ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 23 วิชาควบคุมธาตุระดับละเอียดอ่อน
ในหัวของเดรกนั้น
คิดว่าเขาคงจะต้องตายด้วยน้ำมือของจอมยุทธหรือยอดยุทธที่แข็งแกร่ง
ไม่ก็ตายท่ามกลางศัตรูที่มากมาย
หรือจะดีที่สุดคือตายด้วยน้ำมือของสหาย เขารู้ว่าเขานั้นฆ่าคนไปมากมายและได้สร้างความเกลียดชังไว้มาก ทำให้มีคนตั้งค่าหัวเขา และอาจจะมีคนที่สนใจจะเอาหัวเขาไปขึ้นเงิน
แต่เขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะมาตายด้วยน้ำมือของผู้ฝึกยุทธขั้นแรก
เขาไม่อาจจะยอมรับเรื่องนี้ได้
แม้ว่าจะต้องตาย เขาก็ไม่อาจจะยอมรับความอัปยศนี่ได้
ถึงร่างของเขากำลังล้มลงไปกองกับพื้นจมกองเลือด แต่ในแววตาของเดรกนั้นฉายแววความรู้สึกว่าเขาไม่เชื่อในสิ่งนี้และไม่อาจจะยอมรับได้
“วิชาควบคุมธาตุ….เจ้าเด็กน้อยผู้นี้สำเร็จวิชาควบคุมธาตุจริงๆ และสามารถใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ!!!”
มีเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมาจากหน้าผากของจางเหิงเต่อ
ใช่แล้ว ตอนนี้เขากำลังหวาดกลัวในพรสวรรค์อันน่าเหลือเชื่อของซู่เสี่ยวไป่!!
เขาเป็นถึงยอดยุทธขั้นกลาง เขานั้นก็ได้ฝึกฝนวิชาควบคุมธาตุเช่นเดียวกัน
แต่ถึงยังงั้นเพื่อสำเร็จวิชา เขาได้ใช้ทั้งแรงกายแรงใจและทรัพยากรไปมากมาย กว่าจะสำเร็จได้
ถึงจะทุ่มเทไปมากมาย แต่เขาก็ยังสำเร็จแค่ในขั้นฝึกหัดเท่านั้น และยากที่จะเพิ่มความเข้าใจในวิชาต่อไปได้สูงกว่านี้
แต่กลับกันซู่เสี่ยวไป่นั้น เป็นแค่ผู้ฝึกยุทธขั้นแรก แต่กลับใช้วิชาควบคุมธาตุได้อย่างเชี่ยวชาญ
“ไม่ ไม่ มันต้องมีอะไรไม่ถูกต้องแน่ๆ!!”
“การจะฝึกวิชาควบคุมธาตุจนสามารถใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มันไม่มีการฝึกที่ง่ายดาย ที่ฝึกสองสามวันแล้วสามารถสำเร็จวิชาได้ แม้แต่ตัวฉันเองตอนฝึกยังไม่อาจจะเข้าใจวิชานี้ได้ง่ายๆ เขาไม่มีทางที่จะพึ่งสำเร็จวิชานี้….นั่นหมายความว่า แท้จริงแล้วเด็กน้อยผู้นี้สำเร็จวิชานี้ตั้งแต่อยู่ในเขตแดนกึ่งผู้ฝึกยุทธแล้ว…”
“ถ้างั้น….ในวันนั้น….ที่ตระกูลจาง เขาได้ปกปิดฝึมือที่แท้จริงเอาไว้!!”
ยิ่งจางเหิงเต่อคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เขาตระหนักอะไรได้หลายอย่าง
ตอนอยู่ในเขตแดนกึ่งผู้ฝึกยุทธขั้นสูง ก็สามารถสำเร็จวิชาควบคุมธาตุได้แล้ว พรสวรรค์ของเขาจะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
หากซู่เสี่ยวไป่ต้องการจะหาขุมอำนาจใหม่อยู่ แม้แต่ตัวตนระดับจ้าวยุทธก็คงมารับตัวซู่เสี่ยวไป่ด้วยตัวเอง และขอให้ซู่เสี่ยวไป่เป็นลูกศิษแน่
“ไม่ได้การแล้ว!! ต้องรีบกลับไปรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ให้ทางตระกูลรู้!!”
จางเหิงเต่อไม่รีรออีกต่อไป เขาพุ่งหายไปราวกับแสงของดาวตก
…
“โห่…”
“พลังของวิชาควบคุมธาตุรุนแรงไม่เบาเลย!”
“ขนาดผู้ฝึกยุทธขั้นสูงโดนที่เดียวยังซี้ม่องเท่ง คิๆๆ นี่แค่ขั้นฝึกหัดเองนะ ถ้าขั้นสูงสุดมันจะขนาดไหน หรือหากเป็นวิชาระดับละเอียดอ่อนมันจะอลังการกว่านี้ไหมเนี้ย!!”
ซู่เสี่ยวไป่มองไปยังศพของเดรกที่นอนอยู่ พร้อมกับถอนหายใจ
“ดูเหมือน สถานการณ์ของฉันเองก็คงไม่ดีเท่าไรแล้ว”
ซู่เสี่ยวไป่สูดหายใจเขาลึกๆ
และคิดว่าในเมื่อมีคนแบบเดรกโผล่ออกมา
นั่นแปลว่าตอนนี้มีคนเริ่มออกตามล่าเขาแล้ว
ครั้งนี้ยังเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธขั้นสูง
แล้วครั้งต่อไปล่ะ?
ดีไม่ดีอาจจะเป็นจอมยุทธมาเองก็ได้
หากถึงตอนนั้นแล้ว ต่อให้เสริมกำลังและใช้วิชาระดับละเอียดอ่อนทั้งหมด รวมถึงวิชาควบคุมธาตุด้วย ก็พอที่จะจัดการกับผู้ฝึกยุทธขั้นสูงได้ แต่หากศัตรูที่มาแข็งแกร่งมากกว่านั้น ซู่เสี่ยวไป่ก็ไม่อาจจะต่อกรได้
“ตอนนี้มีไม่กี่คนที่รู้เรื่องฉัน นอกจากตระกูลจางแล้ว…..แต่วันนั้นผู้นำตระกูลจางก็พูดแล้วว่าห้ามให้เรื่องของเราหลุดออกไป..”
“นั่นก็แปลว่าพวกเขาไม่สามารถปิดข่าวได้หมด”
“ในเวลาแบบนี้แล้ว นอกจากตระกูลจางเราก็ไม่ได้ติดต่อกับใครอีกเลย มีโอกาสน้อยมากที่จะรู้ถึงตัวตนของเราได้ หากจะมีใครที่ต้องการให้ฉันตายก็คงมีอยู่คนเดียว คือตระกูลหยวน!!”
แววตาของซู่เสี่ยวไป่ดูเฉียบคมขึ้น
วันนั้นจางเหิงล่งได้พูดเอาไว้
ว่าตระกูลจางมีตระกูลคู่แค้นอยู่คือตระกูลหยวน
แล้วพวกตระกุลหยวนนั้นเลือกใช้วิธีรุนแรงเสมอ พวกนี่จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางตระกูลจาง เช่นนั้นแล้วคงไม่มีทางที่ตระกูลหยวนจะไม่ส่งคนมาเก็บเขาเป็นแน่
“ตระกูลหยวนนะ ตระกูลหยวน พวกแกจะต้องชดใช้!!”
จิตสังหารของซู่เสี่ยวไป่นั้นรุนแรงมาก
เขานั้นแสดงออกให้ทุกคนเห็นว่า เขานั้นไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร รักสันติมาตลอด เขาไม่อยากมีเรื่องกับใคร และไม่ต้องการให้ใครมายุ่งกับเขาด้วยเช่นกัน
แต่ในเมื่ออีกฝั่งอยากให้เขาตาย ซู่เสี่ยวไป่ก็คงไม่อาจจะปล่อยผ่านไปง่ายๆ เช่นกัน
เพราะตั้งแต่วินาทีที่เขามายังโลกใบนี้ ซู่เสี่ยวไป่ก็รับรู้ได้ทันทีว่า สถานที่แห่งนี้ไม่มีความเมตตาธรรม กฏหมายนั้นไร้ค่า สิ่งที่มีค่าที่สุดคือพลัง พลังที่มากพอจะทะลวงสวรรค์ได้
“คนที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลจางคือยอดยุทธขั้นสูง”
“แต่ตระกูลหยวนนั้นกดขี่ตระกูลจางมาตลอด แต่ก็ยังไม่เป็นตระกูลใหญ่สักที นั่นก็แปลว่าตระกูลหยวนเอง ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดก็อยู่ในเขตแดนยอดยุทธขั้นสูงเช่นเดียวกัน แต่พวกตระกูลหยวนอาจจะมีจำนวนยอดยุทธมากกว่าตระกูลจางเล็กน้อย”
“ฉันเองก็ต้องรีบแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุด เพราะหากไม่กำจัดตระกูลหยวนแล้ว ฉันก็คงไม่อาจจะใช้ชีวิตสงบสุขได้สักที”
…….
“บัตรเงินสด….ทิ้ง ไม่มีรหัสผ่านก็แค่ขยะ”
“มีเงินติดตัวด้วยแหะ ถึงจะเป็นยุงแต่ก็ยังมีเนื้ออยู่ ถึงจะไม่อยากเก็บมาก็เถอะ”
“ไหน…อาวุธชิ้นนี้น่าจะขายได้..”
“นี่มันเข็มอาบยาพิษ ที่มันยิงมาใส่เราใช่ไหม เข้ มีโครตเยอะ…”
“แล้วของอะไรของมันอีกเนี้ย ของพวกนี้คงเอาไว้ทำยาพิษสินะ”
ซู่เสี่ยวไป่นั่งค้นศพของเดรก
น่าเสียดายของที่ค้นเจอ นอกจากกริชระดับผสานสองสามอัน ก็มีแต่พวกสมุนไพรสำหรับทำยาพิษที่พอจะดูมีราคาหน่อย นอกนั้นล้วนไร้ค่า
“เอ๋..?”
แล้วซู่เสี่ยวไป่ก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างในเสื้อของเดรก
“ตรงนี้มันดูหนาๆ ผิดปกติ”
ซู่เสี่ยวไป่ออกแรงฉีกเสื้อเบาๆ
แล้วมีแผ่นกระดาษเก่าๆ สองสามแผ่นตกลงมา
ซู่เสี่ยวไป่หยิบขึ้นมาอ่าน
เขาเพ่งดูและตั้งใจอ่านอยู่หลายที แล้วเมื่อเข้าใจเนื้อหา ก็ทำให้นัยต์ตาของเขาเบิกกว้างขึ้น
“นี่มัน… วิชาควบคุมธาตุระดับละเอียดอ่อน!!”
ซู่เสี่ยวไป่อุทานออกมาด้วยความตกใจ
แม้เนื้อหาในกระดาษมีไม่ครบ แต่ซู่เสี่ยวไป่เคยศึกษาคัมภีร์วิชาระดับละเอียดอ่อนมาก่อน ทำให้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างวิชาฝึกหัดกับวิชาละเอียดอ่อนได้
หากอ่านตามเนื้อหาในกระดาษดูดีๆ แล้ว นี่เป็นวิชาที่ดีมาก แม้แต่ระดับจอมยุทธก็ยอมที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะได้ครอบครองของชิ้นนี้
“โชคดีจริงๆ วุ้ย!!”
เมื่อพลิกอ่านดูอยู่หลายครั้ง ซู่เสี่ยวไป่ก็ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความดีใจ ไม่คิดว่าคนผู้นี้จะมีของดีแบบนี้ติดตัว
อย่างที่รู้กันว่าวิชาควบคุมธาตุนี้หาฝึกฝนได้ยากมาก
แม้แต่ในหอฝึกยุทธก็มีแค่ระดับฝึกหัดเท่านั้น
ทำให้ซู่เสี่ยวไป่นั้นรู้สึกเสียดายนิดๆ ที่ไม่มีวิชาระดับละเอียดอ่อนให้เรียน
เขาเคยออกตามหาให้ทั่วแต่ก็ไม่พบ ไม่คิดว่าอยู่ดีๆ ของมันจะวิ่งเข้าหาตัวเขาเองแบบนี้ เขาได้วิชาควบคุมธาตุระดับละเอียดอ่อนมาแล้วจริงๆ
“น่าเสียดายที่มันไม่สมบูรณ์ และเป็นแค่เศษเสี้ยวของบทเริ่มด้วย..”