ตอนที่แล้วบทที่ 42 ผู้ชายหล่อบ้านนี้โดนหลอกแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 44 จะเอาก็แค่ใบหน้านี้เท่านั้น

บทที่ 43 ดีที่น้องสาวยังมีสติ


บทที่ 43

ดีที่น้องสาวยังมีสติ

ฉินจิ่นเห็นนางเว่ยร้องไห้ราวกับว่าเว่ยเหยียนซิ่นนั้นตายแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าแล้วพูดว่า “แม่ย่าจ๊ะ เขาไม่เป็นไรหรอกจ้ะ แค่ดื่มหนักไปหน่อย พรุ่งนี้เช้าก็หายดีแล้วจ้ะ”

“.....อ๋อ งั้นก็ดี” นางเว่ยเช็ดน้ำตา กลั้นร้องไห้เอาไว้ ขอแค่ฉินจิ่นบอกว่าหาย ก็ต้องหายอยู่แล้ว

“แล้วพี่รองล่ะ ยังไม่กลับมาอีกเหรอจ๊ะ” จู่ๆ เว่ยจวนก็สังเกตเห็นว่ามีแค่ฉินจิ่นกับน้องชายที่กลับมา เว่ยเหยียนถิงก็เป็นห่วงพวกเขาพี่สาวและน้องชายเหมือนกัน ไม่มีเหตุผลที่เมื่อ        เว่ยเหยียนซิ่นอยู่ในสภาพนี้แล้วเขาจะไม่มา

“นั่นสิ ลูกรองล่ะ ลูกรองไปไหน”

ฉินจิ่นถอนหายใจไปทีนึง แล้วก็พูดอย่างเศร้าๆ ว่า “นี่แหละจ้ะที่ข้ากังวล ข้าหาพี่ถิงไม่เจอ หลิวเซียงบอกว่าไม่ได้อยู่กับนาง ค้นแล้วก็ไม่เจอ แต่ข้ารู้สึกว่ายังไงก็ต้องเกี่ยวข้องกับเขาอยู่แน่นอน”

ใจของเว่ยจวนที่เพิ่งจะสบายใจ ก็หนักใจขึ้นอีกครั้ง “งั้นจะทำยังไงดีล่ะ”

“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถ้าหลิวเซียงไม่ได้ทำอะไรกับพี่ถิงจริงๆ ไปแป๊บเดียวก็คงจะกลับมาแล้ว แต่ถ้าหลิวเซียง.....” คิ้วของฉินจิ่นขมวดจนจะเป็นเส้นแล้วพูด

“กลัวว่าเรื่องนี้จะจัดการไม่ได้ง่ายๆ”

แต่ฉินจิ่นก็ไม่อยากจะให้พวกเขากังวล เลยพูดว่า

“ตอนนี้ฟ้าก็มืดแล้ว พักผ่อนก่อนน่าจะดีกว่า จะเป็นอะไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากันดีกว่าจ้ะ เดี๋ยวข้าจะคิดหาวิธีอีกที”

และในคืนนั้น ฉินจิ่นนอนไม่หลับทั้งคืน พอเช้าของวันรุ่งขึ้น ฉินจิ่นก็สืบจากแม่สื่อเจิ้ง ว่าหลิวเซียงคนนี้นั้นเป็นใครมาจากไหน ถึงแม้ว่าครั้งที่แล้วแม่สื่อเจิ้งจะบอกมาแล้วบ้าง แต่ฉินจิ่นรู้สึกว่านางยังมีเรื่องอื่นอีก

“ท่านว่าหลิวเซียงยังมีญาติพี่น้องคนอื่นๆ อยู่อีกไหมจ้ะ” แม่สื่อเจิ้งคิดแล้วก็พูดว่า “มีน้องสาวอยู่คนนึง อายุน้อยกว่านางอยู่สามปี ชื่อว่าหลิวเย่”

“แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนล่ะ” ฉินจิ่นรู้สึกมีความหวังขึ้น

“ออกเรือนไปอยู่หมู่บ้านข้างๆ แล้ว ชีวิตคู่ดีมากเลยล่ะ ข้าก็เป็นคนบอกสื่อให้เหมือนกัน” แม่สื่อเจิ้งพูดแล้วก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย

“เมื่อก่อนน่ะ พวกเขาสองคนพี่น้องนั้นรักกันมาก ต่อมา พอหลังจากที่หวังเอ้อตายไปแล้ว นิสัยของหลิวเซียงก็ผิดแปลกไป พวกเขาสองคนพี่น้องก็ไม่ค่อยไปมาหาสู่กันแล้วล่ะ”

ตามที่อยู่ที่แม่สื่อเจิ้งให้แล้ว ฉินจิ่นก็หาบ้านของหลิวเย่เจอ ไม่ได้ร่ำรวยเท่าบ้านของหลิวเซียง แต่ก็ถือว่าร่ำรวยอยู่เหมือนกัน

“เจ้ามาหาใครรึ” คนที่มาเปิดประตูนั้นหน้าตาสะสวย หลบอยู่หลังประตูแล้วถามอย่างเขินอาย

“ข้ามาหาแม่นางหลิวเย่น่ะจ้ะ”

“ข้าเองจ้ะ มีธุระอะไรรึเปล่า”

ฉินจิ่นนึกไม่ถึงว่าคนที่มาเปิดประตูนั้นจะเป็นหลิวเย่ ก็ตกใจเล็กน้อย แล้วค่อยพูดว่า “ข้าอยากจะให้เจ้าช่วยอะไรอย่างนึงจ้ะ เกี่ยวกับพี่สาวของเจ้า”

พอหลิวเย่ได้ยินว่าเกี่ยวกับเรื่องของพี่สาวตัวเอง ก็รีบเปิดประตูให้ฉินจิ่นเข้ามาทันที “เจ้ารีบเข้ามาเร็ว เกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวข้ารึ”

ฉินจิ่นเล่าเรื่องทั้งหมดให้หลิวเย่ฟัง แล้วสุดท้ายก็บอกว่า “ข้าอยากจะให้เจ้าไปช่วยเรื่องนี้ให้ข้าหน่อย ไปหาสามีของข้ากลับมา ถือว่าขอร้องก็ได้จ้ะ อย่าให้นางต้องบ้าคลั่งจนต้องทำอะไรลงไปเลย”

ฉินจิ่นรู้สึกว่าหลิวเซียงนั้นเป็นบ้าไปแล้ว ทำเรื่องตั้งมากมายขึ้นเพื่อเรื่องนี้เรื่องเดียว

“สามีของเจ้าเหมือนกับพี่เขยของข้าขนาดนั้นเลยรึ” หลิวเย่ไม่เข้าใจการกระทำของพี่สาวจริงๆ ในสายตาของตัวเองนั้น ถึงแม้ว่าพี่สาวจะไม่มีความสุขกับเรื่องของพี่เขย แต่นางคงไม่ถึงขั้นไร้เหตุผล ทำเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องหรือทำเรื่องที่ผิดต่อศีลธรรมมากมายขนาดนี้ได้

“ข้าไม่รู้” ฉินจิ่นส่ายหน้า “ดูจากที่พี่สาวเจ้าทำแล้วน่าจะเหมือนมาก”

“ได้ ข้าจะไปกับเจ้า” ที่หลิวเย่ตอบตกลงนั้นไม่ได้ทำเพื่อเว่ยเหยียนถิง แต่เพื่อพี่สาวของตัวเอง และในตอนนั้นก็ไม่ทันได้เก็บข้าวเก็บของอะไร แล้วก็รีบออกไปกับฉินจิ่นทันที

พอหลิวเซียงลงมาแล้วเห็นน้องสาวของตัวเองนั่งอยู่ที่ชั้นล่าง ก็ดีใจจนออกนอกหน้าแล้วพูดว่า “น้องสาว เจ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมจะมาถึงไม่บอกกันก่อนล่ะ ข้าจะได้ให้คนไปรับเจ้า”

หลิวเย่ยิ้มแล้วพูดว่า “เพิ่งถึงน่ะ ไม่ใช่แขกอะไรสักหน่อย จะให้พี่ไปรับข้าทำไมล่ะ”

หลิวเซียงจับมือของหลิวเย่ไว้ทันที แล้วบอกกับคนใช้ว่า “ไป ไปเอาปี้หลัวชวนมาหน่อย ของหวานก็เอาพายเกาลัดมาละกัน”

“รับทราบขอรับ”

“เตรียมเหล้าดีๆ มาหน่อยเร็ว ข้าจะให้การต้อนรับน้องสาวของข้าเป็นอย่างดีเลย” หลิวเซียงทำหน้าบอกให้หลิวเย่ขึ้นชั้นบนพร้อมกับสั่งคนใช้ไปด้วย

ทั้งสองคนนั้นเหมือนตอนเด็กไม่มีผิด หลิวเซียงนั้นจะชอบเอาของที่ดีๆ ไว้ให้หลิวเย่ทั้งหมด

“พี่เพิ่งซื้อผ้าไหมมาชุดนึงน่ะ สวยมากเลยล่ะ เดี๋ยวเราสองคนไปวัดตัวกันที่ตลาดแล้วเย็บชุดกัน ทำชุดที่เหมือนกันเป๊ะๆ สักชุดนึง คนอื่นจะได้รู้ว่าเราเป็นพี่น้องที่รักกัน”

หลิวเย่พูดตอบว่า “จ้ะ”

ในใจนั้นอดไม่ได้ที่จะแปลกใจขึ้น ดูแล้วพี่สาวก็ปกติดี  ไม่ได้เป็นแบบที่ฉินจิ่นบอกเลยสักนิด

พอนึกดูแล้ว หลิงเย่ก็อยากจะพิสูจน์สักหน่อย เลยลุกขึ้นแล้วจับมือของหลิวเซียง “เห็นพี่แบบนี้ ข้าก็สบายใจแล้ว เมื่อก่อนพี่ออกมาจากเรื่องของพี่เขยไม่ได้อยู่ตลอด ตอนนี้ร่าเริงแบบนี้ก็ดีมากแล้ว”

พอพูดถึงตอนนี้แล้วหลิวเซียงก็จับมือหลิวเย่แล้วพูดว่า “น้องสาว พี่มีเรื่องจะบอก”

“อะไรหรือจ๊ะ”

“มีคนนึงหน้าเหมือนพี่เขยเจ้ามาก ข้ากำลังหาวิธีจะแต่งงานกับเขาอยู่ เขาชื่อเว่ยเหยียนถิง ไม่รู้ว่าเจ้าจะเคยได้ยินรึเปล่า” พอพูดแล้ว หลิวเซียงก็ดูตื่นเต้นมาก แต่ในใจของหลิวเย่กลับรู้สึกเหน็บหนาวขึ้นเป็นพักๆ

“เคยได้ยินอยู่นะ แต่เขาเป็นผัวคนอื่น แต่งงานไปแล้ว จะแต่งกับพี่อีกได้ยังไงล่ะ”

“แล้วยังไงล่ะ” หลิวเซียงพูดอย่างเย้ยหยันว่า “ของที่ข้าอยากได้น่ะมีหรือจะไม่ได้ ตอนนี้เขาอยู่ในห้องลับของข้า ไม่นาน เดี๋ยวข้าก็ทำให้เขาแต่งงานกับข้าได้เอง”

“พี่ พี่อย่าทำเรื่องเลอะเทอะเลย รีบปล่อยคนอื่นไปเถอะ ถ้าเกิดเรื่องขึ้นจะทำยังไง”

พอหลิวเซียงเห็นว่าน้องสาวของตัวเองไม่สนับสนุนตัวเองแล้ว แล้วยังให้เธอปล่อยคนไปอีก ในใจก็ลุกเป็นไฟทันที คนอื่นจะว่ายังไงก็ช่าง แต่แม้แต่น้องสาวของตัวเองยังไม่เข้าใจตัวเองเลย

“เจ้าอย่ามาบอกให้ข้าปล่อยเขาไปนะ ถ้าเจ้ายังเป็นแบบนี้ข้าจะไล่เจ้ากลับไป”

“พี่ แต่นั่นมันผัวของคนอื่นนะ”

หลิวเซียงโมโหมาก ตอนนี้สำเร็จไปครึ่งทางแล้ว เธอจะปล่อยคนไปได้ยังไง “เจ้าอย่ามายุ่งกับเรื่องของข้าอีก เจ้ากลับบ้านไปซะ ไปอยู่ใช้ชีวิตคู่ที่ดีกับผัวเจ้าซะ”

หลิวเย่ออกจากประตูร้านไป ในใจนั้นรู้แล้วว่าที่ฉินจิ่นพูดนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด อีกอย่างเว่ยเหยียนถิงก็อยู่ในมือของพี่สาวเธอจริงๆ

พอออกมานางก็ไปที่บ้านของฉินจิ่น ฉินจิ่นก็กำลังนั่งอยู่กับเสี่ยวซี เพราะเป็นห่วงเว่ยเหยียนถิง จนเวลาที่เสี่ยวซีพูดก็ไม่ได้ยิน

“เกิดอะไรขึ้นรึ” ฉินจิ่นเพิ่งจะรู้สึกตัวขึ้น

“มีคนมาที่บ้านขอรับพี่สาว”

ฉินจิ่นเห็นว่าที่ยืนอยู่หน้าประตูนั้นคือหลิวเย่ ก็รีบกวักมือเรียกทันที “แม่นางหลิวเย่ เข้ามาเร็ว”

หลิวเย่เห็นฉินจิ่นต้อนรับตัวเองอบอุ่นแบบนี้ เหมือนจะหวังให้ตัวเองพูดอะไร แต่นางทำได้แค่ส่ายหน้า

“แม่นางฉิน ข้าได้คุยกันกับพี่สาวข้าไปแล้วบ้าง เริ่มแรกนั้นก็ดีมากเลยละ แต่แค่พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว พี่สาวก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที”

“......อื้ม” ฉินจิ่นก็ผิดหวังเล็กน้อย

“เจ้าอย่าถือโทษนางเลย แม่นางฉิน พี่สาวข้านั้นดูเหมือนอยู่สุขสบายมาตลอด ตอนเด็กก็ลำบากมาไม่น้อย พอแต่งงานแล้ว สามีก็เป็นผู้รากมากดี พี่เขยนั้นดีกับพี่มาก พี่สาวข้านั้นก็ไม่ใช่คนเลว แต่แค่ใช้อารมณ์มากเกินไป ถึงได้ก่อเรื่องมากมายขนาดนี้” หลิวเย่พูดแล้วก็อดเจ็บใจไม่ได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด