บทที่ 45 ช่วยไม่ได้ มันเป็นสัญชาตญาณน่ะ
บทที่ 45
ช่วยไม่ได้ มันเป็นสัญชาตญาณน่ะ
“เป็นอะไรไป” ฉินจิ่นเห็นเว่ยเหยียนซิ่นไม่ขยับอยู่นาน ก็แปลกใจมาก
เว่ยเหยียนซิ่นค่อยๆ หันหน้าไปแล้วพูดว่า “พี่สะใภ้รอง พี่พูดถูกแล้ว ที่นี่มีแต่คนเต็มไปหมด”
“ทำอะไรน่ะ” คนใช้ก็รู้สึกว่าไม่ง่ายเลย ที่ห้องพักแขกห้องนี้ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะมาก่อน คนอื่นๆ นั้นไม่รู้ ทำไมอยู่ดีๆ ถึงเดินเข้ามาล่ะ
“เรา......” เว่ยเหยียนซิ่นจงใจพูดเสียงเบา “เรา......”
“เจ้าพูดอะไร พูดเสียงดังหน่อย” คนนั้นไม่ได้ยินว่า เว่ยเหยียนซิ่นพูดอะไร พูดไปด้วยขยับเข้าใกล้ไปด้วย
จนถึงตอนที่คนคนนั้นเข้ามาใกล้พอสมควรแล้ว เว่ยเหยียนซิ่นเลยคว้าไม้มาท่อนนึง แล้วตีไปที่หัวของคนคนนั้น ตีไปครั้งแรก เขาก็ไม่รู้ว่าหนักหรือเบา แต่ก็ทำเอาคนใช้คนนั้นสลบลงไปทันที
พอคนที่เหลือเห็น ก็รู้ว่าคนคนนี้ไม่ใช่คนดี ก็กรูเข้ามา แล้วเว่ยเหยียนซิ่นก็หยิบไม้ขึ้นมาตีซ้ายตีขวา เขาไม่ใช่คนที่เชี่ยวชาญ ก็ทำได้แค่ตีให้แรงสุดชีวิต
คนใช้สองคนกอดรัดเว่ยเหยียนซิ่นไว้ แล้วก็กดลงกับพื้น ฉินจิ่นเอาแจกันใบนึงขว้างไปที่หัวของคนนั้น คนคนนั้นเจ็บมาก เลยปล่อยมือ แล้วก็หันกลับมาเตรียมตัวจะตีฉินจิ่น
เว่ยเหยียนซิ่นตกใจ หันกลับไปแล้วก็ตีไปอีกหนึ่งที ทำเอาคนคนนั้นล้มลงกับพื้นไป
“พี่สะใภ้รอง ตอนนี้ทำยังไงดีล่ะ” เว่ยเหยียนซิ่นเห็นว่าสลบไปบนพื้นตั้งสามคนแล้ว ก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะทำอะไรต่อดี
ฉินจิ่นได้ยินหลิวเย่บอกว่าเครื่องเปิดปิดนั้นคือจานฝนหมึก หมุนครั้งนึงก็สามารถเปิดทางลับนั้นได้แล้ว
จากเสียงสั่นสะท้านที่ดังขึ้นแล้ว ในที่สุดทางลับก็เปิดออกแล้ว ในที่สุดฉินจิ่นก็โล่งใจสักที ต้องขอบคุณที่วันนี้ฟ้าร้อง ไม่งั้นเสียงเคลื่อนไหวที่ดังขนาดนี้ต้องทำให้หลิวเซียงรู้ตัวแน่นอน
เว่ยเหยียนถิงถูกไฟส่องตาจนลืมตาไม่ขึ้น ทำได้แค่หรี่ตา
ฉินจิ่นมองเห็นเว่ยเหยียนถิงอยู่ในทางลับจากข้างนอก ก็น้ำตาไหลพราก แล้วทันใดนั้นก็พุ่งเข้าไปกอดเว่ยเหยียนถิงแล้วพูดว่า “พี่ถิง ข้าเป็นห่วงพี่ที่สุดเลยรู้ไหม”
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วในสมัยปัจจุบัน ฉินจิ่นไม่รู้สึกว่าแปลกอะไร แต่เว่ยเหยียนซิ่นที่อยู่อีกฝั่งกลับเขิน ทำได้แค่เกาหัวแล้วพูดว่า “พี่รอง”
ฉินจิ่นหน้าแดงขึ้นทันที ยังมีคนอื่นอยู่ตรงนั้นด้วย แบบนี้คงไม่ดี เลยเช็ดน้ำตาแล้วพูดว่า “เรารีบไปกันก่อนเถอะ อยู่ที่นี่นานไม่ได้”
“จ้ะ”
......
ส่วนทางนั้น หลังจากหลิวเซียงพยุงหลิวเย่ขึ้นไปชั้นบนแล้ว ก็หายามาทาให้นาง รู้สึกแค่ว่าวันนี้เสียงฟ้าร้องนั้นมันดังมาก แต่นางก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากจะให้น้องสาวตัวเองนั้นพักผ่อนดีๆ
ยิ่งมองดูน้องสาวที่นอนอยู่บนเตียง ในใจของหลิวเซียงก็ยิ่งโทษตัวเองเข้าไปอีก ทำไมนางถึงได้ลงมือได้โหดเหี้ยมขนาดนี้
“พี่ ข้าอยากดื่มน้ำน่ะ” หลิวเย่โดนจ้องอยู่ก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก ก็เลยรีบพูดไป
“จ้ะ” หลิวเซียงรีบเทน้ำ แล้วก็เอาน้ำมาป้อนที่ปากของหลิวเย่ ใครจะรู้ว่าตอนที่เอาแก้ววางกลับไปบนโต๊ะนั้นจะโดนเสียงฟ้าร้องทำให้ตกใจ แก้วก็ตกลงบนพื้น แตกกระจาย
หลิวเซียงตกใจ จนสีหน้าดูไม่ดี
“มานี่หน่อย มานี่หน่อย ไฟไหม้แล้ว”
ข้างนอกมีคนตะโกนเสียงดัง “รีบมาเร็ว มาช่วยดับไฟหน่อย”
หลิวเซียงได้ยินเสียงก็ยืนอยู่ริมหน้าต่างก็เห็นว่าตรงนั้นเกิดเหตุไฟไหม้ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นด้านหลังของร้านอาหารของตัวเอง ที่นั่นเป็นที่ไว้กระดูกของสามีตัวเองพอดี นางรีบพุ่งลงไปข้างล่างทันทีโดยไม่คิดอะไร ต้องเอาที่ไว้กระดูก
“พี่ พี่จะไปไหน” หลิวเย่เห็นหลิวเซียงรีบวิ่งลงไปข้างล่าง ก็กลัวว่าฉินจิ่นจะโดนจับได้ ก็รีบใส่เสื้อผ้าแล้วก็ตามไปทันที พอตามไปถึงที่เกิดไฟไหม้แล้ว เห็นหลิวเซียงก้าวขาจะพุ่งเข้าไปข้างใน ก็รีบดึงนางเอาไว้
“พี่ พี่จะทำอะไร พี่ไม่เอาชีวิตตัวเองแล้วรึไง”
หลิวเซียงผลักหลิวเย่ออก ร้องไห้แล้ววิ่งเข้าไป “เจ้าไม่ต้องมายุ่งกับข้า ข้าจะไปช่วยผัวข้า”
“พี่ กลับมา” หลิวเย่ตะโกนเสียงดัง แต่น่าเสียดายที่ หลิวเซียงนั้นไม่ยอมฟัง เหลือไว้ให้เห็นเพียงแค่แผ่นหลังเท่านั้น
หลิวเย่มองไปบนฟ้า หวังให้เสียงฟ้าร้องเมื่อกี้นั้นรีบเทฝนลงมา แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น
......
มีเสียงวุ่นวายส่งมาจากทางด้านหลัง ฉินจิ่นวิ่งไปถึงครึ่งนึงก็บอกว่า “พี่ถิง พี่ได้ยินเสียงอะไรรึปล่า”
ฉินจิ่นหันกลับไปมอง และในร้านอาหารนั้นก็ถูกไฟไหม้ไปแล้ว
“ทำยังไงดี ต้องมีคนบาดเจ็บแน่นอนเลย” ฉินจิ่นนึกถึงตอนที่ตัวเองออกมานั้น ข้างในนั้นยังมีคนอยู่ นางก็รีบพูดว่า “น้องสี่ เจ้าพาพี่ถิงไปก่อน ข้าจะกลับไปดูหน่อย”
พูดจบฉินจิ่นก็หันหลังวิ่งไป ในตอนนั้นเว่ยเหยียนซิ่นก็ทำตัวไม่ถูก ก็ลากเว่ยเหยียนถิงเดินไปอีกสักระยะหนึ่งตามสัญชาตญาณ แต่เว่ยเหยียนถิงกลับพูดด้วยหน้าตาที่ตื่นตระหนกว่า “ไม่ได้ ต้องกลับไป ข้าไม่วางใจให้อาจิ่นไปที่นั่นคนเดียว”
“พี่รอง......” เว่ยเหยียนซิ่นไม่อยากจะกลับไปเสี่ยงอีกแล้ว
แต่เว่ยเหยียนถิงกลับพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “กลับไป”
หมดหนทางแล้ว เว่ยเหยียนซิ่นก็ทำได้แค่กลับไปกับเว่ยเหยียนถิง แล้วในตอนนั้นฉินจิ่นก็วิ่งกลับเข้าไปแล้ว นางเห็นบ้านที่อยู่ข้างหลังร้านอาหารนั้นมีไฟลุกอยู่ ดูแล้วน่ากลัวมาก
หลิวเย่ที่อยู่อีกฝั่งนั้นร้องไห้ฟูมฟายไปแล้ว ฉินจิ่นเลยถามว่า “เจ้าเป็นอะไร ทำไมถึงร้องไห้แบบนี้ แล้วพี่สาวเจ้าล่ะ”
“พี่......”
หลิวเย่พูดไม่ออก แล้วก็เป็นคุณลุงคนนึงที่อยู่ด้านข้างบอกนางว่า “เมื่อกี้ไม่รู้ว่าทำไม แต่เถ้าแก่หลิวจะเข้าไปให้ได้ รั้งยังไงก็รั้งไม่อยู่”
“เพราะ......โกศใส่กระดูกของพี่เขยอยู่ข้างใน เพราะฉะนั้น......พี่เลยจะเข้าไปเอามาให้ได้” หลิวเย่ร้องไห้จนสะอึกสะอื้น พูดจาติดๆ ขัดๆ
......ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นหมอ ทำให้ฉินจิ่นจะปล่อยให้คนคนตายไปโดยไม่ได้ช่วยชีวิตไม่ได้ อีกอย่าง ถ้าไม่ใช่เพราะนางจะให้หลิวเย่มาช่วยให้ได้ ก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ทันใดนั้น นางก็รีบพุ่งเข้าไปในห้องพักแขก คว้าผ้าปูเตียงออกมาชุบน้ำ จากนั้นก็คลุมไปที่ตัวของตัวเองแล้ววิ่งเข้าไป
หลิวเซียง เจ้าอยู่ที่ไหน”
ฉินจิ่นตะโกนเรียกเสียงดัง แต่เรียกอยู่นานก็ไม่เจอ หลิวเซียงสักที
แล้วตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะ ควันเยอะขนาดนี้
“หลิวเซียง เจ้าอยู่ที่ไหน”
ฉินจิ่นก็ย้ำไปอีกหนึ่งรอบ เพื่อหวังว่าจะหาหลิวเซียงเจอ
“ข้าอยู่นี่ แค่กๆๆ ......”
ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแอ ฉินจิ่นเลยนึกว่าตัวเองนั้นได้ยินผิดไป แต่ก็เห็นจากไกลๆ ว่าหลิวเซียงยืนกอดอัฐใส่กระดูกแล้วทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงนั้น จะหนีออกไปก็ไม่ได้
ฉินจิ่นรีบวิ่งไป เอาผ้าห่มแบ่งให้หลิวเซียงครึ่งนึง กลั้นความไม่ถูกกันเอาไว้แล้วถามว่า “เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่ เถ้าแก่หลิว”
หลิวเซียงส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นไร แต่เราจะออกไปยังไงล่ะ”
น้ำบนผ้าห่มก็ระเหยไปจนจะแห้งหมดแล้ว ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะออกไปยังไง คานที่อยู่ตรงหน้าก็ไหม้ไปครึ่งนึงแล้ว หล่นลงบนพื้น
ในตอนที่เว่ยเหยียนถิงและเว่ยเหยียนซิ่นกลับมานั้น ฉินจิ่นก็วิ่งพุ่งเข้าไปแล้ว
“อาจิ่น” เว่ยเหยียนถิงตะโกน “ไปไหนแล้วล่ะ”
หลิวเย่ร้องไห้แล้วพูดว่า “นางกับพี่สาวข้าอยู่ข้างในนั้นทั้งคู่เลย”
“ข้างใน ข้างในอะไร” เว่ยเหยียนซิ่นพูด คงไม่ใช่ข้างในไฟนั้นหรอกมั้ง พี่สะใภ้รองจะไปอยู่ข้างในไฟนั้นได้ยังไงล่ะ
“ใครจะไปรู้ล่ะ แต่ละคนอยากจะวิ่งเข้าไปข้างใน ดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่อยู่” คนที่ดับไฟพูดขึ้น “จริงๆ แล้วถ้าข้างในนั้นไม่มีคน พวกเราก็คงไม่ต้องร้อนใจเหมือนตอนนี้ แต่ตอนนี้ข้างในนั้นมีคนอยู่ ไฟนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะดับเมื่อไหร่”
ที่หมายถึงก็คือสองคนนี้ต้องตายแน่ๆ
เว่ยเหยียนถิงจะยอมให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง ก็รีบวิ่งเข้าข้างในทันที
เว่ยเหยียนซิ่นดึงเขาไว้ “พี่ พี่ทำอะไร”