บทที่ 9 ลูกปัดแห่งความโชคร้าย
บทที่ 9 ลูกปัดแห่งความโชคร้าย
หูของเย่สวี่นั้นดีมาก ในตอนนี้เขาได้ยินลูกค้าหลายคนกระซิบกระซาบกัน
“อ๊ะ...ลูกปัดแห่งความโชคร้าย!” จิตใจของ เย่สวี่เคลื่อนไหวจิตใจ จากนั้นเขานึกถึงสิ่งของที่เขาเพิ่งขุดได้ขึ้นมาทันที ลูกปัดแห่งความโชคร้ายที่อาจทำให้คนโชคร้ายมากภายในเวลาครึ่งก้านธูป
ตราบใดที่เขาใช้มันกับ เย่จื่อหรง นางน่าจะสงบเสงี่ยมได้บ้าง
“ระบบ ข้าต้องการใช้ลูกปัดแห่งความโชคร้ายกับเย่จื่อหรง!” ในกระเป๋าของเย่สวี่ ลูกปัดแห่งความโชคร้ายก็แตกสลายในทันที จากนั้นเงาสีดำก็ผุดออกมา เกาะหลังของเย่จื่อหรง
ทางด้านเย่จื่อหรงได้ยินคำพูดที่ดูแคลนของเย่สวี่และนางโกรธจัดมาก นางภูมิใจความงดงามของตนเอง และยอมไม่ได้ที่จะได้ยินคำดูแคลนว่านางไม่งดงามจากเย่สวี่ได้!
ในขณะที่นางกำลังจะโจมตีเย่สวี่ แต่เมื่อนางก้าวไปข้างหน้า เท้าซ้ายของนางก็พลันลื่นล้ม จากนั้นเย่จื่อหรงร้องเสียงหลงออกมา ด้วยความตกใจและรีบที่จะควบคุมร่างกายให้สมดุล
ก่อนที่นางจะมีเวลาพอที่จะควบคุมสมดุล เท้าอีกข้างของนางก็เหยียบถูกสิ่งของบางอย่างที่แหลมคม นางเจ็บปวดมากจึงรีบถอยหนี หลังจากนั้น เย่จื่อหรงตื่นตระหนกและหงายหลังตกลงไปในน้ำ
ศีรษะของเย่จื่อหรงกระทบกับกำแพงหินโดยตรง จากนั้นเลือดไหลออกมาจากด้านหลังศีรษะของนางในทันที เสื้อผ้าของนางขาดรุ่งริ่ง
เย่จื่อหรงยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก นางอยู่ในขั้นกลั่นพลังปราณระดับที่สอง แต่นางกลับสะดุดก้อนกรวด หงายหลังลงไปในอ่างอาบน้ำ นี่มันตลกจริง ๆ วันนี้มันน่าเหลือเชื่อมาก โชคของนางไม่ดีเลย
เย่จื่อหรงรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากที่ด้านหลังศีรษะของนาง จากนั้นนางมองไปที่เย่สวี่อย่างโกรธจัด หากเย่สวี่ไม่ได้มาแย่งอ่างอาบน้ำของนาง นางคงไม่โชคร้ายขนาดนั้น!
ยิ่งเย่จื่อหรงขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น จากนั้นนางเหวี่ยงแส้อย่างดุเดือดใส่เย่สวี่
อย่างไรก็ตาม แส้ของเย่จื่อหรงตกลงบนฉากกั้นห้องอาบน้ำด้านนอก ความจริงแล้วคุณภาพของฉากกั้นในโรงอาบน้ำพุร้อนของตระกูลแย่นั้นไม่เลว มันสามารถป้องกันการโจมตีจากผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ขั้นที่สามของขั้นกลั่นพลังปราณ
แต่เนื่องจากฉากกั้นเหล่านี้ ไม่ได้รับการซ่อมแซมมานานหลายปี ดังนั้นฉากกั้นเหล่านี้จึงพังทลายลงพร้อมกับเสียงดังตึงตัง ปรากฏว่าเสียงดังนั้นดึงดูดผู้คนที่กำลังแช่น้ำพุร้อนในโรงอาบน้ำให้มาดูเรื่องราววุ่นวาย
ผู้คนที่มาที่โรงอาบน้ำพุร้อน ล้วนแต่เป็นบุคคลร่ำรวย แต่พวกเขาไม่เคยเห็นหญิงสาวที่กล้าหาญที่ทำลายฉากกั้น เพื่อเรียกแขกคนอื่น ๆมาดูตนเองเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงหัวเราะร่าในทันที
เย่จื่อหรงตื่นตะหนกในหัวใจ นางก้มศีรษะลงและเห็นว่าเสื้อผ้าบนร่างของนางขาดรุ่งริ่ง นางร้องออกมาด้วยความตกใจและรีบกระโดดหนี แทบจะมุดดินออกไปจากที่นี่
เดิมทีไข่มุกส่องแสงติดผนังถูกฝังไว้แน่นมาก แต่ตอนนี้มันถูกแส้ของนางฟาดจนตกลงมา ในขณะนี้ไข่มุกส่องแสงตกลงมาตรงปลายเท้าของเย่จื่อหรงและเย่จื่อหรงไม่ได้สังเกตเห็นไข่มุกส่องแสงแม้แต่น้อย นางเหยียบมันลงไปโดยตรง จากนั้นเย่จื่อหรงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่มีใครสนใจนางเลย
เย่จื่อหรงแต่เดิมที่มักจะอยู่ในสภาพที่งดงามตลอดเวลา แต่เมื่อเสื้อผ้าของนางขาดวิ่น นางยังดูงดงามอีกที่ใดกัน ผู้คนรอบข้างก็พากันหัวเราะ พวกเขาทั้งหมดรู้สึกว่าเย่จื่อหรงนั้นโชคร้ายจริง ๆ
ดังนั้นสิ่งนี้ ทำให้เย่จื่อหรงรู้สึกอับอายมาก สาวใช้รีบสวมเสื้อผ้าให้เย่จื่อหรง เพื่อปกปิดร่างกายทันที
ในขณะนี้ เงาสีดำบนร่างของ เย่จื่อหรงหายไปและลูกปัดแห่งความโชคร้ายก็หายไปโดยธรรมชาติ
เย่จื่อหรงจ้องที่ เย่สวี่อย่างโกรธและพูดว่า "เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาหัวเราะเยาะข้า" เย่จื่อหรงได้ยินเสียงหัวเราะ และรู้สึกว่าทุกคนกำลังหัวเราะเยาะนาง รวมทั้งเย่สวี่ที่นางดูถูกมาตลอด
เย่สวี่เป็นขยะ และเขากล้าที่จะหัวเราะเยาะนางจริงๆ! ในขณะนี้ เย่สวี่รู้สึกประหลาดใจกับพลังของลูกปัดแห่งความโชคร้าย มันสามารถทำให้เย่จื่อหรงโชคร้ายจริงๆ
เมื่อ เย่สวี่ได้ยินคำพูดของเย่จื่อหรง ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา ตอนนี้เขากำลังคิดถึงลูกปัดแห่งความโชคร้ายและไม่ได้คิดที่จะหัวเราะเยาะนางเลย
มีคนจำนวนมากหัวเราะเยาะเย่จื่อหรงในตอนนี้ แต่นางไม่กล้าที่จะโกรธคนอื่น เย่จื่อหรงต้องการทำให้เย่สวี่ขายหน้า เพื่อรักษาใบหน้าของตนเองเอาไว้
“เจ้าเป็นหญิงที่ไร้ยางอายจริงๆ!” ดวงตาของ เย่สวี่ส่องประกายด้วยท่วงท่าของการเยาะเย้ย เย่จื่อหรงไม่สามารถทำให้คนอื่นขุ่นเคืองได้ แต่นางสามารถทำให้เขาขุ่นเคืองงั้นหรือ?
“เจ้ามันก็แค่ขยะ แต่เจ้ากล้าอวดดีนัก เจ้ากำลังหาเรื่องตาย!” เย่จื่อหรงยกคางขึ้นและพูดอย่างภาคภูมิใจว่า "ทักษะการต่อสู้ของเจ้านั้นทรงพลังจริงๆ แต่ด้วยระดับพลังของเจ้า ข้าเกรงว่าเจ้าจะมีปัญญาแสดงพลังออกมาได้เพียงครั้งเดียว ข้าจะทำลายจิตวิญญาณของเจ้า" เย่สวี่ได้ปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาได้เพียงไม่กี่วัน ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็ทำได้เพียงขั้นแรกของการกลั่นพลังปราณ
ความแข็งแกร่งของ เย่จื่อหรงมาถึงระดับที่สองของขั้นกลั่นพลังปราณ ในสายตาของนาง เย่สวี่ไม่สามารถต้านทานนางได้ เมื่อเย่จื่อหรงพูดถึงชื่อของเย่สวี่ คนรอบข้างก็ต่างตกใจ
“เย่สวี่เป็นขยะที่ถูกลือกันว่า ไม่สามารถปลุกจิตวิญญารการต่อสู้ได้ โดยการกลืนยาเม็ดบำรุงวิญญาณใช่หรือไม่?”
“หญิงคนนี้ดุร้ายจริงๆ ตอนนี้เย่สวี่ทำให้นางโกรธ เขาจะต้องโชคร้ายมาก!” ทุกคนมองทั้งสองคนอย่างเย้ยหยัน อย่างน้อยวันนี้ ก็มีเรื่องราวดี ๆ มาให้ชม
“เจ้าคิดจะทำให้ข้าพิการ? รอยยิ้มเย็นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่สวี่
อันที่จริงแล้วเย่จื่อหรงมีความสามารถเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่นางคิดจะทำให้เย่สวี่ต้องอับอายด้วยความช่วยเหลือของเย่เฟยเหวิน
“ข้าไม่เพียงแต่จะทำให้เจ้าพิการ ข้าจะควักดวงตาสกปรกของเจ้าออกมาด้วย!” เย่จื่อหรงยืดศีรษะสูง และเปล่งถ้อยคำที่ทรงพลังและพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า "ตอนนี้คุกเข่าและขอโทษข้า ยังไม่สายเกินไปแล้ว!"
เมื่อเย่สวี่ได้ยินสิ่งนี้เขาก็เหยียดยิ้มอย่างเย็นชา
“ข้าชื่นชมเจ้าจริงๆ ต้องโง่เง่าขนาดไหน ถึงกล้าพูดคำแบบนี้ออกมา” เป็นเพียงศิษย์สายรอง แต่กล้าอวดอ้างอย่างไร้ยางอายว่า ต้องการจะทำลายศิษย์สายตรง บางทีมีเพียงเย่จื่อหรงเท่านั้น ที่กล้าพูดคำเหล่านี้ได้
"เจ้าพูดอะไรนะ?“ใบหน้าของเย่จื่อหรงโกรธจัดปนอับอายและกล่าวว่า”เจ้ากำลังหาเรื่องตาย!" นางตะโกนและพุ่งออกไป
เจตนาสังหาพุ่งพล่านออกมาและระเบิดร่างขึ้นไปในอากาศ!
“นี่เป็นทักษะการต่อสู้ระดับเหลืองขั้นต่ำ เงาโลหิตของเย่จื่อหรงที่ทรงพลังจริงๆ !”
“เย่สวี่ เจ้าเสร็จแน่นอน!” เมื่อฝูงชนพูดคุยกัน ต่างไม่มีใครเห็นใจเย่สวี่เลยสักคน ในสายตาของพวกเขา พวกขยะที่ยั่วยุผู้แข็งแกร่ง นั้นเป็นพวกหาเรื่องตายแท้ ๆ
“การเคลื่อนไหวของเจ้าครั้งนี้ ไร้ประโยชน์จริงๆ” เย่สวี่เผยรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามบนใบหน้า
หลังจากการฝึกฝน มนต์มังกรสะกด สายตาการมองเห็นของเย่สวี่ก็ดีขึ้นมาก ในสายตาของเขา การเคลื่อนไหวของเย่จื่อหรงนั้นเชื่องช้าอย่างหาที่เปรียบมิได้
เขายืนอยู่ในตำแหน่งเดิม และปรากฎพลังงานจิตวิญญาณรอบๆ ตัวของเขาที่พลุ่งพล่าน ราวกับกระแสน้ำวน เมื่อเห็นว่าแส้ขนนกกำลังจะเคลื่อนเข้ามาใกล้ร่างของเขา เขาจึงสะบัดปลายนิ้วออกและค่อยๆ คลายแรงของแส้ลงไป
จากนั้น เย่สวี่สะบัดแส้ขนนกออกไปอย่างดุเดือด เย่สวี่ไม่ได้ระงับพลังของมังกรพิภพวารีอำพัน ทำให้พื้นดินแตกเป็นใยแมงมุมในทันที!
"มานี่!" เย่สวี่ตะโกนและดึงร่างกายของเย่จื่อหรงลงบนพื้นอย่างดุเดือด!
“หมัดมังกรพิภพ!” เย่สวี่ชกไปที่แขนขวาของเย่จื่อหรงทันที จากนั้นบริเวณนั้น ได้ยินเสียงกระดูกแตกร้าว เย่จื่อหรงกรีดร้องราวกับหมูถูกเชือด แขนข้างหนึ่งของนางหมดสภาพตกลงข้างลำตัวขยับเขยื้อนไม่ได้
จากนั้นโรงอาบน้ำพุร้อนทั้งหมดพลันเงียบกริบ