข้างนาน…หรือฉันก็รู้สึกอย่างนั้น

ฉันหมายถึงพระอาทิตย์ไม่เคยขึ้นและตามที่คาดไว้ฉันไม่หิว ฉันจึงไม่สามารถคำนวณเวลาได้ ดีที่ความรู้สึกนึกคิดของตัวฉันชัดขึ้นมาเพราะฉันพยายามนึกถึงเรื่องต่างๆแต่ปัญหาใหม่ก็ปรากฏขึ้นอีก

ฉันไม่มีอะไรทำ.......

พูดตรงๆ ฉันรู้สึกกระวนกระวาย หงุดหงิด และโมโหจากความเหงา...เรื่องพวกนี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้น แต่ร่างกายตอนนี้ของฉันกลับไม่มีวี่แววว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลย

เมื่อฉันนึกถึงช่วงเวลาสุดท้ายจากความทรงจำในความฝัน ฉันสงสัยว่าฉันได้ตายและตกลงมาในนรกหรือเปล่าเนี้ย….

ถึงจะพูดเปรียบเทียบไปงั้น แต่ก็เป็นนรกที่ปราศจากความทุกข์ทรมานไปอย่างสมบรูณ์

แน่นอนว่ายังมีข่าวลือว่าทั้งหมดนี้เป็นความฝันและแน่นอนแหล่งที่มาของข่าวลือที่ว่านั้นก็คือฉันเอง

“...............?”

ฉันสังเกตเห็นบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บางสิ่งบางอย่างที่กระตุ้นความรู้สึกของฉัน เหมือนกับการรวมกันของภาพ กลิ่น และเสียง

บางสิ่งนั้นกระโดด ตุบ!

เมื่อฉันยอมรับต่ออาการคันที่รู้สึกเย้ายวนใจที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ฉันสะบัดตัวออกไปข้างหน้า หมอกกระจายรอบๆ ตัวของฉัน พร้อมมือที่ตบลงบนบางสิ่งนั้นด้วยเสียงดังแปะ! (ตะปบ)

“...............”

โอ้ โอ้…ฉันค่อนข้างแปลกใจกับปฏิกิริยาที่ฉันทำเหมือนแมวที่เจอเข้ากับแมลง ฉันคิดว่างั้นน่ะ

ช่างมัน…นี่อะไร….ฉันเหลือบไปเห็นมันก่อนจะตะปบมัน ฉันมั่นใจว่ามันดูเหมือนแมลงอย่างแน่นอนแต่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร และพอฉันตะปบแมลงนั้น มันกลับหายไปเหมือนหมอก

พอมันหายไป...ก็มีกลิ่นคล้ายกับน้ำผึ้งหวาน

ด้วยเหตุบางอย่าง กลิ่นนั้นทำให้ฉันรู้สึกพึงพอใจเล็กน้อย แม้ว่าตอนนี้ฉันจะไม่รับรู้ถึงรสชาติหรือความหิวใดๆก็ตาม มันเป็นกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างชวนให้คิดถึง….มันเหมือนกับตอนที่ฉันยังเป็นเด็กในโลกแห่งความฝันนั้น จิบน้ำผึ้งจากดอกไม้ดอกเล็กๆ…ทำให้หวนคิดถึงจริงๆ

สั่น…สั่น…ตัวสั่น…(ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น)

ร่างกายที่เร่าร้อนของฉันสั่นราวกับตื่นเต้นกับบางสิ่งและราวกับว่าถูกขับเคลื่อนด้วยความรู้สึกนั้น ฉันเริ่มเดินเตร่ไปรอบๆตัวเอง

แต่… ฉันเคลื่อนตัวไปรอบๆ ได้ยังไงกัน?

จากความรู้สึกก่อนสะดุดตากับแมลงตัวนั้น ฉันเข้าใจว่าฉันมีความแข็งแกร่งทางกายภาพในระดับหนึ่ง แต่โดยไม่จำเป็นต้องคลาน ร่างกายของฉันก็ลอยไปตามทิศทางที่ฉันอยากไปแทน

ในความรู้สึกแล้ว ฉันสามารถดึงความเร็วออกมาได้เท่าๆ กับครั้งแรกที่ฉันเคลื่อนไหว แต่ถึงแม้ว่าฉันจะสามารถเคลื่อนตัวได้ด้วยการถีบผิวดินเพียงเล็กน้อย ฉันก็ยังควบคุมการลอยตัวของฉันไม่ได้…น่าเสียดายจริงๆ

และระหว่างที่เคลื่อนตัวไปมา….อ่า เจอแล้ว

ฉันเจอมุชิคุง(แมลง)ตัวที่สอง

ฉันแค่เหงานิดหน่อย ฉันเลยคิดว่าจะเลี้ยงมันไว้เป็นสัตว์เลี้ยงดีไหมน่ะ…?

แต่.........

แปะ!

“.................”

พอฉันได้เข้าใกล้มัน ร่างกายของฉันที่ลอยไปข้างหน้าก็ตะปบมันอีกครั้ง.... ใช่แมวจริงๆ การขาดการควบคุมตัวเองของฉันค่อนข้างน่าอายจริงๆ

มีบางอย่างที่ไม่อาจต่อต้านได้เกี่ยวกับกลิ่นน้ำผึ้งหวานนั้น

ประการแรก มันผิดเองที่มากระตุ้นสัญชาตญาณความเป็นแมวของฉัน มากระโดดขึ้นลงแบบนั้นต่อหน้าฉันแบบนั้นเนี้ยน่ะ

แล้วฉันก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ แมลงตัวแรกมีกลิ่นคล้ายน้ำผึ้งในดอกไม้ แต่แมลงตัวที่สอง...เพื่อให้เห็นภาพ กลิ่นมันเหมือนผลไม้เล็กน้อย

สั่น…สั่น…ตัวสั่น…(ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น)

ฉันควรจะหาต่อไปอีกสักหน่อยดีไหมน่ะ….

นับแต่นั้นมา เวลาที่ผ่านมาและกิจวัตรประจำวันของฉันก็กลายเป็นการหามุชิคุง (แมลง) พวกนี้

คงไม่ใช่ว่าฉันต้องการขนมหรืออะไรหรอกนะ ใช่ไหม

“..............!”

ตะปบ! ตะปบ! ตะปบ!

“.............!!”

ตะปบ! ตะปบ! ตะปบครั้งสองครั้ง และก็ตะปบอีก

อืมมมม อร่อยน่ะ... แน่นอนซิ พอเทียบกับขนมหวานที่ฉันเคยรู้จักในโลกแห่งความฝันแล้ว นี่คือรสชาติที่พอใช้ได้ในทุก ๆ ด้านเลยทีเดียว แต่ก็ถือเป็นคำชมเชยที่ดีสำหรับงานล่าของแมวน่ะ

ฉันคิดว่ามันเป็นอย่างนั้น เมื่อพวกคุณได้ลองหาอาหารของคุณเองมันก็จะทำให้รู้สึกอร่อยมากยิ่งขึ้น และฉันก็สังเกตเห็นอย่างอื่นด้วย พวกแมลงตัวใหญ่ๆจะมีรสชาติดีกว่า

แต่..... ฉันจะบอกอะไรให้น่ะ ความจริงฉันไม่ได้มีงานอดิเรกกินแมลงโดยเฉพาะหรอกนะ ตอนนี้ แทนที่จะตี แต่แค่สัมผัสพวกมันก็หายไปแล้ว หายแบบไม่เหลือซาก มันจึงไม่ทิ้งความรู้สึกน่าขยะแขยงเอาไว้ภายหลัง

ฉันสังเกตเห็นบางสิ่งขณะกำลังเคลื่อนไหว แต่มีขนาดเท่าหนู พอลองเปรียบเทียบกับ “แมลง” ตัวอื่นๆ แล้วมันจะระมัดระวังตัวมากกว่า เว้นแต่มันจะเข้ามาหาฉันก่อน มันหนีเร็วอย่างไม่ทันคาดคิดเหมือนกัน

แต่คราวนี้ฉันจะทำให้มันเป็นสัตว์เลี้ยงของฉันให้ได้~~…ถึงแม้ฉันจะลองใส่จิตวิญญาณลงไปในนั้น มันก็หายไปทันทีที่ฉันสัมผัสมัน

ในแง่รูปลักษณ์ที่ชาญฉลาด พวกมันส่วนใหญ่จะเหมือนกับลูกขนสีดำที่ปรากฏในหนังเรื่องหนึ่งในโลกแห่งความฝัน ตัวขนสีดำที่ไล่ตามพี่สาวสองคนที่อาศัยอยู่ชนบทในบ้านที่ห่างไกล (โทโทโร่)

ฉันอยากได้มันจริงๆ.... เจ้าสัตว์เลี้ยง

ถึงจะอย่างนั้นรสชาติมันกลับดีเอามากๆ รสชาติมันคล้ายกับเชอร์รี่หรือสตรอเบอร์รี่ป่าอะไรทำนองนั้น

.....................................

เมื่อฉันตายไปในกาลนั้น มีการเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้นก่อนร่างกายของฉันสะลายไป

การกินขนมมากเกินไปทำให้ฉันอ้วนขึ้น…แต่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น ปรากฏว่าร่างกายของฉันที่มีสีน้ำตาลอ่อนกลายเป็นสีที่เข้มกว่าคล้ายกับช็อกโกแลตแต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเหมือนแกงกะหรี่

......ทำไม ฉันสงสัย นี่ฉันถึงกับใช้อาหารเป็นมาตรฐานในการเปรียบเทียบเลยหรอ

ฉันชอบคิดว่าสีผมกลายเป็นสีน้ำตาล

มันอาจจะเปลี่ยนเป็นสีชานมเพื่อให้ดูน่ารักขึ้นก็ได้ แต่ชีวิตไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณต้องการหรอกนะ เมื่อสีเปลี่ยนไป ความหนาแน่นของร่างกายที่เป็นก๊าซของฉันก็เพิ่มขึ้นในเวลาเดียวกัน และกลายเป็นน้ำเชื่อมทั้งตัว

โอ้ ฉันจะกลายร่างเป็นสไลม์ไหมนะ? ...แค่คิดไปงั้น แต่ฉันคิดผิด ร่างกายของฉันไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่กลายเป็นเหมือนทรายเหล็ก

แต่... ฉันได้พัฒนาและเติบโตเป็นสิ่งนี้จริงดิ? ตอนนี้แค่ขยับตัวก็ลำบากเพราะร่างกายของฉันหนักขึ้น

อ่า ⁓ …ฉันปล่อยให้เนสึมิจัง(หนู)หนีไปอีกแล้ว

เป็นไปได้ด้วยหรอที่ฉันอ้วนขึ้นจริงๆ…? นี่ นี่ นี่ฉันอ้วนขึ้นจริงๆใช่ไหม……?

แต่ขณะที่อยู่ท่ามกลางความสับสนว่าจะลดน้ำหนักหรือจะเลือกขนมที่ยั่วยวนนั้นดี ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอกับสิ่งมีชีวิตอื่นที่นอกเหนือจากฉัน

“...........!?”

แม้แต่ฉันเองก็ยังรู้ว่าทำไมร่างกายของฉันถึงสะดุ้งด้วยความตกใจขนาดนั้น

ฉันไม่รู้สึกถึงมันจนกระทั่งมันเข้ามาใกล้ๆทันทีที่ฉันทำ ฉันรู้สึกว่าร่างกายที่เป็นทรายเหล็กของฉันกำลังจะแตกและพังลงจากการถูกครอบงำ ความรู้สึกชั่วร้ายครอบงำทำให้ฉันกลัว

มันคือเสือดำตัวใหญ่

ถ้าฉันมีขนาดเท่ากับแมวทั่วไป แสดงว่าเสือดำตัวนั้นตัวใหญ่กว่าม้าด้วยซ้ำ

และก็.....งดงาม

ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเตี้ยหรืออ้วน ที่พบได้ทั่วไปในแมวป่า แต่กลับดูนิ่มนวลและผอมเพรียว สีขนที่แสดงออกมา…เป็นสีเข้มที่ให้ความแวววาวสวยงามของสีดำสนิท

คุณคงคิดว่าความเจิดจรัสและความดำไม่เข้ากันซินะ แต่ฉันไม่สามารถอธิบายเป็นอย่างอื่นได้นิ

หางคู่เหมือนแส้ แบ่งออกเป็นสองส่วน และยาวกว่าลำตัวด้วยซ้ำ กรงเล็บสีเงินและเขี้ยว นี่เป็นครั้งแรกของฉันในโลกนี้ ที่ได้เห็นดวงตาสีเงินคู่นั้น บอกให้รู้ถึงจุดประสงค์นั้นด้วย

“..................”

น่ากลัว เป็นครั้งแรกในโลกนี้ที่ฉันรู้สึกกลัว…เป็นอันตรายต่อชีวิตตัวเอง

แต่...ยิ่งกว่านั้น ฉันกลับรู้สึกทึ่งและละสายตาจากเสือดำตัวนี้ไม่ได้เลย

สั่น…ตัวสั่น….(ตื่นเต้น)

ฉัน ฉันอยากเลี้ยงมัน

แน่นอนมันจะรู้สึกนิ่มลื่นและดีเอามากๆ อาจมีส่วนที่เป็นปุยอยู่บ้าง

“..............?”

สักพักอาการอยากกินฉันก็จางหายไป และเจ้าเสือดำนี้ก็ดูอยากรู้อยากเห็นในขณะที่มันเอียงหัวไปด้านข้าง

“.........ทำไมเธอถึงไม่กลัว?”

นั่นคือเสียงหรอ ที่ฉันได้ยินคือเสียงคำรามแผ่วเบาของสัตว์ร้ายหรอ แต่เสียงคำรามของมันดังก้องอยู่ในตัวฉันและกลายเป็นคำพูด

“…….! ......!? ……!? ……!”

ฉันรู้สึกประหลาดใจกับเสียงที่ยอดเยี่ยมเสียงแรกที่ได้ยินในโลกแห่งนี้ เสียงดีเกินคาด....

น้ำเสียงของเสือดำนั้นลึกและดูแข็งแกร่ง เสียงที่ไพเราะดูคล้ายกับเสียงของลุงแก่ๆ เสียงอันไพเราะของชายคนหนึ่งที่อยู่ในช่วงครึ่งแรกของวัยสามสิบของเขา ที่กำลังจะกลายเป็นตาลุงแก่ๆ

เป็นน้ำเสียงในอุดมคติของฉันมาก ก่อนที่ฉันจะทันได้สังเกต ฉันก็สั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้นและเปล่งเสียงออกมา…แต่มันไม่กลายเป็นคำพูด

เสือดำทำหน้าตื่นตระหนกอย่างน่าประหลาดใจคล้ายกับตัวฉันที่ตื่นตระหนก

“เธอ....เข้าใจที่ฉันพูดด้วยหรอ?”

เพื่อตอบคำถามที่ว่านั้น ฉันพยายามผงกหัว…แต่ไม่ว่าฉันจะพยายามแค่ไหน ฉันก็ไม่สามารถพยักหน้าได้ ฉันก็เลยกระโดดขึ้นลงตรงที่ที่ฉันยืน จากนั้น

“……โอ้? เธอเข้าใจที่ฉันพูดสิน่ะ”

มันเดินเข้ามาหาฉันขณะที่กำลังพูด และเมื่อฉันพยายามขยับถอยหลังตามสัญชาตญาณ มันก็ใช้ปลายเท้ากดทับฉันอย่างรวดเร็ว

“……อย่างที่คิด เธอไม่หายไป เธอต้องกล้าหาญและฉลาดมากจริงๆ”

“....................”

.........เอ๊ะ? เป็นไปได้ไหมว่าเธอไม่ได้กล้าหาญหรือฉลาดอะไรเลย แต่เธอจะถูกกินเอาเพียงแค่สัมผัสมัน?

นอกจากนั้น ถึงฉันจะตั้งใจ แต่สำหรับความเฉลียวฉลาดนั้น….ตอนที่ฉันเคยอยู่ในโรงเรียน ฉันทำคะแนนเฉลี่ยได้อย่างยอดเยี่ยมในวิชาของฉัน

ฉันตัวสั่นเหมือนพุดดิ้งในขณะที่กำลังคิดเช่นนั้น นายเสือดำก็พูด

“อย่ากลัวไปเลย…ไม่ซิ เธอโกรธหรือเปล่า? เธอเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ”

แล้วมันก็แสดงอาการหัวเราะออกมา

ไม่ ไม่ ถึงฉันจะไม่โกรธ แต่จะพูดยังไงดี ฉันแค่ไม่เข้าใจ….

ความคิดที่สับสนของฉันอาจจะต้องข้ามมันไปก่อน เพราะเสือดำก็ปล่อยฉันออกจากเท้าแล้วและเอาหน้าเข้ามาใกล้พอที่จะมองมาที่ฉัน

“ใจเย็น ฉันไม่คิดที่จะกินเธอแล้วล่ะ…แต่ช่างมันเถอะ ทำไมเธอถึงอยู่ในร่างแบบนั้นล่ะ?”

“..............?”

ทำไมถึงถามแบบนั้น….มันไม่ใช่ว่าฉันเป็นแบบนี้ แต่เพราะฉันอยากจะเป็นต่างหากล่ะ~

ซักพัก ฉันพยายามสื่อสารด้วยภาษากายที่เป็นของเหลว (ทรายเหล็ก) พอเสือดำเริ่มแสดงอาการประหลาดใจ   พูดง่ายๆ ก็คือ ดูเหมือนว่าคนที่มีร่างกายแบบฉันมักจะแปลงร่างเพื่อให้เคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น

ดูเหมือนว่าโดยปกติแล้วมันเป็นสิ่งที่รู้โดยสัญชาตญาณ เว้นเสียแต่ว่าเธอจะเปลี่ยนแปลงร่างกายอย่างนั้น แต่ถ้าเธอบังเอิญเจอคนที่แข็งแกร่งกว่า เธอก็จะถูกกินโดยไม่สามารถต่อสู้หรือวิ่งหนีใดๆได้

โอ้ว…. ฉันดีใจที่บุคคลที่แข็งแกร่งคนแรกที่มีสติปัญญาที่ฉันเจอคือเสือดำตัวนี้….

และด้วยเหตุนี้ ฉันจึงถูกสอนเกี่ยวกับวิธีการกลายร่างจากเสือดำ

“……เธอหาเรื่องฉันเหรอ”

“……!? ……!”

ฉันน้ำตาไหลจากการถูกข่มขู่อย่างกะทันหันของเสือดำ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีน้ำตาก็เถอะ

ฉันจะแปลงร่างเป็นหุ่นแบบไหน แน่นอน ฉันตัดสินใจที่จะอยู่ในร่างของมนุษย์ เพราะฉันชินกับมันแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากแปลงร่างแล้ว เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเธอมีการเติบโตในระดับหนึ่ง แต่การเปลี่ยนรูปร่างของเธอต่อไปจะยากขึ้น ยิ่งเป็นเหตุผลที่ฉันต้องการแปลงเป็นร่างมนุษย์......

“การพยายามทำสิ่งนั้นตั้งแต่แรก มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะทำได้”

ร่างมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดนั้นอ่อนแอ เป็นเพียงเงื่อนไขที่ว่าหากมนุษย์และสัตว์ต้องเผชิญหน้ากัน ในกรณีแบบนั้นส่วนใหญ่ สัตว์ร้ายจะชนะ

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมในตอนแรก การเลือกรูปแบบอสูรจึงดีกว่า หรือบางทีบางอย่างที่มีรูปเหมือนกอริลลา

ถึงเสือดำจะไม่มีมัน ไม่ว่าจะเขาหรือเกล็ดเป็นหยักๆนั้นเห็นได้ชัดว่ามันก็แค่รูปแบบทั่วไปของอสูรเพื่อให้ดูน่ากลัว

“.............?”

มันสวยกว่าและเท่กว่ามากที่เป็นเหมือนเสือดำ ถึงจะไม่มีเกล็ดและอะไรที่คล้ายกับอะไรทำนองนั้น….

หรือเขาเข้าใจในสิ่งที่ฉันคิด เสือดำแสยะยิ้มกว้าง

“มีแต่คนอ่อนแอเท่านั้นที่กลายร่างเป็นแบบนั้น สำหรับฉันกรงเล็บและเขี้ยวเหล่านี้ก็เพียงพอแล้ว”

โอ้⁓ ⁓ ⁓  เจ๋งไปเลย!

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโดยปกติแล้วมันจะเป็นไปไม่ได้ แต่บุคคลเพียงคนเดียวที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกครั้งจากสถานะที่เปลี่ยนตอนแรกเป็นมนุษย์ได้ คือผู้ที่มีกำลังมหาศาล และยิ่งไปกว่านั้น การทำเช่นนั้นได้ก็เทียบเท่ากับการเรียกตนเองว่าเป็นผู้ควบคุมพื้นที่แห่งนั้น...อย่างเห็นได้ชัด

แต่…ถ้าเป็นกรณีนั้น ฉันสงสัยว่าทำไมเสือดำถึงไม่กลายร่างเป็นตัวเองล่ะ? ทั้ง ๆที่เขาดูแข็งแกร่งมาก ฉันเลยคิดว่าต้องมีคนที่อยู่เหนือเขาอีก…อาจเป็นไปได้

ตอนนี้มันหมดหนทางแล้ว ฉันควรทำอย่างไร ฉันรู้สึกว่าอาจเป็นไปได้ที่จะดูกลายเป็นครึ่งสัตว์ร้าย แต่ยิ่งรูปร่างใกล้เคียงกับมนุษย์มากเท่าไหร่ พลังต่อสู้ของฉันก็ยิ่งลดลง และในตอนแรกที่เห็นว่าฉันมีขนาดเท่าแมวทั่วไปอยู่แล้ว หรือฉันอาจจะกลายร่างขนาดเท่าทารกก็ได้

“.................”

ฉันเดาว่ามันควรจะเป็นสัตว์ร้ายประเภทหนึ่ง....

นึกถึงขนาดของฉันตามที่คิดไว้ แมวหรอ? เป็นเพราะว่าการเป็นคู่ที่เข้าคู่กับเสือดำก็อาจจะดีเหมือนกัน

“เธอตัดสินใจหรือยัง? จากนั้นสู้กับมัน สิ่งที่สำคัญคือสิ่งที่เธอต้องการ ฉายภาพว่าเธอต้องการสู้อย่างไร”

“……….!”

หลังจากนั้นฉันก็กระโดดขึ้นเป็นการตอบรับและเริ่มจดจ่อกับภาพที่ฉันนึกเอาไว้

สิ่งที่ฉันจินตนาการคือแมวที่สวย เรียว และสัดส่วนพอเหมาะ ขนยาวฟูนุ่มก็ดีเหมือนกัน แต่โดยส่วนตัวแล้วฉันชอบขนที่สั้นกว่า ด้วยเหตุนี้ ความกังวลเรื่องการไหลแยกออกก็น้อยลงด้วย

อุ๊ย ภาพ ภาพ….อยากได้ทั้งความสวยและความน่ารัก ฉันก็ชอบหมาเหมือนกัน แต่ถ้าต้องบอกว่าฉันเป็นคนเลี้ยงแมวล่ะ

แม้ว่าฉันจะชอบเล่นกับหวานจัง(หมา) ออร่าของพวกมันที่เล่นทั้งวี่ทั้งวันกลับทำให้เหนื่อย

อ๊ะ ฉันพูดนอกเรื่องอีกแล้ว ภาพ ภาพ….

เคลื่อนที่ไปอย่างแคล่วคล่องและโจมตีอย่างรวดเร็วด้วยเขี้ยวและกรงเล็บนั้นยอดเยี่ยมมาก

ความคล่องตัวสูง…วิ่งราวกับทะยาน…อืม? บินได้...นกก็ดีเหมือนกันนะ เหยี่ยวอาจจะน่ารักเหมือนกัน แต่ถ้าจำไม่ผิด ที่เร็วสุดเรียกว่า เหยี่ยวเพเรกรินใช่ไหม แต่พวกเขาไม่ใช่พวกที่ว่องไวขนาดนั้นนี่ ฉันรู้สึกเหมือนกำลังทำอะไรอยู่ คล่องแคล่วและสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของศัตรูได้….

ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ต้องเป็นแมว เป็นแมว! จะกลายเป็นนกได้ยังไง!? แมวแมวแมวแมวฉันเป็นแมวแมวลูกแมวน่ารัก….

“..................”

“……นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?” เสือดำ

ฉันกลายเป็นแมวไปแล้ว

ฉันได้กลายเป็นแมวขนสั้นที่สวยและน่ารักอย่างที่ฉันจินตนาการไว้ ฉันรู้สึกอยากชื่นชมตัวเอง

“……ฉันจะอธิบายยังไงดี……”

เสียงของฉันในที่สุดก็พูดได้ ฟังดูไม่ชัดเจน

แม้ว่ารูปร่างปัจจุบันของฉันจะไม่ต้องสงสัยเลย แต่แมว ฉันได้กลายเป็นลูกแมว ที่ขนดูปุกปุยอบอุ่น ปีกค้างคาวคู่เล็กๆ ที่งอกออกมาจากหลังของฉัน ช่างสวยงามเหลือเกิน

บางทีอาจเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลง ร่างกายของฉันที่เคยเป็นสีแกงกะหรี่กลายเป็นสีทองสวย ดวงตาที่กลมโตของฉันเป็นสีแดงทับทิมสดใส ในขณะที่กรงเล็บและเขี้ยวเล็กๆ ของฉันยังโตไม่เต็มที่ เป็นเหมือนอัญมณีสีแดงสดโปร่งแสง

โดยใช้ประสาทสัมผัสทางการมองเห็นที่ฉันมีมาจนถึงตอนนี้ (สายตา การได้ยินและการดมกลิ่นรวมกัน) ฉันสามารถมองเห็นตัวเองได้ดี

พูดตรงๆ ฉันโคตรน่ารัก ถ้านี่เป็นฉันจากโลกแห่งความฝัน ฉันคงจะอุ้มตัวเองขึ้นมาโดยไม่ลังเลที่จะกอดตัวเองเลยทั้งวัน

“.......อืมมม”

“……แล้วเธอตั้งใจจะสู้ในร่างนี้ยังไง……?”

แย่จัง เสือดำดูโกรธ….

มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? ไม่ ไม่ ฉันรู้สาเหตุของเรื่องนี้แล้ว ทั้งหมดเป็นเพราะว่าฉันมันงี่เง่าเอง แม้แต่คนโง่เง่าอย่างฉันก็เข้าใจว่าร่างนี้ไม่เหมาะกับการต่อสู้

“……เอ๊ะ เอ๊ะ”

“……...……”

สายตาของคุณเสือดำดูเย็นชาขณะที่ฉันฝืนยิ้มโดยไม่ได้ตั้งใจ

ช่วยไม่ได้ที่จะหมดความอดทนกับฉัน แต่ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะเป็นเพื่อนกับคู่สนทนาที่หายากคนนี้…ไม่ต้องพูด มันมีเสียงที่ฉันชอบโดยเฉพาะ

นอกจากนั้นฉันยังอยากที่จะเลี้ยงมัน มันคนละเรื่องกับขนของฉันเลย

ฉันพยายามก้าวขาสั้นๆเข้าหาคุณเสือดำอย่างส่ายไปส่ายมา…เพียงเพื่อจะล้มลงระหว่างเดิน

ทันใดนั้น ฉันก็นึกขึ้นได้ว่าฉันมีพวกมัน ฉันกระพือปีกค้างคาว มันทำให้ฉันลอยขึ้นไปในอากาศ...จากนั้นฉันก็ล้มลงไปกับพื้นราบกับใบหน้าของฉัน

“…….......…”

คนสองคน…ไม่ซิ แมวสองตัวตกอยู่ในความเงียบ…โอ้? เธอควรนับสัตว์ตัวใหญ่เป็นจำนวนหัวด้วยหรือเปล่า?และในขณะที่ฉันจมอยู่กับความคิดเช่นนั้นเพื่อหนีจากความเป็นจริง คุณเสือดำก็ถอนหายใจเล็กน้อย…ช่างเป็นทักษะที่แม้จะไม่ได้หายใจ…ทั้งนี้หลังจากถอนหายใจ มันก็เข้ามาใกล้ฉันด้วยเขี้ยวของมัน

“ยะ อย่าาา!?” ฉันกรีดร้องอย่างหวาดกลัว

ฉัน ฉันกำลังจะถูกกิน!

“…ใจเย็น”

พอฉันเงียบหลังจากได้ยินคำสั่งแบบนั้น คุณเสือดำก็จับฉันเข้าปากเหมือนแม่แมวและเริ่มเดิน

“……เอิ่ม”

“……ฉันบอกเธอก่อนหน้านี้แล้วไงว่าฉันไม่ได้มีความตั้งใจจะกินเธอ อย่างแรกเลย ฉันอยากจะมีเพื่อนคุยเป็นครั้งแรกสักพักหนึ่ง มันน่าเบื่อนะ แต่ฉันจะเก็บเธอไว้ก่อนจนกว่าฉันจะเบื่อที่จะพูด”

“.....โอเครรร”

และจากที่ฉันอยากจะมีสัตว์เลี้ยงเพราะความเหงา แต่ด้วยเหตุนี้ฉันกลับกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของเสือดำเสียเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด