บทที่ 480 คงไม่ได้มีทักษะแบบเต็มร้อยหรอกนะ?
บทที่ 480 คงไม่ได้มีทักษะแบบเต็มร้อยหรอกนะ?
เมื่อเปิดใช้งานสายเลือด ความเร็วของเซี่ยไป๋นั้นเร็วมาก และตอนนี้เธอได้วิวัฒนาการไปถึงระดับ 7 ดาวแล้ว ความเร็วก็ยิ่งเร็วขึ้น ในเวลาเดียวกับมหันตภัยมืดได้เริ่มขึ้น ร่างกายของเธอก็วาบไปทางด้านข้าง
เสียงดังสนั่น จากการปะทะกันของ แขนดาบของปีศาจอเวจีกับเคียวแห่งความเศร้าสีหมึกของเซี่ยไป๋
หลายคนในอวิ๋นติ่งถึงกับอ้าปากค้างโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้เห็นฉากนี้
ความเร็วของสัตว์ประหลาดที่คล้ายเซนทอร์ตัวนี้เร็วเกินไป แน่นอนว่าสิ่งที่พูดหมายถึง ทักษะผ่าแสงเงาของมันที่เร็วมากเกินไปจนทิ้งภาพติดตาไว้เบื้องหลัง
เมื่อเซี่ยไป๋ไม่ได้เปิดใช้งานทักษะพิเศษของเธอ ทำให้ความเร็วของมันสามารถติดตามความเร็วของเซี่ยไป๋ได้
หลังจากการปะทะ เซี่ยไป๋ถึงกับปลิวกระเด็นออกมา พร้อมกับการถอยห่างออกไปและเสียงคำรามต่ำๆของปีศาจอเวจี
ท้องฟ้ามืดลงเล็กน้อย แมลงแห่งมหันตภัยมืดโตขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าทักษะอาชีพจะไม่ดีขึ้น แต่การอัพเกรดระดับวิวัฒนาการก็มีผลโบนัสต่อทักษะอาชีพด้วยเช่นกัน
บนสังเวียน เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างความมืดที่แท้จริงได้ แต่ภายใต้แสงสลัวก็ยังช่วยให้ความสะดวกสบายกับเซี่ยไป๋อย่างมาก
หญิงสาวไม่ได้นิ่งเฉย หลังจากกระเด็นออกมา เคียวแห่งความเศร้าสีหมึกในมือก็บินออกจากมุมหนึ่ง เป้าหมายคือกีบเท้าทั้งสี่ของปีศาจอเวจี
สิ่งนี้ทำให้เย่จงหมิงพยักหน้าเล็กน้อย จุดอ่อนของสัตว์ประหลาดระดับ 6 ตัวนี้ คือกีบเท้าของมัน เซี่ยไป๋สามารถจับสิ่งนี้ได้ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ นี่เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นความสามารถในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมของเธอ
แม้ว่าความสามารถทำซ้ำของเคียวแห่งความเศร้าสีหมึกจะยังอยู่ในสภาพคูลดาวน์ แต่ความสามารถในการโจมตีด้วยความเฉื่อยยังมีอยู่อย่างไม่จำกัด ดังนั้นแม้เซี่ยไป๋จะกระเด็นออกมา แต่เคียวแห่งความเศร้าสีหมึกที่หลุดจากมือของเธอยังคงโจมตีต่อไป
ปีศาจอเวจีกระโดดหลบอาวุธระดับสีเงินนี้เบาๆ
แต่ใบหน้าด้านหลังหน้ากากของเซี่ยไป๋กลับแสดงรอยยิ้มเล็กน้อย
นี่เป็นวิธีหลบเลี่ยงที่เธออยากเห็น
แม้จะไม่มีอาวุธในมือ แต่เธอมีความได้เปรียบด้านความเร็ว แล้วเซี่ยไป๋ที่ดูเหมือนเร่ร่อนอยู่แค่ขอบสังเวียนก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน นี่คือทักษะที่เย่จงหมิงมอบให้ก่อนหน้านี้ - การแทงหลัก ถูกเปิดใช้งาน
(ผู้แปล – ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่าอะไร จำไม่ได้ เอาเป็นว่าใช้ชื่อนี้แล้วกันนะ)
จู่ๆ เซี่ยไป๋ก็เคลื่อนที่เร็วขึ้นมาก จนคล้ายกับทักษะผ่าแสงเงาของปีศาจอเวจี
แม้ระยะห่างระหว่างสองฝ่ายจะอยู่ไม่ไกลกันนัก แต่ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของเซี่ยไป๋ได้ทำให้ระยะทางสั้นลงในทันที และมือขวาของเซี่ยไป๋ที่กลายเป็นมีดก็แทงตรงไปยังร่างของปีศาจอเวจีอย่างฉับพลัน
เนื่องจากข้อจำกัดของสถานที่ เซี่ยไป๋จึงไม่ได้โจมตีไปยังจุดอ่อนร้ายแรงของปีศาจอเวจี แต่โจมตีไปยังส่วน ‘หลังม้า’ ของมัน และทิ้งรอยบาดแผลลึกเอาไว้
แม้ว่าเธอจะเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 7 ดาวที่ไม่สมบูรณ์ แต่เซี่ยไป๋ยังคงสามารถทำลายการป้องกันของชีวิตวิวัฒนาการระดับ 6 ได้
ปีศาจอเวจีเปล่งเสียงสูงร้องคำราม
ร่างกายของมันซวนเซ แขนดาบทั้งคู่เล็งไปยังเซี่ยไป๋อีกครั้ง ดวงตาของปีศาจอเวจีเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด มีชั้นก๊าซสีแดงจางๆ ไหลออกมาจากดวงตา แล้วห่อหุ้มร่างกายของมัน
“มันฉลาด”
เย่จงหมิงพึมพำกับตัวเอง เขารู้จักความสามารถนี้
เกราะหมอกเลือด!
ทักษะนี้เป็นความสามารถของพลังชีวิตของชีวิตกลายพันธุ์จำนวนมาก พวกมันจะใช้แก่นแท้ของเลือดสร้างเป็นเกราะป้องกันที่เหมือนหมอก เพื่อเพิ่มการป้องกันให้กับร่างกาย
เห็นได้ชัดว่าปีศาจอเวจีรู้ว่าร่างกายของมันไม่แข็งแกร่งพอที่จะต้านทานการโจมตีของเซี่ยไป๋ ดังนั้นมันจึงคิดจะใช้วิธีนี้เพื่อเพิ่มการป้องกัน
ผ่าแสงเงาถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนมาก ครั้งนี้ไม่ใช่แค่แขนดาบทั้งคู่ แต่สองกีบเท้าหน้าถูกเหวี่ยงเข้ามาด้วย!
นี่คือความสามารถในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถโดยกำเนิด ซึ่งมักจะได้รับมาเมื่อวิวัฒนาการ หากผ่าแสงเงาเป็นเพียงการใช้ความเร็วเพื่อเพิ่มพลังโจมตีให้กับแขนใบมีดแบบธรรมดา ผ่าแสงเงาฉบับปรับปรุงนี้จะเป็นการเพิ่มแรงกระแทกและเพิ่มความเร็วขึ้น
เซี่ยไป๋ที่ไม่มีอาวุธในมือ เมื่อความเร็วของคู่ต่อสู้เพิ่มขึ้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะหลบเลี่ยงทักษะนี้ได้อีกต่อไป
สัตว์ประหลาดระดับหกตัวนี้ยังแสดงให้เห็นความสามารถในการจับศัตรูที่สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของมัน
เมื่อมันมาถึงตัวเซี่ยไป๋ มันก็ชะลอตัวลงอย่างกะทันหัน จนภาพติดตาที่อยู่ด้านหลังหายไป และเนื่องจากการกระโดดและการกระแทก ทำให้ส่วนเชื่อมต่อร่างกายส่วนบนที่เป็นมนุษย์กับร่างของม้าจึงถูกเปิดเผย
เซี่ยไป๋แทงมือมีดของเธอออกไปอย่างหยาบคายอีกครั้ง พอทำลายเกราะหมอกเลือดทิ้งบาดแผลให้มันแล้ว เธอก็ถอยกลับ ร่างกายลื่นไถลเข้าใกล้เคียวแห่งความเศร้าสีหมึก จนเท้าขวาของเธอได้ไปสัมผัสกับด้ามเคียวเบาๆ เคียวแห่งความเศร้าสีหมึกกระโจนขึ้นราวกับมีชีวิตเข้ามาสู่มือของเซี่ยไป๋โดยอัตโนมัติ แล้วหมุนเล็กน้อยในอากาศ ก่อนจะตัดไปที่กีบเท้าหลังของศัตรู!
การเคลื่อนไหวชุดนี้ของเซี่ยไป๋เป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยท่าทางที่สมบูรณ์แบบ รูปร่างเพรียวบางกับเคียวสีดำขนาดใหญ่ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดความงามอย่างหาใดเปรียบ
พอเห็นเช่นนั้น เหล่านักรบอวิ๋นติ่งก็ต่างโห่ร้องยินดี
ในตอนนี้ทักษะกวาดล้างของปีศาจอเวจีได้ถูกทำลายลงอย่างกะทันหัน เนื่องจากความสามารถในการทำให้ความเร็วของเป้าหมายช้าลงของหน้ากากของเซี่ยไป๋ หากเป้าหมายอยู่นิ่งๆ แรงปฏิกิริยาที่มีต่อเป้าหมายจะมีน้อย แต่ถ้าเป้าหมายเปิดใช้ทักษะและพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ก็จะมีผลกระทบเป็นอย่างมาก
เซี่ยไป๋แก้ปัญหาการโจมตีของปีศาจอเวจีครั้งนี้ได้ดีมาก ในขณะเดียวกันก็ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ครั้งนี้ เพื่อหยิบอาวุธและโจมตีกลับ แม้แต่เย่จงหมิงยังต้องยอมรับว่า การกระทำต่อเนื่องนี้น่าตื่นเต้นมาก
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีกีบเท้าหลัง ปีศาจอเวจีรีบกระโจนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แม้ต้องอดทนต่อความเจ็บปวด ในขณะเดียวกันก็ยกกีบเท้าหลังขึ้นเพื่อหลบหลีกคมเคียว และหวังว่าการกระทำนี้จะทำให้มันสามารถกลับไปเผชิญหน้าและกำจัดเซี่ยไป๋อีกครั้ง
น่าเสียดาย เมื่อมันไม่ได้เปิดใช้งานทักษะ ปีศาจอเวจีก็ไม่สามารถติดตามความเร็วของเซี่ยไป๋ได้ และร่างใหญ่อย่างเซนทอร์ของมันก็กลายเป็นภาระ อีกทั้งเซี่ยไป๋ก็อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า และได้ติดตามโจมตีมันอย่างโหดเหี้ยม
เกราะหมอกเลือดของมันไม่สามารถลดความเสียหายได้อีกแล้ว ในขณะนี้ มันไม่สามารถหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บได้ เพียงไม่กี่อึดใจ ร่างกายของปีศาจอเวจีก็มีบาดแผลเพิ่มอีกหลายรอย เลือดที่สาดกระเซ็นเปื้อนไปทั้งสังเวียน
ปีศาจอเวจีขู่เสียงยาว และเปิดใช้ผ่าแสงเงาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้จุดประสงค์ของมันไม่ใช่การโจมตี แต่เป็นการกำจัดแมลงที่เกาะติดหลัง
อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดใช้งานทักษะ ปีศาจอเวจีก็รู้สึกว่า ศัตรูได้กระโดดขึ้นมาบนหลังของมันแล้ว!
ด้วยความตื่นตระหนก ปีศาจอเวจียกสองขาหน้าขึ้นราวกับม้าพยศ และส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างรุนแรง เซี่ยไป๋ที่กระโดดขึ้นไปบนหลังของมัน ถึงกับตัวแข็งทื่อและลื่นตกลงมา เธอตระหนักได้ว่านี่เป็นทักษะอย่างหนึ่งของมัน
เสียงแห่งขุมนรก!
นี่เป็นอีกหนึ่งทักษะ! นอกเหนือจากสามทักษะก่อนหน้านี้ ปีศาจอเวจีระดับ 6 ตัวนี้มีทักษะโดยกำเนิดสี่อย่าง
หัวใจของเย่จงหมิงเต้นแรง และแอบเดาว่าสัตว์ประหลาดทั้ง 5 ตัวนี้ คงไม่ได้มีทักษะแบบเต็มร้อยหรอกนะ?
ในเวลานี้เซี่ยไป๋ที่กำลังตกลงมาจากหลังเซนทอร์ของปีศาจอเวจีได้สัมผัสกับความช่วยเหลือของระดับวิวัฒนาการที่สูงขึ้น เคียวแห่งความเศร้าสีหมึกเกี่ยวลงท่อนบนของปีศาจอเวจี ภายใต้แรงยึดนี้ทำให้ร่างกายของเธอที่กำลังตกมั่นคงขึ้น เธอยกเท้าขึ้นเหยียบบนหลังเซนทอร์ มือซ้ายที่ถือปลายด้ามของเคียวขยับขึ้นไปด้านบน ในขณะเดียวกันมือขวาก็กลายเป็นใบมีดคมกรีบ อาวุธทั้งคู่พุ่งเข้าใส่ร่างกายท่อนบนของปีศาจอเวจีอย่างบ้าคลั่ง!
******
ผู้แปล – เนื่องจากการยุบพรรคคนบ้าหวยของเหล่าสมาชิกพรรค เพื่อไปทำมาหากิน ทำให้ภารกิจคนบ้าหวยของผู้แปลคงต้องหยุดลง เพราะไม่มีใครมาคอยอัพเดทผลสลากให้ ผู้แปลเป็นเพียงผู้ติดตามที่บ้าตามเป็นช่วงๆเท่านั้น ไม่ใช่สมาชิกหลัก
ดังนั้น บทแถมฟรีตามภารกิจคนบ้าหวย จะมีบทนี้เป็นบทสุดท้าย แต่จะเริ่มการแถมฟรี ในบทที่ลงท้ายด้วย 1 และ 6 เหมือนที่เคยแถมให้ โดยจะเริ่มแถมฟรีวิธีนี้ในบทที่ 486 ไปเรื่อยๆ จนกว่าทางเว็บจะมีโปรโมชั่นพิเศษ